เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 206 ความจริง1
ตอนที่ 206 ความจริง1
“ฮะ?” หวังฉีเหรินตกใจกับค่าตอบของชายหนุ่ม เขานิ่งไป พักใหญ่ “ท่านประธานครับ ถึงแม้ว่าบริษัทกู้ซื่อจะมีความคิด สร้างสรรค์และออกแบบได้ดี แต่ไม่มีความสามารถในการ ควบคุมโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่แบบนี้นะครับ..
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง!” เป้หมิงโม่เม้มปากพร้อมพูด ตัดบทหวังฉีเหริน มองไปยังแฟ้มเอกสารที่เป็นข้อมูลของ บริษัทกู้ซื่อที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน ก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ” ในเมื่อยี่เฟิงออกแบบงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ ก็ให้ บริษัทกู้ชื่อรับไปทำละกัน!”
หวังเหรินถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “แต่โครงการ”หยิง ” เป็น โครงการสำคัญประจำปีของบริษัทเปหมิงเลยนะครับ ถ้า มอบงานสำคัญให้เด็กใหม่ที่อ่อนประสบการณ์ เหมือนลูกวัว แรกเกิดแบบนี้ จะเสี่ยงเกินไปหรือเปล่าครับ ท่าประธาน.”
เปหมิง โม่ยิ้มที่มุมปากอย่ามีเลศนัยพร้อมหรี่ตามิงอย่างมี แผนการ “ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมาย ผมเองก็อยากจะรู้ เหมือนกันว่า บริษัทกู้ซื่อจะมีลูกเล่นอย่างไร!”
ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เปหมิงยี่ฟงจะมีลูกเล่นอะไร?
หวังเหรินไม่กล้าพูดอะไรต่อ ได้แต่คิดในใจว่า บริษัทกู้ ชื่อมีอะไรพิเศษนักหนา?
ถึงทำให้ท่านประธานมีข้อยกเว้นครั้งแล้วครั้งเล่า
ถ้าเป็นแบบนี้ ก็แสดงว่าการเปิดให้ประมูลโครงการ “หยิง” ก็เป็นเพียงการแข่งขันที่จัดขึ้นเพื่อบริษัทกู้ซื่อโดยเฉพาะสินะ เพราะตั้งแต่ต้นจนจบผู้ชนะก็เป็นบริษัทกู้ชื่ออยู่ดี
ช่วงบ่าย สตูดิโอถ่ายภาพในเมืองA
“ถูกครับ ยิ้มหวานอีกหน่อยครับ…
”
“ใช่แล้วครับ ก้มหน้าลงอีกหน่อยครับ มองกล้องไว้นะ ครับ ใช่แล้วครับ…”
“ปล่อยไหล่สบายๆ นะครับ ไม่ต้องเกร็ง”
ช่างภาพถือกล้องรัวกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ หญิงสาวผมยาว ที่นุ่มสลวยเงางามดุจเทพธิดา อย่างไม่หยุดหย่อน
กู้ฮอนโพสต์ท่าด้วยอิริยาบถต่างๆ อย่างต่อเนื่องและ
ยาวนานถึงสองชั่วโมงเต็ม
ยืนจนขาสั้นเทาและยิ้มจนใบหน้าแข็งที่อไปหมด
“ตีครับ มา ภาพสุดท้ายขอสะบัดผมหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มนะครับ…ใช่ครับ สุดยอดมากครับ…
ในที่สุด ช่างภาพก๊วางกล้องถ่ายรูปลง พยักหน้าพร้อมยิ้ม อย่างพอใจ “วันนี้ถ่ายจบแล้วครับ พรุ่งนี้ค่อยมาลุยกันต่อ”
กู้ฮอนถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
หลิวเจ๋อเฉิงยืนรออยู่ข้างๆอย่างเงียบๆมาโดยตลอดนั้น รีบเอาน้ำดื่มมาให้เธอทันที “ฮอน ขอบคุณมากๆเลยนะครับ กินน้ำก่อน”
“เจ๋อเฉิง พรุ่งนี้ต้องถ่ายอีกเหรอ?” กู้ฮอนรับขวดน้ำมา ก่อนจิบไป2ที่อย่างเหนื่อยล้า
ตาเรียวเล็กของหลิวเจ๋อเฉิงมองกู้ฮอนแบบไม่ละสายตา ไม่แม้แต่กะพริบตา ก่อนจะแอบชื่นชมเธอในใจว่า ไม่คิดเลย ว่า พอเธอแต่งหน้าทำผมและสวมกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ที่ พลิ้วไสวแบบนี้แล้ว จะสวยงามและดูมีเสน่ห์เย้ายวนมาก ขนาดนี้..
โดยเสน่ห์เย้ายวนแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องอาศัยร่างกายที่โป๊ เปลือยเลย แค่ดวงตาสุกใสบริสุทธิ์คู่นั้นชำเลืองมองมาที่คุณ ก็เพียงพอต่อการปลุกให้สิ่งที่อยู่ใต้สะดือของผู้ชายนั้นแตก ตื่นแล้ว..
“ใช่ครับ วันนี้เป็นการถ่ายแบบตามหัวข้อที่กำหนดมาให้ สินค้าที่ต้องการทำโฆษณาในครั้งนี้ เป็นครีมกันแดดของยี่ห้อหนึ่ง พรุ่งนี้จะเป็นการถ่ายท่านอกสถานที่” หลิวเจ้อเฉิง พูดขึ้นว่า “ฮอน ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่ครั้งนี้คุณยอมมา ช่วยผม! คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ หลังจากถ่ายงานนี้เสร็จ จะมี ค่าตอบแทนให้คุณสองแสนหยวน (ประมาณ1ล้านบาท) ถึง แม้ว่าตัวเลขนี้จะน้อยกว่าของSosoอยู่มากโข แต่ถ้าเทียบ กับศิลปินหน้าใหม่ ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ แล้วนะ ครับ”
พอได้ยินชื่อSoso กู้ฮอนก็ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว “ฉันไม่ได้ คิดมากเรื่องค่าตอบแทนค่ะ ฉันแค่อยากให้งานนี้ถ่ายเสร็จ ไวๆ เอ่อคือ…เจ๋อเฉิงคะ จะเป็นไปได้มั้ย ถ้าฉันจะขอให้คุณ ช่วยพยายามทำให้ไม่ต้องเห็นหน้าเต็มๆ ของฉันในโฆษณา ตัวนี้ ฉันไม่อยากให้งานนี้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตฉันในอนาคต อ่ะค่ะ..”
เธอไม่ได้อยากเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะเธอมีหยาง หยางที่ต้องดูแล หากไปไหนมาไหนก็เป็นจุดสนใจ คงจะ ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
“ฮาๆ เรื่องนี้คุณสบายใจได้เลยครับ! เพราะคุณยังหน้า ใหม่ อีกอย่างโฆษณาก็ฉายแค่แป๊บเดียว โอกาสที่จะเห็น หน้าของนางแบบแทบจะไม่มีเลย บวกกับการแต่งหน้าที่ค่อน ข้างเข้ม คงไม่ส่งผลกระทบอะไร ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ของคุณหรอกครับ”
พอได้ยินหลิวเจ้อเฉิงพูดแบบนี้ กู้ฮอนก็รู้สึกสบายใจขึ้น
“เอ้อ ใช่แล้ว วันนี้หลิวชุ่ยยังโทรมาถามผมอยู่เลย…* หลิวเจ๋อเฉิงเพิ่งจะคิดถึงเรื่องนี้
กู้ฮอนหวั่นใจเล็กน้อย
หลิวเจ๋อเฉิงพูดขึ้นยิ้มๆ ว่า “ผมก็บอกเธอไปตามตรงแล้ว ล่ะ เธอเลยถือโอกาสหาฤกษ์มงคลให้เราสองคนด้วย บอก ว่าต้นเดือนหน้า เป็นวันเริ่มต้นของครึ่งปีหลังพอดี เหมาะเป็น ฤกษ์แต่งงานมาก ถามว่าเราสองคนว่าว่างรีเปล่า เธอจะได้ ช่วยจัดการเรื่องการจดทะเบียนสมรสของเรา..ฮ่าๆ เธอดู รีบร้อนกว่าผมอีกนะครับ”
“ต้นเดือนหน้าเหรอคะ?” กู้ฮอนแอบกำมือแน่นด้วยความ ไม่พอใจ ดูแล้วเจียงฮุ่ยซินคงอยากจะกำจัดเสี้ยนหนามอย่าง เธอไปให้พ้นทาง อย่างอดรนทนไม่ไหวแล้วสินะ
หลิวเจ๋อเฉิงหัวเราะพลางเกาหัวไปด้วยอย่างเคอะเขิน “ฮอ นครับ ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ลองดูว่าคุณว่างเมื่อไหร่ ผมจะ ได้เข้าไปคุยเรื่องการสู่ขอ กับคุณพ่อคุณแม่ของคุณที่บ้าน”
กู้ฮอนหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ ถึงแม้หลายวันมานี้ เธอจะพยายามบอกกับตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่า ขอแค่เธอได้ แต่งงาน ก็จะต้องอยู่ที่เมืองAต่อ และไม่ต้องไปเป็นหนาม ยอกอกของเจียงฮุ่ยซินอีกต่อไป แต่ทว่า พอถึงวินาทีที่เธอมา เผชิญหน้ากับการขอแต่งงานจริงๆ จากผู้ชายแปลกหน้าที่ เพิ่งเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง เธอกลับรู้สึกลังเลใจและกระวนกระวายใจ.
จังหวะที่เธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไรกับเขา โทรศัพท์บนโต๊ะ เครื่องแป้งก็ดังขึ้น เสียงโทรศัพท์นั้นเหมือนได้ช่วยชีวิตเธอ เอาไว้อย่างทันท่วงที เธอมองเขาอย่างเกรงใจก่อนจะกดวัน โทรศัพท์ “เรื่องนี้เอาไว้คุยกันทีหลังนะคะ ขอโทษนะคะ ขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน”
พูดจบ เธอหยิบกระเป๋าและโทรศัพท์ แล้วรีบวิ่งออกมา จากสตูดิโอ
พอมั่นใจแล้วว่าหลิวเจ๋อเฉิงไม่ได้วิ่งตามเธอออกมา เธอ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ฮัลโล?” เธอพูดด้วยเสียงเหนื่อยหอบ ปลายสายเงียบไป
สักพัก น้ำเสียงสดใสของยี่เฟิงถามขึ้นอย่างอ่อนโยน “ฮอน ช่วงนี้เป็นไงบ้าง?”
มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่คืนนั้นที่เธอไปกิน ข้าวที่บ้านตระกูลเป่ยหมิง และไปรู้เข้าว่าเป่หมิงโม่เป็นอารอง ของยี่เฟิง ตลอดยี่สิบกว่าวันมานี้ เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับยี่เฟิ อีกเลย
“ก็ดีค่ะ” เธอยิ้มจางๆด้วยความอ่อนโยนประดุจแสงตะวัน ยามโพล้เพล้ที่คล้อยต่ำเตรียมลาลับไป
“ฮอน วันนี้ผมมีข่าวดีมาบอกคุณด้วยนะ บริษัทกู้ชื่อชนะการประมูลโครงการหยิงแล้วนะ!”
กู้ออนตาเป็นประกาย กำโทรศัพท์แน่นขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว
หลังจากฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย แต่พอมาได้ยินข่าวดี นี้แล้ว เธอกลับไม่ได้รู้สึกดีใจอย่างที่คิดไว้