เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1087 ไม่ใช่ไม่ลงโทษ แต่ยังไม่ถึงเวลา
- Home
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1087 ไม่ใช่ไม่ลงโทษ แต่ยังไม่ถึงเวลา
บทที่ 1087 ไม่ใช่ไม่ลงโทษแต่ยังไม่ถึงเวลา
ในที่สุดก็มาถึงใจความสำคัญของเรื่องทั้งหมด ทำไมคนแบบผู้อำนวยการโกวถึงได้มั่นใจขนาดนั้น ขณะที่ตรวจสอบผู้สนับสนุนเบื้องหลังอยู่นั้น ทำให้เป่หมิงโม่และโล่ฮานรู้สึกประหลาดใจคือ ถังเทียนจื๋อกัดฟันยอมรับ
แน่นอนในใจของโล่ฮานรู้ดี ครั้งนี้เขาช่วยหลี่เชินให้พ้นโทษ
“ถังเทียนจื๋อ ฉันรู้ว่าคุณคิดอะไร ไม่ต้องแกล้งทำเป็นฉลาดแล้ว คุณคิดว่าคุณยอมรับผิดทั้งหมดแล้วจะปกป้องคนที่ประโยชน์ ความสามารถของคุณทำได้ขนาดนี้เลยรึไงกัน ช่างเรื่องที่น่าตลกอยู่เบื้องหลังได้รึไง ฉลาดผิดมักถูกแก้เกมโดยคนฉลาดกว่าเคยได้ยินไหม เหมือนการยอมรับเรื่องนี้โดยเปล่ายิ่งนัก”
โล่ฮานกล่าวกับผู้พิพากษาว่า : “ท่านผู้พิพากษา คดีนี้เกี่ยวข้องกับอาชญากรคนสำคัญอีกคน เขาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐ ตามขั้นแล้วฉันได้ส่งตัวเขาไปยังคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแล้ว หลังจากที่ดำเนินการตรวจสอบแล้ว จะส่งตัวให้ตุลาการ”
ผู้พิพากษาพยักหน้า : “เข้าใจแล้ว สำหรับจำเลยถังเทียนจื๋อ เขายอมรับผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา ตอนนี้ศาลตัดสิน…”
“เดี๋ยวก่อน…ฉันยังมีคำถามต้องการถามจำเลย”
ขณะที่ท่านผู้พิพากษากำลังจะประกาศคำตัดสิน กลับถูกเป่หมิงโม่ขัดขึ้น
แม้ว่านี่จะขัดต่อขั้นตอนของศาล แต่ภายใต้การยินยอมของโล่ฮาน ศาลจึงยินดีหยุดให้
เป่หมิงโม่เดินลงมาจากฝ่ายผู้ฟังไปที่ด้านหน้าของถังเทียนจื๋อ
ขณะที่เขากำลังจะพูด ถังเทียนจื๋อกลับแย่งเขาพูดขึ้น
เขาได้ยินที่โล่ฮานพูดทั้งหมดเมื่อกี้ คิดว่าอาจารย์ของตัวเองก็ไม่มีโชคดี แต่ในขณะเดียวกัน เป่หมิงโม่ก็ขัดจังหวะการตัดสินของผู้พิพากษา
“ฉันรู้ว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไร อยากรู้ใช่ไหมว่าเป่หมิงเจิ้งเทียนตายยังไง?”
“ไม่ผิด ฉันจะถามคุณเรื่องนี้ ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายจริงล่ะก็ ตอบฉันอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยที่สุด”
***
อีกครั้งที่ถังเทียนจื๋อกวาดสายตามองไปรอบๆ ศาล
แววตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความสับสนวุ่นวาย ความไม่สบายใจ ความเกลียดชังหรืออาจจะมีความรู้สึกอื่นๆ อีก
สุดท้าย สายตาของเขาก็กลับมาอยู่ที่เป่หมิงโม่
“ฉันไม่พอใจกับเหตุการณ์แบบนี้ในวันนี้ เพราะคุณไม่มีคุณสมบัติที่จะมาตั้งคำถามฉันตรงนี้ และฉันไม่ได้อยู่ในมือคุณ”
เป่หมิงโม่หรี่ตามองเขา จิตใจประหม่าเล็กน้อย : “ดูเหมือนว่าคุณไม่คิดจะบอกความจริงฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหม?”
ถังเทียนจื๋อมองเขาอย่างยิ้มๆ เหมือนสื่อให้เห็นความมืดมน นี้คือท่าทีที่มีความสุขอีกแบบหนึ่ง : “อย่าคิดว่าคุณจะเข้าใจความคิดฉัน ในทางกลับกัน ฉันบอกคุณได้ : ใช่ การตายของเป่หมิงเจิ้งเทียนเป็นเพราะการวางแผนของฉัน และเป็นเพราะน้ำมือฉันเช่นกัน”
ขณะที่พูด เขายื่นมือขวาและยกนิ้วโป้งออกมา : “แค่ขยับนิ้วเบาๆ ก็จบชีวิตเขาได้แล้ว คนอย่างเขาอยู่บนโลกใบนี้ก็ทนทุกข์ทรมานมากไม่ใช่รึไง มองดูหลานที่แอบอยู่ในรัง แต่ฉันอยู่ในมุมของฉัน ถือได้ว่าทำเรื่องดีๆ ให้เขา เพื่อนับตั้งนั้นจะได้ไม่มีเรื่องวุ่นวายแบบนี้อีก ฮ่าๆ …”
เป่หมิงโม่กำหมัดแน่นขณะฟัง ในที่สุดเขาจุดประกายความเดือดดาลในใจได้สำเร็จ เขาเอื้อมมือไปที่ฝ่ายจำเลยอย่างไม่คาดคิด และกระชากคอเสื้อของถังเทียนจื๋ออย่างแรง
“ทำไม คุณอยากจะแก้แค้นฉันตรงนี้สักครั้งรึไง? ดูๆ ไปแล้วตอนนี้คุณยังโชคดีไม่เลว ครั้งก่อนบนดาดฟ้ากู้ฮอนก็รับแทนคุณไปสองหมัด ตอนนี้ในศาลผู้พิพากษาก็ยังสนับสนุนคุณ ทำไมเรื่องดีๆ ถึงอยู่แต่กับคุณ ฉันไม่ยินดี ถ้าไม่ใช่ยืนอยู่ตรงนี้วันนี้ ชัยชนะจะเป็นของจริงๆ สักครั้ง”
ขณะนั้นเอง โล่ฮานรีบเดินเข้าไปด้านข้างดึงเป่หมิงโม่ : “คุณเป่หมิงใจเย็น กรุณาปฏิบัติตามคำสั่งศาล”
ในที่สุดเป่หมิงโม่ก็ยอมปล่อยมือ
*
ตอนที่เขาเดินออกมาจากศาล ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว
เดิมที่เป็นเพียงแค่การพิจารณาคดีฆาตกรถังเทียนจื๋อของเสี่ยวเฉิน ผลสุดท้ายยิ่งใกล้สิ้นสุดยิ่งพบหลักฐานมากมาย
ตอนนั้นเหตุการณ์ฆาตกรรมของเป่หมิงเจิ้งเทียน ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้พิพากษาคนนี้พิจารณาคดี แต่คดีนี้ก็ถือได้ว่าตื่นเต้นพอสมควร และคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่อยู่ฝ่ายจำเลยจะเป็นฆาตกรตัวจริง
ตอนนี้เป่หมิงโม่อยู่ในศาล สองบุคคลสำคัญก็อยู่ด้วย สองคดีรวมเป็นหนึ่ง
การพิจารณาตอนบ่ายถังเทียนจื๋อดูสบายใจขึ้นเยอะ ไม่เพียงแค่ยอมรับที่ทำทั้งหมด ทั้งยังอธิบายขั้นตอนการฆาตกรรมเป่หมิงเจิ้งเทียนอย่างละเอียด
เขาใช้วิธีการนี้เพื่อกระตุ้นเป่หมิงโม่
แต่ว่ามีโล่ฮานอยู่ข้างตัวตลอด ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก
เป่หมิงโม่รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่หนักหน่วงมาก หันหน้าไปทางพระอาทิตย์ตก เขานั่งลงบนบันไดของศาล พยายามที่จะสงบสติอารมณ์
“คุณเป่หมิง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่ถังเทียนจื๋อก็ได้รับโทษตามสมควรแล้ว ถือได้ว่าเป็นการแสดงความยินดีกับวิญญาณบนฟากฟ้าของคุณเป่หมิง”
โล่ฮานพูดพลางนั่งลงข้างๆ เขา
“จริงแล้วฉันรู้มาตลอดว่าเขาเป็นคนทำ แต่ฉันไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ข้อนี้ ครั้งก่อนปล่อยให้เขาหลุดไป แต่ฟ้ามีตา ครั้งนี้ต่อให้เขาติดปีกก็หนีไม่รอดแล้ว คุณพอจะมีเวลาว่างไหม?”
เป่หมิงโม่หันกลับมาถามโล่ฮาน
โล่ฮานพยักหน้า : “ก็พอมี อาชีพของพวกเราเวลาเป็นเรื่องไม่แน่นอน”
***
ในบาร์ Zeus. มีเสียงดังเหมือนเคย
แต่ถ้าเทียบกับโลกที่วุ่นวายนี้ ที่นี่ถือว่า “สงบ”
หลังจากที่ป่ายมู่ซีส่งผลไม้ทั้งสองจานให้เป่หมิงโม่แล้วจึงออกไปออกมาจากห้องพิเศษ
ดูเหมือนว่าซูยิ่งหวั่นจะเป็นเจ้าของที่ไปแล้ว นักดื่มที่นั่งอยู่ในบาร์และนอกบาร์คุยกันสนุกสนาน
เห็นป่ายมู่ซีออกมากห้องพิเศษที่เป่หมิงโม่อยู่ รู้สึกคาดไม่ถึงและแปลกใจ
“เขาพาใครมา ทำไมต้องเป็นความลับแบบนั้น”
ป่ายมู่ซีเดินเข้าไปนั่งในบาร์ข้างๆ เขาและส่ายหน้า : “ฉันก็ไม่แน่ใจ อีกอย่างเขาจะทำอะไรฉันก็ไม่ใช่นักสืบสักหน่อย”
เป่หมิงโม่และโล่ฮานนั่งอยู่ในห้องพิเศษ
ถึงแม้จะได้ยินจากปากของถังเทียนจื๋อชัดเจนว่าเขาเป็นคนทำร้ายพ่อของตัวเอง และเขาก็ได้รับโทษตามสมควรแล้ว แต่เป่หมิงโม่กลับไม่ดีใจเลย
ที่ผ่านมา ความไม่พอใจของเขาต่อถังเทียนจื๋อ ทำให้เขาเหนื่อยมากเกินไป
“เขาเป็นศัตรูที่ยุ่งยากคนหนึ่ง คุณจับเขาได้ยังไง?”
เหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ พวกเขาไม่แตะเลยสักนิด ทานเพียงแค่ของว่างเล็กน้อย
โล่ฮานยิ้มอย่างมีเลศนัย : “คนอย่างถังเทียนจื๋อถือว่ารับมือได้ยาก แต่ก็ยังพอมีเบาะแสให้หาได้บ้าง ก่อนหน้านี้ฮอนบอกฉันว่าเขากับหลี่เชินสนิทกันมาก ดังนั้นพวกเราจึงมีโชคลอยมา”
“ทั้งหมดนี้คือวิธีการล่อเหยื่อ แต่คุณมั่นใจได้ยังไงว่าเหยื่อจะวิ่งมาหากับดัก?” เป่หมิงโม่รู้ว่าถังเทียนจื๋อเปลี่ยนหุ้นเป็นเงินสด แสดงว่าเขากำลังเตรียมตัวหลบหนี
“คนอย่างถังเทียนจื๋อจะพูดยังไงดี ถึงแม้เขาจะใจเด็ดกับทุกเรื่อง แต่ก็ยังมีความเป็นคนอยู่ โดยเฉพาะกับหลี่เชิน ฉันยังรู้อีกด้วยว่าเขายังดีกับฮอนและลูกๆ ของพวกคุณ อย่างน้อยตอนที่เป้าหมายของเขาคือคุณ แต่เขากลับไม่แตะพวกเขาแม้แต่ปลายผม”
*
หลังมื้อค่ำ หวีหรูเจี๋ยอยู่เป็นเพื่อนคุยกับกู้ฮอนเรื่องทั่วไป
เป่หมิงโม่และโม้จิ่งเฉิงนั่งอยู่ในห้องรับแขก หัวข้อที่คุยกันคือประสบการณ์การขึ้นศาลในวันนี้ของเป่หมิงโม่
โม้จิ่งเฉิงถอนหายใจหลังจากฟัง : “ที่เหล่าหลี่มีจุดจบเช่นนี้ ก็ต้องโทษที่ตัวเขาเอง เกลี้ยกล่อมไปเท่าไหร่ไม่เคยฟัง ครั้งนี้เขาคงได้สงบอยู่ในนั้นสักพัก”
ตอนนั้นเองพวกเขาถูกดึงดูดความสนใจโดยตัวอักษรเล็กที่วิ่งอยู่ด้านล่างหน้าของจอโทรทัศน์ เป็นประกาศหนึ่ง ข้อความโดยประมาณเกี่ยวกับข่าวคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของหลี่เชิน
“ไม่คิดว่าจะออกประกาศเร็วขนาดนี้” โม้จิ่งเฉิงมองตัวอักษรที่กำลังวิ่งอยู่พลางขมวดคิ้วน้อยๆ
ขณะเดียวกันหวีหรูเจี๋ยกับกู้ฮอนที่อยู่ในห้องนอนด้านบนก็เห็นข่าวนี้ด้วยเช่นกัน
ปฏิกิริยาแรกของกู้ฮอนเหมือนกับมีอะไรมาบีบหัวใจเอาไว้
หวีหรูเจี๋ยมองเธออย่างตื่นตกใจ : “ฮอน คุณยังโอเคไหม”
“ฉันไม่เป็นไร รบกวนน้าหรูเจี๋ยช่วยปิดโทรทัศน์หน่อย ฉันรู้สึกง่วง” กู้ฮอนพูดพลางดึงผ้าห่มที่อยู่บนตัวให้สูงขึ้นอีก
หวีหรูเจี๋ยปิดโทรทัศน์และห่มผ้าให้เธอ จากนั้นจึงเดินออกมา
ขณะที่ปิดประตู เธออดที่จะถอนหายใจไม่ได้
เธอดูออกว่ากู้ฮอนต้องอึดอัดใจมาก แต่ตอนนี้ตัวเองหรือคนอื่นก็ไม่รู้จะช่วยเธอยังไง
หวังว่าเธอจะเข้มแข็งและผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไปได้
***
กู้ฮอนซ่อนตัวเองไว้ใต้ผ้าห่ม
อารมณ์ของเธอไม่สามารถอธิบายออกมาได้
ถึงแม้หลี่เชินจะเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ แต่จากการใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน ทำให้เธอผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนกระทั่งวันที่เธอบอกโล่ฮาน ถือการตัดขาดโดยสิ้นเชิง
ถึงอย่างนั้น อนาคตของเธอหลังจากนี้ ความเป็นอยู่ของเขาจะไม่มีอิทธิพลอะไรกับตัวเธออีก ข้อมูลของเขาที่ถูกตรวจสอบยังคงทำให้เธอประหลาดใจ สายเลือดที่เก็บซ่อนไว้ในตัวเธอยังมีประโยชน์ต่อตัวเธอเองบ้าง
เธอยังคงรู้สึกเศร้า
จนกระทั่งรู้สึกว่าที่หลี่เชินต้องเป็นแบบนี้ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ ตัวเธอเองที่ส่งเขาไปขึ้นศาลโดนพิจารณาคดี
ตั้งแต่อดีตมาลูกที่ฆ่าพ่อถือว่าอกตัญญูที่สุด
วิธีการนี้ ถึงจะไม่หนักหนาขนาดนั้น แต่กลับเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจของเธออย่างหนัก
*
พยาบาลพิเศษยกอาหารที่เธอแทบไม่แตะเลยออกจากห้อง
หวีหรูเจี๋ยที่ยืนอยู่หน้าประตู แค่ดูก็รู้แล้วว่าเธอไม่ยอมกินอะไรอีกแล้ว
“เฮ้อ…คุณคิดว่าควรทำยังไงดี ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นขึ้น 3วันแล้วที่เธอไม่ยอมกินอะไรเลย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ร่างกายเธอจะทนได้อย่างไร”
หวีหรูเจี๋ยกลับไปที่ห้องรับแขกและนั่งลงข้างๆ ลูกชาย แววตาร้อนรนกระวนกระวาย
เพราะเรื่องนี้เป่หมิงโม่ก็คิดไม่ตกในแต่ล่ะวัน
ในด้านธุรกิจไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรเขาสามารถจัดการแก้ไขได้อย่างง่ายดาย แต่กับเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม่รู้จะทำยังไง
ยิ่งคนที่ใส่ใจมีปัญหา ยิ่งยากต่อการรักษา
“แม่ อย่าเป็นห่วงเรื่องนี้เลย” เขาพูดพลางลุกขึ้นจากโซฟา เลือกหยิบซุปไก่จากถาดอาหารที่เพิ่งจะเอาลง เดินถือกลับไปด้านบนอีกครั้ง
เปิดประตูห้องเข้าไป ก็เห็นเธอนอนอยู่บนเตียงหันหน้าไปทางระเบียงไม่แม้แต่จะขยับตัว
เป่หมิงโม่ค่อยๆ เดินเข้าไปและวางซุปไวตรงหัวเตียง
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”