เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 199 เขาต้องการให้เธอเป็นภรรยาของเขา ต้องเป็นให้ได้
ถังเฮ่าถอนหายใจด้วยความเศร้า “แกอาบน้ำร้อนมาก่อน ความรู้สึกนี้มันเป็นยังไงฉันคงไม่จำเป็นต้องพูด”
หนานกงเยี่ยถอนหายใจ สีหน้าแสดงความเห็นใจ “ฉันรู้ดีว่าความรู้สึกนั้นมันเป็นยังไง แต่ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้”
จู่ๆ ถังเฮ่าเงยหน้าขึ้นมา มองไปทางเหลิ่งรั่วปิงด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความคาดหวัง “รั่วปิงบางทีเธออาจจะช่วยฉันได้ หืม?”
ขนตางอนยาวของเหลิ่งรั่วปิงสั่นเทาเล็กน้อย ราวกับผีเสื้อขยับปีก เหตุเพราะมีน้ำแข็งก่อตัว จึงทำให้ขยับปีกลำบากเล็กน้อย เธอนึกถึงสิ่งที่หนานกงเยี่ยพูดกับเธอเมื่อวานตอนเข้า
“ผมรู้ว่าเธอมีเหตุผลที่ทำให้ไม่มีทางเลือก อาจจะคนที่ยิ่งใหญ่ไม่ยอมให้เธอหันหลังกลับมา ไม่อนุญาตให้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างผม แต่สิ่งที่ผมอยากพูดก็คือ ผมหนานกงเยี่ยไม่ใช่ผู้ชายอ่อนแอ ผมมีความสามารถในการปกป้องผู้หญิงของตนเอง อีกทั้งผมรักเหลิ่งรั่วปิง ไม่ว่าเธอจะเป็นใครผมก็ไม่สนใจ ผมแค่ต้องการให้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างผม”
คุณชายทั้งสี่ของเมืองหลงล้วนไม่ใช่คนธรรมดา บนเรือยอร์ชของบริษัทประมูลฮั่นไห่เมื่อคราวก่อน เธอเผยพิรุธออกมา คาดว่าพวกเขาคงสืบรู้อะไรบ้างแล้ว ด้วยเหตุนี้หนานกงเยี่ยจึงพูดออกมาแบบนั้น พิจารณาอย่างถี่ถ้วน พวกเขาน่าจะยังสืบไม่พบว่าเธอคือสายลับของวิหาร เพราะถึงอย่างไรตัวตนของเธอเป็นความลับที่เก็บเอาไว้อย่างดี เป็นไปไม่ได้ที่จะสืบรู้ง่ายๆ พวกเขาเพียงแค่คาดเดา เบื้องหลังบริษัทประมูลฮั่นไห่ต้องมีองค์กรที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน และเธอก็เป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กร
ถังเฮ่าคิดว่าหลินมั่นหรูต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ คาดว่าตอนที่อยู่บนเรือนยอร์ชบริษัทประมูลฮั่นไห่ หลินหมั่นหรูมีปัญหากับถังเฮ่าอีกครั้ง และเผยพิรุธออกมา
เมื่อมองออกทุกอย่าง เหลิ่งรั่วปิงเองก็ไม่ได้กระวนกระวาย เธอวางตะเกียบลงเบาๆ “ดูท่าพวกคุณคงจะสืบประวัติฉันกันหมดแล้ว?” คลี่ยิ้ม “ถูกต้อง ฉันช่วยคุณตามหาเธอได้ แต่ฉันทำไม่ได้”
ถังเฮ่านั่งตัวตรงด้วยความร้อนใจ แววตาของเขาจดจ้องไปที่เหลิ่งรั่วปิง “รั่วปิง ผมไม่เคยขอร้องอะไรคุณมาก่อน คุณช่วยผมแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ได้ไหมครับ” ไม่ง่ายเลยกว่าจะคว้าความหวังสุดท้ายเอาไว้ได้ เขาไม่อยากปล่อยมันหลุดมือง่ายๆ
เหลิ่งรั่วปิงกระตุกมุมปาก “ฉันคิดว่าพวกคุณคงจะสืบกันหมดแล้ว ตัวตนของฉันไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาจนถึงขั้นทำให้พวกเขาหวาดกลัว ดังนั้นพวกคุณจึงวางแผน บีบให้ฉันไปจากหนานกงเยี่ย ไปจากเมืองหลง ในเมื่อตัวตนของฉันไม่ธรรมดาถึงขั้นนี้ แล้วฉันจะพูดออกมาง่ายๆ ได้ยังไงคะ ผู้หญิงที่คุณต้องการตามหาก็มีตัวตนไม่ธรรมดาเหมือนกันกับฉัน แล้วฉันจะเปิดเผยข้อมูลของเธอออกมาง่ายๆ ได้ยังไง”
ถังเฮ่ายังคงยืนหยัด “ในเมื่อคุณอยู่กับหนานกงได้ เช่นนั้นเสี่ยวหรูก็ต้องอยู่กับผมได้ องค์กรของพวกคุณน่ากลัวมากขนาดนั้นเลยเหรอ แม้แต่ผมที่เป็นหนึ่งในคุณชายทั้งสี่ก็ทำอะไรไม่ได้?”
“ฉันอยู่กับคุณหนานกงไม่ได้!” เสียงของเหลิ่งรั่วปิงไม่ดัง แต่ชัดเจนมาก ราวกับไข่มุกเทลงบนจานหยก “พวกคุณต้องเคยคิดว่าฉันจะทำร้ายคุณหนานกงเยี่ย ตอนนี้ฉันบอกกับพวกคุณได้ว่า ฉันไม่เคยคิดจะฆ่าเขา และฉันก็ไม่ต้องการที่จะเป็นเหลิ่งรั่วปิง ตอนนี้ฉันอยากเป็นแค่ฉู่หนิงซยา พรุ่งนี้เช้าฉันจะออกไปจากประเทศต้าย่า และไม่กลับเมืองหลงอีก”
พูดจบเหลิ่งรั่วปิงผลักเก้าอี้ ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องอาหาร โดยไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมา
ถูกต้อง เธอรักหนานกงเยี่ย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะอยู่ที่นี่ อยู่เคียงข้างเขา สุดท้ายต้องถูกซือคงอวี้จับได้แน่นอน ถึงแม้เธอจะไม่ได้รักซือคงอวี้ ไม่อยากกลับไปเป็นผู้หญิงของเขาที่ซีหลิง แต่เธอไม่อยากให้คุณชายทั้งสี่ของเมืองหลงเป็นศัตรูกับเขา ถึงแม้ซือคงอวี้จะไม่ใช่ผู้ชายที่เธอรัก แต่เป็นคนที่เธอรู้สึกขอบคุณทั้งชีวิต ถึงขั้นที่ว่ายอมทิ้งชีวิตเพื่อผู้ชายคนนี้ได้
เธอไม่มีวันอยู่กับหนานกงเยี่ยเด็ดขาด!
หนานกงเยี่ยที่เมื่อครู่กำลังมีความสุขราวกับลอยอยู่บนก้อนเมฆ เขาตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็งพันปีในเสี้ยววินาที มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่ทำให้เธอกลัวมากขนาดนี้ เหลิ่งรั่วปิงยอมรับว่ารักเขา แต่กลับไม่อยู่ข้างกายเขา? คนคนนั้นเป็นใครกันแน่!
“ถังเฮ่า ฉันเข้าใจความทรมานเพราะความคิดถึงของแก แต่ฉันไม่ยอมให้นายบีบบังเหลิ่งรั่วปิงเด็ดขาด” คำพูดของหนานกงเยี่ยหนักแน่นทุกถ้อยคำ ราวกับไข่มุกโยนไปตรงหน้าถังเฮ่า แสดงความหมายของเขาอย่างชัดเจน
พูดจบ หนานกงเยี่ยลุกขึ้น เดินตามเหลิ่งรั่วปิงเข้าไปในห้องนอน
เหลิ่งรั่วปิงยืนอยู่ตรงหน้าต่างของห้องนอน มองดูดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า เธอนึกถึงซือคงอวี้ ทุกครั้งที่นึกถึงเขา หัวใจของเธอจะเจ็บปวด เหลิ่งรั่วปิงจินตนาการได้ ตอนที่เธอไม่ยอมกลับซีหลิง หลังจากที่ซือคงอวี้รู้ความจริง เขาจะผิดหวังและโมโหมากแค่ไหน ความเป็นจริงเธออยากให้เขามีความสุข ถ้าโน้มน้าวใจตนเองได้ เธอก็กลับไปซีหลิงและอยู่เคียงข้างเขาชั่วชีวิตได้
เขาบอกว่าเขาต้องการคนที่คอยรัก เธอเข้าใจ เขาโดดเดี่ยวเกินไปแล้ว โดดเดี่ยวจนไม่มีความหวังแม้แต่น้อย บางทีอาจจะเป็นเพราะความโดดเดี่ยว จึงทำให้เธอสำคัญกับเขา เธอเป็นสิ่งเดียวที่เขาชอบ เป็นความหวังเดียวในโลกทั้งใบของเขา ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยากปล่อยเธอไป
ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้เธอจะรักเขาไม่ได้ แต่เธอก็ไม่มีวันทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายหรือนำพาความเดือดร้อนมาให้เขา
หนานกงเยี่ยเปิดประตูเข้ามาเบาๆ เห็นหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในความเงียบ แผ่นหลังของเธอซูบผอมและเย็นยะเยือก ยืนอยู่ใต้แสงไฟ ราวกับนางฟ้าที่กำลังล่องลอย ทำให้เขารู้สึกว่าเธอจะบินจากไปตลอดเวลา
หยุดนิ่งครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็หักห้ามใจไม่ได้เดินเข้าไปกอดเธอ พูดกระซิบข้างหู “เมียจ๋า?”
เหลิ่งรั่วปิงหลุบตาลง “คุณอย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ และไม่มีวันเป็นด้วย”
หนานกงเยี่ยไม่ได้โกรธ เขาจูบใบหูและแก้มของเธอเบาๆ “ทั้งที่คุณรักผมแต่ก็ยังไม่ยอมอยู่กับผม คนคนนั้นทำให้คุณกลัวมากขนาดนี้ แม้แต่ผมคุณยังไม่เชื่อใจว่าจะสู้กับเขาได้เหรอครับ หืม?”
“คุณหนานกงสู้กับทุกองค์กรบนโลกนี้ได้ ฉันจะไม่เชื่อคุณได้ยังไงคะ”
“แล้วคุณมัวแต่กังวลอะไรอยู่”
เหลิ่งรั่วปิงเม้มริมฝีปาก หันหลัง เผชิญหน้ากับหนานกงเยี่ย “คุณหนานกงเยี่ย ฉันไม่สงสัยความสามารถของคุณในการต่อสู้กับเขา แต่ฉันไม่อยากให้คุณกับเขามีปัญหากัน” เสียงของเธอเบาบางราวกับปีกจักจั่น ทว่ากลับสื่อความหมายได้ชัดเจน “เขากับคุณเหมือนกัน อายุยังน้อย หน้าตาดี มีอำนาจ มีเงินและรักฉันมาก แต่เขาเองก็โดดเดี่ยวมากเหมือนกัน เขาต้องการคนรัก สำหรับฉันแล้ว เขาคือคนที่สำคัญมาก ถ้าจำเป็นฉันยินดีตายเพื่อเขา”
อย่างกะทันหัน หัวใจของหนานกงเยี่ยสูญเสียน้ำหนัก หล่นวูบลงไป ทว่าสีหน้าของเขายังคงนิ่งสงบ “คุณรักเขา?” เสียงของเขาหนาวเย็นราวกับต้นฤดูใบไม้ผลิ เอื้อมมือไปสัมผัสสิ่งที่เขาพูด ทำให้หนาวเย็นจนเจ็บปวด
เหลิ่งรั่วปิงรู้ดีว่าหนานกงเยี่ยกำลังคิดอะไร เขาเป็นคนขี้น้อยใจมาก ข้อนี้เธอรู้มาโดยตลอด “บอกว่ารักก็ได้ค่ะ แต่ความรักที่ฉันมีต่อเขามันมากกว่าความรักของหนุ่มสาว นอกจากความรักแล้ว ฉันให้เขาได้ทุกอย่าง”
เธอไม่มีวันมอบความรักให้เขาคนนั้น สิ่งนี้ทำให้หนานกงเยี่ยโล่งใจเป็นอย่างมาก แต่เขายังคงรับไม่ได้ที่เธอเห็นผู้ชายคนอื่นสำคัญมากขนาดนี้ “เขาสำคัญกับคุณมากขนาดนี้?” สำคัญจนถึงขั้นยอมสละชีวิต?
ภายในใจของหนานกงเยี่ยรู้สึกหึงหวงเป็นอย่างมาก หึงจนทำให้เขาทรมานไปทั้งตัว
“เขาเป็นคนช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ศิลปะการต่อสู้ทุกอย่างของฉัน เขาเป็นคนสอนด้วยตนเอง เขามีบุญคุณกับฉันมาก” เหลิ่งรั่วปิงจ้องมองไปที่แววตาของหนานกงเยี่ย คลี่ยิ้มบางเบา “คุณหนานกงเยี่ย ถึงแม้ชีวิตของฉันจะอาภัพมาตั้งแต่เด็ก มีความแค้นอยู่รอบตัว แต่ฉันก็มีความรัก ฉันเคยรักผู้ชายมากมาย พ่อของเฉิน ลุงเวิน พ่อเลี้ยง ไซ่ตี้จวิ้น และคู่หูของฉัน รวมถึงเขาและคุณ ฉันรักพวกคุณ เพราะพวกคุณมอบความอบอุ่นให้ฉัน พวกคุณมอบความตื้นตันใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของฉัน”
“เขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่ฉันรักมาก ความรักที่ฉันมีต่อเขามันเหนือกว่าความคิดธรรมดาทั่วไป ถึงแม้มันจะไม่ใช่รักแบบชายหญิง แต่มันก็ไม่ได้น้อยไปกว่าความรักแบบนั้นแม้แต่น้อย
“รักเองก็รักคุณมาก คุณหนานกงเยี่ย ความรักที่ฉันมีให้คุณไม่เหมือนกับผู้ชายคนไหน เป็นความรักที่มีเพียงหนึ่งเดียวของฉัน เป็นหัวใจของฉัน แต่ว่า ท่ามกลางผู้ชายทุกคนที่ฉันรัก คุณทำร้ายฉันมากที่สุด และทำให้ฉันปวดใจมากที่สุด”
ขณะที่เหลิ่งรั่วปิงพูดด้วยความนิ่งสงบ ริมฝีปากของเธอยังคงมีรอยยิ้มบางเบา ทว่าแต่ละถ้อยคำที่เธอพูดออกมานั้น กลับทำให้คนปวดใจ
หัวใจของหนานกงเยี่ยเจ็บปวดมาก ดวงตาของเขาเริ่มมีน้ำใสรื้นขึ้นมา คว้าตัวเธอเข้ามากอดอย่างไม่อาจห้ามใจได้ แก้มของเขาถูกับผมของเธอ คล้ายกับว่ามีเพียงการทำสิ่งนี้ถึงจะปลอบโยนกันและกันได้
เธอบอกว่า เธอให้ความรักที่มีเพียงหนึ่งเดียวกับเขา ทว่าเขากลับทำร้ายเธอมากที่สุด ทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุด!
เสียงของหนานกงเยี่ยสะอื้น “ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ผมจะมอบความรักที่ดีที่สุดให้กับคุณ ให้กับคุณเพียงคนเดียว”
เหลิ่งรั่วปิงซบอยู่ในแผงอกกว้างของเขา ใบหน้าของเธอยังคงแต้มด้วยรอยยิ้ม “เขารักฉันมาก แต่ฉันกลับมอบร่างกายและหัวใจให้คุณ ฉันทำผิดต่อเขา เขาไม่มีวันปล่อยฉันไปง่ายๆ แน่ค่ะ ดังนั้น ฉันจะไม่อยู่กับคุณ คุณหนานกงเยี่ย ฉันไม่อยากเห็นพวกคุณสองคนมีปัญหากัน”
หนานกงเยี่ยกระชับอ้อมกอด “แต่ว่าตอนนั้น ถ้าหากผมไม่ได้ทำผิดพลาดไป คุณตัดสินใจที่จะอยู่เคียงข้างผมแล้ว ไม่ใช่เหรอครับ”
“บางครั้งการตัดสินใจบางอย่างอาจจะมีความกล้าในการตัดสินใจแค่ครั้งเดียว ไม่กล้าตัดสินใจเป็นครั้งที่สอง คุณหนานกงเยี่ย ถึงยังไงสุดท้ายพวกเราสองคนก็คลาดกันแล้ว”
น้ำหนักมือของหนานกงเยี่ยไม่ลดลงแม้แต่น้อย เขาแทบอยากจะกอดเธอ ให้เธอหลอมละลายเข้ามาในร่างกายของเขา “รั่วปิง คุณรู้ดี ผมให้คุณได้ทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตผมก็ให้คุณได้ แต่ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป”
เหลิ่งรั่วปิงยืนซบหัวไหล่ของหนานกงเยี่ย ไม่ได้พูดอะไร เธอรู้ หนานกงเยี่ยและซือคงอวี้เหมือนกัน พวกเขาต่างรักเธอด้วยความบ้าคลั่ง ไม่มีใครยอมปล่อยมือง่ายๆ
“รั่วปิง คุณต้องเป็นภรรยาของหนานกงเยี่ย และต้องเป็นตลอดไป” แววตาหนานกงเยี่ยมุ่งมั่น น้ำเสียงของเขาไม่ยอมให้ปฏิเสธ “ช่วงเวลาตอนที่ตามหาคุณ ผมตั้งกฎกับตัวเองแล้ว ซึ่งก็คือผมจะชอบทุกอย่างที่คุณชอบ เกลียดทุกอย่างที่คุณเกลียด รักคุณแค่คนเดียว และจะมอบความรักให้คุณคนเดียว ไม่มีวันทำให้คุณเสียใจอีก” มือใหญ่ลูบจับผมของเธอ ราวกับของล้ำค่า “ทั้งหมดนี้ ก่อนอื่นคุณต้องอยู่เคียงข้างผม ถ้าคุณหนีผมไปอีก ผมไม่รับปากว่าจะทำลายโลกใบนี้ไหม”
ต้องมีสักวันหนึ่ง เขาจะกำจัดผู้ชายทุกคนที่อยู่รอบตัวเธอออกไปให้หมด ข้างกายเธอต้องมีแค่เขาเท่านั้น ห้ามใครหน้าไหนเพ้อฝันถึงเธออีก
เหลิ่งรั่วปิงเงียบ เธอรู้ดี ความเผด็จการและบ้าอำนาจของผู้ชายคนนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เขาต้องการให้เธอเป็นภรรยาของเขา ก็ต้องเป็น เธอขัดขืนไม่ได้ เพราะหัวใจของเธออยู่ที่เขาแล้ว เธอทนเห็นเขาเจ็บปวดไม่ได้