เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 747 ยากที่จะอธิบายให้ชัดเจน
ตอนที่ 747 ยากที่จะอธิบายให้ชัดเจน
คิ้วเธออดไม่ได้ที่จะกระตุก ถอนหายใจยาว “เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะยุ่งวุ่นวายทั้งบ่าย”
จากนั้นก็เหมือนกับว่าจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เธออารมณ์ตึงเครียด “ปู้ฝัน นายนั่งอยู่ตรงนี้สักครู่ ฉันไปรับเฉิงเฉิงที่เลิกเรียนแล้วก่อน”
“เหอะๆ ไม่ต้องแล้ว ฉันไปรับเขาตอนเลิกเรียนแล้ว ทั้งยังไปส่งเขาที่บ้านลั่วเฉียวแล้วด้วย เฉิงเฉิงไม่เหมือนกับเธอนะ ตอนที่เลิกเรียนแล้วไม่เห็นเธอ ก็รู้แล้วว่าเธอมีธุระ เขากลัวว่าจะทำให้งานของเธอล่าช้า จึงโทรศัพท์มาหาฉัน รอจนฉันส่งเขาไปที่บ้านลั่วเฉียวแล้วยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากเธอ ฉันก็รู้ว่าแปดส่วนเธอกำลังยุ่งวุ่นวายกับงาน เธอก็แบบนี้ งานยุ่งขึ้นมา อะไรก็ไม่สนใจ” หยินปู้ฝันก็เหมือนกับผู้ปกครองคนหนึ่ง
เขาเอ่ย พลางขยับเอกสารที่อยู่บนโต๊ะน้ำชาออกไป
“เฮ้ นายอย่าทำเอกสารที่ฉันจัดการเรียบร้อยแล้วยุ่งวุ่นวายนะ นี่เป็นงานที่ฉันทำมาตลอดทั้งบ่ายเลย” กู้ฮอนได้ยินที่หยินปู้ฝันอบรม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนประโยคหนึ่ง
หยินปู้ฝันมอง “เธอเอาพื้นที่บนโต๊ะน้ำชาไปหมดแล้วจะทานข้าวที่ไหน ไม่เป็นไรหรอก ฉันย้ายพวกมันออกไป รอจนทานข้าวเสร็จแล้วก็จะย้ายกลับมา อย่างมากฉันก็แค่ช่วยเธอจัดการใหม่เท่านั้นเอง”
รอจนโต๊ะน้ำชาสะอาดแล้ว หยินปู้ฝันก็นำอาหารที่ตัวเองเอามาออกมาวางไว้ด้านบน
เปิดฝากล่องดูก็คือข้าวผัดไข่หอมหวนสองที่ อีกกล่องหนึ่งก็คือหมูผัดซอสแดงและผักกวางตุ้งกล่องเล็กๆหนึ่งกล่อง
“ฉันเดาเธอน่าจะไม่คุ้นเคยกับอาหารที่นี่ ดังนั้นฉันเลยสั่งอาหารจากด้านนอกมาให้เธอสองสามอย่าง อย่ารังเกียจล่ะ” หยินปู้ฝันพูดพลางแบ่งตะเกียบให้กู้ฮอนคู่หนึ่ง
กู้ฮอนยิ้มพลางดมกลิ่น “กลิ่นนี้หอมจริงๆ ฉันจะรังเกียจความหวังดีของนายได้อย่างไรกัน ดีร้ายอย่างไรพวกเราก็เป็นญาติกันนะ”
“หลังจากนี้อย่าพูดว่าพวกเราเป็นญาติกันอีก ถ้ายังพูดอีกฉันจะโกรธเธอนะ” หยินปู้ฝันแสร้งทำเป็นโกรธ
ที่จริงแล้วเขาไม่อยากจะรักษาความสัมพันธ์ในด้านนี้กับกู้ฮอนเอาไว้ นี่มักจะทำให้เขารู้สึกแปลกๆจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
“รู้แล้วน่ะ รีบกินเถอะ เจ้านาย” กู้ฮอนกะพริบตาใส่เขาอย่างซุกซน จากนั้นก็ต่างคนต่างก็เริ่มทานอาหารของตัวเอง
หยินปู้ฝันส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็วางกล่องข้าวเปล่าๆลงบนโต๊ะน้ำชา
“อาหารมื้อนี้ทานแล้วสบายจริงๆ ดีล่ะ กินดื่มเต็มที่แล้วก็เริ่มทำงานต่อได้” กู้ฮอนทำความสะอาดโต๊ะน้ำชาอีกครั้งแล้วนำเอกสารที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมาจัดการต่อ
หยินปู้ฝันจะนั่งมองเธอทำพวกนี้ตัวคนเดียวได้อย่างไรกัน ดังนั้นจึงช่วยเธอทำงานนี้ด้วย
ชายหนุ่มหญิงสาวแบ่งงานกันทำจึงไม่รู้สึกเหนื่อยมาก ในที่สุดสามชั่วโมงหลังจากนั้นก็จัดการสำเร็จเสียที
***
หยินปู้ฝันลุกขึ้นยืน กางมือออกทั้งสองข้าง บิดเอวไปมา “ในที่สุดก็เสร็จเสียที”
กู้ฮอนนำเอกสารที่จัดการเรียบร้อยแล้ววางลงในกล่องที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
“วันนี้โชคดีที่นายมา ไม่อย่างนั้นคาดว่าเอกสารพวกนี้คงจะมากพอจนทำให้ฉันยุ่งไปจนถึงดึกดื่น”
หยินปู้ฝันมองนาฬิกาข้อมือ “ตอนนี้ก็ไม่เช้าแล้ว เธอดูสิ ใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว เธอเก็บกวาดเสียหน่อย ฉันจะเข้าไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นสักหน่อย จากนั้นก็จะส่งเธอกลับไป”
เขาเอ่ยแล้วก็เดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ
เขาเพิ่งจะเข้าไปได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู
เวลานี้แล้ว ยังจะมีใครมาอีก พ่อบุญธรรมน่าจะพักผ่อนแล้ว แม้ว่าจะเป็นปี้เหอเขาก็น่าจะกลับไปตั้งนานแล้ว
กู้ฮอนคิดไป พลางเดินไปเปิดประตู
รอจนประตูเปิดออกแล้วก็เห็นตำรวจในชุดเครื่องแบบสองนาย ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง ยืนอยู่หน้าประตู
“ขอสอบถามหน่อยนะคะ ไม่ทราบว่าพวกคุณมาหาใครคะ” กู้ฮอนมองพวกเขา พลางเอ่ยถาม
ตำรวจสองนายนั้นทำหน้านิ่ง ก่อนอื่นก็แสดงเอกสารของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยอย่างจริงจังว่า “คุณอาศัยอยู่ที่นี่หรือ”
กู้ฮอนพยักหน้าอย่างงุนงง จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา “ที่จริงแล้วฉันไม่ได้อยู่ที่นี่แต่เป็น……”
ยังไม่รอให้เธอเอ่ยจบ ตำรวจหญิงคนนั้นก็เอ่ยต่อว่า “พวกเราได้รับการแจ้งความว่าที่นี่มีการทำธุรกิจผิดกฎหมาย ยกมือทั้งสองข้างของคุณขึ้นวางไว้บนศีรษะ แล้วไปคุกเข่าที่มุมกำแพง”
“ฉัน ฉันไม่ใช่คนแบบที่พวกคุณคิดนะ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ทำงานของฉัน” กู้ฮอนพยายามแก้ตัวให้ตัวเองอย่างสุดความสามารถ
ตำรวจหญิงไม่ฟังเธอพูด “บอกให้คุกเข่า คุณก็คุกเข่าสิ ยังจะพูดพล่ามมากมาย คนที่ทำอาชีพนี้แบบพวกคุณนั้นมีเหตุผลไม่น้อยเลยจริงๆ ครั้งนี้กลับกลายเป็นสถานที่ในการทำงาน นี่มันเป็นเรื่องไม่ดีไม่งามไร้ศีลธรรมจรรยา!”
ตำรวจชายไม่พูดอะไรก็เปิดประตูเข้าไป แล้วเดินเข้าไปข้างใน เขาได้เสียงน้ำไหล จึงเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ จากนั้นก็ใช้กระบองตำรวจในมือเคาะประตูห้องอาบน้ำ
หยินปู้ฝันกำลังล้างหน้า ไม่รู้ว่าด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขายังนึกว่าเป็นกู้ฮอนที่เคาะประตู
เขายังเอ่ยอย่างนึกสนุกว่า “อย่างไร เธอก็อยากจะเข้ามาล้างด้วยสินะ รอสักครู่ ฉันล้างเสร็จแล้วเธอค่อยเข้ามาล้าง”
คำพูดเพิ่งจะเอ่ยจบ ประตูห้องอาบน้ำก็ถูกผลักให้เปิดจากด้านนอก คนที่เข้ามาคือตำรวจหนุ่มในเครื่องแบบนายหนึ่ง
“คุณเป็นใคร” หยินปู้ฝันหยุดมือ มองนายตำรวจที่เข้ามาด้วยความรู้สึกตะลึง
“ผมยังไม่ถามคุณเลย คุณกลับถามก่อนแล้ว บอกมาว่าคุณมาที่นี่เมื่อไร” นายตำรวจหนุ่มแสดงบัตรประจำตัวเองแล้วก็เริ่มสอบสวนหยินปู้ฝัน
“ผมมาที่นี่เวลาประมาณหกโมงเย็น คุณตำรวจมีปัญหาอะไรหรือ” หยินปู้ฝันยังคงมึนงง
“ปิดก๊อกน้ำแล้วเดินตามผมออกมา” ตำรวจหนุ่มใบหน้าจริงจัง เรียกให้เขาปิดก๊อกน้ำทั้งอย่างนี้แล้วก็เดินออกมา
หยินปู้ฝันออกมาแล้วไม่เห็นกู้ฮอน ก็หันหน้าไปถามตำรวจหนุ่มที่อยู่ข้างกายว่า “คุณผู้หญิงที่อยู่ที่นี่ไปไหนแล้ว”
ตำรวจหนุ่มถลึงตาใส่เขา “ยกมือทั้งสองข้างวางไว้เหนือศีรษะแล้วคุกเข่าลงบนพื้น! พวกเรามาแล้วคุณยังกล้าจะถามถึงโสเภณีสาวอีก ช่างไม่เห็นพวกเราชาวตำรวจอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย”
สมองของหยินปู้ฝันทำงานอย่างรวดเร็ว “คุณตำรวจ ผมคิดว่าพวกคุณเข้าใจผิดแล้ว คุณผู้หญิงที่ผมพูดถึงไม่ใช่ ‘โสเภณีสาว’ ที่พวกคุณคิด ผมเป็นทนายความ มาทำงานที่นี่”
เขาเอ่ยแล้วก็รีบหยิบบัตรทนายความขึ้นมาแสดงให้กับตำรวจหนุ่มดู
ตำรวจหนุ่มดู ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้เป็นทนายความจริงๆ แต่ว่าสีหน้าท่าทางที่แสดงออกต่อหยินปู้ฝันก็ไม่ได้ดีเลยสักนิด
“อย่ามามุกนี้ ตอนที่พวกเรากวาดล้างสื่อลามกและการขายบริการที่อีกโรงแรมหนึ่งในครั้งนั้นก็พบกับคนที่เหมือนคุณคนหนึ่ง นักข่าวคนนั้นให้การเท็จว่ามาเป็นสายลับ สุดท้ายจับกลับไปไต่สวนก็คือไปหาหญิงโสเภณี ก่อนที่คุณจะหลอกลวงพวกเราแบบนี้ ก็ต้องอ่านหนังสือพิมพ์ให้ดีเสียก่อน”
สุดท้ายแล้ว หยินปู้ฝันก็ถูกตำรวจหนุ่มนายนี้ฟันธงว่ามาหาหญิงโสเภณี ชั่วขณะ เขาก็ยากที่จะอธิบายให้ชัดเจนเสียแล้ว
***
ตำรวจหนุ่มถลึงตา ในมือถือกระบองตำรวจ หวดไปมาพลางสั่งให้หยินปู้ฝันยกมือทั้งสองข้างประสานกันไว้บริเวณหลังศีรษะ
เมื่อหยินปู้ฝันเดินออกมาจากประตูห้อง เขาหันหน้าไป เห็นกู้ฮอนที่มือทั้งสองข้างกำลังประสานไว้ด้านหลังของศีรษะ แล้วคุกเข่าอยู่บนทางเดิน บริเวณข้างกรอบประตูด้วยสีหน้าตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ข้างกายเธอมีตำรวจหญิงยืนอยู่คนหนึ่ง กำลังจ้องมองเธอไม่วางตา
กู้ฮอนในตอนนี้ ทั้งร่างสั่นระริก เหมือนกับแมวน้อยน่าสงสารที่ถูกทอดทิ้งไว้ท่ามกลางพายุฝนแล้วไม่มีใครให้ความสนใจตัวหนึ่ง
เธอก้มหน้าจึงทำให้เห็นหน้าไม่ชัดเจน แต่ก็เหมือนว่าจะมีหยาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหยดลงบนพื้นพรมสีอ่อน
“กู้ฮอน เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม” หยินปู้ฝันเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เขาเห็นท่าทางแบบนี้ของกู้ฮอนแล้วในใจก็เหมือนกับว่าถูกมือมือหนึ่งบีบอย่างไรอย่างนั้น
“ใครให้พวกคุณพูดกัน อยู่นิ่งหน่อย!” ตำรวจหญิงตำหนิหยินปู้ฝันหนึ่งประโยค
หยินปู้ฝันอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่เธอ
ตำรวจหญิงเห็นว่ามีคนถลึงตาใส่ตัวเองก็รู้สึกโมโหขึ้นมาในทันที “คุณมองอะไร ทำเรื่องแบบนี้ออกมาแล้วรู้สึกว่ามีเกียรติใช่หรือไม่ สังคมในตอนนี้ก็มีคนแบบคุณที่ปกติมีฐานะเป็นคน แต่การกระทำเหมือนสุนัข ที่จริงแล้วข้างในก็เป็นหญิงชั่วชายโฉด”
ตำรวจหญิงพูดกับหยินปู้ฝันเสร็จก็ก้มหน้าหยิบกระบองตำรวจของตัวเองสะกิดไปที่กู้ฮอน “เฮ้ คุณอย่าร้องไห้ ลุกขึ้นแล้วตามพวกเราไป ตอนนี้รู้จักร้องไห้แล้ว ก่อนหน้านี้ทำอะไรมากัน ก็เพราะมีหญิงสาวที่ไม่เคารพและไม่รักตัวเองแบบพวกคุณ สังคมถึงได้มีบรรยากาศเป็นพิษแบบนี้”
“เสี่ยวหลิว ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเราจับพวกเขาไปยังสถานีตำรวจก่อน แล้วค่อยๆไต่สวน” ตำรวจหนุ่มเอ่ยห้ามตำรวจหญิงที่ชื่อว่าเสี่ยวหลิวในทันที
“หัวหน้าหลี่ ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะบ่นพวกเขา แต่ว่านี่ทำให้คนรู้สึกโกรธมากเกินไปจริงๆ” เสี่ยวหลิวบ่นประโยคหนึ่ง
จากนั้น พวกเขาก็ถือกระบองตำรวจคุมตัวหยินปู้ฝันและกู้ฮอนเดินจากระเบียงทางเดินไปยังลิฟต์โดยสาร ขึ้นลิฟต์ลงไปชั้นล่าง
ในตอนนั้น แม้ว่าเวลาจะดึกมากแล้ว
แต่ว่า ในฐานะที่โรงแรมแมนดารินเป็นโรงแรมห้าดาว ภายในห้องโถงใหญ่จึงยังคงเต็มไปด้วยแสงไฟที่สว่างไสว แขกผู้เข้าพักเดินเข้าๆออกๆไม่ขาดสาย
มีแม้กระทั่งกรุ๊ปทัวร์กรุ๊ปหนึ่งที่เพิ่งจะลงจากเครื่องบินแล้วก็ถูกรถบัสสนามบินนำมาส่งที่นี่เพื่อพักผ่อน
คนกลุ่มนี้เพิ่งจะทำเรื่องเข้าพักเสร็จ กำลังเดินไปทางลิฟต์โดยสาร
ก็เห็นตำรวจสองนายเดินตรงมา อีกทั้งพวกเขาก็กุมตัวชายหนึ่งหญิงหนึ่งมาด้วย
ผู้คนมองชายหญิงสองคนที่มือกุมศีรษะ ยังจะต้องพูดอะไร ในโทรทัศน์ก็เคยเห็นมาก่อน แน่นอนว่าจะต้องเป็นการค้าที่ผิดศีลธรรมอย่างแน่นอน
ในกลุ่มคนนั้นมีหลายคนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ดูท่าว่าจะเป็นหญิงสาววัยกลางคนอายุประมาณ 40 ปีได้
พวกเธอชี้มาที่กู้ฮอน “ดูสิ ผู้หญิงประเภทนี้แหละที่ทำให้บรรยากาศในสังคมเสื่อมเสีย ไม่ทำอะไรดีๆ กลับมาทำเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนี้เสียอย่างนั้น ช่างน่าไม่อายเสียจริง! พวกเราถ่ายรูปชายหญิงสุนัขคู่นี้โพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตเถอะ ให้เพื่อนๆบนอินเทอร์เน็ตจัดการด่าพวกเขาด้วย”
พวกเธอเอ่ยแล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา บางคนถ่ายรูป บางคนถ่ายคลิปวิดีโอ
คำพูดของพวกเธอราวกับเข็มแหลมแทงเข้ามาในใจของกู้ฮอนอย่างรุนแรง
เธอแทบจะทนไม่ได้ที่จะเปลี่ยนตัวเองในตอนนี้ให้กลายเป็นแมลงตัวเล็กๆตัวหนึ่งแล้วหาช่องเล็กๆมุดเข้าไป แล้วไม่ออกมาอีกเลยตลอดชีวิต
หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ห่างจากกลุ่มคนที่ยุ่งกับการถ่ายรูปไม่ไกลนักอย่างโดดเดี่ยว
เธอสวมเสื้อคลุมกันหนาวตัวยาวสีกาแฟตัวหนึ่ง หมวกปิดบังทั้งใบหน้าเอาไว้ในความมืด เผยเพียงแค่มุมปากที่ยกขึ้นเล็กๆและคางแหลม
เธอใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้
ตาเธอมองไปที่กู้ฮอนและหยินปู้ฝันที่ถูกผู้คนด่าว่าขณะที่ถูกคุมตัวออกจากห้องโถงใหญ่เข้าไปยังรถตำรวจ
ตอนนี้เธอเก็บโทรศัพท์มือถือ
เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่ของโรงแรมอย่างเงียบงันแล้วกลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดในเวลากลางคืน
เธอเดินไปบนถนนอย่างไร้จุดหมาย
หน้าจอโทรศัพท์มือถือฉายภาพใบหน้าตื่นตระหนกของกู้ฮอนที่เธอถ่ายเอาไว้เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ของโรงแรม
***
สุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนี้ก็ดึงหมวกลงมา
ท้องฟ้ามีพระจันทร์กลมโตลอยอยู่ แสงจันทร์อันหนาวเหน็บนั้นทำให้เงาของเธอทอดยาวออกไป
ใบหน้าที่เต็มด้วยแผลเป็นของเธอเผยแววแห่งความสุขที่ได้ล้างแค้นออกมา
*
ในเวลาเดียวกันนั้น แอนนิก็นั่งรอกู้ฮอนกลับมาอยู่คนเดียวในห้องรับแขก ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่ง ทุกคนล้วนเข้านอนแล้ว
แต่ว่าโทรศัพท์ไปกี่สายก็ล้วนเป็นสายไม่ว่าง เธอรู้สึกกังวลว่ากู้ฮอนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอยู่บ้าง
เธออยากจะให้ลั่วเฉียวถามฉิงฮัว บางทีเขาอาจจะรู้ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ลั่วเฉียวตั้งครรภ์อยู่ การพักผ่อนสำคัญมากกว่า
อีกทั้งตอนที่พวกเขาทานข้าวเสร็จ เฉิงเฉิงก็ได้รับข้อความจากกู้ฮอน เขียนเอาไว้ว่าตอนนี้เธอยุ่งมาก จะกลับมาดึกหน่อย
แอนนิถอนหายใจ ทำได้เพียงแค่รอต่อไปอยู่คนเดียว
*
บ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง เป่หมิงโม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการจากโม้จิ่งเฉิงในช่วงบ่าย ให้เขาไปเข้าร่วมงานแถลงข่าวงานหนึ่งที่โรงแรมแมนดารินให้ครั้งนี้ด้วย”