เดิมพันรักยัยตัวแสบ - เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 955 อิทธิพลอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง
- Home
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ
- เดิมพันรักยัยตัวแสบ - บทที่ 955 อิทธิพลอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง
บทที่ 955 อิทธิพลอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง
แบบที่สองก็คือปัญหาเรื่องผู้หญิง ข่าวลือประธานจินของบริษัทเซิ่งถังนานาชิตนั้นยังสามารถขุดออกมาได้ เหล่านักข่าวในฐานะสื่อมวลชนก็สามารถขุดหาเบาะแสออกมาได้แน่นอนเช่นกัน โดยอ้างอิงจากข่าวซุบซิบที่เล่าสืบต่อกันมาแต่ก่อนเกี่ยวกับผู้อำนวยการโกวท่านนี้ แน่นอนว่าผู้อำนวยการโกวดูเหมือนจะชื่นชอบประธานคนใหม่ของบริษัทเป่หมิง ในเวลาเดียวกันเป่หมิงโม่ก็ได้รับข่าวนี้ ดังนั้นเขาจึงได้ลงไม้ลงมืออย่างหนักกับผู้อำนวยการท่านนี้
เป่หมิงยี่เฟิงนั่งฟังเรื่องที่เหมือนกับนิทานอยู่ด้านข้าง เหล่านักข่าวนั้นได้ฟังข่าวลือเพียงแค่นิดเดียวก็สามารถบรรยายได้เกินกว่าความเป็นจริงแล้ว สรุปจากเรื่องหนึ่งให้เป็นอีกเรื่องหนึ่งได้ ความสามารถในการสร้างเรื่องจากที่ไม่มีเรื่องนั้นสูงมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
สำหรับความเป็นไปได้ของรูปแบบแรกนั้น เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่สไตล์ของเป่หมิงโม่ แม้ว่าฝ่ายนั้นจะเป็น ‘พวกโลภมาก’ เขาก็ไม่เห็นด้วยและจะไม่ใช้การลงไม้ลงมือในการแก้ไข้
ส่วนรูปแบบที่สองนั้น…..เป่หมิงยี่เฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย เนื่องจากเป่หมิงโม่ทำพฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผลเพราะเรื่องของกู้ฮอนจริงๆ การลงไม้ลงมือก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยากเช่นกัน เขาไม่สนใจหรอกว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนที่อยู่ในสถานะอะไร
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เป่หมิงยี่เฟิงก็รีบเรียกเลขาของตัวเองให้ตรวจสอบว่าเมื่อวานนี้ทางด้านกู้ฮอนมีทำเรื่องอะไรเทือกนี้หรือไม่
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า เลขาก็โทรศัพท์มาบอกเขาว่า เมื่อวานกู้ฮอนได้รับการ์ดเชิญ ทั้งยังออกไปข้างนอกอย่างรีบร้อนคนเดียวหลังจากที่เป่หมิงโม่ปรากฏตัวขึ้นได้ไม่นานด้วย
อีกทั้งเธอยังได้รับรู้จากผู้รับผิดชอบลงทะเบียนจดหมายเข้าออกมาด้วยว่า เมื่อวานในบรรดาการ์ดเชิญที่ให้กับกู้ฮอนไป หนึ่งในนั้นส่งมาจากภาครัฐด้วย
เป่หมิงยี่เฟิงได้ยินข่าวนี้แล้วก็รู้สึกตะลึงค้าง หรือว่าเป่หมิงโม่ชกต่อยคนเพราะกู้ฮอนจึงถูกจับ
คนที่ตะลึงค้างเช่นเดียวกันกับเขาก็คือถังเทียนจื้อ
*
ถังเทียนจื้อออกมาจากห้องทำงานของเป่หมิงยี่เฟิงแล้ว ก็หาห้องเงียบๆห้องหนึ่งต่อสายโทรศัพท์หาหลี่เชิน “อาจารย์ครับ ทางฝั่งผู้อำนวยการแซ่โกวมีเรื่องยุ่งยากเล็กน้อยครับ”
หลี่เชินที่มือถือโทรศัพท์อยู่ก็คิ้วกระตุกเล็กน้อย “อ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน”
ถังเทียนจื้อนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ กดเสียงลงต่ำเป็นอย่างมาก “สถานการณ์ที่แน่ชัดเป็นอย่างไรผมก็ยังไม่ชัดเจนมากนัก เพียงแต่เมื่อครู่นี้ผมไปหาเป่หมิงยี่เฟิงมา ก็ได้เข้าใจรายละเอียดมาเล็กน้อย เพียงแต่ผมยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ไม่สามารถรับรองได้ว่าที่พูดมานี้เป็นเรื่องจริงครับ” ถัดมา เขาก็เล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้หลี่เชินฟังรอบหนึ่ง
***
หลี่เชินฟังโทรศัพท์ไปพลาง มือหนึ่งก็เขียนๆวาดๆบนกระดาษเซวียนจื่อไปพลาง แต่เมื่อได้ยินว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้อำนวยการโกวท่านนี้จะคิดเลยเถิดกับกู้ฮอน จึงทำให้เป่หมิงโม่ลงมือชกต่อยเขานั้น ปากกาในมือก็สั่นเล็กน้อย
ภาพวาดที่เกือบจะใกล้เคียงกับภาพทิวทัศน์นั้นถูกหมึกสีดำสะบัดแต้มลงไปวงใหญ่
“หึ!” เขาขมวดคิ้ว สีหน้าบนใบหน้าเปลี่ยนไปจนไม่น่าดู
“แก๊ก” เขาเคาะปากกาในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง จากนั้นก็คว้าภาพวาดนั้นขึ้นมาขยำเป็นก้อนแล้วโยนลงไปบนพื้น
“อาจารย์ ได้โปรดอย่าเพิ่งมีโทสะครับ นี่เป็นเพียงแค่ความเป็นไปได้เพียงอย่างหนึ่งเท่านั้น” หลังจากที่ถังเทียนจื้อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากในสายโทรศัพท์ก็รู้ว่าอาจารย์มีโทสะแล้ว
“ตอนนี้นายไปตรวจสอบมาเสียว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถ้าหากว่าเขาทำแบบนั้นจริงๆ อย่างนั้นก็ให้เขาไปจัดการให้เรียบร้อยเอง อีกอย่าง นายไปเตือนเขาว่าอย่าได้มีความคิดแปลกๆอะไรต่อฮอน ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เขารับผิดชอบผลที่ตามมาอย่างแน่นอน!” หลี่เชินเอ่ยอย่างมีโทสะแล้วก็ตัดสายโทรศัพท์ไป
ถังเทียนจื้อเก็บโทรศัพท์เรียบร้อยแล้วก็ขับรถออกจากบริษัทเป่หมิงมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
*
กู้ฮอนนั่งรถแท็กซี่มาถึงโรงพยาบาลและหาห้องพักผู้ป่วยของผู้อำนวยการโกวได้ราบรื่นเป็นอย่างมาก เมื่อมองผ่านบานหน้าต่างบนประตูก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย มือข้างหนึ่งนั้นถูกผ้าก๊อซพันเฝือกอยู่เต็มไปหมด
เห็นถึงตรงนี้ เธอก็แอบกรีดร้องเสียงเบากับตัวเองครั้ง ดี เขาสมควรจะมีจุดจบเช่นนี้
แต่ว่าโกรธก็ส่วนโกรธ ผู้อำนวยการท่านนี้ก็มีมาดไม่น้อยเลยจริงๆ ภายในห้องพักผู้ป่วยมีเพียงแค่เขาที่เป็นผู้ป่วยคนเดียว การตกแต่งในสถานที่แห่งนี้ได้ไม่ด้อยไปกว่าโรงแรมเลย ตู้เย็น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ อะไรที่ควรจะมีล้วนมี ถ้าหากว่าเป็นคนธรรมดาแล้วล่ะก็ เกรงว่าคงจะไม่สามารถพักในห้องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
ตอนนี้ผู้อำนวยการโกวกำลังนอนอยู่โทรศัพท์อยู่บนเตียง มือที่เข้าเฝือกข้างนั้นของเขาใส่ไว้งั้นๆ ที่จริงแล้วเขาแค่ถูกเป่หมิงโม่ทำให้ข้อต่อแขนหลุดเท่านั้นเอง ถึงโรงพยาบาลแล้วคุณหมอก็ต่อกลับให้เขาอย่างรวดเร็ว
เขาทำแบบนี้ อย่างแรกก็เพราะอยากหาโอกาสพักผ่อนสักหลายวัน อย่างที่สองเมื่อวานนี้เขาเพิ่งจะได้รับรู้ว่าที่แท้แล้วคนที่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้แบบนี้ก็คือเป่หมิงโม่ที่เป็นประธานบริษัทเป่หมิงคนก่อน จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวจนตัวสั่น เพียงแต่เขาก็เป็นคนของทางการ เผชิญหน้ากับอดีตประธานบริษัทคนหนึ่งมีอะไรต้องกลัวกัน เพียงแค่ใช้สิทธิอำนาจที่ตัวเองมีกับเขาเล็กน้อย เช่นนั้นเขาก็จะถูกตีจนไม่มีวันที่จะพลิกกลับมาได้อีก
เช้าตรู่วันนี้ ทางตำรวจก็ได้มาสอบสวนและรวบรวมหลักฐานกับเขาแล้ว แน่นอน เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องน่าอับอายที่ตัวเองได้ทำ เพียงแต่เน้นไม่หยุดว่าตัวเองอยู่ดีๆก็ถูกเป่หมิงโม่ต่อยอย่างไร้เหตุผล
แน่นอน คนที่ทำให้เขามีความกล้าที่จะพลิกผิดเป็นถูกก็ยังคงต้องอาศัยเหล่าผู้คนที่อยู่เบื้องหลังและเหล่าข้าราชการมากมายที่มีเรื่องบาดหมางกับเป่หมิงโม่ล้วนโทรศัพท์มาหาเขา บอกเขาให้กัดเป่หมิงโม่เอาไว้อย่าได้ปล่อย เพื่อเป็นการระบายโทสะที่มีแทนพวกเขา
อย่างไรก็ยังคงเป็นประโยคนั้น ‘ไม่กลัวว่าจะไม่มีเรื่องดี แต่กลัวว่าจะไม่มีคนดี’ ภายใต้การยุยงอย่างไม่ขาดสายจากผู้คนรอบด้าน ผู้อำนวยการโกวเตรียมตัวที่จะต่อสู้เป็นตายกับเป่หมิงโม่สักรอบ
***
ผู้อำนวยการโกวในตอนนี้กำลังนั่งดูโทรทัศน์อย่างสบายใจ มือข้างหนึ่งก็ไม่ได้ว่าง สองนิ้วคีบบุหรี่มวนหนึ่งที่จุดเอาไว้ ทั้งยังพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวงสองสามวงด้วยบางครั้งคราว
ดูท่าแล้วนี่ไม่ใช่การพักรักษาตัวให้หายป่วยเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับพักผ่อนในวันหยุดที่นี่เสียมากกว่า
เขาได้ยินเสียงเคาะประตูแล้วก็รีบดับบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดมวนเข้ากับที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่ข้างหัวเตียง จากนั้นก็แสดงท่าทางนอนหลับพักผ่อนออกมา
เพียงแต่ว่าทักษะในการแสดงของเขาเลวร้ายเกินไปแล้ว อีกทั้งยังมีช่องโหว่เยอะแยะเต็มไปหมด ยกตัวอย่างเช่น ควันบุหรี่ที่ลอยอยู่เต็มห้อง ทั้งโทรทัศน์ที่ยังเปิดค้างอยู่……
กู้ฮอนเดินเข้าไปในห้อง มองคนที่แสร้งทำท่าทางนอนหลับอยู่บนเตียง ในใจก็ยากที่จะระงับโทสะให้สงบลงได้
เพียงแต่ว่าในตอนนี้เธอรู้ชัดเจนว่าเป้าหมายที่ตัวเองมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อทะเลาะกับเขา แต่วางแผนที่จะพูดคุยกันอย่างสันติกับเขา เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างเขากับเป่หมิงโม่
แน่นอน เป้าหมายหลักก็คือต้องการช่วยให้เป่หมิงโม่ได้รับอิสระ
“ผู้อำนวยการโกว ฉันมาเยี่ยมคุณค่ะ ผู้อำนวยการโกว…….” กู้ฮอนเดินมาถึงข้างเตียงนอนผู้ป่วย เอ่ยเสียงเบาหนึ่งประโยค
ไม่ต้องพูดว่าผู้อำนวยการท่านนี้แสดงละครได้แย่มาก แต่ก็ยังคงมีความเป็นมืออาชีพมากพอ ละครก็แสดงได้สมบทบาทอยู่บ้าง หลังจากที่เขาได้ยินกู้ฮอนเอ่ยเรียกตัวเองสองสามครั้งก็ค่อยๆลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมา
จากนั้นก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา “อ่อ ประธานกู้นี่เอง ขอโทษด้วยจริงๆ ผมเพิ่งจะหลับไปอีกรอบ เรื่องเมื่อคืนนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไปจริงๆ”
เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เขาก็ถอนหายใจเสียงเบา “ประธานกู้ เมื่อวานมีชายหนุ่มคนหนึ่งบุกเข้ามากะทันหัน ต้องการบังคับพาตัวคุณไป น่าเสียดายที่ผมต้องการจะหยุดยั้งเขา แต่กลับได้รับบาดเจ็บมีสภาพแบบนี้ รอจนผมฟื้นขึ้นมาก็มาอยู่ที่นี่แล้ว”
ช่างมีความสามารถในการเสแสร้งจริงๆ เขาจะต้องนึกว่าตอนนั้นตัวเองสลบไปแล้วอย่างแน่นอนถึงได้พลิกกลับเรื่องราวจากผิดเป็นถูกแบบนี้
กู้ฮอนมองฝีมือการแสดงที่ใช้ไม่ได้ของเขา ก็อยากจะหักแขนอีกข้างของเขาให้ใช้การไม่ได้จริงๆ คนหน้าเนื้อใจเสือประเภทนี้ กลับใช้แผนการสกปรกกับตัวเอง ก่อนหน้านี้ไม่แน่ว่าจะใช้วิธีการแบบนี้ทำร้ายผู้หญิงไปแล้วเท่าไร…….
บางที ตอนที่หักแขนของเขาก็หักขาของเขาต่อไปด้วยเลย แบบนี้ก็ถือว่าทำกุศลครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง
เพียงแต่ แม้ในใจของเธอจะคิดแบบนี้ แต่ก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาบนใบหน้าได้ โดยเฉพาะวันนี้มาที่นี่เพราะมีเป้าหมาย ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดโปงคำโกหกเพื่อฉีกหน้าเขา สำหรับคนประเภทนี้น่าจะต้องใช้อุบายอย่างการหลอกลวงเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ในเมื่อเขาสามารถแสดงได้ อย่างนั้นสำหรับนักแสดงโนเนมที่อยู่ในวงการบันเทิงมาช่วงระยะเวลาสั้นๆอย่างเธอแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ตามใจชอบหรือ อีกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิคการแสดงหรือด้านอื่นๆก็ล้วนสามารถพูดได้ว่าดีกว่าเขาขั้นหนึ่ง
ใบหน้าของกู้ฮอนเผยความซาบซึ้งตื้นตันใจออกมา หยาดน้ำตาใสกลิ้งคลอในหน่วยตาไปมา เดินมาถึงข้างกายของผู้อำนวยการโกว พลางยื่นมือออกมาลูบแขนที่เข้าเฝือกของเขาเบาๆ “ผู้อำนวยการโกว คุณได้รับบาดเจ็บหนักเพราะฉัน ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะขอบคุณคุณอย่างไรดี จะให้ฉันเป็นวัวเป็นม้าให้คุณในชาติหน้าก็ไม่อาจตอบแทนบุญคุณที่คุณมีต่อฉันได้หมด”
ผู้อำนวยการโกวมองกู้ฮอนอย่างประหลาดใจและแฝงไปด้วยความยินดี ดูท่าว่าผู้หญิงคนนี้ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
เขาแสดงท่าทางจริงจังที่ชวนให้คนรู้สึกเคารพออกมา พลางยิ้มบางๆ “ประธานกู้ คุณวางใจเถอะครับ ผมไม่เป็นอะไร”
***
ผู้อำนวยการโกวพูด ยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกมาตบที่หลังมือของกู้ฮอนเบาๆแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณไม่เป็นอะไรสินะครับ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม ถึงแม้ว่าจะทำ คุณก็ไม่ต้องกลัว ที่นี่มีผมอยู่ จะไม่ยอมให้คนชั่วทำสำเร็จหรอกครับ”
ช่างเป็นการเหยียบจมูกขึ้นหน้าจริงๆ (การที่ฝั่งหนึ่งให้เกียรติอีกฝั่งหนึ่ง แต่อีกฝ่ายไม่คิดสนใจ กลับจะวางท่าได้ใจยิ่งขึ้น) มีประโยคหนึ่งที่พูดเอาไว้ได้ดีจริงๆ “คนที่เลวทรามสุดๆนั้นไร้ที่เปรียบ” คาดว่าเขาก็คงอาศัยความกระตือรือร้นแบบนี้ปีนขึ้นมาในตำแหน่งนี้ล่ะมั้ง
กู้ฮอนหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาแผ่นหนึ่ง ซับไปที่หางตาของตัวเอง “ผู้อำนวยการโกว คุณไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ทำอะไรฉัน”
“ไม่หรอกมั้ง เขาพุ่งเป้าไปที่คุณอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ตอนเช้าที่ตำรวจมา บอกว่าคุณถูกเขาพาตัวไป” ผู้อำนวยการโกวรู้สึกสงสัยขึ้นมาในใจ
แน่นอนว่าต้องสงสัยอยู่แล้ว ตามความคิดและฐานะของเขา เมื่อพบกับกู้ฮอนที่เป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงามเช่นนี้ ทั้งยังไม่มีความสามารถในการต่อต้านใดๆ ยังไม่ถือโอกาสคว้าเอาไว้อีก รออะไรกัน
นี่ก็เป็นเรื่องที่ผู้อำนวยการท่านนี้ฟื้นขึ้นมาและครุ่นคิดจนรู้สึกเสียใจ ตัวเองลงแรงไปตั้งมากมายขนาดนี้ สุดท้ายกลับถูกคนแย่งชิงไปเสียอย่างนั้น
กู้ฮอนส่ายหน้าอย่างจริงจัง “ตอนที่ฉันฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว คุณหมอยังบอกอีกด้วยว่าตรวจไม่พบร่องรอยการถูกละเมิดใดๆ