เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 256 เป็นเพราะคุณคนเดียว
ตอนที่ 256 เป็นเพราะคุณคนเดียว
“ว้าว ขอให้พี่สุดหล่ออายุหมื่นปีครับ” หยางหยางถือถุงของขวัญ แล้วรีบเข้าไปในห้องนอน
แม้ท่าทีของยี่เฟิงดูเหมือนยังเกรง ๆ ทำตัวไม่ถูก เพราะยังไม่รู้จะวิธี เข้าหาหยางหยางสักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหยางหยางก็คือลูก ของฮอนฮอนอยู่ดี และเดือนที่ผ่านมานี้ เขาเองก็คิดอะไรได้หลาย อย่างเหมือนกัน เขาค่อย ๆ ปรับตัวและทำลายกำแพงความอึดอัดที่ ก็ดขวางความสัมพันธ์นั้นได้ ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม เขายังคง ปกป้องฮอนอย่างเงียบ ๆ และปกป้องลูก ๆ ของเธออย่างไม่คาด สายตา
แต่คราวนี้ “ฮอน ..” เขาเหลียวมองฮอน ด้วยความรู้สึกที่ลำบากใจ
มาก
“ยี่เฟิง เข้ามานั่งสิ ฉันกำลังเตรียมมื้อเย็นอยู่พอดีเลย เตี๋ยวรอทาน มื้อเย็นด้วยกันก่อนดีมั้ย” กู้ฮอนเก็บโต๊ะไปด้วยแล้วยิ้มพูดกับเขาไป ด้วย
ตั้งแต่ยี่เฟิงรู้ว่าเธอคือแม่ของเฉิงเฉิงและหยางหยาง เธอที่อยู่ต่อ หน้าของยี่เฟิงก็ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดอีกเลย
ยี่เฟิงหยุดคำพูดในความคิดขอเขาไว้ แต่ในที่สุดก็รวบรวมความ กล้าแล้วพูดออกมาจนได้ คุณย่ามาแล้ว…”
เสียง.เพรี้ยง
เสียงจานที่เคาะกับขอบโต๊ะอาหารดังขึ้น
เฮ้ย ฮอน” ลั่วเฉียวรีบวิ่งเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว “ระวังมือ ด้วย….”
แต่ก็ยังคงช้าไปก้าวหนึ่งอยู่ดี เศษจานที่แตกนั้นบาดมือของกู้ฮอน จนเลือดไหลออกมา ในเวลานั้นเธอรู้สึกไม่ดีขึ้นมา เธอหันหลังมองไปที่ยี่เฟิง “คุณหมายความว่า เจียงฮุยซินก็มาที่ ออสเตรเลียแล้วเหรอ”
ยี่เฟิงมองไปที่แผลในมือเธอแล้วพยักหน้าด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษครับ คุณรีบไปจัดการแผลบนมือคุณก่อนดีกว่า…”
ลั่วเฉียวกระวนกระวายมาก รีบจับมือกู้ฮอนเข้าไปในห้องครัว “ใช่ ๆ ๆ เร็วเข้า.เธอให้เลือดไหลแบบนี้ไม่ได้นะ….”
กู้ฮอนยืนกับที่ไม่ขยับไปไหน สีหน้าจืดจาง มีความรู้สึกเยือกเย็น ออกมาจากภายในร่างกาย “ยี่เฟิง บอกฉันหน่อย ท่านมาทำอะไรที่ ออสเตรเลีย”
นัยน์ตาของยี่เฟิงรู้สึกผิดเล็กน้อย “ตอนนี้คุณย่าอยู่บ้านเฉิง เฉิง..แกนะ….เหมือนว่าจะเข้าใจเราสองคนผิด…. กู้ฮอนถอนหายใจลึก ๆ “เข้าใจผิดเรื่องอะไรละ”
“ที่แท้วันที่เราบินมาออสเตรเลีย…ฉิงฮัวเช็คได้ว่าเรามาเที่ยวบิน เดียวกัน คุณอาคงคิดว่า..คิดว่าเราหนีมาด้วยกันแน่ ๆ .” เสียงดัง ตุบ ๆ” ในสมอง กู้ฮอนรู้สึกสับสนและว่างเปล่า
“หนีมาด้วยกันงั้นเหรอ” เมื่อลั่วเฉียวได้ยินแล้วหยุดบ่นออกมาไม่ได้ “คุณอาคนนี้สมเป็นเป่ยหมิงโม่จริง ๆ ให้ตายเหอะ นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว เนี่ย ใครยังจะทำเรื่องล้าสมัยแบบนั้นอีก ทำไมเขาไม่ลองไปพบ จิตแพทย์บ้างนะ”
กู้ฮอนหน้าซีด เธอกัดริมฝีปากตัวเองแล้วสายหัวไปมาด้วยความ อึดอัด “พอเถอะลั่วเฉียว หยุดพูดได้แล้ว”
ยี่เฟิงขมวดคิ้ว นัยน์ตารู้สึกผิดไม่น้อย “ผมต้องขอโทษคุณจริง ๆ นะ ฮอน ผมไม่รู้ว่าการที่ผมหนึ่งานแต่งของผมจะทำให้คุณต้องเดือดร้อน ไปด้วย..ตอนนี้ต่อให้เป็นคุณย่าก็ยังเข้าใจว่าผมกับคุณหนีมาด้วย กัน แต่แกบอก..ว่าแกอยากเจอหน้าคุณ.
“ท่านรู้ว่าฉันอยู่นี่เหรอ” มือของกู้ฮอนเย็นเยือกทำอะไรไม่ถูก
ยี่เฟิงพยักหน้า ไม่ได้นึกว่าทำไมกู้ฮอนถึงถามคำถามนี้ “คุณย่าถาม ผมว่าหนีมากับคุณจริง ๆ ใช่ไหม ผมก็ปฏิเสธท่านไปแล้ว แต่ท่านไม่ ยอมเชื่อ ยังบอกว่าขอได้พบคุณก่อนถึงจะเชื่อ…”
นี่
กู้ฮอนรู้สึกใจไม่ดีมาก และเธอพอเดาได้ว่าทำไมเจียงฮุ่ยชินถึงมาที่
จากนั้น เธอถอนหายใจดัง ๆ แล้วพยักหน้าตอบกลับยี่เฟิงไปว่า “ได้ สิ ในเมื่อตอนนี้ท่านอยู่กับเฉิงเฉิงแล้ว เดี่ยวฉันจะเข้าไปเยี่ยมท่านถึงที่ เอง..”
ยี่เฟิงก็เห็นด้วยกับเธอ “อิ้ม….งั้นเดี๋ยวผมไปแจ้งท่านให้ทราบก่อน
นะ”
หลังจากที่ยี่เฟิ่งออกไป เส้นประสาทของกู้ฮอนเหมือนจะระเบิด เธอนั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะอาหารด้วยความอ่อนเพลีย ลั่วเฉียวนั่งข้าง ๆ แล้วค่อย ๆ เช็ดแผลให้เธอ
“ฮอน อย่าเครียดมากไปเลย ยี่เฟิงน่ะ เขาไม่รู้ว่าเธอมีลูกในท้อง ส่วนเธอต้องรู้ตัวเองดีสิ เครียดมากไปมันจะกระทบต่อลูกในท้องได้ นะ..”
ภาพในตาของกู้ฮอนเหมือนปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว เธอพูดด้วย น้ำเสียงที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ “ลั่วเฉียว ฉันก็คิดว่าหนีมาถึง ออสเตรเลียแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เจียงฮุ่ยชินก็จะไม่อะไรกับฉัน อีก…แต่นี่มันใช่ที่ไหนกันเล่า….”
“ฮอน อย่าร้องนะเลย..” ลั่วเฉียวเข้ามาเช็ดน้ำตาให้เธอ
ฮอนรู้ตัวอีกทีก็น้ำตาไหลเต็มหน้าแล้ว เธอกุมมือลั่วเฉียวไว้แน่น ๆ แล้วพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “เฉียว ๆ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมอง ฉันกับยี่เฟิงในแง่นั้น..เขาคิดว่าฉันหนีมากับยี่เฟิงได้ไง
อ่ะ..เฮ้อ..ถึงว่าแล้วล่ะ..ตอนแรกที่ฉันหนีออกมาเงียบ ๆ ถ้าตาม นิสัยของเขาแล้วล่ะก็ คงไม่มีทางนิ่งเฉยหรอก แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร เลย ถึงตอนนี้ ฉันก็รู้ชัดแล้วล่ะ..เขาคิดว่าฉันกับยี่เฟิงหนีออกมา ด้วยกัน…เขารู้ว่าฉันมาออสเตรเลียตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ เพราะ ฉะนั้นถึงให้สื่อหลายสื่อประกาศข่าวเรื่องนี้ เขาใช้วิธีนี้เพื่อที่จะบอกฉัน ว่าเขาจะไม่เอาฉันอีกแล้ว….เขาถือตัวขนาดนี้คงรังเกียจฉันมากเลย สิ.”
พูดถึงจุดนี้แล้ว กู้ฮอนทุกข์จนทนไม่ไหว เธอก้มลงกอดไหล่ของลั่ว เฉียวแล้วร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด..
ลั่วเฉียวพยายามลูบไหล่ปลอบใจเธอ “ฮอน มันไม่คุ้มที่จะเสียน้ำให้ ผู้ชายแบบนี้หรอก เราก็จะไม่เอาเขาเหมือนกัน เราก็จะรังเกียจเขา เหมือนกันเนาะ”
กู้ฮอนกัดริมฝีปากไว้แล้วร้องไห้อย่างไม่หยุด “ลั่วเฉียว ที่ฉันเจ็บใจ มันไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอก แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาไม่เข้าใจฉันต่าง หาก ทำไมเขาถึงคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงสกปรกแบบนี้ไปได้ ทำไมเขา ต้องคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบแย่งของคนอื่นด้วย ….อ้วะ…
เมื่อพูดถึงเรื่องสกปรกแล้ว เธอก็รู้สึกคลื่นไส้ทันที
เทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อน รอบนี้รู้สึกมีอาการแพ้ท้องหนักกว่า
ลั่วเฉียวดูแล้วรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมา “ฮอน คิดซะว่าฉันขอแล้วล่ะ อย่า เสียน้ำตาให้กับผู้ชายเลว ๆ แบบนั้นเลย เป่หมิงโม่มันคือไอ่ชั่วคนนึ่ง สารเลวที่สุด ไม่ร้องแล้วนะ ๆ เพื่อลูกน้อยในท้อง เธอต้องเข้มแข็ง นะ..”
“ลูกน้อย ยังมีลูกน้อย..ฉันต้องเข้มแข็ง..อ้วะ….”
หลังจากที่เธออาเจียนเสร็จ กู้ฮอนนอนพักผ่อนได้สักครู่ก็ตื่นขึ้นมา แต่งตัว แต่งหน้าทาแป้งเล็กน้อยเพื่อปกปิดความโทรมของใบหน้า
ก็ตามนั้น เธอปฏิเสธที่จะให้ลั่วเฉียวไปด้วย จากนั้นเธอก็ตรงไป ที่พักของเฉิงเฉิง
เมื่อถึงหน้าบ้านก็เห็นเฉิงเฉิงยืนรออยู่หน้าประตู และคล้ายว่าเขาได้ มายืนรออยู่สักพักแล้ว
ในเวลานั้น สีหน้าของเฉิงเฉิงนั้นดูกังวลผิดปกติมาก ในใจเธอจึง รู้สึกไม่ดีไปด้วย
เธอเดินเข้าไปในบ้าน ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างเฉิงเฉิง และเธอ เขาทั้งสองจึงไม่มีบทสนทนากันสักคำเลย
เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วเห็นเจียงฮุ่ยชินนั่งรออยู่ที่โซฟา กำลังจีบชา อย่างสบายใจ สองตาของเธอแหงนมองมาที่กู้ฮอน ด้วยท่าทีที่คล้ายว่า ไม่รู้เธอจะมา แต่อีกมุมก็เหมือนทุกอย่างอยู่ในความคาดหมายของเขา แล้ว เขามองไปที่เฉิงเฉิง “หลานรัก ลูกเข้าไปทำการบ้านก่อนนะ คุณย่ามีธุระต้องคุยหน่อย”
เฉิงเฉิงพยักหน้าด้วยความเชื่อฟัง แล้วส่งสายตาไปที่กู้ฮอน จากนั้น ก็เดินเข้าไปห้องนอนของเขา
กู้ฮอนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เธอพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด แล้วเดิน เข้าไปหาเจียงฮุ่ยซิน กัดริมฝีปากไว้ แล้วรอให้เจียงฮุ่ยซินเป็นคนเปิด ปากพูดก่อน
“เชิญนั่ง คุณกู้” สีหน้าท่าทางของเจียงฮุ่ยซินแสดงออกถึงความเหิน ห่างระหว่างเขามาก
“คุณนายหญิงเป้หมิงไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ มีเรื่องอะไรก็เชิญท่าน พูดมาเลย”
เจียงฮุ่ยซินจ้องไปที่กู้ฮอนแล้วหัวเราะคล้ายเยาะเย้ยขึ้นมา เหอะ ๆ คุณกู้นั้นช่างมีความกล้า แถมยังมีการวางแผนที่ดีจริง ๆ ฝีมือคุณนั้นไม่ ธรรมดาเลยนะ ไม่แปลกใจเลยที่อาและหลานชายของตระกูลเป่หมิง ของฉันต่างก็พากันหลงใหลในตัวคุณ เล่ห์เหลี่ยมร้ายกาจสมคำร่ำลือ จริง ๆ”
สีหน้าของกู้ฮอนเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด สองมือบีบเป็นกำปั้น ด้วยความโกรธ “หรือว่าคุณหญิงท่านเดินทางนับพัน ๆ กิโลเมตร มาถึง ออสเตรเลียเพื่อจะมาเห็นความเลห์เหลี่ยมที่สมคำร่ำลือนั้นกับตาเหรอ คะ”
เพลี้ย. ทันใด เสียงดังขึ้นของแก้วชาที่กระทบกับโต๊ะชา
บรรยากาศเงียบสงบเหมือนถูกแช่แข็ง
กู้ฮอนมองดูน้ำชาที่ล้นออกมาจากแก้วนั้น ความคับข้องใจ แสดงออกมาจากข้างใน
“กู้ฮอน ตอนแรกที่เธอตั้งใจจะแต่งงาน ฉันเห็นด้วยกับเธอ ต่อมาเธอ บอกจะขอไม่แต่ง แล้วขอออกไปต่างประเทศ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอ…แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันคิดไม่ถึง เธอตั้งใจตามเฉิงเฉิงมาจนได้ และที่ ยิ่งไปกว่านั้น เธอถึงกับต้องทำให้ยี่เฟิงต้องหนึ่งานแต่งของตัวเอง ชีวิต นี้ฉันเจอคนมามากมายหลายประเภท แต่ที่ไม่เคยเจอคือผู้หญิงที่หน้า ด้านเท่าเธอแบบนี้ มีลูกกับคุณอาแล้วยังไม่พอ แถมยังหลอกให้หลาน ชายที่กำลังจะแต่งงานหนีตามไปด้วย… ”
อุณหภูมิความร้อนของร่างกายทั้งหมดไหลขึ้นไปรวมกันที่หัวขอ งกู้ฮอน เธอรู้สึกหัวร้อนมาก ถึงแม้เธอพอเดาได้ว่านางจะพูดคำพูด เหล่านี้ออกมาจากปาก พอทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินกับหูตัวเองมัน กลับเสียดสีไปถึงข้างในจิตใจจนทนไม่ได้ “ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันยอมรับ ว่าตามเฉิงเฉิงมาที่ออสเตรเลีย แต่ฉันไม่ได้จะให้ยี่เฟิงหนึ่งานแต่งตาม ฉันมาด้วย ทุกอย่างมันแค่ความบังเอิญเท่านั้น”
“บังเอิญงั้นเหรอ เธอคือแม่ของเฉิงเฉิง แล้วยังเป็นรักแรกของยี่เฟิง เฉิงเฉิงย้ายมาอยู่ออสเตรเลีย เธอก็มาด้วย แถมไม่พอยี่เฟิงก็มาด้วย อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้ล่ะ” อารมณ์ของเจียงฮุ่ยซินโกรธจนนั่ง ไม่นิ่ง นิ้วมือเขาเคาะโต๊ะซาอย่างเป็นจังหวะ “กู้ฮอน เธอรู้ไหมว่าการ กระทำของเธอมันส่งผลต่อยีเฟิงมากแค่ไหน เขาไม่เพียงแต่สูญเสีย ทรัพย์สินและกิจการทุกอย่างของเขา ตอนนี้เขาถูกตัดขาดจาก ครอบครัวตระกูลเป้หมิงไปแล้ว จากชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยอนาคตที่ สดใส ต้องถูกเธอพลากไปทั้งหมด ฉันถามจริงเถอะกู้ฮอน เธอทำลง ไปได้ยังไงกัน”
เธอไม่คาดคิด รู้สึกที่งจนลืมตาค้างไว้ครู่หนึ่ง “ยี่เฟิงถูก ตัดขาดจากตระกูลเป้หมิงเหรอ” โอ้ไม่นะ เธอเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ ที่ผ่านมายี่เฟิงไม่เคยเอ่ยถึงเลยสัก
นิด.
“เหอะ อย่าแกล้งทำไม่รู้ไปเลย ณ ตอนนี้ยี่เฟิงไม่สามารถทำงาน อะไรได้หรอก เพราะไม่ว่าเขาไปไหนทำอะไรโดยใช้นามของยี่เฟิงตระ กูลเป็หมิง ไม่มีใครกล้าร่วมงานกับอีกแล้ว หากคุณปู่ของเขาไม่ได้แอบ เอาเงินส่วนหนึ่งให้ล่ะก็ ป่านนี้คงต้องอดตายบนท้องถนนในเมือง ซิดนีย์ไปแล้ว” และทั้งหมดนี้ เป็นฝีมือของเธอคนเดียว รู้ไหม ความ รู้สึกของการที่ถูกตัดออกจากครอบครัวตระกูลเป่หมิงมันจะรู้สึกยังไง อีกอย่างชีวิตที่เหลือของยี่เฟิงคงไม่มีโอกาสได้มีชื่อในสังคมอีกแล้ว
ถึงจุดนี้ เจียงฮุ่ยซินก็หยุดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ “เด็กน้อยยี่เฟิงนั้นถูก โม่กดดันมาตั้งแต่เด็ก ไม่ง่ายเลยที่เขาจะกลับมาบ้านเป่หมิงแล้วยืน หยัดให้ไม่ได้ยอมรับในตัวเขา แล้วสรุปว่าเขาไปทำผิดอะไร ถ้าผิดก็ ผิดที่ไปหลงรักเธอแค่นั้น ถือว่าฉันขอร้องเธอก็แล้วกันนะกู้ฮอน ไป จากเฉิงเฉิง ไปจากยี่เฟิง ไปจากโม่ ไปจากทุกคนในครอบครัวของเป่ห มิงเถอะ….อากับหลานสองคนนั้นได้พบเธอ คงถือว่าเป็นหายนะที่
ใหญ่พอสมควรแล้ว…
เมื่อพูดถึงจุดนี้แล้ว หลอดลมในลำคอของกู้ฮอนก็เกร็งขึ้นมา ความ จริงแล้ว…ฉันไม่ได้มีความตั้งใจจะมาแย่งเฉิงเฉิง ฉันแค่อยากเฝ้าดู การเติบโตของเขา….และฉันก็ไม่เคยคิดว่าเป่หมิงโม่จะเกิดความ เข้าใจผิดกับยี่เฟิงเพราะฉัน..คุณนายเป่ยหมิง”
เธอน้ำตาคลอแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ต่อให้ฉันไม่ไปไหน คุณก็คง ไม่ยอมอะไรง่าย ๆ หรอก ตอนนี้ ฉันขอแค่สิ่งเดียว….”
อยากขออะไร เธอพูดมาได้เลย ขอแค่เธอยอมจากไป ต้องการ อะไรฉันจะให้เธอทุกอย่าง” เจียงฮุ่ยซินเช็ดน้ำตาแล้วพูด
กู้ฮอนกระพริบตา มองไปที่หน้าประตูแล้วเห็นเฉิงเฉิงยืนร้องไห้
อย่างเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าเขามายืนตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
“เฉิงเฉิง….” กู้ฮอนเรียกชื่อด้วยเสียงที่แหบแห้ง
เจียงฮุ่ยชินก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน มองไปที่ใบหน้าที่ด้วยอาบด้วย น้ำตาของเฉิงเฉิงแล้วอดใจไม่ได้ “หลานรักของย่า รีบเข้ามาหาย่าเร็ว” แต่สิ่งที่คาดไม่ถึง เฉิงเฉิงรีบวิ่งเข้าไปกอดที่หน้าตักของกู้ฮอนแล้ว ร้องไห้ เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ร้องไห้ฟูมฟายหนักขนาดนี้
“คุณย่าครับ อย่าไล่คุณแม่ไปเลยนะครับ…”
เมื่อเฉิงเฉิงพูดคำว่า “แม่” ออกมา ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ใกล้เขาทั้งสอง ต้องตะลึงไปด้วย
กู้ฮอนถึงกับต้องระเบิดน้ำตา เธอรีบกอดเฉิงเฉิงไว้แน่น ๆ “เด็กโง่ เอ่ย คุณย่าไม่ได้ไล่แม่ไปไหนหรอก คุณยาเพียงแค่อยากให้เฉิงเฉิง ได้ตั้งใจเรียนหนังสือ….”
จนถึงสถานการณ์แบบนี้แล้ว กู้ฮอนยังช่วยเจียงฮุยซินแก้ต่าง เธอ ซึ่งมีจิตใจงดงามจริง ๆ แต่อีกอย่างในใจเธอไม่อยากให้เด็กน้อยไร้ เดียงสาต้องมีเรื่องฝังใจตั้งแต่เด็ก และไม่อยากให้เด็กต้องเกลียด คุณย่าของเขา
เจียงฮุยซินรู้สึกประหลาดใจต่อกู้ฮอนเหมือนกัน ทำไมถึงยังแก้ต่าง ให้เขาอีก สายตาอันสับสนของเขาจ้องมองที่เฉิงเฉิง “..หลานรัก เรื่องที่คุยกันเมื่อกี้หลานได้ยินหมดแล้วใช่ไหม หรือว่า…..หลานรู้แต่ แรกแล้วว่าเธอคือแม่ของหลาน”