เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 576 หยางหยางจะยอม
ตอนที่ 576 หยางหยางจะยอม
กู้ฮอนเดินไปตรงหน้าเฉิงเฉิง ยื่นมือไปหยิกแก้มเขาเบาๆ “ลูกรู้ไหม พรุ่งนี้น้องสาวก็กลับมาอยู่กับเราแล้ว”
เฉิงเฉิงได้ยินว่าน้องสาวจะกลับมา ก็ยิ้มดีใจ “คุณแม่ครับ เพื่อเป็นการต้อนรับน้องกลับมา เรามาตกแต่งห้องให้สวยงามกันไหมครับ”
กู้ฮอนพยักหน้าเห็นด้วย “ดีจ้า เราลงมือกันเลว”
ว่าแล้วกู้ฮอนก็พาเฉิงเฉิงก็ลงมือยุ่งกับการตกแต่งบ้าน เพื่อต้อนรับการกลับมาของแอนนิและจิ่วจิ่ว
***
ถึงเวลาทานข้าวเย็นแล้ว เป่หมิงยันกลับมาจากด้านนอกสักที
หยางหยางถูกเจียงฮุ่ยซินสอนเกือบค่อนวัน ตอนนี้เหมือนมะเขือที่โดนฟ้าผ่านั่งอยู่บนที่นั่งที่เฉิงเฉิงเคยนั่ง
ตอนนี้เจียงฮุ่ยซินยังไม่ถึงห้องครัว
เป่หมิงยังเห็นสภาพหยางหยาง เดินไปด้านหลังเขาใช้มือขยี้ศีรษะน้อยของหยางหยางเบาๆ แล้วนั่งลงที่นั่งตรงข้ามเขายิ้มพูด “โอ๊ะ คุณชายน้อยหยางหยางของเราเป็นอะไรไปเนี่ย? กลางวันยังกระโดดโลดเต้นร่าเริงอยู่เลย ทำไมตอนนี้เป็นแมวหงอยไปล่ะ?”
หยางหยางทำปากบึนมองบนให้กับเป่หมิงยัน “อาสามวันนี้อาหนีไป คุณย่าดึงผมไว้พูดค่อนวัน”
แน่นอนเป่หมิงยันรู้ว่าแม่พูดอะไรกับหยางหยาง แต่ก็จะแกล้งเขา “ดูไม่ออกนะเนี่ย นายเพิ่งมาที่นี่ คุณย่าจะชอบนายขนาดนี้ ยังพูดตั้งค่อนวัน อิจฉานายจริงๆ ฉันยังไม่มีเครดิตนี้เลย ท่านคุยกับอาไม่ถึงคำเลย”
เพิ่งพูดจบไป ก็ได้ยินเสียงที่มีน้ำหนักของเจียงฮุ่ยซินลอยมา “ยันยัน แกอย่ามาพูดแบบนี้นะ แม่ไม่อยากคุยกับแกสักเมื่อไหร่ แกต่างหากที่หาเรื่องหลบหน้าแม่ทุกวัน”
เสียงพูดเพิ่งหายไป เห็นเพียงเจียงฮุ่ยซินเหมือน ‘ท่านพระพุทธเจ้า‘ ไม่เร่งไม่รีบเข้ามาในครัว
เป่หมิงยันเห็นแม่มา รีบหดคอทันที แล้วแลบลิ้นให้กับหยางหยาง และทำหน้าผี
ถึงทำให้หยางหยางหัวเราะได้
อาหารขึ้นโต๊ะพร้อมหมดแล้ว หยางหยางนั่งอย่างมีมารยาทอยู่กับที่ ไม่กินก่อนเหมือนตอนเที่ยง
เป่หมิงยันไม่คิดอะไรมาก เขาหยิบตะเกียบขึ้น แล้วพูดกับหยางหยาง “นายเป็นอะไร อาหารพร้อมหมดแล้วยังซื่ออยู่ทำไมล่ะ ยังไม่รีบกินอีก”
แต่ผิดคาดจากที่เป่หมิงยันคิด หยางหยางยังคงไม่จับตะเกียบ แล้วยังมองเจียงฮุ่ยซินอย่างไม่ละสายตา
เจียงฮุ่ยซินใช้ตะเกียบตีเป่หมิงยันไปทีหนึ่ง “แกอย่าไปสอนหยางหยางเหมือนแบบแก ฉันเสียเวลาสอนมาค่อนวันไม่ใช่จะสูญเปล่า แกดู นี่ไง ดีขึ้นจากตอนกลางวันมากแล้ว ไม่เหมือนเด็กที่ไม่มีการสั่งสอนคนนั้นแล้ว”
เป่หมิงยันเก็บตะเกียบ ยกนิ้วโป้งให้กับเจียงฮุ่ยซิน พูดอย่างนับถือว่า “แม่เก่งนะเนี่ย นอกจากผมแล้ว ไม่ว่าเฉิงเฉิงหรือหยางหยางแม่ก็สอนให้เขาเป็นคนมีมารยาทได้”
“เจ้าเด็กนี่ ชมฉันหรือด่าฉันกันแน่”
เป่หมิงยันพูดอย่างบริสุทธิ์ใจ “ต้องชมอยู่แล้วครับ”
เจียงฮุ่ยซินเริ่มรำคาญ “พอๆ รีบกินข้าวเถอะ พูดเรื่องจริงจังทีไรแกก็ทำให้ฉันเครียดอีก”
แน่นอนเธอก็บอกกับหยางหยางและเฟยเอ๋อด้วย “พวกเธอก็กินเถอะ”
ณ ตอนนี้เอง เป็นครั้งแรกที่เป่หมิงโม่กลับมายังคฤหาสน์เป่หมิงแต่เช้า ตามหลังด้วยฉิงฮัว
เจียงฮุ่ยซินรีบวางตะเกียบ ออกจากห้องครัว
พอเห็นเป่หมิงโม่ก็ยิ้มแย้ม “เป่หมิงโม่ กลับมาแล้วหรอ กินข้าวหรือยัง เรากำลังจะกินข้าวกันพอดี”
พูดแล้วเธอก็กวักมือ คนใช้คนหนึ่งเดินเข้ามา เจียงฮุ่ยซินสั่ง “คุณชายสองกลับมาแล้ว เธอบอกในครัวทำอาหารเพิ่มอีกหน่อย”
เป่หมิงโม่ถอดเสื้อสูทออก ยื่นให้ฉิงฮัว
พูดกับเจียงฮุ่ยซิน “ป้าซินครับ เป่หมิงซีหยางเพิ่งมา ทำป้าซินไม่พอใจหรือเปล่าครับ”
เจียงฮุ่ยซินยิ้มพูด “ฮาย จะไม่พอใจได้ยังไง ลูกหลานบ้านเป่หมิงทั้งนั้น เพียงแต่มีบางอย่างต้องสอนเขา แต่นายวางใจได้ พวกนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันละกัน”
“ถ้าอย่างงั้นก็รบกวนป้าซินนะครับ” เป่หมิงโม่พูดไป ก็เดินเข้าห้องครัวพร้อมเจียงฮุ่ยซิน
เวลามื้อเย็น ทุกคนกินอย่างเงียบเงียบ
เป่หมิงโม่นั่งตรงที่เจ้าของบ้าน กินข้าวอย่างไม่รีบไม่เร่ง ฉิงฮัวยืนตรงอยู่ด้านหลังเขา
เป่หมิงยันก็ไม่ล้อแม่เขาเจียงฮุ่ยซินอย่างที่เห็นอยู่บ่อย
หยางหยางยิ่งเก็บอาการกินข้าวคนเดียว หลังจากเจียงฮุ่ยซิน “สั่งสอน” แม้กระทั่งคีบผักก็ระวังมาก
เฟยเอ๋อล่ะ เขาเห็นเป่หมิงโม่ท่าทางเหมือนมีอะไรในใจ ตนก็เหมือนจะกินไม่ค่อยลง
หลังจากมื้อเย็นหยางหยางถือโอกาสไม่มีใครสังเกต รีบวิ่งกลับห้องตัวเอง ‘เชี่ย’ ก็วิ่งตามเข้าไป
ปิดประตู ในที่สุดหยางหยางก็ได้สูดอากาศหายใจยาวยาว ร่างเล็กๆล่นลงบนเตียงอย่างหนัก ความนุ่มนั้นเหมือนตกลงกองสำลีเลย
นอนอยู่บนเตียง แล้วมองไปรอบๆ ผนังพื้นสีฟ้าลายดอกเล็กๆสีขาวด้านล่างเป็นผนังไม้สีเหลืองอ่อน
ด้านซ้ายของเตียงมีประตูไม้โบราณอยู่สองบาน ด้านบนเป็นกระจกสี่เหลี่ยมช่องๆที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ
ด้านนอกประตูเป็นระเบียงมีรั้วสีขาวกั้นอยู่ ตรงนี้สามารถมองเห็นสวนดอกไม้ของบ้านเป่หมิง
สองข้างของประตูมีผ้าม่านหรูยาวถึงพื้นประดับอยู่
ด้านขวาของเตียง เป็นตู้ที่ใช้ความกว้างครึ่งเพดานความสูงจากพื้นขึ้นไปถึงเพดานห้อง
พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องไม้อัดสีแดงเข้ม แสงสลัวของไฟที่อยู่ภายใต้เพดาน สะท้อนแสงอ่อนๆ
เทียบกับงานตกแต่งในห้องแล้ว สิ่งที่ดึงดูดหยางหยางมากกว่าคือ ทีวีที่มีขนาดสี่สิบนิ้วที่แขวนอยู่เพดานปลายเตียง!
ทีนี้ก็ดีเลย ไม่ต้องกังวลว่าต้องแอบดูทีวีเหมือนแต่ก่อนแล้ว
ห้องนอนของหยางหยางตอนนี้ ไม่รู้ว่าดีกว่าห้องที่อยู่กับแม่ตั้งกี่เท่า
มองดูทั้งหมดนี้ เขารู้สึกเหมือนฝันที่ไม่เป็นความจริง แต่นี่กลับเป็นความจริง
เขาค่อยๆเอาฉลากที่ทำจากกระดาษเมื่อตอนเช้า ออกจากกระเป๋าเสื้อ
ค่อยๆแกะออก มองดูข้อความด้านใน ‘อยู่’ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
แม้นี่จะเป็นวิธีที่เขามั่นใจว่าจะมาที่บ้านเป่หมิงได้ แต่หลังจากอยู่ที่นี่มาครึ่งวัน เขารู้สึกที่นี่ไม่เหมือนที่เคยคิดไว้เลย
ถึงจะได้กินของอร่อยมากมาย แต่เจียงฮุ่ยซินพูดเรื่องกฎระเบียบของบ้านเป่หมิงตั้งค่อนวันทำให้เขาหัวโตเลยทีเดียว
หยางหยางกลิ้งลงเตียง อุ้ม ‘เชี่ย’ที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
พูดกับมันด้วยหน้าที่บึ้งตึง “‘เชี่ย’ แกว่าการตัดสินของฉันที่มาที่นี่ถูกหรือผิดหรอ? ตั้งแต่คุณปู่เป็นอัมพาตคุณย่าก็เปลี่ยนเหมือนคนละคนเลย ไม่ได้ดีกับฉันแล้ว คอยจับผิดฉันไม่ว่า ยังไม่ให้ฉันนอนห้องเฉิงเฉิงอีก……”
พูดถึงนี่ หยางหยางเงยหน้าขึ้น “ถึงแม่คุณย่าจะไม่ชอบฉันอีก ไอ้พ่อนกหาเรื่องฉัน เพื่อที่จะเอาชนะเฉิงเฉิง ฉันจะอดทนต่อไปให้ได้!”
“วู……” ‘เชี่ย’ก็ทำหน้าบึ้งมองหยางหยาง
“ก๊อกๆๆ……” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
หยางหยางรีบวาง ‘เชี่ย’ ลงกับพื้น แล้วเก็บฉลากใบนั้นเข้ากระเป๋าไปอีกครั้ง
แล้วกึ่งวิ่งไปเปิดประตู
เปิดประตูมา เห็นแต่ฉิงฮัวยืนเรียบร้อยอยู่หน้าประตู
“คุณลุงหัวฟู มีเรื่องอะไรหรอครับ?” หยางหยางเงยหน้ามอง มองคนที่สูงกว่าตัวเองเท่าตัวถาม
ฉิงฮัวก้มหน้ามองหยางหยาง “คุณชายน้อยหยางหยางครับ เจ้านายให้ผมมาเรียกคุณไปที่ห้องโถงครับ”
หยางหยางรีบเปลี่ยนสีหน้า จบแล้ว ตอนเที่ยงทานข้าวเสร็จ คุณย่าก็พูดบทยาวเหยียดให้ตนฟังค่อนวันในห้องโถง ตอนนี้ไอ้พ่อนกก็มาเรียกตนไปห้องโถงหลังข้าวเย็นอีก งั้นไม่ต้องฟังเขาพูดทั้งคืนหรอกหรอ
สวรรค์ แล้วจะให้นอนกันไหมเนี่ย
***
หยางหยางตามฉิงฮัวไปที่ห้องโถง
เห็นแต่เป่หมิงโม่นั่งหน้าเข้มนั่งอยู่กลางโซฟา
เจียงฮุ่ยซินและเป่หมิงยันนั่งขวามือของโซฟา
“เจ้านายครับ คุณชายน้อยหยางหยางมาแล้วครับ” ฉิงฮัวเดินไปข้างเป่หมิงโม่พูด
ตอนนี้หยางหยางรู้สึกตนเหมือนนักโทษ ที่กำลังถูกส่งตัวขึ้นศาล
แต่ก่อนเขากล้าเถียงเป่หมิงโม่ หรือทะเลาะกัน เป็นเพราะมีแม่หนุนหลังทั้งหมด
แต่วันนี้ หยางหยางไม่กล้าอีกแล้ว หรือเขาอาจจะมีเรื่องที่ยังทำไม่สำเร็จ ถ้าทำให้ไอ้พ่อนกโมโห แล้วส่งตนกลับ งั้นทุกอย่างก็สูญเปล่า
เขาเห็นว่าเดินถึงหน้าเป่หมิงโม่แล้ว เรียกเสียงเบา “พ่อครับ……”
เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วเบาๆ “เป่หมิงซีหยาง วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกมาอยู่ที่นี่ มีมารยาทมากมาย ที่ลูกต้องจำ”
พูดถึงนี่ เจียงฮุ่ยซินยิ้มพูดอยู่ข้างๆ “เป่หมิงโม่ คุณไม่ต้องห่วง กฎระเบียบของบ้านเป่หมิงฉันบอกหยางหยางเมื่อตอนบ่ายแล้ว เขาฉลาดมากจำได้เร็วมาก”
เป่หมิงโม่พยักหน้าให้กับเจียงฮุ่ยซิน “ป้าซิน ลำบากป้านะครับ ผมไม่อยู่บ้านบ่อย เป่หมิงซีหยางอายุยังน้อย แล้วซนด้วย เวลาสอนจะลำบากหน่อยนะครับ”
เจียงฮุ่ยซินยิ้มพูดเหมือนเดิม “เด็กน่ะ ซนทั้งนั้นแหละ แค่สอนดีๆ ก็เป็นเด็กดีได้ทั้งนั้นแหละ ดูสิ เฉิงเฉิงก็ใช่ รู้เรื่องเชื่อฟังแค่ไหน”
พูดถึงนี่ หน้าเขาก็เริ่มแสดงออกถึงความลำบากใจ “ตอนนี้ เฉิงเฉิงไม่อยู่บ้านแล้ว ฉันไม่รู้เลยว่าเขาสบายดีไหม ฉันเห็นเขาตั้งแต่ยังแบเบาะ จนถึงตอนนี้ เขาไม่อยู่บ้านแล้ว ฉันก็……”
เจียงฮุ่ยซินพูดถึงนี่ ห้ามไม่ได้ที่จะเศร้า เธอรีบใช้มือแก่ๆของเธอปาดน้ำตาที่กำลังจะร่วงลง
เป่หมิงยันอยู่ข้างๆ ก็เหมือนจะโดนกระทบไปด้วย ยื่นมือไปกอดแม่ไว้
มองดูสองแม่ลูกแบบนี้ ยังคงทำหน้าเฉยพูด “เฉิงเฉิงไปอยู่กับแม่ก็เป็นเรื่องที่จัดการเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตอนนี้ คุณชายน้อยบ้านเป่หมิงมีแต่หยางหยาง”
พูดถึงนี่ เป่หมิงโม่ยกมือเรียกฉิงฮัว
นี่ไอ้พ่อนกจะทำอะไรกัน ถ้ารู้เรื่องตนที่โรงเรียน ก็แย่เลย คิดถึงนี่ หยางหยางแอบแตะก้นตัวเอง
เป่หมิงโม่ดึงเอกสารออกมา ค่อยๆเปิดไปทีละหน้าละหน้า
หยางหยางกลั้นหายใจ ทำตาโตจ้องเป่หมิงโม่
เห็นเพียงคิ้วของเป่หมิงโม่ขมวดแล้วขมวดอีก
ผ่านไปสักพัก เขาโยนเอกสารลงบนโต๊ะกาแฟ
“พ๊า……”
ทำเอาร่างน้อยของหยางหยางตกใจสั่น รีบก้มหน้าลง
คิดในใจจบแล้ว หนีไม่พ้นการโดนตีแน่ๆ