เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 815 ความอบอุ่นของคุณแม่
ตอนที่ 815 ความอบอุ่นของคุณแม่
หลังจากถางเทียนจื๋อวางสายโทรศัพท์ได้ 20 นาที กู้ฮอนก็ขับรถมาหยุดที่ลานจอดรถด้านข้างสตรีทพาร์ค ซึ่งอยู่หลังรถออดี้คันสีขาวพอดี
กู้ฮอนจูงมือเล็กของเฉิงเฉิงเดินเข้าไปด้านในของสวนสาธารณะอย่างเร่งรีบ พวกเธอเดินไป พลางมองพิจารณารอบด้านไปพลาง
ครั้งนี้ที่พวกเขามา คนในสวนสาธารณะมีจำนวนน้อยลงเล็กน้อย เหล่าคุณป้าผู้ชราที่เต้นแอโรบิกในสวนสาธารณะนั้นแยกย้ายกลับบ้านกันไปแล้ว
สุดท้ายก็ยังคงเป็นเฉิงเฉิงที่ตาไว เขายื่นนิ้วชี้ไปทางด้านหน้า “คุณแม่ ดูเหมือนว่าด้านหน้าจะมีคนกวักมือเรียกพวกเรา”
กู้ฮอนมองแล้วก็ไม่ใช่เรื่องโกหก แม้ว่าจะมองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของคนคนนั้นได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อมองรูปร่างสูงเพรียวแล้วก็สามารถแยกแยะออกว่านั่นคือ Noton
*
“Noton คุณอามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรครับ” เฉิงเฉิงเห็นเขาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ
ถางเทียนจื๋อยิ้มให้เขาบางๆ “นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อครู่นี้ฉันเป็นคนโทรศัพท์หาคุณแม่เธอไง”
เขาเอ่ยแล้วหันหน้าไปพูดกับกู้ฮอนว่า “ฮอน คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะลบเบอร์โทรศัพท์ของผมทิ้งไปเร็วขนาดนี้”
กู้ฮอนในตอนนี้นั้นไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเขา มองไปรอบด้านอย่างคร่าวๆ ก็ไม่เห็นเงาร่างเล็กๆของหยางหยาง
เธอเอ่ยด้วยสีหน้ามึนตึง “ตอนนี้หยางหยางอยู่ที่ไหน”
“ฮอน คุณกับเฉิงเฉิงพักอยู่ตรงนี้ชั่วครู่ก่อน ขับรถมาอย่างเร็วขนาดนี้ร่างกายคงรู้สึกไม่ดี หยางหยางยังสบายดีอยู่มาก เพียงแต่ผมมีเรื่องอยากจะพูดกับพวกคุณก่อนสักเล็กน้อย” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องของหยางหยาง รอยยิ้มบนใบหน้าของถางเทียนจื๋อก็หายไป กลายเป็นสีหน้าจริงจัง
กู้ฮอนให้เฉิงเฉิงนั่งบนม้านั่ง ตัวเองกลับยืนเผชิญหน้ากับถางเทียนจื๋อ “พูดมาเถอะ คุณจะพูดเรื่องอะไรหยางหยางกับฉัน”
ถางเทียนจื๋อมองไปที่กู้ฮอน จากนั้นก็สูดลมหายใจลึก พลางเอ่ยว่า “วันนี้เป็นวันสอบของหยางหยาง ส่วนช่วงเวลานี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณนั้น เมื่อครู่ตอนผมคุยกับหยางหยางก็รู้หมดแล้ว ผมคิดว่าวิธีการที่พวกคุณปฏิบัติกับเขาไม่ยุติธรรมเป็นอย่างมาก”
***
คำพูดของถางเทียนจื๋อนั้นทำให้กู้ฮอนเงียบสนิทเหมือนคนใบ้ ที่จริงแล้วในใจของเธอก็ชัดเจนเป็นอย่างมากว่าตัวเองทำเกินไปบ้างจริงๆ โดยเฉพาะในฐานะมารดา
แม้ว่าหยางหยางจะไม่น่ารักเชื่อฟังเหมือนกับเฉิงเฉิง สร้างเรื่องวุ่นวายเล็กน้อยเป็นปกติ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการสอบ เขาก็ไม่ได้ทำเรื่องชั่วร้ายหรือไม่ดี
“เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้หากคุณรู้สึกเสียใจหรืออยากขอโทษ ก็เดินเข้าไปพูดกับเขาด้วยตัวเองเถอะ แต่ว่าอย่าให้ศักดิ์ศรีของผู้ใหญ่มาเป็นตัวขัดขวาง ทำผิดแล้วก็กล้าหาญที่จะยอมรับนั้นสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีมากตัวอย่างหนึ่งให้กับเด็ก ตอนนี้เขาเล่นอยู่กับเหล่านกพิราบตรงนั้น ทำท่าทางดีๆหน่อย อย่าแสดงท่าทางหยิ่งผยองของคนที่เป็นผู้ใหญ่ออกมาด้วย”
ถางเทียนจื๋อพูดพลางชี้นิ้วไปยังพื้นที่โล่งที่ถูกล้อมรอบด้วยไฟถนนเล็กๆแห่งหนึ่ง ฝูงนกพิราบฝูงหนึ่งกำลังล้อมรอบเด็กผู้ชายคนหนึ่ง มีตัวหนึ่งสองตัวที่กล้าหาญ กำลังกางปีกเตรียมตัวบินไปเกาะบนไหล่ของเด็กชาย
กู้ฮอนมองหยางหยางอยู่ที่ไกลๆ นัยน์ตาอดไม่ได้ที่จะรื้นขึ้นมา
“คุณแม่ พวกเราไปหาหยางหยางด้วยกันเถอะครับ เรื่องนี้หลักๆล้วนเป็นผมทำให้เกิดขึ้นมา” เฉิงเฉิงพูดพลางดึงมือของคุณแม่ หนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งเด็กเดินเข้าไปหาหยางหยางที่อยู่ท่ามกลางฝูงนกพิราบ
*
หยางหยางกำลังเล่นกับเหล่านกพิราบอย่างอารมณ์ดี เจ้าตัวเล็กพวกนี้เหมือนกับรู้จักนิสัยของมนุษย์อย่างไรอย่างนั้น รู้ว่าในใจของหยางหยางเศร้า จึงไม่ได้โผเข้ามารุมเหมือนกับช่วงเวลากลางวันที่ได้พบกับคนแบบนั้น
แรกเริ่มพวกมันค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆหยางหยางไปพลาง ยื่นศีรษะเล็กๆออกมาหยั่งเชิงไปพลาง
ผ่านไปชั่วครู่หลังจากที่คุ้นเคยกันเล็กน้อยพอประมาณแล้ว ก็มีสองสามตัวที่มายืนอยู่ข้างเท้าเขา เงยศีรษะเล็กๆนั้นมองขึ้นมา
สัตว์ตัวเล็กๆนั้นมีพลังวิเศษแบบนี้ ทำให้คนที่โศกเศร้าอยู่อารมณ์ดีขึ้นมาใหม่
หยางหยางค่อยๆย่อตัวลงมาสบตากับเหล่านกพิราบ
ในภายหลังเหล่านกพิราบก็เริ่มกำเริบเสิบสานเล็กน้อย พวกมันเดินมาถึงข้างกายหยางหยาง ตอนที่หยางหยางยื่นมือออกมานั้น พวกมันก็จิกลงบนฝ่ามือของเขาเบา เหมือนกับว่ากำลังหาอาหาร
จิกไปจิกมาจนทำให้หยางหยางรู้สึกคันยุบยิบ “ยังคงเป็นพวกนายที่ดี ไม่มีอคติกับฉัน ยอมที่จะเล่นด้วยกันกับฉัน” หยางหยางพูดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ถ้าหากว่าพวกเขาเหมือนกันกับพวกนายจะดีขนาดไหนกันนะ”
ในเวลานั้นเองที่หยางหยางพบว่าเหล่านกพิราบเริ่มสับสนวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็เห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าตัวเอง
คุณแม่มาแล้ว หยางหยางไม่ต้องเงยหน้าก็สามารถรู้ได้
*
กู้ฮอนย่อตัวลงช้าๆ เผชิญหน้ากับหยางหยางที่ก้มหน้าลงต่ำ “ลูกรัก แม่มารับลูกกลับบ้านแล้ว วันนี้ล้วนเป็นเพราะว่าแม่เข้าใจลูกผิดไป แม่ผิดไปแล้ว ขอให้ลูกยกโทษให้แม่ด้วยได้หรือไม่”
เธอเอ่ยแล้วโอบตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดแน่น
ความน้อยใจของหยางหยางนั้นแปรเปลี่ยนเป็นหยาดน้ำตาในเวลานี้ “คุณแม่ เรื่องนี้หยางหยางก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ ผมไม่ควรคิดเรื่องการโกงตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ควรจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้พวกคุณแม่ฟังหลังการสอบ”
เฉิงเฉิงก็ยืนมองอยู่อีกด้านหนึ่ง ในใจของเขาก็รู้สึกไม่ดี เขาเดินเข้าไปดึงแขนเสื้อของหยางหยางเบาๆ “หยางหยาง ฉันก็ไม่ดีเช่นกันที่ไม่เชื่อในตัวนาย ทั้งยังบอกเรื่องของนายให้คุณพ่อคุณแม่ฟังด้วย ที่จริงแล้วตอนนั้นเป็นเพราะฉันโกรธนายที่ปฏิบัติกับจ้าวจิ้งอี๋ด้วยท่าทางแบบนั้น ตอนนี้ฉันจะบอกกับนายว่า ขอโทษนะ”
หยางหยางดึงศีรษะออกมาจากอ้อมกอดของคุณแม่ มองไปที่เฉิงเฉิง เห็นเพียงแต่สีหน้าท่าทางละอายใจของเขา “ฉันปฏิบัติกับเธอแบบนั้นก็มีเหตุผลนะ ใครใช้ให้พวกนายล้อเล่นกับฉันในครั้งนั้นกันล่ะ เกือบจะทำให้ฉันขายหน้าต่อหน้าทุกคนแล้ว”
***
เฉิงเฉิงนั้นเข้าใจขึ้นมาได้ในทันที ที่แท้ก็ยังแค้นเรื่องที่แสดงในคราวนั้นอยู่ขนาดนี้เชียว
หยางหยางเอ่ยต่อว่า “ในทางกลับกัน ฉันเดิมพันกับเธอ ฉันชนะ คนที่ได้ประโยชน์ก็คือนาย สุดท้ายแล้วฉันกลับเป็นฝ่ายผิดเสียอย่างนั้น” เขาพูดแล้วก็โบกมือเล็กๆไปมา “ช่างมันเถอะ เรื่องนี้ฉันก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ควรโทษนายทั้งหมด อีกทั้งฉันก็รู้ว่านายหวังดีต่อฉัน ฉันสามารถสอบออกมาได้คะแนนแบบนี้ก็เป็นเพราะนายติวให้ฉันก่อนหน้านี้ถึงทำได้ พูดความจริง ฉันควรจะขอบคุณนายถึงจะถูก”
เฉิงเฉิงได้ยินหยางหยางพูดแบบนี้แล้วก็โล่งใจในทันที อย่างไรก็เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป
“เฮ้ๆ นายอย่านึกว่าเรื่องนี้จะปล่อยไปทั้งอย่างนี้นะ เนื่องจากนายทำให้จิตใจฉันได้รับบาดเจ็บครั้งใหญ่ ฉันตัดสินใจจะทำการลงโทษนายสักเล็กน้อย” หยางหยางพูดพลางลูบท้องตัวเองไปมา “ตอนนี้ท้องของฉันร้องโครกครากแล้ว วันนี้มื้อเย็นนายเลี้ยงนะ อยากคิดจะใช้อาหารที่คิดเป็นเงินไม่กี่หยวนมาตัดปัญหานะ ฉันรู้ว่าในบัตรของนายมีเงิน กระทั่งร้านอาหารก็สามารถซื้อได้”
ใจของเฉิงเฉิงที่เพิ่งจะโล่งก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ดูท่ามาน้องชายคนนี้เริ่มทำตัวไม่มีเหตุผลแล้ว
เฮ้อ……ไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้ตัวเองสร้างเรื่องขึ้นมาเยอะแยะแบบนี้กันล่ะ
“หยางหยาง นายพูดมาเถอะว่าอยากกินอะไร”
หยางหยางขมวดคิ้ว มือเล็กๆกุมอยู่ใต้คาง ท่าทางคิดหนัก
สุดท้ายเขาก็ดีดนิ้วครั้งหนึ่ง “หลายวันก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่ามีละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมหรอกหรือ เรียกว่า คนที่มาจากเกาะลอง อะไรนั่น นางเอกในเรื่องต้องการกินน่องไก่กับเบียร์ ฉันคงไม่ทานแบบนั้น เพราะว่ามีผู้เชี่ยวชาญในอินเทอร์เน็ตพูดว่า ทานแบบนี้แล้วจะอ้วนได้ง่าย ดังนั้นฉันจะเปลี่ยนสักหน่อย อย่างนั้นก็น่องไก่กับKvassแล้วกัน ดีร้ายอย่างไรก็เกือบจะเหมือนกับเบียร์นั่นแหละ”
กู้ฮอนที่ฟังถึงตรงนี้ก็หัวเราะพรืดออกมาอย่างตลก ลูกชายที่น่ารักของเธอคนนี้ ไม่มีอะไรคิดเขาคิดไม่ออกจริงๆ
“หยางหยาง ละครโทรทัศน์เรื่องนั้นชื่อว่า ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว ถ้าหากว่ามาจากเกาะลิงล่ะก็ มีเพียงแค่ละครลิงแล้ว ดีแล้ว พวกลูกสองพี่น้องไม่ต้องโกรธกันแล้ว ไป แม่จะพาพวกลูกไปทานข้าว”
กู้ฮอนลุกขึ้นยื่นมือทั้งสองข้างไปจับลูกรักทั้งสองไว้ข้างละคน
“รอก่อน เฉิงเฉิงไม่เพียงแต่ต้องเลี้ยงข้าวผมเท่านั้น ยังต้องเลี้ยงคุณอาบิวตี้ด้วย ถ้าหากไม่ใช่เขาพูดทฤษฎีกับผมล่ะก็ เดาว่าตอนนี้ผมยังคงโกรธพวกคุณแม่อยู่” หยางหยางพูดอย่างจริงจัง
คาดว่าตอนนี้เขาอาจจะเห็นว่าถางเทียนจื๋อเป็นอาจารย์ที่อบรมทางด้านจิตใจไปแล้วก็ไม่แน่
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ฮอน แข็งทื่อเล็กน้อย เพราะเมื่อเธอคิดถึง Noton แล้วก็จะคิดถึงหลี่เชิน ด้วย เขาเป็นบิดาที่ไม่มีความรับผิดชอบ
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เธอก็ถือว่าพวกเขาเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว เพียงแต่เมื่อได้ฟังที่หยางหยางพูดแล้ว เรื่องนี้เขาก็มีคุณงามความดีด้วย
อีกทั้งเขาก็เป็นคนโทรศัพท์บอกตัวเองว่าลูกชายอยู่ที่นี่ด้วยไม่ใช่หรือ ไม่อย่างนั้น แม้ว่าตัวเองกับเฉิงเฉิงจะขับรถไปรอบเมืองทั้งคืนก็อาจจะไม่สามารถหาหยางหยางได้พบ
ดูเป็นเรื่องๆไปก็แล้วกัน เห็นแก่หน้าของหยางหยาง ก็ควรจะเลี้ยงเขาล่ะนะ
ตอนที่เธอพาลูกเดินกลับมานั้นก็เห็นเพียงแค่ม้านั่งยาวใต้ไฟถนนนั้นว่างเปล่าไร้ผู้คน
เมื่อถางเทียนจื๋อเห็นว่าพวกเขาสามคนแม่ลูกนั้นกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่แล้ว เขาก็คิดว่าตอนนี้ตัวเองน่าจะสามารถจากไปได้แล้ว
หยางหยางนั้นกลับไปอยู่ข้างกายคุณแม่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว อีกทั้งพวกเขาก็กลับไปคืนดีกันอีกครั้งแล้ว
*
ถนนในเมืองที่คึกคักจอแจ รถออดี้สีขาวคันหนึ่งขับผ่านรถราที่พลุกพล่านไปอย่างคล่องตัว
***
ภายในบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง เจียงฮุ่ยซินนั้นนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถง มีท่าทางร้อนรนเป็นอย่างมาก
เป่หมิงโม่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง เขาที่ไม่ค่อยดูโทรทัศน์ ตอนนี้นั้นถือรีโมตไว้ในมือเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆไม่หยุด
ในเวลานี้เองก็ได้ยินเสียงรถยนต์ดังขึ้นในลานบ้าน
“โม่ ฮอนกลับมาแล้วใช่หรือไม่ ไม่รู้ว่าเธอหาหยางหยางเจอหรือไม่ เฮ้อ หยางหยางเด็กคนนี้นี่ก็จริงๆเลย นิสัยเจ้าอารมณ์เหมือนกับเธอในตอนเด็กๆอย่างกับแกะ ถ้าหากว่าเธอพาเด็กๆกลับมาแล้ว เธอก็อย่าไปตำหนิเขาอีกล่ะ”
เจียงฮุ่ยซินกำชับกับเป่หมิงโม่ประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปหน้าประตู
เธอเดาไม่ผิดอย่างที่คิดเอาไว้เลย เห็นเพียงแค่กู้ฮอนกลับมาจากด้านนอกแล้ว ใบหน้าไม่มีสีหน้าอมทุกข์เหมือนกับก่อนหน้าที่ยังหาไม่เจอ แต่มีรอยยิ้มน้อยๆมาแทน
มือแต่ละครั้งจึงมือเล็กๆไว้ข้างหนึ่ง นั่นก็คือเฉิงเฉิงและหยางหยาง สองพี่น้อง
“หยางหยางกลับมาแล้ว หลานที่น่ารักของย่า หลานหนีไปครั้งนี้ทำให้พวกเราเป็นกังวลกันไปหมดแล้ว ฟ้ามืดขนาดนี้แล้ว ถ้าหากว่าเจอคนชั่วร้ายขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน หลังจากนี้อย่าทำแบบนี้อีกนะ หลานดูพ่อหลานสิ ทานข้าวเสร็จแล้วก็ไม่ได้ไปจัดการธุระของเขา รอหลานกลับมาที่นี่อยู่ตลอดเลย”
กู้ฮอนยิ้มบางๆให้กับเจียงฮุ่ยซิน “ล้วนเป็นเด็กๆที่ไม่เข้าใจเรื่องราว ทำให้คุณป้าซินกังวลใจไปด้วยเลย”
“เฮ้อ ไม่เป็นไรๆ พวกเราล้วนเป็นผู้อาวุโส ไม่ใช่ว่าหวังให้ลูกหลานของตัวเองผ่านคืนวันไปได้ด้วยดีหรอกหรือ เอาเถอะ พวกเธอล้วนกลับมาแล้ว ฉันก็จะขึ้นไปพักผ่อนที่ด้านบนแล้ว” เจียงฮุ่ยซินพูดแล้วก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดไป คนรับใช้คนหนึ่งรีบเดินนำขึ้นไป มือทั้งสองข้างพยุงเธอขึ้นไปด้านบนอย่างระมัดระวัง
กู้ฮอนพาหยางหยางเดินเข้ามาในห้องโถง เห็นเป่หมิงโม่กำลังนั่งดูโทรทัศน์ที่ตอนนี้กำลังฉายรายการข่าวในเมืองอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด ตัวเหยียดตรงอยู่บนโซฟา
เธอก้มหน้าเอ่ยกับหยางหยางเสียงเบาว่า “ลูกรัก ไปรับผิดกับคุณพ่อเถอะ เรื่องนี้แม้ว่าจะผ่านไปแล้ว แต่เมื่อครู่ที่พวกเราอยู่ในรถไม่ใช่ว่าคุยกันแล้วหรือ”
หยางหยางเงยหน้ามองคุณแม่ แล้วก็มองไปที่คุณพ่อที่มีสีหน้าไม่ไว้หน้าใครที่อยู่ไม่ไกล ในใจของเขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
เพียงแต่ว่ามีคุณแม่อยู่ด้วย เขาก็มีความมั่นใจอยู่บ้า