เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 347 ลูกไม่มีทางเรียกเธอว่าแม่1
- Home
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 347 ลูกไม่มีทางเรียกเธอว่าแม่1
ตอนที่ 347 ลูกไม่มีทางเรียกเธอว่าแม่1
โดยเฉพาะการสอบใบอนุญาต ทนายความให้ได้ภายในเวลาอันสั้นนั้น มันไม่ ง่ายเลยสําหรับเด็กใหม่ในวงการกฎหมาย อย่างเธอ
เผลอแวบเดียวก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ฤดูหนาวที่หนาวเหน็บก็ผ่านไปครึ่งทางแล้ว
ช่วงกลางวันตั้งแต่9โมงเช้าถึง5โมงเย็น กู้ฮอนตั้งใจศึกษาความรู้ด้านกฎหมายกับหน ป้ฝัน ตกดึกก็กลับไปนอนขลุกกับลูกๆที่บ้าน
ฉิงฮัวจะไปรับลูกๆไปโรงเรียนทุกเช้า จากนั้นก็ส่งลูกๆกลับไปที่บ้านเธออย่างตรง เวลาทุกวัน
หลายวันมานี้ เป้หมิงโม่ก็ไม่ได้โผล่มา ให้เห็นเลย………
เขายุ่งอะไรอยู่กันนะ? สามแม่ลูกก็ไม่ได้มีใครเคลือบแคลง
สงสัยแต่อย่างใด
และไม่ได้ถามฉิงฮัวด้วย
เพราะพวกเขาเชื่อว่า ขอเพียงไม่ได้เจอ ผู้ชายคนนี้ ก็จะไม่นึกถึงผู้ชายคนนี้ เมื่อไม่ นึกถึงเขา
สามแม่ลูกก็จะไม่เป็นทุกข์…….
ตกดึก สามแม่ลูกก็นั่งล้อมโต๊ะอ่าน หนังสือเพื่ออ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้น
กู้ฮอนถือตำรากฎหมายและอ่านอย่าง ดั่งใจ
หยางหยาง จวนจะสอบกลางภาค ก็ แสดงความเคร่งเครียดออกมาไม่เบา
“เป้หมิง เฉิง…..อันที่จริง นายไปสอบ แทนฉันได้นะ……… หยางหยางขมวดคิ้วน้อยๆ พูดขึ้น พร้อมกับปลายปากกา อีกทั้งยังถูไถ เฉิงเฉิงที่นั่งอ่านวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติมอยู่ อีกข้างหนึ่ง
เฉิงเฉิงเลิกคิ้วมองหยางหยางด้วย สายตาที่เย้ยหยัน ก่อนจะพยักหน้าอย่างสุขุม “ได้ ฉันไปสอบแทนนาย นายไปสอบแทนฉัน
“โห……” หยางหยางร้องอย่างโอดโอย “สอบปลายภาคของชั้นปีล่างๆ ฉันยังทำไม่ได้ เลย นายยังหวังให้ฉันไปสอบของชั้นปีสูงๆ แทนนายอีกเหรอ?”
กู้ฮอนเงยหน้าขึ้นมาจากตำรากฎหมาย เล่มหนา ก่อนจะยื่นมือไปดึงหูของหยางหยาง ด้วยความตั้งใจ “กู้หยางหยาง ข้อสอบตัวเองก็ จัดการเอง อย่าคิดให้เฉิงเฉิงช่วยเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
“โอ๊ย เจ็บ……แม่เบาๆหน่อย…..” หยาง หยางกุมหูร้องโอ๊ย ก่อนจะถามกลับหน้ามุ่ยว่า “แม่ครับ แม่ไม่ต้องอ่านหนังสือแล้ว…….ผมไป เป็นคํารวจ สไหม……. “คํารวจ?” เธอเกือบหลุดขาออกมา ทันที ที่เห็นหยางหยางพูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่ดูจริงจัง “กู้หยางหยาง ขอแค่ลูกโตมาแล้วไม่เป็น นักเลงหัวไม้ แม่ก็จุดธูปไหว้ขอบคุณ บรรพบุรุษแล้ว ลูกยังเพ้อฝันว่าจะเป็นตำรวจ อีกเหรอ?”
เฉิงเฉิงหัวเราะเยาะกับความฝันอันยิ่ง ใหญ่ของหยางหยาง ตำรวจก็ต้องสอบ ต้อง เรียนหนังสือเหมือนกัน”
“โห่……..ต ารวจในทีวีถือปืนกันทั้งนั้น เลยนะ นายเคยเห็นตำรวจที่ถือปากกาหรือ เปล่าล่ะ?” หยางหยางเถียงกลับอย่างยียวน
“พวกที่ถือปืนคือตำรวจยศน้อยๆ ที่ต้อง บุกตะลุยสู้กับพวกผู้ร้ายทั้งนั้น คนที่เป็น หัวหน้าคือคนที่นั่งถือปากกากับรายงานอยู่ใน ออฟฟิศต่างหาก” เฉิงเฉิงพูดแขวะขึ้น มา “หยางหยางนายอยากจะเป็นนายตำรวจ ชั้นผู้น้อย ที่พร้อมดายอยู่ข้างทางได้ตลอด เวลา หรืออยากเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่นั่ง ออกคําสั่งอยู่ในออฟฟิศละ?”
ฟังดูแล้ว การเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่สบาย กว่าเห็นๆ
“โอ๊ยฉันไม่เอา…….” หยางหยางค้อนเฉิง เฉิงอย่างสับสน ก่อนจะพูดขึ้นหลังจากพึมพำ อยู่นาน
“เป่หมิงซีเฉิง นายมันปีศาจทุนนิยม!!!”
เหมือนถอดแบบมาจากเปหมิ่งโม่ไม่มีผิด
ผีดูดเลือดแห่งทุนนิยม!
ขนาดเป็นตารวจยังต้องเป็นตำรวจที่คอย ขูดรีดคนอื่น!
“เหอะๆ พอแล้วหยางหยาง ไม่ว่าเฉิง เฉิงจะมีหัวทุนนิยมแค่ไหน แต่เขาก็พูดถูกนะ เรื่องหนึ่งนะ คือตำรวจก็ต้องสอบ เพราะฉะนั้น ถ้าลูกไม่ยอมอ่านหนังสือ แล้วอีกหน่อยจะเป็น ตำรวจได้ไง?”
ฮอนยิ้มอย่างอ่อนใจ มือหนึ่ง หัวหยาง หยาง และอีกมือหนึ่งก็จูงมือน้อยๆของเฉิง เฉิง ลูกชายทั้งสองของเธอ คนหนึ่งโตมาใน สังคมชนชั้นล่างของเมืองนี้กับเธอ ส่วนอีกคน โตมาในสังคมมนสูงกับเป้หมิงโม่ ความคิด และทัศนคติก็ย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา
เธอไม่ได้คาดหวังว่าลูกไปจะเป็นใหญ่ เป็นโตอะไร มองแค่พวกเขามีความสุขในทุกๆ วันก็พอ
“น่าเบื่อ…….แล้วทำอะไรที่ไม่ต้องสอบ บ้างเนี่ย?” หยางหยางพูดขึ้นอย่างไม่สบ อารมณ์
เฉิงเฉิงมองอย่างดูถูกเขา ก่อนจะพูดขึ้น มาว่า “นักเลงหัวไม้ไง”
“อ๋อ…..” หยางหยางตาโดเหมือนมอง เห็นแสงแห่งความหวัง ที่แท้เป็นอย่างนี้ นี่เอง……..
พอกู้ฮอนเห็นสีหน้าของเจ้าตัวแสบ ก็รู้ เลยว่ากำลังคิดจะทําอะไร เธอจึงรีบดึงหูหยาง หยางและเอ็กในทันที
“กูหยางหยาง ลองเป็นนักเลงหัวไม้ดูสิ แม่จะตีให้ขาหักไปเลยคอยดู…..
“โอ๊ย……แม่ผมเจ็บนะ…….กลัวแล้วครับ ไม่กล้าแล้วครับ….
จังหวะที่หยางหยางกำลังร้องขอชีวิตอยู่ นั้น กริ่งประตูก็ดังขึ้น
ดึงตองตึงต้อง
สามแม่ลูกชะงักไปชั่วครู่
กู้ฮอนปล่อยมือจากหูของหยางหยาง
ก่อนจะยิ้มให้ลูกๆ
จากนั้นก็ลุกไปเปิดประตู
กลับคิดไม่ถึงว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือ เจียงฮุยชิน!
กู้ฮอนตกตะลึง
“กู้ฮอน จะไม่เชิญฉันเข้าไปนั่งในบ้าน หน่อยเหรอ?” เจียงฮุยชินในเสื้อขนเฟอร์ตัว สวยสดหรูหรา
” เฉิงเฉิงเดินมาที่ประตู พร้อมทักทายอย่างสุภาพแห่างเหิน
“คุณย่า……
‘หยางหยางตามมาที่ประตู แต่กลับ
นิ่งเงียบ
ความรู้สึกที่ลูกชายทั้งสองมีต่อเจียงฮุ่ย ซินนั้นต่างกัน
แม้ว่าหลายปีมานี้เจียงฮุยซินจะรักและ เอ็นดูเฉิงเฉิงมากก็ตาม แต่ตอนที่อยู่ ออสเตรเลียนั้น เขาได้ยินคุณย่าของเขาที่ บอกว่าจะไล่แม่ของเขาไป คืนนั้นเขาร้องไห้ ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด หลังจากนั้น เป็นต้นมา เขาก็เริ่มห่างเหินกับคุณย่าของเขา ไปเลย
สําหรับหยางหยาง ก็ไม่เคยเข้ากันได้กับ เจียงฮุยขินเลย
กู้ฮอนกับมองลูกชายทั้งสอง “เฉิงเฉิง หยางหยาง กลับเข้าไปในห้องนอนก่อนนะ อืม?”
“ไม่เอา!” หยางหยางปฏิเสธ
เฉิงเฉิงเงยหน้ามองเจียงฮุย น ก่อนจะ พยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย ครับ พวกเรา จะเข้านอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับแม่ ลาก่อน ครับคุณย่า”
เฉิงเฉิงพูดจบ ก็ไปจูงมือหยางหยาง แกมบังคับ ก่อนจะลากเข้าห้องนอนไป……
“โอ๊ย เป้หมิง เฉิง นายลากฉันท่าไม่ เนี่ย……ฉันบอกแล้วไงว่าฉันยังไม่นอน ฉันจะ อยู่ตรงนี้…………..
คิดไม่ถึงเลยว่าเฉิงเฉิงผู้สง่างาม กลับ พูดขึ้นว่า “เป่หมิงหยาง กลับไป ‘ลาก’ ที่ห้อง นอน!”