เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่197 นัดบอดครั้งที่12 2
ตอนที่197 นัดบอดครั้งที่12 2
เป่ยหมิงโม่หัวเราะเยาะ ดวงตาหรี่เล็ก สาดแววเย็นชา “หุ่น
เชิดเหรอ”
สิ่งที่เป่ยหมิงยี่เฟิงทำนั้น ตกลงมีแผนการอะไรกันแน่
หลังจากที่เป่หมิงโม่ฟังรายงานจากหวังเหรินแล้ว เขาก็ ออกจากอาคารบริษัทเป่หมิง ในยามที่ท้องฟ้ามืดลงแล้ว
พนักงานขับรถฉิงฮั่ว ยืนอยู่ข้างทาง
เขานั่งลงบนรถ
“เจ้านายครับ กลับบ้านตระกูลหมิงเลยมั้ยครับ” ฉิงฮัว ชำเลืองมองที่กระจกมองหลัง หลังจากที่เจ้านายออกจากโรง พยาบาลวันแรกแล้วไปที่เย่หยิงอีพิน ก็ไม่ได้กลับไปที่นั่นอีก เลย ฉิงฮัวพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้ แต่ก็ไม่แน่ใจจึง ฉลาดพอที่จะไม่เอ่ยเย่หยิงอีพินสี่คำนี้ออกมาต่อหน้าเจ้านาย
ฉิงฮัวเห็นเจ้านายเม้มปาก แววตานิ่งเฉยเหมือนตายแล้ว เขาจึงพูดต่อว่า “คุณท่านบอกว่าคืนนี้คุณชายใหญ่กับคุณย่า ของคุณชายใหญ่ จะกลับมาทานอาหารที่บ้านเป่หมิง เจ้า นายว่า…”
“ไม่กลับ” เป็นหมิงโม่แทบไม่ต้องคิดเลย ก็ตัดบทของจิงสัว
ทันที
ฉึงฮัวพยักหน้า ไม่แปลกใจที่เจ้านายพูดแบบนั้น ดังนั้น ถามอย่างระแวดระวังว่า “ถ้างั้นไปห้องเพรสซิเดนเชียล ส ที่โรงแรมแมนดารินมั้ยครับ”
เป่ยหมิง โม่เลิกคิ้ว
ภาพห้องเพรสซิเดนเชียล สวีทของโรงแรมแมนดารินผุด ขึ้นในสมองของเขา ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น กู้ฮอน ก็แวบ ขึ้นตรงหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว
เขาจำได้ ครั้งแรกที่ได้พบหล่อน ก็คือที่หน้าประตูโรงแรม
แมนดาริน
ครั้งแรกที่หล่อนนอนบนเตียงของเขา ก็คือที่ห้องเพรสซิ เดนเชียล สวีทห้องนั้น
เป็นเพราะหล่อนแพ้พนันในคืนนั้น ภาพของมือที่ค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกต่อหน้าเขา
สมควรตายก็คือห้องเพรสซิเดนเชียล สวีทบ้านั่น
บ้าเอ๊ย เขาก็รู้อยู่แล้วว่า ไม่ควรให้หล่อนลุกล้ำเข้ามาใน พื้นส่วนตัวเขา
หลังจากนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ เขาขบกรามแน่น คำพูดเย็น ชาประดุจน้ำแข็งลอดไรฟันออกมา “ที่ไหนก็ไม่ไปทั้งนั้น ไป กินข้าวก่อน”
นิงชัวรันคำสั่ง รถยนต์สตาร์ทแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนที่แออัดวุ่นวาย
ไม่รู้ว่ารถขับไปนานแค่ไหน ฉิงชั่วก็อดไม่ที่จะถามออกม ว่า “เจ้านายครับ เอ่อ จะไปกินข้าวที่ไหนครับ”
หลังจากนั้น ภายในรถก็ยังคงเงียบกริบไร้ซึ่งสัญญาณชี
สุดท้ายเสียงแข็งกระด้าง และแหบพร่าก็ลอยมา “ภัตตาคารร้านอาหารฉงชิ่ง ”
ภายในภัตตาคารร้านอาหารฉงชิ่ง ยังคงได้รับความนิยม เช่นเดิม
เพื่อแสดงว่าตนเองชอบกินพริก หลิวเจ๋อเฉิงกินจนน้ำตา
ร่วงเลยทีเดียว
บางครั้งก็หยิบทิชชูเปียกขึ้นมาซับที่หางตา บางครั้งก็ยิ้ม จนตาหยีแล้วพูดกับกู้ฮอนว่า “ฮา ฮา ฮอนพวกเราไม่เพียงมี ทัศนคติเรื่องการแต่งงานเหมือนกัน แม้แต่อาหารก็ยังกิน รสชาติเดียวกันอีกด้วย พวกเรานี่เป็นคู่ที่ฟ้าสร้างมาจริง ๆ”
กู้ฮอนได้ยินคำพูดของหลิวเจ๋อเฉิง มุมปากก็ยกขึ้นอย่าง เสียไม่ได้
คู่นัดบอดคืนนี้ นับเป็นคนที่ 12 แล้วตั้งแต่เริ่มนัดบอดมา และเข้ากับหล่อนได้ดีที่สุดคนหนึ่ง ไม่ว่าหล่อนพูดอะไร หลิว เจ๋อเฉิงก็จะผงกศีรษะแล้วยิ้มตาหยี ยกสองมือขึ้นมาเห็นด้วย กับสิ่งที่หล่อนพูด
พูดตามความจริง หล่อนไม่ได้คิดหวังอะไรกับการนัดบ
เลย
แต่เจียงฮุ่ยซิน บีบบังคับหล่อนให้มีเพียงสองตัวเลือก เท่านั้น ถ้าไม่เก็บหยางหยางให้เป็นความลับ หล่อนกลัวว่า คนอื่นจะรู้ถ้าไม่ใช่เพราะเฉิงเฉิง หล่อนไม่อยากจากเมือง ไปตลอดไม่หวนกลับมาอีก หล่อนก็คงไม่ต้องทนฝืนเลือกที่ จะต้องแต่งงานกับคนอื่น
ในเมื่อจะต้องงานกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่แล้ว ก็ขอแต่งงาน กับคนที่ซื่อสัตย์ไม่ดีกว่าหรือ ในเมื่อพ่อแม่ของหลิวเจ๋อเฉิงก็ เสียชีวิตไปหมดแล้ว ก็ไม่มีทางเกิดปัญหาระหว่างแม่สามีกับ ลูกสะใภ้ หล่อนมาคิดๆดูแบบนี้ก็สะดวกดีไม่น้อย
“ฮาๆๆ คืนนี้ผมสุขใจจริง ๆเลย” หลิวเจ๋อเฉิงตื่นเต้นจน มือเท้าสั่นระริก ไม่หยุดที่จะเล่าเรื่องสนุกให้ฮอนฟัง “เกี่ยว กับพริกนี้ อยู่ ๆ ผมคิดเรื่องสนุก ๆ ขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่า คุณรู้จักซูเปอร์สตาร์ผู้โด่งดังอย่างแอนโทนี่เป็หมิงมั้ย”
นิ้วของกู้ฮอนชะงักค้าง ชาเลืองมองหลิวเจ๋อเฉิง หล่อนฝืน ยิ้มออกมา “รู้สิ แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวนะ”
“โอ๊ย” หลิวเจ๋อเฉิงตีหน้าผากตัวเองอย่างนึกขึ้นได้ว่า “แอ นโทนี่เป็นซูเปอร์สตาร์ คนทั้งประเทศไม่มีใครไม่รู้จักเขา แต่ คนที่รู้จักเขาจริง ๆ มีน้อยมาก ผมนี่มันโง่จริง ๆ ถามอะไรโง่ ๆ แบบนี้ออกไปได้ยังไงกัน เหอะๆ ฮอน ผมจะบอกคุณให้ แอนโทนี่เป็นนักแสดงในสังกัดของบริษัทผมเอง มีครั้งหนึ่งที่แอ นโทนี่รับงานโฆษณา เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์บะหมี่ เนื้อผัดเผ็ดของบริษัทหนึ่ง แต่แอนโทนี่กินพริกไม่ได้ แต่ โปรดิวเซอร์ของโฆษณานั้นต้องการถ่ายให้เห็นภาพแอนโท นี่กำลังกินพริกอยู่ คุณเดาสิว่าจะทำยังไง”
หลิวเจ๋อเฉิงเล่าจนน้ำลายฟังกระเซ็น กู้ฮอนยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรนัก แต่ก็ถามตามมารยาทไปว่า “ทำยัง ไงเหรอ”
ฮา ๆ ก็ให้ผมเป็นตัวแสดงแทนไงล่ะ” หลิวเจ้อเฉิงเริ่มเล่า อย่างออกรสออกชาติ “ภาพบะหมี่ที่ทั้งมันและเผ็ดค่อยๆ เข้าไปในปากนั้น อันที่จริงแล้วผมเป็นคนถ่ายเอง แต่ภาพที่ เห็นหน้านั้นเปลี่ยนเป็นแอนโทนี่แทน”
ฉิงฮัวขับรถมาถึงภัตตาคารร้านอาหารฉงชิ่ง
“ถึงแล้วครับ เจ้านาย ” ฉิงฮัวยังคงทำตัวเหมือนกับทุก ครั้งที่ผ่านมา คือไม่คิดลงจากรถ แต่ไหนแต่ไรเขาจะรอเจ้า นายของเขาอยู่บนรถ
ครั้งนี้ เขาคิดว่าเป่ยหมิงโม่เองก็คงจะทำเหมือนทุกครั้ง เปิดประตูรถแล้วลงไปกินข้าวคนเดียวลำพัง
แต่คิดไม่ถึงว่าเปหมิงโม่กลับพูดว่า “ฉิงฮัวลงไปสั่งอาหาร สำหรับสองที่”
ถึงชัวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เจ้านายที่เคยชินกับการอยู่ คนเดียวลำพัง กลับเริ่มรู้สึกไม่เคยชินเสียแล้ว
ฉิงฮัวแกล้งทำเป็นไม่มีอะไร ผงกศีรษะ “ครับเจ้านาย”
ทั้งสองลงจากรถ
ฉิงฮั่วโค้งคำนับ ก่อนจะเดินนำหน้าเป่หมิงโม่เข้าไป
“ยินดีต้อนรับค่ะ” สาวพนักงานต้อนรับที่มีรอยยิ้มเหมือน เครื่องจักรพูด
ช่วงขาเรียวยาวของเป้หมิงโม่ เมื่อก้าวเข้ามาใน ภัตตาคารร้านอาหารฉงชิ่ง ก็ชะงักตามสัญชาตญาณ
กลิ่นที่คุ้นเคยเตะจมูก เขาหวนคิดถึงคืนวันที่เขากับผู้หญิง คนนั้น กู้ฮอนมาทานอาหารด้วยกันที่นี่