เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 590 เยี่ยมเยียน
ตอนที่ 590 เยี่ยมเยียน
ฉิงฮัวได้ฟัง แอบขมวดคิ้ว ตระกูลเป่หมิงมีชื่อเสียงมากในเมือง A โดยเฉพาะเรื่องงานแต่งงานของเป่หมิงโม่ที่เตรียมจัดงานที่โรงแรมแมนดาริน สื่อมวลชนต่างๆ ก็รับรู้ถึงงานนี้
ดังนั้นวันนี้ในเมืองพวกเขายังไม่ได้รายงานข่าวที่เกี่ยวกับงานแต่งงาน เนื่องจากฉิงฮัวอยู่เบื้องหลังพยายามควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้
ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้ฉิงฮัวเองก็รับมือไม่ทัน ดูแล้วเรื่องต่อจากนี้คือการไปจัดการเรื่องสื่อมวลชน
“เจ้านาย งั้นพวกเราจะไปที่ไหนกัน?”
“ไปโรงพยาบาล” เป่หมิงโม่พูดอย่างเรียบๆ
*
อาการป่วยของท่านปู่เป่หมิง สองวันมานี้ดูจะเปลี่ยนไป หลังจากที่เมื่อวันก่อนเข้ารับการรักษา เมื่อวานไม่มีใครไปรบกวน ร่างกายจึงดีขึ้น การเคลื่อนไหวของมือเท้าของเขาวันนี้ขยับได้มาก ฟันและปากก็ดูสดใส
ตอนที่เป่หมิงโม่พาฉิงฮัวไปที่ห้องวอร์ด หมอเวรบอกข่าวดีกับเขา
เมฆครึ้มในใจทั้งวันของเป่หมิงโม่จึงสลายหายไป
ฉิงฮัวเฝ้าอยู่ในห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด เป่หมิงโม่เดินเข้าไปในห้องวอร์ดคนเดียว
ตอนนี้ท่านปู่เป่หมิงกำลังนอนหลับพักผ่อน แต่เสียงพูดคุยที่ดังมาจากด้านนอกทำให้เขาตื่นขึ้น
***
ท่านปู่เป่หมิงค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เห็นเป่หมิงโม่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวเองอยู่ในขณะนี้
“เอ้อ…มาแล้วหรือ….” ขณะที่เขาพูด ยื่นมือออกมาช้าๆ อยากจับมือเป่หมิงไว้
เป่หมิงโม่เดินไปตรงหน้าท่านปู่เป่หมิง เอื้อมมือไปจับมือของเขาไว้ เขารู้สึกได้ว่ามือของพ่อเริ่มมีแรง
“พ่อ ฉันมาแล้ว หมอบอกว่าอาการของพ่อตอนนี้เริ่มกลับมาดีขึ้น ไม่นานพ่อก็กลับบ้านได้” เป่หมิงโม่ลากเก้าอี้ นั่งอยู่ใกล้ๆ เขา
กลับบ้าน สำหรับอาการป่วยอย่างหนักของท่านปู่เป่หมิงแล้ว เป็นเรื่องที่น่าปรารถนาอย่างมาก แต่ที่มากกว่าความปรารถนาคือเขาไม่ยอมกลับไป
ตระกูลเป่หมิงในอดีต คู่ชีวิต ลูกชายสามคนแล้วก็ยังมีพวกหลานชายอยู่ข้างกายตัวเอง แม้ว่าจะไม่มีความสุข แต่ทุกคนก็อย่างกันอย่างเรียบร้อย
แต่มาวันนี้….
“พ่อ อย่าคิดถึงเรื่องในอดีตเลย” เป่หมิงโม่ปลอบโยนท่านปู่เป่หมิง แต่ใบหน้าของเขามีสีหน้าเคร่งเครียด
“เอ้อ….มี…เรื่องอะไร…ทำให้วิตกกังวล?” ท่านปู่เป่หมิงดูออกว่าเป่หมิงโม่มีเรื่องไม่สบายใจ
เป่หมิงโม่ส่ายหัว : “ทุกอย่างที่นี่ดีหมด อีกอย่างยี่เฟิงก็เข้ามาทำงานในฝ่ายออกแบบของตระกูลเป่หมิงแล้ว
นี่ทำให้ท่านปู่เป่หมิงรู้สึกประหลาดใจและคาดคิดไม่ถึง
เขารู้ว่าตอนแรกเป่หมิงโม่กับเขาพนันกันไว้ โดยเอาหุ้นทั้งหมดของพี่ใหญ่ ไป และให้พวกเขาออกจากตระกูลเป่หมิง
แต่ตอนนี้ ได้ยินกับหูจากปากของลูกชายคนที่สองที่พูดออกมาว่าเป่หมิงยี่เฟิงเข้าไปที่ตระกูลเป่หมิง อาศัยที่เขาเข้าใจเป่หมิงโม่ แน่นอนว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้ไม่ใช่ง่ายๆ
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เป่หมิงเจิ้งเทียนก็ยังให้หลานชายของตัวเองกลับไปตระกูลเป่หมิงอีกครั้ง และรู้สึกพอใจ ครั้งแรกตอนที่เป่หมิงโม่กล้าให้พวกเขาออกจากบ้านไป ตัวเขาเองกลับทำอะไรไม่ได้
“ยี่เฟิง เป็นเด็กดี เอ้อ คุณต้องคอยตักเตือนเขาให้ดี” นี่คือเรื่องที่เป่หมิงเจิ้งเทียนฝากเป่หมิงโม่ในฐานะพ่อ นี่เป็นเรื่องเดียวที่เป่หมิงเจิ้งเทียนสามารถทำได้ในฐานะปู่ให้แก่เป่หมิงยี่เฟิง
เป่หมิงโม่พยักหน้า : “พ่อ วางใจเถอะ ฉันจะดูเขาอย่างใกล้ชิด”
เขาไม่ได้พูดต่อหน้าท่านปู่เป่หมิงว่า เป่หมิงยี่เฟิงถูกคนใช้ประโยชน์ถึงได้เข้ามาที่ตระกูลเป่หมิง
เขารู้ว่าถ้าพูดออกไป ก็จะทำให้รู้พ่อคนที่เป็นหัวโจกจัดการตระกูลเป่หมิง นั่นคือเป่หมิงยี่เฟิงหลานชายที่เขาเคยรักมาก
ด้วยนิสัยของท่านปู่เป่หมิงแน่นอนต้องโกรธจนเกิดเรื่องร้าย อาการป่วยเพิ่งจะค่อยยังชั่วอาจจะกลับมาแย่ตลอด ถ้าเป็นอย่างนั้น ความเป็นไปได้ในการรักษาก็จะไม่เหลือ
สิ่งที่เป่หมิงโม่ทำได้ ก็คือไม่ควรใส่เรื่องนี้มากนัก
อนาคตสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เขาแบกรับไว้เอง
เป่หมิงเจิ้งเทียนกุมมือเป่หมิงโม่ไว้แน่น : “เอ้อ ตระกูลเป่หมิงต้องอาศัยคุณแล้ว ลำบากหน่อยนะ”
เป่หมิงโม่ปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย เขาส่ายหัวเบาๆ : “พ่อ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ ไม่ลำบากสักนิด เพียงแต่เมื่อก่อนต้องอาศัยคุณคนเดียวแย่งชิงตระกูลเป่หมิง นั่นลำบากที่สุด”
“เอ้อ คุณผิดแล้ว การแย่งชิงประเทศนั้นง่าย แต่รักษาประเทศนั้นยากกว่า ตอนนี้ตระกูลเป่หมิง มีสิ่งที่ยากจะแก้ไขมากมาย คุณไม่พูด ในใจพ่อก็รู้อย่างชัดเจน” ท่านปู่เป่หมิงพูดเสียงขาดๆ หายๆ แต่ความคิดของเขายังคงชัดเจนและว่องไว
ตอนนี้ เสียงคนเฝ้าดังอยู่ข้างๆ เป่หมิงโม่ กระซิบที่ข้างหูเขา : “คุณเป่หมิง เวลาเยี่ยมเหลือน้อยแล้ว ท่าปู่เป่หมิงต้องการพักผ่อน”
เป่หมิงโม่พยักหน้า จากนั้นพูดกับเป่หมิงเจิ้งเทียน : “พ่อ ฉันไม่รบกวนเวลาพักผ่อนแล้ว วันหลังฉันจะมาเยี่ยมใหม่”
***
เป่หมิงเจิ้งเทียนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นปล่อยมือลูกชายอย่างไม่เต็มใจ
เป่หมิงโม่หันกลับตามคุณหมอมาถึงห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด
เขาหยิบสมุดบันทึกมาพลิกดูสักครู่
ตอนนี้ ฉิงฮัวเอนกายไปที่หูของเป่หมิงโม่อย่างสงบเยือกเย็น ใช้เสียงพูดให้ได้ยินแค่สองคน : “เจ้านาย ด้านนอกดูเหมือนจะมีคน”
เป่หมิงโม่ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น ยังคงรักษาท่าทางดูข้อมูล เขาพูดกับฉิงฮัว : “คุณอยู่ที่นี่ ฉันจะออกไปดู”
เขาวางข้อมูลที่อยู่ในมือ หันตัวกลับไป เห็นเงาที่ประตูแวบๆ แล้วก็ไม่เห็น
เป่หมิงโม่รีบเปิดประตูแล้วออกไป เห็นมีคนที่อยู่ไม่ไกลวิ่งไปข้างหน้า
ที่นี่คือเขตห้องวอร์ด VIP เดิมทีคนมีไม่มาก ตอนนี้พยาบาลเดินมาพูดตรงหน้า : “ตรงนี้ไม่อนุญาตให้วิ่ง” จากนั้นลากเขามา
แต่ถูกคนนั้นใช้แรงสะบัดออก ความเร็วของเขาก็ไม่ช้า
อาศัยช่องว่างนี้ เป่หมิงโม่รีบตามไปสองสามก้าว อยู่ใกล้คนคนนั้นมากขึ้น
เป่หมิงโม่ยิ่งตามก็ยิ่งเข้าใกล้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าลักษณะท่าทางของคนที่อยู่ข้างหน้าดูคุ้นตา
สุดท้ายคนนั้นวิ่งไปในทางฉุกเฉินอย่างไม่มีทางเลือก แต่เขาไม่ได้วิ่งไปข้างหน้า แต่กลับวิ่งขึ้นข้างบน
เป่หมิงโม่ก็วิ่งตามไป
ทั้งสองอยู่ในทางฉุกเฉินที่คับแคบ วิ่งขึ้นข้างบนทีละชั้น
จนสุดท้ายคนนั้นวิ่งไปถึงดาดฟ้า
เป่หมิงโม่ยิ้มอย่างเย็นชา ถ้าเขาวิ่งลงไปอาจจะไม่ถูกเขาจับได้ แต่คนคนนี้เลือกทางผิด
เขาก้าวตามไปสองสามก้าวก็ขึ้นไปบนดาดฟ้า
“ …..” เป่หมิงโม่หันหลังกลับมาปิดประตูดาดฟ้า
คนคนนั้นอยู่ที่ขอบอาคารด้านหน้าเขาห่างออกไปไม่ถึงยี่สิบเมตร ดูเหมือนเขาจะวิ่งต่อไปไม่ได้แล้ว
เขาหันหลังกลับมาที่เป่หมิงโม่ งอที่เอว มือทั้งสองข้างค้ำที่ขาทั้งสองข้าง หอบอย่างแรง
เป่หมิงโม่ก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน แต่ปกติเขาไม่ได้ออกกำลังกาย กิจกรรมนี้เขายังพอรับไว้
เขาสามารถปรับการหายใจให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว หัวเราะเยาะพร้อมกับก้าวไปหาคนคนนั้น
“เหอะเหอะ เมื่อกี้คุณยังวิ่งเร็วอยู่ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมไม่วิ่งแล้ว หรือเห็นว่าวิ่งมาจนเหลือแค่หน้าผาที่อยู่ตรงหน้าใช่ไหม? ฉันจะหลีกทางให้ ให้คุณได้วิ่ง” เป่หมิงโม่เหมือนแมวตัวหนึ่ง เขาไม่ได้แค่จะจับหนูตัวนี้ แต่ยังสนุกกับวิธีนี้
คนคนนั้นโบกไม้โบกมือ แสดงว่าไม่วิ่งแล้ว
เป่หมิงโม่ดูถูกคู่แข่งเช่นนี้ ยังไม่ทันใดก็ยอมแพ้แล้ว
“พูดมา คุณมาที่นี่ด้วยวัตถุประสงค์ใด ใครใช้ให้คุณมา? ถ้าฉันจำไม่ผิด ครั้งที่แล้วคุณเคยมาที่โรงพยาบาล ให้หนังสือพิมพ์แก่พ่อฉัน….” เป่หมิงโม่พูดถึงตรงนี้ มือของเขากลายเป็นกำปั้น
เพราะหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ เกือบทำให้การรักษาของพ่อต้องสูญเสียไปเปล่าๆ เรื่องนี้เขายืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือคนคนเดียว แน่นอนต้องมีคนชักใยเขาอยู่เบื้องหลัง
คนคนนั้นที่ทำเช่นนี้ได้อย่างแน่นอนและอยู่เบื้องหลังเป่หมิงยี่เฟิงเป็นใครกันแน่
เป่หมิงโม่ก้าวไปใกล้ๆ คนที่อยู่ด้านหน้า เพียงแต่มีความรู้สึกแปลก คนที่อยู่ด้านหน้าดูเหมือนเตรียมจะเผชิญหน้าไม่คิดจะวิ่งหนี
ตอนที่พวกเขาอยู่ห่างแค่สิบเมตร คนนั้นที่อยู่ด้านหน้าดูเหมือนจะปรับตัวเข้าที่เข้าทางได้แล้ว
เขาค่อยลุกขึ้นอย่างช้าๆ หันกลับมาอย่างช้าๆ
หลังจากที่เป่หมิงโม่เห็นหน้าคนคนนั้น ถึงกับตะลึง
***
หลังจากที่เป่หมิงโม่ตะลึงสักครู่ ก็จ้องตาเขม็ง เดินกัดฟันไปสองสามก้าวถึงหน้าคนนั้น ตอนที่คนนั้นยังหายใจอยู่ เขายกกำปั้นแล้วต่อยไปที่คนนั้นอย่างหนัก
พละกำลังของเขามีมากเกิน หลังจากที่คนนั้นกรีดร้อง ถูกต่อยจนต้องถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นล้มลงไปกองกับพื้น
ตอนนี้เป่หมิงโม่สีหน้าสงบนิ่ง ดวงตาดุจน้ำแข็งจ้องมองไปที่คนที่อยู่บนพื้น เขาเสียง “ก๊อกแก๊ก” จากการบีบนวดกำปั้น เดินเข้าไปหาคนนั้น
ตอนนี้คนนั้นถูกต่อยจนเลือดกบปาก แล้วยังมีฟันอีกสองซี่ เขามองเป่หมิงโม่ที่เดินเข้ามาใกล้อย่างหวาดกลัว ราวกับกำลังมองเทพเจ้าแห่งความตาย
เขาไม่สามารถดูแลสนใจความเจ็บปวด หายใจหอบ ยื่นมือข้างหนึ่งซึ่งสั่นไม่หยุด
พูดขณะมีเลือดอยู่ในปาก : “โม่…อย่า…อย่า…”
คนนั้นพูดไปขยับตัวไปด้านหลัง ถอยไปจนหลังชนขอบกำแพง ไม่มีทางให้ไปอีกแล้ว
เป่หมิงโม่ไม่ฟังที่เขาพูด ยังคงเดินเข้าไปใกล้คนคนนั้น
ตอนที่ยืนอยู่ใกล้คนนั้น เขาใช้เท้าเตะอย่างโหดร้าย
ยังคงมีเสียงกรีดร้อง เลือดสดๆ ยังคงไหลออกมาจากปากเขาไม่หยุด
“เป่หมิงเฟยหย่วน วันนี้คุณมาด้อมๆ มองๆ อยู่นอกห้องวอร์ดของพ่อ ทำไมกัน” เป่หมิงโม่สีหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงเหมือนวันโลกาวินาศ แต่ละคำสั่นสะเทือนไปถึงใจของเป่หมิงเฟยหย่วน
เป่หมิงเฟยหย่วนหายใจหอบสองครั้ง พูดต่อไป : “ฉัน ฉันอยากมาเยี่ยมพ่อ”
“มาเยี่ยมพ่อ?” เป่หมิงโม่หรี่ตา นั่งยองๆ อย่างช้าๆ “คุณอยากมาดูว่าพ่อตาหรือยัง”
เป่หมิงเฟยหย่วนโบกไม้โบกมืออย่างหวาดกลัว : “ฉัน ฉันเป็นลูกชายของเขา ทำไมถึงอยากให้พ่อตายล่ะ”
เป่หมิงโม่ยิ้มอย่างเย็นชา : “ถ้าคุณไม่อยากให้พ่อตาย แล้วทำไมคุณถึงมาเมื่อสองวันก่อน แอบวางหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวการตายของคุณป้า? คุณก็รู้ว่าพ่อกับคุณป้าไม่ลงรอยกัน แต่ก็ยังห่วงใยซึ่งกันและกันอยู่”
เมื่อเอ่ยถึงหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ใบหน้าของเป่หมิงเฟยหย่วนสับสน จากนั้นรีบปฏิเสธทันที : “หนังสือพิมพ์ คุณพูดถึงหนังสือพิมพ์อะไร คุณป้าตายแล้ว ตั้งแต่เมื่อไร?”
เพียงแต่การแสดงออกของเป่หมิงเฟยหย่วนออกจะไม่เนียน ทำให้เป่หมิงโม่ขี้เกียจจะไปเปิดโปงเขาอีก
ใบหน้าอันดุร้ายของเขาเข้าใกล้ใบหน้าของเป่หมิงเฟยหย่วน ดวงตาเย็นชาดุจน้ำแข็งจ้องเขม็งเข้าไปในดวงตากะพริบของเป่หมิงเฟยหย่วน
จากนั้นพูดช้าๆ : “คุณพูดอีกทีซิ ใช่คุณไหมที่วางหนังสือพิมพ์ไว้บนเตียงพ่อ”
คำพูดที่หลุดออกมา ดูเหมือนจะหนาวเย็นจนคลุมร่างของเป่หมิงเฟยหย่วน เขาพูดติดอ่าง : “ฉัน ฉันไม่ได้ทำ”
เป่หมิงโม่รีบยืนขึ้น มือข้างหนึ่งจับปกเสื้อของเป่หมิงเฟยหย่วนจนแน่น แล้วยกเขาขึ้นมา จากนั้นผลักร่างครึ่งท่อนจนถึงราวบันได