เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1116 ประจบ
บทที่ 1116 ประจบ
แน่นอนว่านอกจากเอาหน้าเอาตา เปรียบเทียบสร้างมิตรภาพแล้ว ยังมีเหตุผลเพิ่มอีกหนึ่งข้อ นั่นก็คือ เอาเงินที่ให้ในงานแต่งคืนกลับมา
การแต่งงานที่จิตใจมุ่งแต่คิดแบบนี้ ยังมีอะไรที่น่าไขว่คว้ารึ?
ตั้งแต่ต้นจนจบก็เพื่อผลประโยชน์เป็นหลัก
สำหรับเรื่องพวกนี้เห็นปุ๊บก็พูดได้ว่าหยินปู้ฝันกับแอนนิไม่ได้เหมือนกับคนอื่น
สิ่งที่ลวงโลกพวกนี้ พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องไปไขว่คว้า
แน่นอนก็ยังมีข้อสงสัยแอบแฝงอยู่
อย่างเช่น เดิมทีพวกเขาก็มีเงินมากอยู่แล้ว อีกอย่างก็ยังมีเพื่อนที่มีเงินอีกคนนึง ในชีวิตนี้ไม่มีทางที่จะต้องกลุ้มเรื่องเงินอีก
แต่ว่าในสังคมปัจจุบัน จะมีสักกี่คนที่มีเงินแล้วแต่ก็ยังไม่รู้จักพอ? ไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็อย่างน้อยแปดสิบเปอร์เซ็นต์
ความปรารถนาของมนุษย์นั้นลึกเหมือนมหาสมุทรไม่อาจหยั่งรู้ได้ แต่สามารถควบคุมมันได้อย่างแน่นหนานั้นกลับน้อยมาก
ครั้งนี้เป่หมิงโม่ดูเหมือนจะใจดี แต่มันกลายเป็นภาระทางจิตใจสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้
หยินปู้ฝันยังไม่ทันเรียกพนักงานต้อนรับ ช่วงที่พาหยางหยางไปกินของว่างเล็กน้อย เวลาอันสั้นประตูเรือของพวกเขาก็มีคนมารวมตัวกันไม่น้อยแล้ว
ดีละ ทนายความแทบจะเกือบครึ่งของประเทศก็มารวมกันหมดแล้ว
แน่นอนว่าถึงแม้จะเข้าร่วมงานแต่งงานของหยินปู้ฝันกันเยอะ แต่เป้าหมายกลับมุ่งไปที่เป่หมิงโม่
ดังคำกล่าวที่ว่า ‘อูฐที่ผอมแห้งยังตัวใหญ่กว่าม้า’หลังจากออกจากบริษัทเป่หมิง แต่อำนาจของเป่หมิงโม่ก็ยังคงหลงเหลืออยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุดเขาก็เพิ่งกลับมาบริษัทเป่หมิงอีกครั้ง
เรื่องราวภายในมีเรื่องที่สับสน เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ
มีความคิดเดียวก็คือ ประจบ
พวกเขาต่างก็พากันหยิบอั่งเปาหนาๆ(มีเงินเยอะ)ในมือของตัวเอง เหมือนโยนมันเทศที่ร้อนๆอยู่ในมือออก วางไว้บนโต๊ะสีแดงที่ไม่ไกลจากประตู
หยินปู้ฝันก็เข้าใจมารยาทบางส่วน ถึงแม้ในใจไม่อยากได้แต่ก็ไม่อยากไปทำให้คนอื่นเสียหน้า
ก็เลยต้องรับไว้ชั่วคราว แล้วก็ขอบคุณพวกเขาทีละคนด้วย
แอนนิก็รู้จักขนบธรรมเนียมมาก ยืนเคียงข้างอยู่ข้างกายหยินปู้ฝัน ขอบคุณด้วยกัน
“พ่อปู้ฝัน คนพวกนี้น่าเบื่อจัง” หยางหยางขมวดคิ้ว ตอนนี้เขากำลังใส่อารมณ์เพราะความหิว
คนส่วนใหญ่รู้จักแค่หยินปู้ฝันกับเป่หมิงโม่ แต่น้อยคนที่จะรู้จักคุณชายน้อยของตระกูลเป่หมิง
ฟังที่เขาบ่นแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกโกรธเลย
สาเหตุเพียงแค่พวกเขารู้ว่าเจ้าตัวเล็กคนนี้อยู่ที่นี่ แน่นอนว่าต้องมีความสัมพันธ์กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้ แล้วยังเรียกหยินปู้ฝันว่า “พ่อ”
หรือว่าพวกเขา “ถูกบังคับให้แต่งเพราะมีลูกแล้ว” ?
สีหน้าจุดเล็กจุดน้อยที่แสดงออกมาอย่างไม่ปกติของคนอื่น หยินปู้ฝันทำไมถึงจะไม่รู้สึก
การช่างสังเกตและพิจารณามันเป็นทักษะของทนายอยู่แล้ว
“เหอเหอ นี่คือลูกบุญธรรมของผม” มือข้างหนึ่งของเขาวางบนไหล่ของหยางหยาง
ที่แท้ พอผ่านการอธิบายแบบนี้แล้ว คนที่มาสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นปกติ แล้วรีบแก้ตัวทันที “พวกเราไม่ได้หมายถึงแบบนี้ แค่รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กคนนี้คล้ายๆคนๆนึง ฉันต้องเคยเจอที่ไหนแน่ๆ……”
ผู้ชายท้วมๆสวมชุดสูทคนนึง พูดไปแล้วเบียดมาข้างหน้า
คนที่มาหยินปู้ฝันไม่รู้จัก แค่เห็นว่าเป็นผู้ชายอายุน่าจะสี่สิบขึ้นไป
ฟังจากน้ำเสียงดูแล้วก็ไม่ใช่คนถิ่นนี้
คนที่มาเป็นแขกทั้งนั้น หยินปู้ฝันก็ไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัด
ผู้ชายคนนี้เดินมาตรงหน้าเขา หยิบนามบัตรออกมาจากกระเป่าเสื้อและยื่นให้หยินปู้ฝัน “ทนายหยิน ผมเป็นหัวหน้าสำนักงานกฎหมายxxx”
“นี่คือครั้งแรกที่พวกเราพบกัน” หยินปู้ฝันรับนามบัตร พร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงอ่อนโยนมาก
“อ้อ ใช่ครับ เพียงแต่ชื่อเสียงของท่านผมได้ยินมานานแล้ว ผมมาในครั้งนี้มีสองเป้าหมาย หนึ่งคือมาอวยพรงานแต่งของท่าน สองคืออยากคุยเรื่องความร่วมมือของเรื่อง…….”
การพูดคุยของผู้ใหญ่ แต่ไหนแต่ไรหยางหยางไม่ชอบฟังอยู่แล้ว เขาเอามือที่วางอยู่บนไหล่เขาออกไป
คนพวกนี้น่าเบื่อจริงๆ โดยเฉพาะคนที่กำลังพูดอยู่
ท้องก็หิวจริงๆ เขาก็ไม่ได้ทักทายหยินปู้ฝันกับแอนนิ ร่างเล็กๆแวบเข้าไปในกลุ่มผู้คน
ในที่สุดก็เบียดออกไปจนได้
เรือลำนี้ไม่เล็กเลยจริงๆ บนล่างสามชั้น ห้องหลากหลายนับไม่ถ้วน
ที่สำคัญในเรือเต็มไปด้วยคน แทบจะไม่มีว่างแม้แต่ห้องเดียว ส่วนใหญ่พวกเขาก็นั่งจับกลุ่มคุยเล่นกันหลายๆคน
รอถึงกู้ฮอนพวกเขา อีกอย่างพวกหยินปู้ฝันพบว่าหยางหยางไม่ได้อยู่กับตัวเองที่นี่แล้ว นี่ก็เป็นช่วงที่แตรเสียงดังสองสามครั้งแล้ว เรือจะออกจากท่าฝั่งแล้ว
“พวกเธอรู้มั้ยหยางหยางไปไหนแล้ว?” ท่าทางของกู้ฮอนที่ตื่นตระหนกถามเฉิงเฉิงกับจิ่วจิ่ว
เด็กสามคนนี้จะอยู่ด้วยกันตลอด เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้
“พี่หยางหยางบอกว่าหิวแล้ว น่าจะไปหาของกินแล้วมั้ง” จิ่วจิ่วพูด
กู้ฮอนยกมือมองดูนาฬิกา ตั้งแต่ขึ้นเรือมาเวลาก็ยังไม่นานมาก แต่ว่าเธอนึกขึ้นได้รายละเอียดตอนกินอาหารมื้อเช้าทันที
เจ้าเด็กคนนี้ปกติเป็นคนกินเยอะมาตลอด แต่วันนี้กลับกินน้อยมาก
ตัวเองก็เคยถาม คำตอบของเขาคือ “วันนี้เป็นงานแต่งของพ่อปู้ฝัน ต้องมีของอร่อยๆให้กินเยอะแน่เลย ผมจะเก็บท้องไว้”
พอนึกถึงตรงนี้ เธอถอนหายใจเบาๆ
เดี๋ยวนี้เรือก็ออกแล้ว ไม่ควรให้เขาวิ่งไปวิ่งมาอยู่ตรงนี้ ถ้าหากก่อเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นมา ก็คงขายหน้าคนแย่เลย?
โดยเฉพาะเธอก็ดูออก แขกที่มาแต่ละคนฐานะตำแหน่งก็ไม่ธรรมดา แค่พวกเขาหัวเราะก็ไม่ว่า แต่อาจเสียหน้าไปถึงตระกูลเป่หมิง
ผู้ชายที่รักหน้ารักตาอย่างเป่หมิงโม่ คงให้หยางหยางรับโทษในสิ่งที่ทำลงไปแน่
“น้าหรูเจี๋ย พ่อบุญธรรมฉันพาลูกไปออกไปหน่อยนะคะ”เธอแอบมองไปที่เป่หมิงโม่ เห็นเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไร น่าจะไม่ได้ยินเรื่องที่เมื่อกี้ตัวเองกับลูกๆที่พูดคุยกัน
ถ้างั้นก็ดีมากจริงๆ ก่อนที่หยางหยางเจ้าตัวยุ่งจะก่อเรื่องต้องหาเขาให้เจอก่อน ให้เรื่องทุกอย่างหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรือท่องเที่ยวหรูหราลำนี้สามารถรองรับคนได้เป็นร้อย จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะบอกว่าเล็กก็ไม่เล็ก
มีห้องหลากหลายทุกรูปแบบ การตกแต่งก็ดูหรูมาก
คนไปๆมาๆมีแทบทุกมุมของเรือ
ณ วินาทีนี้ เรือออกห่างจากฝั่งไกลเข้าไปทุกที เป้าหมายมุ่งไปทางไกลลึกๆของทะเล ภาพที่ทะเลสีฟ้ากับสีฟ้าของท้องฟ้าติดกัน
หยางหยางเจ้าตัวยุ่งนี่ก็ว่างไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ก็เหมือนกับลิงที่ออกจากกรง หลายสิ่งหลายอย่างที่ล่อตาล่อใจดึงดูดสายตาเขาหมด เท้าเล็กๆนั้นก็ไม่เคยหยุด
มนุษย์ที่แต่งตัวดูดีบนเรือทั้งหลาย สำหรับเด็กที่วิ่งไปวิ่งมาของเจ้งยุ่งนี่ ก็วางท่าที่แสดงออกมาอย่างใจกว้าง
ในใจพวกเขาก็เข้าใจอย่างดี นอกจากพนักงานที่ใส่ชุดแล้ว สามารถปรากฎตัวอยู่ตรงนี้ ก็คงมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอยู่
โดยเฉพาะเด็กแบบนี้ ถึงแม้เสื้อผ้าที่ใส่ไม่แพงมาก แต่ก็ไม่กล้ายุ่งเรื่องวุ่นวายกับเขา
ถ้าเกิดพ่อเขาเป็นคนใหญ่คนโตขึ้นมาล่ะก็……
“เจ้าเด็กน้อย วิ่งช้าๆหน่อย หนูอยากหาอะไร ฉันพาหนูไปมั้ย?
บางทีหยางหยางมักจะได้ยินเสียงทักทายที่เต็มไปด้วยความเมตตา
แต่ว่าหยางหยางไม่ได้ตอบรับพวกเขา หยางหยางเองก็ยังคงห่วงแต่ค้นหาต่อไป
กู้ฮอนอุ้มจิ่วจิ่ว จูงเฉิงเฉิงค้นหาต่อ หลังจากหาไปหลายที่แล้ว เริ่มรู้สึกยิ่งอยู่ยิ่งกังวล
อยู่ในเรือนี้ลูกชายตัวเองคงวิ่งไปไม่ไกล
แต่ว่าที่นี่ก็มีจุดที่อันตรายอยู่
โดยเฉพาะดาดฟ้าชั้นบนสุด และไม้ที่กั้นก็แทบจะกันเด็กไม่ได้
“หม่ามี๊ ไม่ต้องรีบ พี่หยางหนาง พวกเราจะต้องหาพี่เจอ” จิ่วจิ่วดูออกว่าหม่ามี๊คิดอะไรอยู่ เธอคอยปลอบโยนหม่ามี๊
กู้ฮอนลูบแก้มเธอเบาๆ เหมือนโอ๋เด็กผู้หญิง
ตอนที่เฉิงเฉิงกำลังหาอยู่นั้น สมองน้อยๆของเขาคิดไม่หยุด เขาเงยศีรษะพูด “หม่ามี๊ พวกเราไปหาพ่อปู้ฝันเถอะ ไม่แน่หยางหยางอาจอยู่ที่นั่น”
ประโยคเดียวเตือนสติกู้ฮอน ถึงแม้จะคล้ายกับรู้สึกเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ลองไปดู
พูดตามจริง หลังจากขึ้นเรือวันนั้น พวกเขาก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลยสักครั้ง
ไม่รู้จริงๆว่าเขาแอบทำเรื่องอะไรเวอร์เกินไปอยู่
ยัยคนนี้ บางครั้งก็ทำในสิ่งที่ทำให้คนเซอร์ไพรส์ออกมาได้
เพียงแต่ว่า ไปหาพวกเขาที่ไหนล่ะ?
หลังจากที่กู้ฮอนกำลังสอบถามพนักงานบริการที่ผ่านมาหลายคน ในที่สุดก็หา ‘ห้องหอ’ ของหยินปู้ฝันเจอ
เวลานี้โรงเรือถึงจะกลับมาเงียบอีกครั้ง
โต๊ะเล็กๆนั่น อั่งเปาครู่เดียวก็กองเท่าภูเขาเล็กๆ
ไม่ต้องพูด เงินพวกนั้นล้วนแต่เป็นเงินก้อนใหญ่ แต่หยินปู้ฝันกับแอนนิท่าทางที่มองพวกมันกลับไม่ปีติยินดีสักนิด
นี่มัน ‘ทรัพย์สมบัติล่ำค่า’ ซะที่ไหนกัน แต่เป็น ‘หนี้บุญคุณคน’ต่างหาก
โดยเฉพาะคนที่ให้อั่งเปาส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่รู้จัก แถมยังไม่เข้าใจพวกเขาว่านิสัยใจคอเช่นใด
รับแล้ว ใครจะไปรู้ว่าภายหลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรรออยู่ แต่ถ้าไม่รับ แล้วพวกนี้จะจัดการยังไงถึงจะดี…..
ปัญหานี้ทำให้คนปวดหัวจริงๆ
“ปู้ฝัน…”
“พ่อปู้ฝัน…”
เสียงของกู้ฮอนกับลูกทำให้หลุดจากความกลุ้มใจที่อยู่ตรงหน้าชั่วขณะ
“ฮวน เฉิงเฉิง จิ่วจิ่ว พวกคุณหาที่นี่เจอได้ยังไง เมื่อกี้หยางหยางก็มา”
ระหว่างแอนนิพูดก็เดินไปทางพวกเขาสามหม่ามี๊ลูก
หยางหยางไอ้เด็กนี่ทำให้คนเป็นห่วงจริงๆ
แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเพียงแค่ครู่เดียว แต่เขาก็สามารถทำเรื่องที่ไม่คาดคิดได้
“ไม่รู้จริงๆว่าเด็กนี่มันเหมือนใคร มันช่างน่าทำให้คนเป็นห่วงจริงๆ”
กู้ฮอนโกธรแล้วจริงๆ
“ฮวน อย่าโทษเขาอย่างนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่จะมีชีวิตชีวาแม้ว่ามันจะทำให้คนกังวลเล็กน้อย แต่พื้นเพก็ไม่แย่ แต่มันเป็นเพียงความอยากรู้อยากเห็นมากกว่า พวกเราไปช่วยคุณหาเขาด้วยกันเถอะ” แอนนิปลอบกู้ฮอน เธอหันไปมองสามีของเธอ “คุณเตรียมตัวที่จะอยู่ที่นี่หรอ หรือว่าจะไปหากับพวกเรา?”
เวลานี้การแสดงออกของเธอกลับไม่ได้อายเหมือนเมื่อก่อน
“ผมก็ไปหากับพวกคุณแล้วกัน เรือลำนี้ก็ไม่ได้ใหญ่ ครู่เดียวก็น่าจะหาเขาเจอ” จริงๆหยินปู้ฝันก็ตำหนิตัวเองเล็กน้อย ไม่ว่าจะพูดยังไง การที่หยางหยางหายตัวไปอีกครั้งหายตรงที่ของเขา ยิ่งไปกว่านั้นการควบคุมขั้นตอนงานแต่งนี้ ไม่ใช่อยู่ในมือเขา
ตั้งแต่ขึ้นรถคันนั้นแล้ว ก็เป็นฟ้าลิขิตไปแล้วล่ะ
ไอ้เป่หมิงโม่ ยังไม่ได้ผ่านการยินยอมจากตัวเองก็ทำเรื่องใหญ่ออกมาขนาดนี้ ทำให้เตรียมตัวไม่ทัน ตอนนี้คงต้องให้เขาลำบากหน่อยแล้ว
แม้ว่านี่จะยังคงเป็นงานแต่งงานในนามของพวกเขา แต่ในใจลึกๆนั้น หยินปู้ฝันกับแอนนิ ก็ไม่สนใจรูปแบบนี้อีกต่อไป
“คุณชายหยิน คุณนายหยิน ตอนนี้พวกคุณออกไปไม่ได้”
ตอนที่พวกเขาเตรียมตัวไปหาหยางหยาง กลับถูกคนเฝ้าประตูยื่นมือมาขวางไว้
“ตอนนี้พวกเรามีธุระด่วน ต้องรีบทำให้เสร็จ เชิญคุณหลีกไป” หยินปู้ฝันพูด ส่งตายตาให้พวกกู้ฮอน บ่งบอกว่าให้ออกไปก่อน