เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 220 เขาจะเผชิญหน้ากับการจากไปของเธออย่างไร
ทั้งสองสู้กันสลับไปมานับสิบครั้ง แขนของถังเฮ่ามีแผลนับสิบ ชุดสูทสีขาวเปื้อนไปด้วยคราบเลือด
“คุณคิดจะฆ่าผมหรือไง” ถังเฮ่าจ้องมองหลินมั่นหรู ความเจ็บปวดในแววตาของเขาหนาแน่นเหมือนหมอก
หลินมั่นหรูเป็นผู้หญิงไม่มีหัวใจ นอกจากซือคงอวี้แล้ว เธอไม่เห็นชีวิตของใครอยู่ในสายตา เมื่อก่อนเธอไม่กล้าหาเรื่องถังเฮ่า ดังนั้นเธอจึงออมมือ แต่ตอนนี้ถูกเขาบีบบังคับถึงขั้นนี้แล้ว เธอจึงไม่ออมมือแม้แต่น้อย
เธอไม่รักเขา ถึงแม้เขาจะรักเธอมากแค่ไหน เธอก็ไม่มีวันสงสารเขาแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่รู้ว่าถังเฮ่ารักเธอมากแค่ไหน
“อย่ามายุ่งกับฉัน!” เสียงของหลินมั่นหรูเหี้ยมโหดราวกับหมาล่าเนื้อ มีดสั้นในมือยังคงมีเลือดหยดติ๋งๆ เคล้าไปกับเสียงของเธอ
ความเจ็บปวดในแววตาถังเฮ่าลุ่มลึก ”คุณเป็นผู้หญิงที่ไม่มีหัวใจจริงๆ” เขารักและปกป้องเธอแบบนี้ คอยออมมือให้เธอทุกอย่าง แต่เธอกลับจะฆ่าเขา ”แต่ว่า คุณไปไหนไม่ได้หรอก ผมไม่มีวันปล่อยคุณไป”
พูดจบ ถังเฮ่าก้าวเท้าไปด้านหน้า เอื้อมมือไปคว้าหลินมั่นหรู
ขณะที่ทั้งสองกำลังจะลงมืออีกครั้ง เหลิ่งรั่วปิงตัดสินใจโยนมีดบินในมือออกไป คนที่เธอต้องการโจมตีไม่ใช่หลินมั่นหรู แต่เป็นถังเฮ่า แน่นอนเธอไม่คิดจะทำร้ายถังเฮ่าจริงๆ เพียงแต่เธออยากปล่อยหลินมั่นหรูไป ดังนั้นความเร็วของมีดบินจึงช้ามาก ทำให้ถังเฮ่ามีเวลาเพียงพอในการไหวตัว
ถังเฮ่ารู้สึกได้ว่าด้านหลังมีคนโจมตี หมุนตัวแล้วรับมีดบินเอาไว้ ขณะที่เขาหมุนตัว หลินมั่นหรูหายไปแล้ว
ถังเฮ่าหันกลับมาด้วยความโมโห ”เหลิ่งรั่วปิง คุณทำแบบนี้หมายความว่าอะไร”
เหลิ่งรั่วปิงพูดด้วยสีหน้านิ่งสงบ ”ถ้าคุณรักเธอจริงๆ ก็ปล่อยเธอไป ไม่อย่างนั้นเธอต้องตายเพราะคุณ”
เหลิ่งรั่วปิงทำแบบนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อช่วยหลินมั่นหรู แต่เพื่อซือคงอวี้ ถึงแม้เธอจะรู้ว่า ซือคงอวี้ตัดสินใจฆ่าเธอ แต่เธอยังคงรักและเคารพเขา ไม่อยากให้คนของเขาต้องถูกเปิดเผยตัวตน นำพาเรื่องเดือดร้อนให้เขา
นัยน์ตาถังเฮ่าสั่นเทาเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองไปทางประตูด้วยความโมโห
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก่วนอวี้รีบพุ่งตัวเข้าไปในโถงใหญ่ของโรงพยาบาล ”คุณผู้หญิง คุณเป็นอะไรไหมครับ”
เพราะหนานกงเยี่ยมพาเหลิ่งรั่วปิงมาหาหมอที่โรงพยาบาล ดังนั้นก่วนอวี้จึงอยู่ที่บริษัทคอยจัดการงานต่างๆ หลังจากหนานกงเยี่ยไปถึงบริษัทเขารู้สึกเป็นห่วงเหลิ่งรั่วปิง จึงสั่งให้ก่วนอวี้ไปดูแลความปลอดภัยเหลิ่งรั่วปิง ระหว่างทางก่วนอวี้ได้รับโทรศัพท์ บอกว่ามีคนลอบทำร้ายเหลิ่งรั่วปิงที่โรงพยาบาล จึงรีบมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่เป็นไร” ได้ยินเสียงก่วนอวี้ เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
ก่วนอวี้โล่งอก จากนั้นมองไปยังหมอผู้หญิงที่สวมชุดกาวน์สีขาว ใบหน้าปิดด้วยหน้ากากอนามัยสีขาว และสวมหมวกอนามัยสีขาว เธอกำลังเดินจากระเบียงมายังโถงใหญ่
คิ้วของก่วนอวี้ขมวดเล็กน้อย เขารู้สึกคุ้นหน้าหมอคนนี้มาก ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น พบว่าหมอคว้าปืนพกสีดำออกมา เล็งไปยังแผ่นหลังของเหลิ่งรั่วปิง เธอใช้มือซ้ายในการถือปืน
เธอคืออวี้หลานซี
ม่านตาก่วนอวี้หดเล็ก หากเป็นคนอื่น เขาไม่ลังเลที่จะคว้าปืนออกมา แล้วยิงไปที่คนร้าย แต่นี่คืออวี้หลานซี เขาทำไม่ได้
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นแสบแก้วหู กระสุนเย็นยะเยือกยิงออกมา
“คุณผู้หญิงระวัง!” วินาทีหน้าสิ่วหน้าขวาน ก่วนอวี้พุ่งตัวไปด้านหน้า ผลักเหลิ่งรั่วปิง แล้วใช้ร่างกายของเขารับกระสุนของอวี้หลานซี
ถังเฮ่าดึงสติกลับมาทันที เดินไปบิดข้อมืออวี้หลานซี แล้วดึงหน้ากากของเธอออกมา เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ”หลานซี?!”
ตัวของก่วนอวี้สั่นสะท้าน ตามด้วยเดินเซสองก้าว เลือดสีแดงสดไหลอาบหน้าอกอย่างรวดเร็ว เลือดขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง วินาทีก่อนที่เขาจะล้มลง ก่วนอวี้กัดฟันแล้วพยายามพูดออกมา ”คุณชายถัง อย่าทำร้ายเธอ!”
สิ้นเสียง ก่วนอวี้ล้มลงกับพื้น ถังเฮ่ารีบวิ่งเข้าไปหา พยุงตัวเขาขึ้นมา ”ก่วนอวี้ ก่วนอวี้!”
ตอนที่เหลิ่งรั่วปิงถูกก่วนอวี้ผลัก ศีรษะของเธอกระแทกกับเสาอย่างแรง เธอรู้สึกเวียนหัว ผ่านไปหลายวินาทีกว่าจะดึงสติกลับมา รีบวิ่งไปหาก่วนอวี้ ”ก่วนอวี้ นายเป็นยังไงบ้าง” เงยหน้าขึ้นร้องตะโกน ”หมอ หมอ!”
“ก่วนอวี้!” หนานกงเยี่ยวิ่งมาจากด้านนอก นั่งลงตรงหน้าก่วนอวี้ มองดูเลือดตรงหน้าอก เจ็บปวดเป็นที่สุด ”ก่วนอวี้ นายไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะให้หมอช่วยนายให้ได้ นายต้องเข้มแข็ง”
แผลของก่วนอวี้อยู่ใกล้กับหัวใจมาก ทุกคนล้วนดูออกว่ามันสาหัสมาก สาหัสมากจริงๆ
หนานกงเยี่ยปวดใจจนหัวใจสั่นเทา ก่วนอวี้ คือหนึ่งในคนที่เขาไม่อยากสูญเสียไป
ก่วนอวี้เม้มกัดฟัน ลืมตาขึ้น ”คุณชายเยี่ย...” ยกมือขึ้นจับมือหนานกงเยี่ย ”ผมไม่ไหวแล้ว ก่อนที่ผมจะตายผมอยากจะขอร้องคุณชายเรื่องหนึ่งครับ…”
“นายพูดมา!” ดวงตาของหนานกงเยี่ยแดงก่ำ
“คุณชายได้โปรด…ให้อภัยเธอ!” ก่วนอวี้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายจับมือหนานกงเยี่ยแน่น ”คุณชายเยี่ย...คุณชายรับปาก…ผม!”
“…” หนานกงเยี่ยกัดฟันกรอดเงียบอยู่นานครู่หนึ่ง ได้ ฉันรับปากนาย เธอจะไม่เป็นไร นายวางใจเถอะ”
ริมฝีปากซีดขาวของก่วนอวี้คลี่ยิ้มบางเบา มือร่วงหล่นด้วยความหมดแรง
“ก่วนอวี้ ก่วนอวี้!” หนานกงเยี่ยกอดก่วนอวี้แน่น
เวลานี้ หมอและพยาบาล รีบวิ่งมาพร้อมกับเตียงผู้ป่วย ยกก่วนอวี้ขึ้นไปบนเตียง จากนั้นพาเขาเข้าไปยังห้องฉุกเฉิน
มองดูก่วนอวี้ถูกเข็นไปไกล หนานกงเยี่ยเงียบด้วยความเจ็บปวดครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองอวี้หลานซี เวลานี้อวี้หลานซีเหมือนเสียสติไปแล้ว เธอคุกเข่าตัวแข็งอยู่บนพื้น แววตาเหม่อลอย ไม่จับจ้องสิ่งใด เอาแต่พูดคำเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ”ก่วนอวี้นายอย่าเป็นอะไรนะ นายอย่าเป็นอะไรนะ…”
ดวงตาหนานกงเยี่ยแดงก่ำ เดินไปทางอวี้หลานซี ทันใดนั้นเอง เขายื่นมือออกไปกระชากตัวอวี้หลานซีขึ้นมา กัดฟันร้องเรียกชื่อของเธอ ”อวี้หลานซี!”
สติของอวี้หลานซี ขาดผึงตั้งแต่วินาทีที่ก่วนอวี้ล้มลงไป ในโลกของเธอเหลือแค่เสียงเดียวเท่านั้น ก่วนอวี้ตายแล้ว เธอเป็นคนฆ่าก่วนอวี้ เธอฆ่าคนที่รักเธอที่สุด
ถังเฮ่าเดินเข้าไปหา ”หนานกง ใจเย็น”
เหลิ่งรั่วปิงเองก็เดินไปหาเขา พร้อมกับจับมือหนานกงเยี่ยเอาไว้ ”คุณหนานกงเยี่ย อย่าลืมสิ่งที่คุณรับปากก่วนอวี้เอาไว้”
เหลิ่งรั่วปิงไม่ใช่คนจิตใจเมตตา และเธอก็ไม่เคยให้อภัยคนที่อยากเอาชีวิตตนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอรู้สึกว่า ไม่ว่าอวี้หลานซีจะทำผิดร้ายแรงแค่ไหน ก่วนอวี้ชดใช้ไปหมดแล้ว การให้อภัยอวี้หลานซี เป็นสิ่งที่เธอยินดีที่จะทำที่สุดในตอนนี้
หนานกงเยี่ยปล่อยมือ โยนอวี้หลานซีกระแทกพื้น
ถังเฮ่าพยุงอวี้หลานซีขึ้นมา ”ฉันว่าอวี้หลานซีก็ตกใจไม่น้อย ฉันส่งเธอกลับไปพักผ่อนดีกว่า”
หนานกงเยี่ยพยักหน้า จากนั้นสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปยังหน้าห้องฉุกเฉิน เดินไปหลายก้าว จู่ๆ เขาก็เหมือนคิดบางอย่างขึ้นมาได้ หันหน้ากลับมา คว้ามือเหลิ่งรั่วปิง ”คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า”
มองดูใบหน้าซีดขาวด้วยความเจ็บปวดของหนานกงเยี่ย เหลิ่งรั่วปิงปวดใจมาก ”ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
“อื้ม” หนานกงเยี่ยพยักหน้า จับมือเหลิ่งรั่วปิงเดินไปยังห้องฉุกเฉิน ทว่าเดินไปแค่สองสามเก้าเขาก็หยุดลง เหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นแววตาของเขาก็จ้องมองไปยังตาของเหลิ่งรั่วปิง จ้องมองอยู่นาน
เหลิ่งรั่วปิงไม่เข้า ”คุณมองฉันแบบนี้ทำไมคะ”
แววตาของหนานกงเยี่ย เหมือนผนึกน้ำแข็งที่แตกสลายกะทันหัน ความดีใจพลุ่งพล่านออกมาจากรอยแตกร้าว ”คุณรู้ว่าผมกำลังมองคุณ?”
“!!!” เหลิ่งรั่วปิงเองก็เพิ่งรู้ตัว เธอกลอกตาไปมอง มองดูสิ่งต่างๆ จากนั้นยกมือขึ้นมอง พูดกับตัวเองด้วยความดีใจ ”ฉันมองเห็นแล้ว ฉันมองเห็นแล้วค่ะ!”
มือทั้งสองข้างของหนานกงเยี่ยจับแก้มเหลิ่งรั่วปิงด้วยความดีใจ ”ที่รัก คุณมองเห็นผมแล้ว คุณเห็นผมแล้วจริงๆ เหรอ”
“ค่ะ!” เหลิ่งรั่วปิงพยักหน้า ”ฉันมองเห็นแล้ว คุณหนานกงเยี่ย”
หนานกงเยี่ยดึงตัวเหลิ่งรั่วปิงมากอดด้วยความดีใจ จากนั้นเขาก็เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง รีบพาเธอไปที่ห้องตรวจของแพทย์ ”หมอครับ ช่วยตรวจดูอาการเธอหน่อยได้ไหมครับ”
เหลิ่งรั่วปิงกลับมามองเห็นกะทันหัน ทำให้หมอตกตะลึง รีบตรวจดูอาการของเธอ พร้อมทั้งทำ ซีทีแสกน ท้ายที่สุดผลการทำแสกนพบว่า ลิ่มเลือดที่กดทับเส้นประสาทการมองได้สลายไปแล้ว
เมื่อเห็นหมอขมวดคิ้วไม่ยอมพูดอะไร หนานกงเยี่ยจึงถามด้วยความกังวล ”มีปัญหาอะไรเหรอครับ”
หมอดึงสติกลับมา พูดด้วยความเคารพ ”เปล่าครับ คุณชายเยี่ยครับ คุณผู้หญิงกลับมามองเห็นปกติแล้วครับ ลิ่มเลือดที่กดทับเส้นประสาทการมองเห็นก็หายไปหมดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ”
หนานกงเยี่ยโล่งอก ”แล้วคุณหมอกำลังคิดเรื่องอะไรครับ”
หมอครุ่นคิดครู่หนึ่ง ส่ายหน้าแล้วพูด ”ผมกำลังคิดว่าคุณผู้หญิงกลับมามองเห็นกะทันหันแบบนี้ ถือเป็นปาฏิหาริย์ เมื่อเช้าตอนตรวจก็ยังมีลิ่มเลือดอยู่ ต่อให้ลิ่มเลือดจะสลายก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสลายเร็วแบบนี้ สิ่งนี้ทำให้คนเหลือเชื่อจริงๆ ครับ” จากนั้นหันไปทางเหลิ่งรั่วปิง ”คุณผู้หญิงกลับมามองเห็นภายใต้สถานการณ์แบบไหนครับ”
เหลิ่งรั่วปิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ”ก่อนที่ฉันจะมองเห็น ศีรษะของฉันกระแทกกับเสาค่ะ กระแทกแรงมาก จนเกือบเป็นลมหมดสติไป”
“ครับ” หมอพยักหน้า รีบหยิบปากกามาจดบันทึก ”ประสบการณ์ของคุณมีส่วนช่วยในงานวิจัยของผม นี่มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก ผมจะค้นคว้าอย่างละเอียด”
การที่หมอให้ความสำคัญกับวิชาชีพ ทำให้เหลิ่งรั่วปิงนับถือมาก หลังจากขอบคุณคุณหมอเสร็จ เธอกับหนานกงเยี่ยก็ออกไปจากห้องตรวจ
หน้าห้องฉุกเฉิน ความรู้สึกดีใจเพราะเหลิ่งรั่วปิงกลับมามองเห็นของหนานกงเยี่ยหายไปจนหมดเกลี้ยง อารมณ์ของเขากลับมาหนักอึ้งอีกครั้ง
เหลิ่งรั่วปิงเองก็หัวใจหนักอึ้ง เธอคิดเรื่องอาเธอร์ตลอดเวลา คิดว่าจะช่วยเขาอย่างไร อีกทั้ง ซือคงอวี้คิดจะฆ่าเธอแล้วจริงๆ สิ่งนี้ทำให้เธอเจ็บปวดมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอทิ้งอาเธอร์ไม่ได้ ดูท่า เธอคงต้องกลับซีหลิงสักครั้งแล้ว ถึงแม้จะต้องทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นั่น แต่เธอก็จะไป
เมื่อคิดว่าต้องแยกจากกับหนานกงเยี่ย ภายในใจของเธอรู้สึกเจ็บปวด เขาทุ่มเทมากมายเพื่อที่จะพาเธอกลับมา เพิ่งคืนดีกันที่เมืองไห่แต่กลับเกิดแผ่นดินไหวขึ้นก่อน จากนั้นเธอก็สูญเสียการมองเห็น ถึงแม้เขาจะดูผ่อนคลาย แต่เธอรู้ดี เรื่องการมองเห็นของเธอ เขาเองก็เจ็บปวดไปไม่น้อยกว่ากัน
ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็กลับมามองเห็นแล้ว แต่กลับเกิดเรื่องขึ้นมากมาย
เธอจะบอกลาเขาอย่างไรดี และเขาจะเผชิญหน้ากับการจากไปของเธออย่างไร