เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 794 เชิญทานมื้อเที่ยง
ตอนที่ 794 เชิญทานมื้อเที่ยง
สุดท้ายแล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับพ่อของเขาที่เป็นประธานของบริษัทตระกูลเป่หมิง ครูเพิ่งจะเรียกเขาไปตักเตือนไม่กี่คำ จากนั้นก็ได้ระงับเรื่องเอาไว้
ไม่แน่ว่าคราวนี้หยางหยางอาจจะมีความคิดที่จะคดโกงขึ้นอีก
หยางหยางกวาดสายตาขึ้นลงมองจ้าวจิ้งอี๋ แล้วพูดว่า “จริงๆแล้วคำขอของฉันนั้นง่ายมาก” เมื่อพูดถึงจุดนี้ เขาตั้งใจที่จะไปข้างเธอ และพูดด้วยเสียงเบาว่า “และคุณจะไม่เดือดร้อน”
จ้าวจิ้งอี๋มองไปที่หยางหยางด้วยความสงสัย เจ้าเด็กคนนี้สุดท้ายแล้วจะทำอะไรกันแน่
หยางหยางพูดต่อว่า “หากฉันชนะฉันอยากจะขอให้……นับจากนี้ไปนายก็ต้องเป็นผู้ติดตามของเขา” พูดจบ หยางหยางก็ชี้นิ้วออกมา และชี้ไปที่ใครบางคน!
เวลานี้ จ้าวจิ้งอี๋และเฉิงเฉิงต่างก็ตกตะลึง
***
เห็นได้ว่า คนนั้นที่หยางหยางชี้ก็คือเฉิงเฉิง
จากนั้นเขาพูดต่อว่า “ต้องทำทุกอย่างให้น้องชาย ชาน้ำชาและรินน้ำ ไถ่ถามทุกข์สุข และที่สำคัญที่สุดก็คือ จะเรียกเมื่อไหร่ก็ได้ห้ามไปไหน แม้แต่เศษเสี้ยวนิดเดียวก็ห้ามขาด
จะหาผู้ติดตามให้มาเฉิงเฉิงที่ไหนกันล่ะ นี่เป็นจังหวะที่จะหาแฟนให้เฉิงเฉิง
ใบหน้าของเฉิงเฉิงและจ้าวจิ้งอี๋ต่างก็แดงขึ้น
“หยางหยาง นายมานี่!” เฉิงเฉิงเหลือบไปมองหยางหยาง แล้วได้ดึงเขามาอีกทาง
“นายจะล้อเล่นแบบนี้เกินไปรึเปล่า ขออะไรอย่างนี้ได้ยังไง เธอเป็นเด็กผู้หญิงนะ จะทำแบบนี้ได้อย่างไรล่ะ”
หยางหยางยิ้มและมองไปที่เฉิงเฉิงด้วยสีหน้าจริงจัง “แฮะๆ ฉันทำทั้งหมดเพื่อนายเลยนะ ในฐานะน้องชายฉันทำได้ทุกอย่าง นายอย่าอวดเก่งหน่อยเลยหน่า”
พูดจบเขาก็หันและเดินไปยังRebeccaด้วยรอยยิ้ม เมื่อผ่านจ้าวจิ้งอี๋ เขาไม่ลืมที่จะพูดเสียงเบาๆ “เป็นยังไง ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหม รับรองว่าเธอไม่เดือดร้อน”
“ไปให้พ้น!” จ้าวจิ้งอี๋ก็เป็นเด็กผู้หญิงเช่นกัน แม้ว่าภายในใจเธอจะมีความสุข แต่สีหน้าก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้
หยางหยางเดินมาข้างหน้าRebecca และชี้ไปยังบ้านที่มีเสียงกรีดร้องดังออกมาตลอดเวลาและพูดว่า “ไปที่นั่นไหม”
Rebeccaมองไปตามทางของนิ้วชี้ของเขา ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น “ที่นั่นเหมือนเป็นบ้านผีสิงใช่ไหม ฉันอยากไปดู ตอนที่ฉันไม่ได้มาประเทศจีน เมื่อถึงทุกๆเทศกาลฮาโลวีน บนถนนก็เต็มไปด้วยคนที่แต่งผีเหมือนกันไปหมด น่าสนุกมาก”
พูดจบเธอก็ยื่นมือไปดึงมือของหยางหยาง “พวกเราไปกันเถอะ”
หยางหยางหันกลับมาและพูดกับเฉิงเฉิงและจ้าวจิ้งอี๋ที่กำลังเก้อเขินอยู่ “เฮ้ พวกเธอสองคนกล้าไปบ้านผีสิงกับพวกเรารึเปล่า”
“ไปก็ไป ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว ก็แค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ใช่เหรอ” จ้าวจิ้งอี๋ได้ดึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงออกมาอีกครั้ง ยื่นมือไปจับแขนของเฉิงเฉิง และรีบพาเขาและพวกของหยางหยางไป
ทั้งสี่คนเข้าไปในบ้านผีสิงที่มืดมิด เพียงไม่กี่นาทีต่อมา พวกเขาก็เดินออกมาจากข้างใน และแต่ละคนต่างมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“บ้านผีสิงอะไรกัน ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย ไฟสีเขียว สีแดงส่องตาฉันจนจ้าแล้ว” หยางหยางพูดพลางขยี้ตา
“ใช่ คนพวกนั้นยังไม่น่ากลัวเหมือนพวกเราในวันฮาโลวันเลย” ”Rebeccaพูดเสริม
จ้าวจิ้งอี๋มองไปที่พวกเขาสองคน “ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหม ที่นี่ไม่น่ากลัวเลยสักนิด”
ในเวลานี้เฉิงเฉิงก็ยกมือขึ้น และมองดูนาฬิกา “ตอนนี้เที่ยงแล้ว พวกเราไปหาพ่อกับแม่ที่ชิงช้าสวรรค์กันเถอะ”
“จ๊อกๆ……”
หยางหยางก็ลูบท้องตัวเอง และพูดอย่างไม่อาย “พอพูดถึงพ่อกับแม่ ท้องของฉันก็ร้องเลย”
จากนั้นเขาก็พูดกับRebeccaว่า “เธออยากจะไปร่วมปิกนิกกับบ้านพวกเราไหม”
“ได้สิ แต่ฉันจะต้องไปขอพ่อของฉันก่อน ตอนนี้พวกเขาน่าจะอยู่ที่ชิงช้าสวรรค์นั่น” Rebecca ตอบรับคำเชิญของหยางหยางด้วยความยินดี
หยางหยางมองไปที่จ้าวจิ้งอี๋อีกครั้ง “เธอล่ะ อยากจะทำความคุ้นเคยกับภารกิจก่อนไหม หลังจากที่เธอแพ้แล้วก็จะได้เริ่มงานทันที”
จ้าวจิ้งอี๋กลอกตามองหยางหยาง ผู้ชายคนนี้ไม่ลืมที่จะฉวยโอกาสทำร้ายตัวเอง
ในตอนนี้เฉิงเฉิงได้พูดว่า “เธอมาร่วมด้วยเถอะ พวกเราเตรียมอาหารไว้เยอะเลย อีกอย่างฉันก็จะมาขอโทษเธอแทนหยางหยางด้วย เขาพูดไม่ได้ เธออย่าไปสนใจเลย”
***
เป่หมิงโม่เดินเล่นอยู่บนพื้นหญ้าอย่างสบายๆ
กู้ฮอนนั่งอยู่บนเสื่อปิกนิก หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเธอและกำลังอ่านอย่างตั้งใจ
นี่เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เธออยากอ่านมันมาตลอด แต่ไม่เคยมีเวลาที่จะได้อ่านมันเลย
การได้อ่านหนังสือท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง อบอุ่นและสบาย
แต่เมื่อเธออ่านหนังสือไปได้ครึ่งเล่ม ก็เห็นเงาของคนหนึ่งค่อยๆคลุมหน้าปก
เธอไม่ต้องดูก็รู้ว่าเป็นใคร “แดดขนาดนี้ ทำไมคุณไม่ไปเดินเล่นสักสองสามรอบ คุณนี่ยุ่งตลอด อย่าเสียเวลาดีๆแบบนี้ไปเลย”
เป่หมิงโม่เดินไปข้างหน้ากู้ฮอน และมองลงไปที่เธอ “คุณอย่ามัวนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนี้เลย หรืออยากจะเสียช่วงเวลาดีๆแบบนี้ไปเหรอ”
พูดจบ เขาก็ก้มตัวลงและหยิบหนังสือที่อยู่ในมือของกู้ฮอนขึ้นมา
“เฮ้ เอาหนังสือคืนให้ฉัน! ทำไมคุณไม่มีมารยาทเลยสักนิด เอาของคนอื่นไปไม่ขอเลยสักคำ”
กู้ฮอนพูดจบ ก็ลุกขึ้นไปคว้าหนังสือที่อยู่กับเป่หมิงโม่
ไม่เพียงแต่เธอทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างนี้ เธอยืนอย่างไม่มั่นคง และถูกเป่หมิงโม่ยื่นมือไปเตะบนไหล่ของเธอเบาๆ เธอก็เสียงการทรงตัวและนั่งลงไปบนพื้นหญ้านุ่มๆ
เธอจ้องไปที่เป่หมิงโม่ด้วยความโกรธ “โจร!”
แต่เป่หมิงโม่ไม่สนใจเธอ ดูชื่อหนังสือก่อน จากนั้นก็พลิกดูไปสองสามหน้า ในที่สุดก็ส่งหนังสือคืนให้กู้ฮอน “หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะสำหรับคุณ”
กู้ฮอนยื่นมือไปหยิบหนังสือ “หนังสือเล่มนี้จะเหมาะหรือไม่เหมาะกับฉัน คุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง แล้วทำไมหนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับฉันล่ะ”
“เหตุผลนั้นง่ายมาก《เค้าท์แดรกคูลา》เป็นหนังสือเกี่ยวกับแวมไพร์ ดูแล้วผีสางเทวดาพวกนี้ไม่เหมาะกับแม่อย่างคุณ คุณเหมาะกับพวกนั้นมากกว่าเช่น การเป็นแม่ที่ดีได้อย่างไร หรือหนังสืออย่างสูตรอาหารสำหรับครอบครัว” เป่หมิงโม่พูดพลางหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าและเอาเข้าปาก จากนั้นหยิบไฟแช็กออกมาจุดบุหรี่
กู้ฮอนกลอกตามองเขา “คุณจะรู้อะไร ฉันจะไม่ฟังคำพูดแผงๆของคุณ นี่มันเป็นการเหยียดหยามเพศหญิง! เอาบุหรี่มาสูบ ในที่ที่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในที่สาธารณะเข้าใจรึเปล่า”
เป่หมิงโม่มองไปที่กู้ฮอน ด้วยรอยยิ้มมุมปาก เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่ง จากนั้นก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาและโยนมันลงบนพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบ
จากนั้นก็เอนตัวลงบนพื้นหญ้า หันศีรษะและมองไปที่กู้ฮอน “คุณก็โยนความผิดมาให้ผม ถ้าคุณบอกว่ามันเป็นการเหยียดหยามเพศหญิง อย่างนั้นก็ไม่ยุติธรรมกันไปใหญ่ ผมแค่ไม่อยากจะมีเรื่องเล็กน้อยอะไรกับคุณ และผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นการเหยียดหยาม แต่มันเป็นการรักทะนุถนอมและปกป้องคุณ”
กู้ฮอนได้ยินแล้วอยากจะหัวเราะจริงๆ “สุดท้ายคุณก็เถียงข้างๆคูๆ การเหยียดหยามก็คือรักทะนุถนอมและปกป้อง คำอธิบายนี้ไร้สาระจริงๆเลย” “หรือว่าไม่จริง” เพราะเหตุนี้ ถึงให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาที่ยุ่งยากอยู่บ่อยๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ชอบหาเรื่องหาใส่ตัวเข้าใจไหม หลายเรื่องมันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกับที่คุณคิดไว้ซะทุกครั้ง ยังมีหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง” เป่หมิงโม่มองเธออย่างจริงจัง
คำพูดพวกนี้กล่าวได้ว่าเป็นคำพูดที่จริงใจของเขา และยังเป็นบทสรุปประสบการณ์ของเขาที่อยู่ในธุรกิจมานานหลายปี
ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องไม่ให้กู้ฮอนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ดูเหมือนว่ามีบางอย่างขัดกับความต้องการ ในที่สุดเธอก็ยังต้องมีส่วนร่วมอยู่บ้าง
“เอาล่ะ ฉันไม่อยากจะมาพูดคุยเรื่องนี้อีกแล้ว คุณมีมุมมองของคุณ ฉันมีหลักการของฉัน และนี่ไม่มีคำตอบ” กู้ฮอนพูดจบและหยิบหนังสือกลับเข้าไปในกระเป๋าของตัวเองอีกครั้ง
***
ในตอนนี้ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเธอเริ่มลดลง เดิมทีเธอต้องพาลูกๆออกไปเที่ยวเล่น และน่าจะรู้สึกดีขึ้นมากไม่น้อย และคงจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องงานที่จะมารบกวนเธอได้
ในระยะไกล มีร่างเล็กสี่คนเดินมาข้างหลังของพวกเขา และตามด้วยคู่รักอีกสองคู่
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าเต็นท์ที่สร้างขึ้นโดยเป่หมิงโม่นั้นอยู่ใต้ต้นไม้
และแน่นอนว่าพวกเขานั่งอยู่บนพื้นหญ้า ดูเหมือนว่าเป่หมิงโม่และกู้ฮอนดูจะเพิ่งทะเลาะกัน
เฉิงเฉิงและหยางหยางก็ได้ขมวดคิ้วในเวลาเดียวกัน ทำไมตอนที่พ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน มักจะเกิดเรื่องแบบนี้อยู่เสมอ
พวกเขาต่างเสียใจเล็กน้อยที่เชิญจ้าวจิ้งอี๋และRebecca มาทานอาหารกลางวันกับพวกเขา
“พ่อแม่” เฉิงเฉิงและหยางหยางเริ่งฝีเท้า มาข้างหน้าที่เป่หมิงโม่และกู้ฮอน
เมื่อกู้ฮอนเห็นพวกเด็กๆกลับมาแล้ว สีหน้าก็ผ่อนคลายขึ้นทันที “ลูกๆไปเล่นกันสนุกไหม”
เฉิงเฉิงพยักหน้า “ก็โอเคนะ”
หยางหยางกลับมีสีหน้าขมขื่น “ไม่จริง ผมอยากเล่น เฉิงเฉิงไม่ยอมให้ผมไปเล่น”
“ฉันไม่ยอมให้นายเล่นไม่ใช่เพราะเพื่อผลประโยชน์ของนาย พวกนั้นมีไว้สำหรับเด็กโตถึงจะเล่นได้เท่านั้น” เฉิงเฉิงแก้คำพูดของหยางหยางทันที
“เฉิงเฉิงพูดไม่ผิด ที่นี่มีเกมมากมายจริงๆ เธอจำเป็นจะต้องสูงขึ้นกว่านี้อีกหน่อยถึงจะเล่นได้” กู้ฮอนพูดจบ ก็เห็นหกคนตัวใหญ่สี่คนและตัวเล็กสองคนยังยืนอยู่ข้างหลังของพวกเขา
ในนั้น จ้าวจิ้งอี๋และRebeccaเธอก็ได้พบกัน อีกทั้งยังพบว่านอกจากเด็กทั้งสองคนแล้วยังมีคนที่สนิทอีกหนึ่งคน
“สวัสดี~คุณBrown ดีใจที่ได้พบคุณที่นี่” กู้ฮอนพูดพลางยิ้มและยืนขึ้น
Brownพ่อของRebeccaพยักหน้าเบาๆ “โอ้ คุณกู้พวกเราเจอกันอีกแล้ว”
เฉิงเฉิงและหยางหยางประหลาดใจเล็กน้อย “แม่ แม่รู้สึกกับพ่อของRebeccaเหรอ”
กู้ฮอนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เราเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันระยะสั้นครั้งหนึ่ง”
Brownหันหน้าไปเห็นเป่หมิงโม่อีกครั้ง และยิ่งประหลาดใจมากขึ้นทันที “คุณเป่หมิง คิดไม่ถึงว่าคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย”
เขาพูดพลางรีบเดินไปตรงหน้าเป่หมิงโม่ ก้มตัวลง แล้วยื่นมือออกไป
เป่หมิงโม่เหลือบมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เขาไม่ได้รู้สึกประทับใจกับBrownเลยสักนิด “ไม่ทราบว่าคุณคือ…..”
Brownยิ้ม แล้วพูดด้วยภาษาจีนที่ไม่ค่อยถนัด “โอ้ แฮะๆ ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย ผมชื่อBrown เป็นรองผู้ช่วยของคุณปี้เหอ อาศัยอยู่ในสำนักงานของ GTในเมือง A ผมเคยเห็นคุณในงานแถลงข่าว”
แม้ว่าเป่หมิงโม่จะยังไม่รู้สึกประทับใจเขา แต่ก็ได้พยักหน้า
“โอ้ น่าทึ่งจริงๆ ได้เจอคุณกู้และคุณเป่หมิงในเวลาเดียวกัน” รอยยิ้มของBrown ดูเหมือนจะซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ในนั้น
เฉิงเฉิงเดินไปตรงหน้าเป่หมิงโม่ “พ่อ ฉันเจอเพื่อนร่วมของฉันที่นี่ ก็เลยชวนพวกเขามาทานอาหารกลางวันด้วยกันกับพวกเรา พ่อคิดว่าโอเคไหม”
เป่หมิงโม่มองไปที่หกคนที่ออกมาปรากฏตัวขึ้นในทันที จากนั้นก็มองไปที่ลูกทั้งสองของตัวเอง
เฉิงเฉิงและหยางหยางเขาด้วยความคาดหวัง
เขาพยักหน้า “โอเค แต่พวกเราเตรียมอาหารเอาไว้ไม่เยอะ”
คาดไม่ถึงว่าเจ้าเป่หมิงเอ้อผู้ชายคนนี้จะตกลง! สิ่งนี้ทำให้กู้ฮอนรู้สึกประหลาดใจ
หรือจะบอกว่าผู้ชายคนนี้อยู่ดีๆก็เปลี่ยนไปเหรอ