เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 1118 เซอร์ไพรส์
บทที่ 1118 เซอร์ไพรส์
นักบวชพยักหน้า จากนั้นก็ยื่นคัมภีร์ไบเบิลส่งให้ข้างหน้าแอนนิ “คุณผู้หญิงแอนนิ คุณยินยอมที่จะแต่งกับคุณผู้ชายหยินปู้ฝันที่อยู่ข้างๆไหม ให้เขากลายเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะแข็งแรงหรือเจ็บไข้ มีความสุขหรือเศร้า คุณจะไม่ทอดทิ้งเธอ จากเธอไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
“ฉัน ฉันยินยอม” น้ำเสียงแอนนิสั่นเล็กน้อย ความรู้สึกของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ตอนที่พูดว่า “ฉันยินยอม” ในหัวปรากฎเรื่องราวที่ผ่านๆมา
ความดีใจ ความเศร้า….
แต่สุดท้ายก็ถูกผู้ชายข้างกายเธอแทนที่หมดแล้ว
ในขณะนี้สิ่งที่เธอรู้สึกคือความสุขที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากส่วนลึกของหัวใจเธอ
นักบวชยิ้มแล้วพยักหน้า “ดี ตอนนี้ผมจะประกาศว่าคุณหยินปู้ฝันและคุณแอนนิเป็นคู่รักที่ถูกต้องตามกฎหมายในนามของพระบิดาพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์!”
“ฮวา…”เสียงโปรยลงมา ทั้งสนามกลายเป็นเสียงปรบมือที่ครึกครื้น
กู้ฮอนแอบเหล่ตามอง เห็นแม่ของหยินปู้ฝันและหวีหรูเจี๋ยน้ำตาคลอเบ้าแล้ว
“โอเค คุณชายหยินปู้ฝัน ตอนนี้คุณสามารถจูบภรรยาคุณได้แล้ว” นักบวชเก็บคัมภีร์
งานแต่งของหยินปู้ฝันและแอนนิ ทำตามขั้นตอนตามปกติ บนใบหน้าของทุกคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความปีติยินดี
นักบวชมองไปที่สามีภรรยาคู่ใหม่ที่อยู่ตรงหน้าแล้วยิ้ม “ตอนนี้สองท่านแลกเปลี่ยนแหวนกันได้แล้ว”
หยินปู้ฝันหยิบแหวนทองคำขาวและเพชรที่ติดอยู่ที่หน้าอกของเขามานาน จับมือแอนนิเบา ๆ “โปรดเชื่อใจผม นี่คือคำมั่นสัญญาในชีวิตของผมที่มีต่อคุณ”
พูดจบ แหวนก็ค่อยๆถูกสวมเข้าบนนิ้วมือเธอ
น้ำตาของแอนนิในดวงตาสั่นคลอ เธอมองไปที่สามีของเธอแล้วพยักหน้าแรง ๆ เธอเชื่อมั่นในตัวผู้ชายคนนี้ และเชื่อในตัวเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอพบเขา
ความรู้สึกนี้อาจเป็นความรู้สึกของรักแรกพบ เขาเป็นคนที่พาตัวเองจากชีวิตที่มืดมนไปสู่อีกโลกที่เต็มไปด้วยสีสัน และเธอก็เชื่อมั่นมาก ว่าพวกเขาจะดำเนินต่อไปอย่างมีความสุขจนกว่าชีวิตจะหาไม่
หลังจากที่สวมแหวนให้ภรรยาเขาแอนนิเสร็จ หยินปู้ฝันยังเอาใจใส่เธอเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาบนใบหน้าเธอ
เวลานี้ กลุ่มคนแยกตัวออกจากตรงกลาง หลีกออกให้เป็นทางเดินตรงไปถึงห้องหอของเจ้าบ่าวเจ้าสาว
เห็นแต่กัปตันเรือพวกแล้วเดินมาทางพวกเขา สองมือเขาเข็นรถเข็นเล็กๆสีทองมา ด้านบน คือจานขนาดใหญ่ที่ปิดด้วยฝาโค้งที่แวววาวไม่แพ้กัน
หยางหยางเห็นอันนี้ อดไม่ได้ที่คิวจะเต้นไปเต้นมา ดูเหมือนเขาจะรู้สึกบางอย่างที่ไม่ปกติ ร่างกายเล็กๆของเขาค่อยๆถอยกลับไป
แน่นอนสายตาทุกคนจับจ้องไปที่รถเข็นคันนั้น กู้ฮอนก็ไม่ได้สนใจลูกชายตัวน้อยที่ผิดปกติ
รวดเร็วมาก กัปตันเรือกับรถเข็นของเขาถึงที่เรือนกระจกแล้ว “คุณชายหยิน คุณนายหยิน เพื่ออวยพรคู่สามีภรรยาทั้งสองท่าน ฉันเป็นตัวแทนของแขกบนเรือทุกท่านขอมอบคำกำชับที่จริงใจที่สุด
ในขณะที่เขาพูดก็ค่อยๆฝาโลหะขึ้น “เซอร์ไพรส์….”
……
“ออ!”
เมื่อของที่อยู่ในจานถูกแสดงให้กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าได้เห็น มีก็แต่เพียงเสียงอุทานเบาๆกับเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากกัปตันเรือ
ใบหน้าของหยินปู้ฝันกับแอนนิก็ค่อยๆชะงัก
เห็นแต่จานที่เดิมมีเค้กแต่งงานอวยพรสี่ชั้นวางอยู่ บนยอดก็ยังมีหุ่นจำลองคู่รักหนึ่งคู่
แต่ว่าตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นเค้กที่เต็มไปด้วยรูพรุน คู่รักใส่ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ล้มลงอีกฝั่ง…
กระทั่งด้านบนยังมีของเล็กๆที่ออกมาจากบนตกลงมา หล่นลงไปที่เท้าของหยินปู้ฝัน
โดนคนทำให้เป็นอย่างนี้ตั้งนานแล้ว
ยังดี กัปตันเรือมีประสบการณ์มาก เขารีบเอาฝามาปิดใหม่ “คุณชายหยิน คุณนายหยินขอโทษจริงๆ ผมหยิบมาผิด”
พูดจบเขาก็รีบกลับตัวเข็นรถเข็นออกไปจากสถานการณ์ตอนนี้
ดูแล้วนี่จะเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ใหญ่ของงานแต่งจริงๆ
“แม่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” จิ่วจิ่วยังถามอย่างแปลกใจ เหมือนกับที่สีหน้าของกู้ฮอนเปลี่ยนเล็กน้อย
แน่นอน เธอไม่เห็นว่าในตอนนี้แม่ของตัวเองมีสีหน้าอย่างไร ยิ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ใหญ่พวกนี้ เพียงแต่ยังกระพริบตาโตอย่างแปลกใจมองไปยังหยินปู้ฝันที่ยืนอยู่ไม่ไกล
เมื่อตอนที่เห็นเค้กที่ผุพังไปหมด ในใจของหยินปู้ฝันก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ ในเมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญของตัวเอง เจอสถานการณ์แบบนี้เป็นเรื่องน่าอายราวกับถูกคนเอาน้ำเย็นมาสาด
แน่นอน เขาเชื่อว่าที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ขึ้น ไม่ใช่เหตุการณ์ที่มีคนตั้งใจวางแผนทำขึ้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
กับตันเรือกับทุกคน “เซอร์ไพรส์” เดิมงานแต่งที่เต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้ง แต่กลับทำให้ผู้คนไม่เข้าใจ แถมมี “ภาพเบื้องหลัง” แบบไม่คาดคิดเกิดขึ้น
สิ่งเดียวที่แน่นอนก็คือนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่เป็น ‘อุบัติเหตุ’ ที่แม้แต่เขาเองก็นึกไม่ถึง
กัปตันเข็นเค้กที่พังกลับโรงเก็บของในเรือ จิตใจเขากระสับกระส่ายอยู่ไม่เป็นสุข
เขารู้ดีว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อตัวเองและเรือของเขาเป็นอย่างไร
เรื่องนี้กลับไม่ได้ทำให้หยินปู้ฝันโกธรเป็นฟืนเป็นไฟ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เอามาเป็นเรื่อง
นี่เป็นงานแต่งงานที่ไม่ได้เป็นของเขาและภรรยา หรูหรา สง่างาม … คำคุณศัพท์พวกนี้ ทำให้คนอิจฉาที่เดิมทีก็ไม่ได้เป็นของพวกเขา
แต่ เขาก็ยังสนใจถึงของที่ตกลงมาข้างๆเท้าเขา
เขายิ้มให้กับดาดฟ้าที่เงียบสงัด “เซอร์ไพรส์ วันนี้ผมดีใจมากที่ทุกคนมาร่วมงานแต่งของผม ในนี้คือเพื่อนร่วมงานอาชีพเดียวกัน ยังมีญาติสนิทมิตรสหายของผม ผมขอขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจที่พวกคุณมาที่นี่ ในขณะที่พวกคุณกำลังงานยุ่ง บนโลกนี้การใช้ชีวิตของพวกเราไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่าง มักจะมีความรู้สึกเสียดายที่ขาดหายไป หรือมีข้อบกพร่องอยู่ในนั้น เช่น งานแต่งนี้ แต่ว่า ผมกลับไม่คิดว่านี่คือข้อบกพร่อง แต่คือจุดประกายแสง มันบอกความจริงกับผมอย่างนึง ชีวิตแต่งงานที่มีความสุขต้องการการเอาใจใส่และความทะนุถนอมซึ่งกันและกัน และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะเข้ามาเกี่ยวข้อง การแต่งงานของผมเป็นแบบนี้ และในขณะเดียวกันผมก็ส่งคำอวยพรให้แขกทุกคน ไม่ว่าจะแต่งงานแล้วหรือยังไม่ได้แต่งงาน ต้องทะนุถนอมคนที่ปรากฎตัวอยู่ข้างๆตัวเราทุกคน ขอบคุณ”
“แปะแปะ….”
หลังจากที่เสียงเงียบลง คนอื่นๆยังขบคิดคำพูดพวกนี้ของหยินปู้ฝัน มีเพียงคนเดียวที่ปรบมือให้เขา
หยินปู้ฝันตามหาเสียงแล้วมองไป เป็นเป่หมิงโม่ที่ยืนอยู่ข้างหลังหวีหรูเจี๋ย
เขายังคงใส่แว่นกันแดดตอนขับรถ แถมสีหน้าก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่ว่าหยินปู้ฝันกลับรู้สึกได้ถึงว่าเขาปรบมือให้ตัวเขาออกมาจากใจ
หลังจากพวกเขาสบตากัน หยินปู้ฝันพยักหน้าแล้วยิ้ม แสดงถึงการขอบคุณ
คนอื่นๆก็ปรบมือตามเป่หมิงโม่
ทั้งดาดฟ้ากลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน โปรดเพลิดเพลินไปกับวิวทะเล และอาหารที่อร่อยๆเถอะ”
หลังจากที่หยินปู้ฝันพูดจบ ลูกเรือจัดเตรียมกระบวนการเรื่องก่อนหน้า ถอยทีละคนรถเข็นที่เต็มไปด้วยสิ่งดีๆมาถึงบนดาดฟ้าแล้ว
ดูไปแล้วพวกเขาไม่น่ากระทบกระเทือนที่เมื่อกี้ตอนกัปตันเรือทำเรื่องละอายต่อหน้าผู้คน แต่ว่าในใจของพวกเขา ก็ยังคงไม่สบายใจอยู่บ้างเล็กน้อย
สาเหตุเป็นเพราะมารยาท พวกเขาไม่ได้แอบไปตรวจสอบอาหารที่เข็นมาว่ามีปัญหาอะไร
ได้รับผลกระทบเหมือนกัน ยังมีพวกแขก
อาหารที่ถูกปิดฝาตรงหน้าพวกเขา เลยไม่ได้ลงมือสักที
จนกระทั่งฝาสีทองถูกเปิด ทุกคนถึงจะสบายใจได้จริงๆ
มองดูพวกแขกต่างรวมตัวกันสองสามคน ทั้งดื่มเหล้า หรือว่าพูดคุย
หยินปู้ฝันถึงจะก้มตัวลงไปหยิบของเล็กๆที่อยู่ข้างๆเท้า
นี่คือโมเดลที่เล็กมากๆ ยังไม่ใหญ่กว่าหมากรุกสากล แต่ดูเหมือนเขาจะรู้แล้ว เบื้องหลังของมือดีที่ทำเรื่องนี้ออกมา
“เอ๋? หยางหยางวิ่งไปไหนอีกแล้ว?”
ตอนที่กู้ฮอนกำลังเตรียมไปตื้อหวีหรูเจี๋ยกับเป่หมิงโม่เพื่อไปกินข้าว ถึงจะรู้ว่าหยางหยางหายไปอีกแล้ว
หยางหยางหายตัวไปอีกแล้ว ทำให้กู้ฮอนรู้สึกได้ถึงความกระวนกระวาย เป็นไปได้ที่เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อกี้ที่เกิดขึ้น
อย่างนี้เรียกว่า “ไม่มีใครรู้จักลูกดีกว่าแม่”
เวลานี้หยินปู้ฝันจูงมือแอนนิ มาถึงข้างๆแม่ตัวเองไปรวมตัวครอบครัว
“ขอโทษจริงๆ ที่เมื่อกี้ถูกหยางหยางทำให้เรื่องกลายเป็นอย่างนี้” กู้ฮอนมองเขาด้วยสีหน้าที่ขอโทษ
ในฐานะที่พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้ว่าเด็กสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกเขาก็ไม่เห็นว่าแปลก แต่ในเมื่อครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต พูดอย่างไม่โอเวอร์เกินไป เป็นไปได้มากที่ในชีวิตนี้จะไม่มีวิธีไหนมาทดแทนความรู้สึกที่ขาดไปได้
แน่นอนแอนนิยังคงแอบทำเป็นไม่รู้เรื่อง ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ สุดท้ายเหตุและผลคือเป็นมายังไงยังเหมือนหลบอยู่ในเมฆ เพียงแต่รู้สึกว่าอีกเรื่องแล้วก็อีกเรื่อง เธอค่อยๆยิ้ม “ไม่เป็นไร เด็กซุกซนนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ คุณไม่ต้องเก็บมาใส่ใจหรอก”
เธอคิดว่ากู้ฮอนพูดอย่างนี้ หมายถึงเรื่องที่หยางหยางวิ่งไปทั่ว เธอรู้ที่ไหนว่าที่กำลังพูดจะทำให้กัปตันเรืออยู่ในสถานการณ์คับขัน รวมถึงวินาทีที่เงียบสงบในช่วงสั้นๆ
“แม่อะ ฉันไม่กล้าอีกแล้ว…”
ตอนที่หยางหยางร้องขึ้นว่าอีกครั้ง ในระหว่างทางที่พวกเขานั่งรถกลับบ้านแล้ว
ไอ้เด็กนี่นอกจากทำให้ตัวเองอึดอัดและยังก่อเรื่องแล้ว ก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตัวเองต้องหมดห่วงด้วย
จิ่วจิ่วนั่งที่ตำแหน่งผู้ช่วยนักบิน หันหลังกลับมา ครึ่งนึงเพราะกลัว อีกครึ่งเป็นกังวลอยากหันกลับไปมอง
กู้ฮอนนั่งอยู่ตรงระหว่างเด็กสองคน เธอดึงหูของหยางหยางไม่ปล่อย
หยางหยางเจ็บจนกัดฟันแตกปากฉีก บนหน้ายังมีน้ำตาสองสามหยด
เฉิงเฉิงนั่งอยู่อีกฝั่ง ในฐานะที่เป็นพี่ชาย เขาควรที่จะเคร่งครัดต่อหน้าที่พูดแทนหยางหยางพูดสักสองสาม
ประโยค แต่ว่าแน่นอนเขาฉลาดมาก ในเวลาอันสั้นก็เข้าใจแล้วว่าที่แท้โกรธเพราะอะไร เธออดทนตั้งแต่บน
เรือจนถึงตอนนี้ ถึงว่าเกรงใจหยางหยางแล้ว
ไอ้หยางหยางนั่นสามวันก็ไม่ทำแล้วจริงๆ โดยเฉพาะตอนดื้อรั้น เจอกับความลำบากบ้างก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยต่อไปก่อนจะเกเรจะได้นึกถึงผลที่จะตามมาในภายหลังบ้าง
แต่เป่หมิงยันขับรถ สีหน้ายังคงไร้ความรู้สึกอยู่อย่างนั้น เรื่องวันนี้ฉันรู้สึกว่าไม่สามารถโทษหยางไปหมด”
เดิมกู้ฮอนก็โกรธอยู่แล้ว ได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ก็ยิ่งเติมไฟเข้าไปอีก
เธอปล่อยมือออก “เป่หมิงโม่ แต่งานแต่งงานนี้เป็นงานแต่งของลูกพี่ลูกน้องแล้วเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณนะ พวกเขาอุตส่าห์ทำงานออกมาใหญ่โตขนาดนี้ เกือบพังเพราะลูกคุณแล้ว คุณไม่สั่งสอนลูกคุณสักประโยค กลับช่วยพูดให้เขา เมื่อก่อนคุณเย็นชากับลูกไม่ใช่หรอ ทำไมวันนี้เปลี่ยนเป็นพ่อพระได้”
แน่นอน ที่นางพูดไม่มีปัญหาอะไรเลย ระหว่างทางที่กลับ เขาดูผิดปกติไป
“คุณยังกล้าพูดว่าเป็นเพื่อนที่นี่กับไอ้หยินปู้ฝันกับแอนนิ สำหรับพวกเขาคุณรู้จักเขาน้อยไปแล้ว”