เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 619 หาหลักฐานกลับมาได้มั้ย
ตอนที่ 619 หาหลักฐานกลับมาได้มั้ย
“เป็นไปไม่ได้!เมื่อเช้าฉันยังฟังอยู่ที่นี่อีกรอบอยู่เลย ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย” เรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันทำเอาเธออยู่ไม่สุข รีบคว้าเครื่องบันทึกเสียงจากมือของหยินปู้ฝันมา เอามาเช็กดู
ทนายหวังเห็นท่าทีที่กู้ฮอนลุกลี้ลุกลน มุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้น แต่ว่าไม่นานก็หายไป
ทำท่าตื่นเต้นอย่างปลอมๆ พูดว่า “คงไม่ใช่ที่เธอเอาใส่กระเป๋า หรือว่าตอนอื่นไปกระแทกถูกจนพังหรอกนะ”
กู้ฮอนส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ ตอนที่ฉันมา นั้นระวังมาก จากนั้นฉันก็ส่งมันไปให้คุณแล้ว”
เธอพูดพลาง มองไปทางทนายหวัง
“นี่ คุณกู้พูดให้มันชัดเจนหน่อยได้มั้ย ไม่ผิด เธอเอาเครื่องบันทึกเสียงมาให้ฉัน แต่ก็พูดได้ว่ามันมาเสียที่ฉันเหรอ?” ทนายหวังร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัด
เขายื่นนิ้วออกไปชี้ที่บริเวณสำนักงาน “ฉันดูแต่เอกสาร ไม่มีเวลานั่งฟังว่าบันทึกว่าอะไรบ้าง แถมก่อนที่ฉันจะออกไปก็คืนเครื่องบันทึกเสียงให้เธอแล้ว เพราะฉันรู้ว่าของสิ่งนี้สำคัญต่อคดีมาก ฉันกลัวว่าตอนที่ฉันออกไป จะเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบันทึกเสียง จึงตั้งใจคืนให้เธอก่อน ฉันกลับเห็นเธอโยนมันลงกระเป๋าไปแบบลวกๆ ”
คำพูดของทนายหวังทำเอากู้ฮอนยากที่จะโต้แย้ง แถมเธอก็ไม่รู้ว่าในระยะเวลาสั้นๆ นี้ เครื่องบันทึกเสียงจะพัง
หยินปู้ฝันฟังทั้งสองฝ่ายโต้แย้งกันไปมา ไม่มีความจำเป็นที่จะเถียงกันต่อไป “พอแล้ว พวกเธอสองคนไม่ต้องเถียงกันแล้ว เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว เพราะงั้นลองดูว่ามีทางไหนที่สามารถกู้กลับมาได้บ้าง”
เขาพูดพลางมองไปทางกู้ฮอน “กู้ฮอน เธอเอาเครื่องบันทึกเสียงไปที่ร้านซ่อม ลองดูว่าสามารถซ่อมได้มั้ย”
จากนั้นก็มองไปทางทนายหวัง “ทนายหวัง ตอนนี้ใกล้จะถึงวันขึ้นศาลแล้ว ลำบากนายหน่อย คิดว่าวิธีว่ามีทางอื่นที่จะกู้กลับมาได้มั้ย”
ทนายหวังพยักหน้า “ทนายหยินวางใจเถอะครับ ผมจะพยายามคิดหาวิธี”
หยินปู้ฝันพยักหน้า “โอเค เรื่องเกิดขึ้นแล้ว งั้นก็ขอให้ทุกคนอย่าไปใส่ใจ ช่วยกันคิดหาวิธีเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีเถอะ”
***
กู้ฮอนฟังรู้ ว่าหยินปู้ฝันกำลังปลอบใจเธออยู่
เธอกลับไปที่นั่งของตน มองไปที่เครื่องบันทึกเสียงที่พังแล้วขมวดคิ้ว เธอเอาแต่คิดว่ามันมีเรื่องแปลกๆ แต่ก็พูดไม่ออก
ยังไงก็ตามเธอก็มีความหวังอยู่ แล้วเอาเครื่องบันทึกเสียงไปที่ร้านซ่อม เสี่ยงโชคดูว่าจะซ่อมได้มั้ย
ขณะเดินทาง ลุงคุนก็มองกู้ฮอนที่นั่งตรงเบาะหลังจากกระจกมองหลัง เธอขมวดคิ้วแน่น เหมือนมีความในใจ
“คุณครับ มีเรื่องอะไรกวนใจเหรอครับ?”
กู้ฮอนส่ายหน้า ก่อนจะตามมาด้วยการพยักหน้า
ลุงคุนมือซ้ายจับพวงมาลัย มือขวาที่ว่างก็หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “คุณกู้ ดูนี่สิครับ”
กู้ฮอนยื่นมือไปรับกระดาษจากลุงคุน
หลังจากที่เธอเห็นที่อยู่บนกระดาษ ก็ขมวดคิ้ว เพราะว่าบนนี้เขียนที่ตั้งของอาคารสำนักงานบริษัทบันเทิงใหม่อยู่บนถนนเส้นเดียวกัน
“ลุงคุน อันนี้ไปเจอมาจากไหนเหรอคะ?” กู้ฮอนถือกระดาษแล้วถามลุงคุน
“เมื่อเช้าวันนี้ ตอนที่ผมเดินเล่นอยู่ใต้ตึก ก็บังเอิญเห็นทนายหวังทำท่าทีลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามแล้วโบกรถแท็กซี่ เขายื่นกระดาษให้คนขับแท็กซี่ คนขับดูเสร็จก็โยนมาออกมาจากรถ โชคดีที่ตอนนั้นบนถนนรถน้อย ผมจึงเดินเข้าไปเก็บกระดาษแผ่นนั้นมา เห็นที่อยู่แล้วมันใกล้กับสถานที่ที่คุณไปมาเมื่อวานเลย”
ลุงคุนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กู้ฮอนฟัง
พอกู้ฮอนได้ยิน ก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ เพราะว่าแถวนั้นมีบริษัทบันเทิงและองค์กรสื่ออยู่หลายแห่ง
เธอมาถึงร้านซ่อมที่มีชื่อในที่นี้ แล้วยื่นเครื่องบันทึกเสียงให้ช่างซ่อม “ช่วยดูหน่อยค่ะว่าสามารถซ่อมได้มั้ย?”
ช่างซ่อมรับเครื่องบันทึกเสียงมา แล้วใช้ไขควงเปิดมันออกอย่างรวดเร็ว เขาดูที่ตัวแบตเตอรี่ แล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณครับ แผงวงจรนี้เกิดการลัดวงจร ไฟล์ส่วนมากในนี้โดนเผาไปแล้ว อาจจะซ่อมให้กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้แล้วครับ”
“งั้นคุณช่วยดูให้หน่อยได้มั้ยคะ ว่าสามารถกู้ไฟล์ด้านในกลับมาได้มั้ย?” กู้ฮอนไม่ยอมแพ้ ด้วยความหวังอันน้อยนิด
“โอเค ผมจะลองดู” ช่างซ่อมพูดพลาง เชื่อมต่อสายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เข้ากับแผงวงจร จากนั้นเขาก็บัดกรีชิปหน่วยความจำบนเครื่องบันทึกอย่างรวดเร็ว แล้วเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ หลังจากยืนยันว่าถูกต้องเขาก็เริ่มใช้งานซอฟต์แวร์
หลังจากนั้นสองชั่วโมง ช่างซ่อมก็ยื่นแฟลชไดรฟ์ให้กู้ฮอน “คุณครับ ผมช่วยได้แค่เท่านี้แหละ อันอื่นโดนเผาจนเสียหาย จนกู้กลับมาไม่ได้แล้ว ถ้าหากเอามาตอนที่มันเริ่มมีปัญหา ผมก็อาจจะพอจะกู้กลับมาได้หมด”
ในที่สุดก็มีความหวังเล็กๆ แล้ว กู้ฮอนยิ้มอ่อนให้ช่างซ่อม “ขอบคุณนะคะ”
ช่างซ่อมพยักหน้า “ไม่เป็นไรครับ คุณครับผมแนะนำอีกเรื่อง จากนี้ถ้ามีไฟล์อะไรที่สำคัญ ก็เซฟไฟล์สำรองไว้ที่อื่นด้วย แบบนี้จะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด”
“ขอบคุณที่เตือนนะคะ จากนี้ฉันจะระวังค่ะ” กู้ฮอนหยิบแฟลชไดรฟ์เข้ากระเป๋าอย่างระมัดระวัง หลังจากจ่ายเงินให้ช่างซ่อมแล้ว ก็นั่งรถลุงคุนกลับไปที่ออฟฟิศของหยินปู้ฝัน
เธอค่อยๆ ลงจากรถ ไม่นานก็มาถึงสำนักงาน แล้วเดินตรงไปทางออฟฟิศของหยินปู้ฝัน
***
ทนายหวังเงยหน้ามองกู้ฮอน แล้วยิ้มมุมปาก เห็นท่าทางเธอแบบนั้น ก็พอรู้ว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของไฟล์คงกู้กลับมาไม่ได้
กู้ฮอนนึกถึงแต่จะหาหยินปู้ฝัน บอกเขาว่ากู้คืนกลับมาได้ส่วนนึง ลองดูว่าจะมีประโยชน์อะไรมั้ย
เพราะงั้นจึงไม่ได้ใส่ใจทนายหวัง
เธอเข้าออกห้องทำงานของหยินปู้ฝัน ไม่เหมือนกับคนอื่นที่เคาะประตูก่อน เธอเปิดมันเข้าไปเลย จากนั้นก็ปิดประตูลง
หยินปู้ฝันกำลังปวดหัวกับคดีของเป่หมิงโม่ หลักฐานที่ควรจะมีกลับไม่มีแล้ว นี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับเขา
ทันใดนั้นประตูห้องทำงานเขาก็เปิดออก หยินปู้ฝันที่กำลังไม่สบอารมณ์ เตรียมจะระเบิดออกมา เงยหน้าเห็นว่าเป็นกู้ฮอนที่เข้ามา ทันใดนั้นจึงเก็บความโมโหไป
“เป็นไงบ้าง เครื่องบันทึกเสียงซ่อมได้มั้ย?” เขาถามอย่างเป็นห่วง
กู้ฮอนทำสีหน้าไม่ค่อยดีแล้วส่ายหัว “ไฟล์ส่วนมากโดนเผาไปแล้ว ซ่อมไม่ได้แล้ว”
หยินปู้ฝันผิดหวัง “เห็นที่พวกเราทำไม่ดีคงต้องเตรียมตัวรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้วแหละ”
กู้ฮอนเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา แล้วหยิบแฟลชไดรฟ์ออกมาจากกระเป๋าวางมันลงบนโต๊ะ “นี่คือที่พวกเขากู้กลับมาได้จากเครื่อง ฉันยังไม่ได้ฟัง ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์ต่อคดีมั้ย”
หยินปู้ฝันรีบเชื่อมเข้ากับคอมพิวเตอร์
เปิดไฟล์ที่อยู่ด้านใน ไม่นานก็มีเสียงในบาร์ดังขึ้น
แต่ว่าก็ยังคงได้ยินบทสนทนาระหว่างซานหุ่นกับกู้ฮอนได้อย่างชัดเจน
หยินปู้ฝันกดหยุด แล้วรีบหยิบโทรศัพท์สายในขึ้นมา ต่อไปหาทนายหวัง “นายมาที่ห้องทำงานฉันหน่อย”
ทนายหวังภูมิใจ หลักฐานไม่มีแล้ว ดูสิว่ากู้ฮอนจะแถอะไรได้อีก
เขาค่อยๆ เคาะประตูห้องทำงานของหยินปู้ฝัน จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป “ทนายหยิน เรียกผมมีอะไรครับ?”
จากนั้นก็มองไปทางกู้ฮอน และถามอย่างเป็นห่วงจนออกนอกหน้า “อ้อ คุณกู้ คุณก็กลับมาแล้วเหรอ เครื่องบันทึกเสียงซ่อมได้มั้ย?”
ไม่รอให้กู้ฮอนตอบคำถาม หยินปู้ฝันก็พูดขึ้น “ถึงแม้ตัวเครื่องจะพังไปแล้ว แต่ก็กู้ไฟล์หลักฐานกลับมาได้ส่วนหนึ่ง พวกเรามาฟังด้วยกัน มาดูว่าจะมีประโยชน์อะไรกับคดี”
ทนายหวังได้ยิน ก็ขมวดคิ้ว ที่จริงอยากจะเหยียบเธอให้จมดิน คิดไม่ถึงว่าจะลุกขึ้นมาได้
ทันใดนั้นเขาก็ยิ้ม “นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี ผมก็อยากฟัง”
หยินปู้ฝันกดปุ่มเล่นอีกครั้ง
ทั้งสามคนตั้งใจฟัง ทนายหวังก็ตื่นเต้นอยู่ในใจ
ตอนที่ซานหุ่นกำลังพูดถึงกล้องถ่ายรูป จู่ๆ คอมพิวเตอร์ก็ไม่มีเสียง
ไฟล์เสียงได้สิ้นสุดลงเท่านี้
หยินปู้ฝันโกรธจนตบโต๊ะไปหนึ่งที
กู้ฮอนเห็นหยินปู้ฝันแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าพอมีหวังเล็กๆ แต่แบบนี้ความหวังสักนิดก็คงไม่เหลือแล้ว
ทันใดนั้นก้อนหินที่อยู่ในใจทนายหวังก็หล่นไปแล้ว เขาเห็นทั้งสองน้ำตาคลอ ในใจก็แอบมีความสุข
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ทำเหมือนจะร้องไห้เช่นกัน “ทนายหวัง คุณกู้พยายามแล้ว เห็นที่พวกเราคงต้องเตรียมตัวดีๆ แล้ว”
กู้ฮอนมองทนายหวัง “เตรียมตัวอะไร?”
ทนายหวังพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ตอนนี้ในมือเราไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักอะไร การว่าความครั้งนี้อาจจะแพ้ก็ได้”
บทสรุปนี้สำหรับกู้ฮอน เกินความคาดหมายของเธอโดยสิ้นเชิง
***
กู้ฮอนหันหน้าไปหาหยินปู้ฝัน. เห็นแค่เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ของตน สองมือเท้าคาง คิ้วขมวดแน่นไม่พูดอะไรสักคำ
น้อยมากที่เธอได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของหยินปู้ฝัน หรือว่าเขาจะเห็นด้วยกับบทสรุปของทนายหวัง?
“ปู้ฝัน หรือว่าพวกเราจะต้องยอมแพ้จริงๆ ? นายพูดไม่ใช่เหรอว่ายังไม่จบก็อย่ายอมแพ้ง่ายๆ น่ะ” กู้ฮอนพูดพลางหันหลังเดินออกไป
“กู้ฮอนเธอจะทำอะไร?” ทันใดนั้นหยินปู้ฝันก็ลุกขึ้นยืน
กู้ฮอนหันมาพูด “ฉันจะไปหาหลักฐานมาอีก!”
“ตอนนี้เธอจะหาเจอเหรอ เรื่องเมื่อวาน ก็แหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ถ้าหากไปอีกก็เปล่าประโยชน์ เธอจะไม่ได้อะไรเลย”
หยินปู้ฝันพูดพลาง เดินผ่านโต๊ะทำงานไปยืนอยู่ข้างกู้ฮอน “แพ้คดี เรื่องนี้พวกเราไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก แต่ว่าก็ต้องกล้าที่จะยอมรับ นี่ถึงจะเป็นทนายที่ดีได้”
กู้ฮอนเงยหน้ามองหยินปู้ฝัน “ถ้างั้นนายก็ต้องชดเชยค่าเสียหายให้เป่หมิงโม่น่ะสิ ไม่รู้ว่าเป็นเงินตั้งเท่าไหร่
หยินปู้ฝันยิ้มแล้วส่ายหน้า “เรื่องนี้เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันมีทางออก โอเคแล้ว พวกเธอสองคนลำบากมาพอแล้ว ฉันอนุญาตให้เธอสองคนเลิกงานก่อนเวลาแล้วรีบกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ”
“ทนายหยินถึงกับพูดแบบนี้ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ” ทนายหวังพูดจบก็หันตัวแล้วเดินออกไป
หยินปู้ฝันถึงกับยอมรับว่าแพ้แล้ว งั้นตัวเขาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะแกล้งทำต่อไปแล้ว
กลับไปเก็บของที่โต๊ะของตน
“ปู้ฝัน…..” กู้ฮอนอยากจะพูดกับเขาต่อ แต่เห็นแค่หยินปู้ฝันยิ้มแล้วโบกมือให้เธอ “กลับไปพักผ่อนเถอะ ดูแลลูกๆ ให้ดี จำไว้ว่า ต้องออมแรงไว้ เตรียมตัวว่าความที่ศาล ถึงแม้จะรู้ว่าต้องแพ้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมแพ้ทั้งหมดนะ”