เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 223 ศัตรูที่แท้จริงคือใคร
ซือคงอวี้เม้มกัดริมฝีปาก สายตาจับจ้องไปยังเหลิ่งรั่วปิง เหมือนกลัวว่าเธอจะหายไป ”ผมไม่สน หลังจากคุณกลับมาซีหลิง ผมจะเปลี่ยนตัวตนให้คุณกลายเป็นคนใหม่” แววตาของเขาฉายเส้นใยอ่อนโยน โอบรัดตัวเธอเอาไว้ ”ผมไม่เชื่อว่าความรู้สึกที่คุณมีต่อหนานกงเยี่ยจะมากไปกว่าผม พวกเราอยู่ด้วยกันหกปีแล้ว รั่วปิง กลับมาอยู่เคียงข้างผมเถอะ เรื่องที่ผ่านมาในอดีต ผมยินดีที่จะให้อภัย”
เจ้าวิหารซีหลิงที่สูงศักดิ์ เวลานี้ยังยินดีที่จะยอมรับในตัวเธอ ไม่ถือสาที่เธอเคยมีผู้ชายคนอื่น ทั้งยังไม่ถือสาที่เธอเคยแต่งงานแล้ว ความรักนี้มันหนักหนาเกินไป
หัวใจเหลิ่งรั่วปิงบีบรัด มองซือคงอวี้ด้วยความซึ้งใจ ”เจ้าวิหารคะ ฉันไม่คู่ควรกับเจ้าวิหารแล้วค่ะ”
ซือคงอวี้เม้มปากแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ”ผมไม่อยากได้ยินอะไรแบบนี้อีกแล้ว ขอแค่คุณกลับมา ผมไม่ถือสาเรื่องทั้งหมด”
“ทำไมจู่ๆ เจ้าวิหารต้องฆ่าไซ่ตี้จวิ้นด้วยคะ”
“คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?” สายตาของซือคงอวี้เย็นยะเยือก ”คุณยอมแต่งงานกับไซ่ตี้จวิ้น แต่ไม่ยอมกลับมาหาผม ผมจะฆ่าผู้ชายทุกคนที่เพ้อฝันถึงคุณ ไซ่ตี้จวิ้นเป็นผู้ชายคนแรกที่สมควรตาย!”
เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ มือทั้งสองข้างสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ เป็นจริงตามนั้นเธอทำให้ไซ่ตี้จวิ้นเดือดร้อน!
“เจ้าวิหารจะจัดการอาเธอร์ยังไง” เสียงของเหลิ่งรั่วปิงสั่นเทา
สายตาของซือคงอวี้ไม่อ่อนโยนอีกต่อไป สายตาเย็นยะเยือกมองลึกเข้ามาในดวงตาของเหลิ่งรั่วปิงผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ”คุณกลัวว่าผมจะฆ่าอาเธอร์ ดังนั้นจึงติดต่อมาหาผมใช่ไหม” เมื่อครู่เขาอุตส่าห์ดีใจ คิดว่าเธอติดต่อหาเขาเพราะความคิดถึง
เหลิ่งรั่วปิงเงียบ เพราะเป็นจริงตามที่เขาพูด
มือที่วางเอาไว้บนโต๊ะของซือคงอวี้กำหมัดแน่น ข้อกระดูกบนมือเกิดเสียงดัง ใบหน้าของเขาขึงเครียด ดวงตาเจ้าเล่ห์ฉายความเย็นยะเยือก ”รั่วปิง คุณมันไม่มีหัวใจจริงๆ!” มุมปากกระตุกยิ้มเหี้ยมโหดเหมือนปีศาจร้าย ”ในเมื่อคุณไม่มีหัวใจ แล้วทำไมผมต้องทะนุถนอมคุณด้วย!”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้น มองดูใบหน้าเหี้ยมโหดเหมือนปีศาจของซือคงอวี้ เธออยากจะบอกเขาว่า เธอรักเขา แต่ไม่ใช่ความรักแบบชายหญิง นอกจากความรักแบบชายหญิงที่เธอไม่สามารถให้เขาได้ สิ่งอื่นๆ เธอสามารถให้เขาได้ทั้งหมด แม้กระทั่งชีวิตของเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดออกมา
นัยน์ตาซือคงอวี้นิ่งสงบ ท้ายที่สุดดวงตาคู่สวยไร้ซึ่งคลื่น กลับกลายเป็นน้ำแข็งปิดผนึกนับพันปี ”รั่วปิง ความเป็นความตายของอาเธอร์อยู่ในมือคุณ คุณกลับมาเขารอด แต่ถ้าคุณไม่กลับมา เขาตาย!” สายตาเย็นยะเยือกจับจ้องไปยังใบหน้าเหลิ่งรั่วปิง เหมือนหนามแหลมคม ”ส่วนไซ่ตี้จวิ้น ผมจะส่งคนไปลอบฆ่าเขา จนกว่าเขาจะหายไปจากโลกใบนี้ ส่วนหนานกงเยี่ย ผมจะค่อยๆ วางแผนกำจัดเขา”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้น ”เจ้าวิหาร เจ้าวิหารได้โปรดปล่อยไซ่ตี้จวิ้นไปเถอะค่ะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน ฉันจะไม่ข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว”
ระหว่างหนานกงเยี่ยและไซ่ตี้จวิ้น เธอเป็นห่วงไซ่ตี้จวิ้นมากกว่า เพราะซือคงอวี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรหนานกงเยี่ย แต่ไซ่ตี้จวิ้นนั้นไม่เหมือนกัน
ซือคงอวี้มองเหลิ่งรั่วปิงด้วยแววตาเหี้ยมโหด ”ยิ่งคุณเป็นห่วงมัน ผมก็ยิ่งอยากจะรีบเอาชีวิตมัน!”
“ฉันกลับซีหลิงค่ะ!” เหลิ่งรั่วปิงรีบพูดออกไป เธอรู้ดีซือคงอวี้ไม่ใช่คนที่ชอบพูดจาให้เปลืองน้ำลาย เขาพูดได้ย่อมทำได้ เธอเพิกเฉยต่อการข่มขู่ของเขาไม่ได้ ”ฉันกลับซีหลิงค่ะ ฉันพร้อมจะทำทุกอย่างที่เจ้าวิหารต้องการ ขอเพียงเจ้าวิหารยอมปล่อยไซ่ตี้จวิ้น และให้อภัยอาเธอร์”
“หึๆๆ…” ซือคงอวี้หัวเราะในลำคอ ”รั่วปิง ผมรักคุณมาหลายปี ปกป้องคุณมาตั้งนาน สุดท้าย คุณกลับมาอยู่เคียงข้างผมเพราะต้องการปกป้องผู้ชายคนอื่น ผมสัญญาว่าจะต่อต้านเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อถือและราชวงศ์เพื่อแต่งงานกับคุณ แต่คุณกลับไม่ยอมอยู่เคียงข้างผม คุณรังเกียจผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ!”
น้ำตาเหลิ่งรั่วปิงคลอเบ้าขึ้นมากะทันหัน ”เพราะเส้นทางนั้นมันยากลำบาก ฉันถึงไม่อยากจะเดิน และยิ่งไม่อยากให้คุณต้องเดิน ทำไมเจ้าวิหารต้องท้าทายกฎของซีหลิงที่มีมานานกว่าพันปี เพื่อผู้หญิงที่ต่ำต้อยอย่างฉันด้วย ฉันไม่อยากเห็นเจ้าวิหารต้องอาบเลือดเพราะฉัน ฉันอยากให้เจ้าวิหารปลอดภัย”
“เจ้าวิหารคะ นับตั้งแต่อายุสิบเจ็ดคืนที่คุณพาฉันกลับมา ฉันรู้สึกขอบคุณคุณมาก ซาบซึ้งใจคุณไปชั่วชีวิต ฉันพร้อมที่จะอยู่และตายเพื่อคุณ แต่ฉันควบคุมหัวใจของตนเองไม่ได้ ฉันรักหนานกงเยี่ยไปแล้ว ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน”
ซือคงอวี้ดูอ่อนโยนขึ้นมา ดวงตาแดงก่ำ ”เป็นเพราะเมื่อก่อนผมไม่อ่อนโยนมากพอ ให้คุณฝึกหนักมาโดยตลอด จึงเอาชนะใจคุณไม่ได้ แต่หนานกงเยี่ยเขากักขังคุณเอาไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสทำให้คุณรักเขาก่อน?
“ฉันไม่รู้ค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงร้องไห้และส่ายหน้าไปมา ”ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงรักเขา แต่ถึงแม้ฉันจะรักเขา ฉันก็ไม่ลืมบุญคุณของเจ้าวิหาร ไม่ว่าตัวฉันจะอยู่ที่ไหน ฉันก็อวยพรให้คุณมีความสุขตลอดเวลา”
ซือคงอวี้พยายามควบคุมน้ำตาตนเองไม่ให้รินไหล ”ผมไม่ต้องการคำอวยพรของคุณ ผมต้องการให้คุณกลับมา ผมรับปาก ขอแค่คุณกลับมา ผมจะให้อภัยอาเธอร์และจะปล่อยไซ่ตี้จวิ้น ทั้งยัง…ลามือจากหนานกงเยี่ย”
เขาเกลียดหนานกงเยี่ยที่สุด ความเกลียดที่มีต่อหนานกงเยี่ยมากกว่าความเกลียดชังที่เขามีต่อพ่อของตนและเจ้าแห่งผู้สอนหลักธรรมวิหารซีหลิง ถูกต้อง เขาเกลียดซือคงเอ้า เพราะซือคงเอ้าฆ่าแม่ของเขา เขาเกลียดซือคงเอ้ามานานกว่ายี่สิบปี แม้แต่ตอนนอนฝันก็อยากจะหลุดพ้นจากการจองจำของซือคงเอ้า เพื่อแก้แค้นให้ผู้เป็นแม่
เขาเกลียดซือคงเอ้ามานานกว่ายี่สิบปี แต่ก็ไม่อาจเทียบกับความเกลียดชังที่มีต่อหนานกงเยี่ยในตอนนี้ เพราะหนานกงเยี่ยขโมยเอาแสงสว่างเดียวในชีวิตของเขาไป
แต่ตอนนี้เขายินดีที่จะละทิ้งความเกลียดชังที่มีต่อหนานกงเยี่ย เพื่อให้เธอกลับมา
“ค่ะ ฉันจะกลับไป ฉันจะกลับไป!” เหลิ่งรั่วปิงพยักหน้าด้วยน้ำตา ”เจ้าวิหารให้เวลาฉันหน่อยนะคะ” เธอต้องการเวลาในการบอกลาหนานกงเยี่ย
เมื่อเห็นน้ำตาของเหลิ่งรั่วปิง ซือคงอวี้ใจอ่อน ”ครับ ผมจะรอคุณ แต่อย่าให้ผมรอนานเกินไป”
“ค่ะ”
ก่อนที่จะตัดสาย ซือคงอวี้จับจ้องไปที่ดวงตาของเหลิ่งรั่วปิง ”รั่วปิง ครั้งนี้อย่าทำให้ผมผิดหวังเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นผมไม่รับปากว่าจะควบคุมความโมโหของตัวเองได้ไหม”
หลังจากวางสาย เหลิ่งรั่วปิงนั่งใจลอยอยู่นาน ร้องไห้จนน้ำตาแห้งเหือดไปหมด
เธอรู้ดี การกลับไปซีหลิงในครั้งนี้ ชั่วชีวิตนี้เธอไม่มีวันออกมาจากที่นั่นได้อีก ไม่มีวันได้เจอหนานกงเยี่ยตลอดชีวิต เธอควรจะบอกลาเขายังไงดี
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูทำลายความเงียบในห้องนอน
เหลิ่งรั่วปิงรีบจัดการลบร่องรอยในคอมพิวเตอร์ ลุกขึ้นไปเปิดประตู
พ่อบ้านอวี๋จงยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยความเคารพ ”คุณผู้หญิงครับ คุณท่านโทรมาครับ ท่านอยากจะพูดกับคุณผู้หญิง คุณผู้หญิงจะลงไปรับโทรศัพท์ที่ห้องรับแขก หรือจะให้ผมต่อสายมาในห้องนอนครับ”
เหลิ่งรั่วปิงปรายตามองอวี๋จง มุมปากของเธอยกยิ้มเย็นยะเยือก ถึงแม้เขาจะพูดจาเคารพ ท่าทีนอบน้อม แต่นัยน์ตาของเขากลับดูถูกเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้ดี ถ้าไม่มีหนานกงเยี่ยคอยปกป้องเธอเอาไว้ วันแรกที่เธอเข้ามาคฤหาสน์นี้ พ่อบ้านรูปร่างซูบผอมท่าทีอ่อนแอ คงใช้วิธีเหี้ยมโหดในการกำจัดเธอ
วันนี้เธออยู่บ้านคนเดียว หนานกงจวิ้นโทรศัพท์มาหาเธอ ถ้าไม่ใช่อวี๋จงรายงานเรื่องนี้ให้กับหนานกงจวิ้นแล้วจะเป็นฝีมือใคร
“เดี๋ยวฉันลงไปรับ” เหลิ่งรั่วปิงพูดเสียงเรียบ แล้วเดินลงบันไดไป
พ่อบ้านรีบเดินตามหลัง เมื่อไปถึงห้องรับแขกชั้นหนึ่ง ยิ้มหยันแล้วยื่นโทรศัพท์ให้กับเหลิ่งรั่วปิง
“คุณเหลิ่ง” เสียงแหบพร่าของหนานกงจวิ้นดังขึ้น คล้ายกับเสียงนาฬิกาบอกเวลา ”คิดไม่ถึงจริงๆ ลูกชายฉันจะหลงเธอแบบนี้ ทำให้ฉันปวดใจมาก”
เหลิ่งรั่วปิงเลิกคิ้วขึ้น นิ่งเงียบ เพราะการพูดน้อยหรือไม่พูดจึงจะดีที่สุด หนานกงจวิ้นโทรศัพท์หาเธอในตอนนี้ ไม่มีทางที่จะพูดว่าเขาปวดใจแค่ไหนแน่นอน
“ตระกูลหนานกงไม่มีวันยอมรับเธอ และเธอเองก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลหนานกง
“แน่นอน หลังจากที่เธอฟังสิ่งที่ฉันจะพูดจบ คิดว่าเธอคงไม่อยากจะอยู่ในตระกูลหนานกงอีกต่อไป”
เหลิ่งรั่วปิงขมวดคิ้วเล็กน้อย คำพูดของหนานกงจวิ้นเหมือนจะบอกความลับบางอย่างกับเธอ อีกทั้งความลับนี้เกี่ยวข้องกับเธอและหนานกงเยี่ย
“ตอนนั้นลั่วเฮิ่งคงไม่ได้บอกเธอ ใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของเจียงเฉิง”
ดวงตาเหลิ่งรั่วปิงเบิกกว้าง ”คุณหมายความว่าอะไรคะ”
“ฮ่าๆๆ…” หนานกงจวิ้นหัวเราะ ”ในที่สุดเธอก็ยอมพูดแล้ว นิสัยฉลาดและนิ่งสงบของเธอเหมือนแม่เธอมาก
“คุณรู้จักแม่ของฉัน?”
“อืม ไม่ได้แค่รู้จัก แต่ฉันกับแม่เธอเราเคยหมั้นหมายกันมาก่อน” เสียงของหนานกงจวิ้นในตอนนี้มีรสชาติของความทรงจำที่ซับซ้อน
“!!!” หัวใจเหลิ่งรั่วปิงเต้นแรง แม่ของเธอเคยหมั้นหมายกับหนานกงจวิ้น เรื่องนี้เหมือนฟ้าผ่าลงมาตรงหน้าเธอในวันที่แดดจ้า
เธอนึกถึงตอนอยู่ในซากปรักหักพังกับหนานกงเยี่ยที่เมืองไห่ เรื่องที่เขาเล่าให้เธอฟัง หรือว่าแม่ของเธอคือลูกสาวของตระกูลเซียว และพ่อของเธอก็เป็นคนที่พาแม่ของเธอหนี?
เหลิ่งรั่วปิงมองเห็นจุดจบที่ไม่ดีแล้ว มือซ้ายของเธอกำหมัดแน่น
“ฮ่าๆๆ…” หนานกงจวิ้นหัวเราะสะใจ ”เยี่ยคงเล่าเรื่องแม่ของเขาให้เธอฟังแล้วไหม เธอเองก็คงรู้แล้ว แม่ของเธอคือผู้หญิงที่ฉันรักและเกลียดมากที่สุด เธอหนีการแต่งงานของเรา ดังนั้นสวรรค์จึงลงโทษ แต่งงานกับพ่อเธอตั้งหลายปีก็ไม่ยอมท้องสักที ในที่สุดก็ตั้งท้องเธอ แต่กลับตายตอนคลอด”
หนานกงจวิ้น ”เพื่อหนีฉัน แม่ของเธอหลบซ่อนเปลี่ยนชื่อของตนเอง หลังจากตายก็ไม่ยอมเอาศพมาฝังที่เมืองหลง ฉันตามหาแม่ของเธอด้วยความยากลำบากปีแล้วปีเล่า จนกระทั่งสิบปีให้หลัง ฉันเจอเธอที่เมืองหลง เธอหน้าตาเหมือนแม่ของเธอมาก ดังนั้นฉันจึงให้คนแอบเอาเส้นผมของเธอไปตรวจ DNA สุดท้ายฉันก็มั่นใจว่าเธอเป็นลูกสาวของเธอ”
“ฉันตามหาด้วยความยากลำบากมานานกว่าสิบปี แต่กลับพบว่าแม่ของเธอตายแล้ว ทั้งยังตายเพราะคลอดลูกให้ผู้ชายอีกคน!” เสียงของหนานกงจวิ้นเคล้าไปด้วยความแค้น ”พ่อของเธอสมควรตาย เขาหลอกผู้หญิงที่ฉันรักมากที่สุดไป แต่กลับดูแลเธอไม่ได้ หลังจากที่เธอตายยังกล้ากลับมาทำธุรกิจที่เมืองหลง แล้วฉันจะปล่อยมันไปได้ยังไง!”
เหลิ่งรั่วปิงเม้มกัดฟัน ”ดังนั้น คุณจึงเป็นคนสั่งให้ลั่วเฮิ่งฆ่าพ่อของฉัน?”
“ถูกต้อง ไม่อย่างนั้น ด้วยความสามารถของลั่วเฮิ่งจะกลายเป็นบริษัทรับเหมารายใหญ่ได้ยังไง”
“ฉันไม่ได้แค่ทำให้พ่อของเธอตาย ฉันยังทำให้เขาเจ็บปวด ทุกข์ทรมานนานกว่าสามปี”
“อีกเรื่องหนึ่ง เธอรู้ไหมว่าทำไม พ่อของเธอถึงแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเจี่ยนชิว เพราะฉันสั่งให้ลั่วเฮิ่งใช้เวลาครึ่งปีในการฝึกซ้อมเจี่ยวชิว ให้เจี่ยวชิวเลียนแบบแม่ของเธอ ยาพิษที่เจี่ยนชิววาง ก็เป็นยาพิษที่ฉันให้ลั่วเฮิ่งด้วยตนเอง