เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 262 ซือคงอวี้สับสนในเรื่องความรัก
มองดูแววตาหม่นหมองของมู่เฉิงซี เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกสะใจ ”ดาบตำรวจมู่รู้สึกไม่สบายใจเหรอคะ เพื่อ? คุณมีทั้งเงินและอำนาจ มีผู้หญิงมากมายอยากจะเป็นเมียสองสามสี่ของคุณ ขาดแค่เวินอี๋ของฉันสักคน คุณวางใจเถอะ ฉันจะหาผู้ชายดีๆ ให้เวินอี๋เอง ให้เธอได้แต่งงานอย่างมีหน้ามีตา”
แต่งงานอย่างมีหน้ามีตา!
คำพูดนี้กรีดแทงมู่เฉิงซี เขาจินตนาการไม่ได้จริงๆ ว่าตอนที่เวินอี๋ใส่ชุดเจ้าสาวแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นเป็นอย่างไร แค่คิดว่าเธอต้องกลางเป็นผู้หญิงของคนอื่น หัวใจของเขาก็สั่นเทาอย่างห้ามไม่ได้
บัตรเดบิต ที่อยู่ในมือของเขาหักลง ทิ่มแทงเข้าไปที่เนื้อของเขา แต่งงานอย่างมีหน้ามีตา คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในหัวของเขา ทำให้เขาปวดหัวจนแทบระเบิด
ตอนบอกเลิกเธอ ตอนที่เลิกกับเธอจริงๆ รวมถึงตอนที่มองดูเธอบินไปประเทศเอ้าตู เขายังไม่รู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน เพียงแค่คิดว่าเธอจะแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น เขาก็ปวดหัวจนหายใจลำบาก
มองมู่เฉิงซีที่พยายามข่มความเจ็บปวด เหลิ่งรั่วปิงยิ้มชั่วร้ายมากยิ่งกว่าเดิม เธอยื่นมือไปดึงบัตรเดบิตในมือมู่เฉิงซี แล้วจ้องตาเขา พร้อมทั้งเอาบัตรที่เวลานี้บิดเบี้ยวไม่เป็นทรงโยนไปตรงหน้ามู่เฉิงซี ”ไสหัวไป! ไม่มีใครบอกคุณหรือไง เป็นแค่เมียเก็บไม่ต้องแต่งเข้าบ้าน” แววตาเหี้ยมโหดจ้องหน้ามู่เฉิงซี หนาวเย็นไปถึงกระดูก ”หลังจากนี้อย่าให้ฉันได้ยินคุณเรียกชื่อเวินอี๋อีก คุณไม่คู่ควรที่จะเรียกชื่อเธอ!”
ชายชาติทหารจอมเผด็จการอย่างมู่เฉิงซี ยอมรับคำด่าทอของเหลิ่งรั่วปิงเงียบๆ ความเป็นจริงสิ่งที่เหลิ่งรั่วปิงทำ ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เขาอยากให้ทุกคนมาด่าเขา มาทำร้ายเขา
ทว่าแม้เขาจะเจ็บปวดทรมานจนตาย เหลิ่งรั่วปิงก็ไม่มีวันหายโกรธ เพราะความเจ็บปวดที่มู่เฉิงซีทำให้เวินอี๋จะอยู่กับเธอตลอดชีวิต เวินอี๋ในตอนนั้น เหมือนกระดาษสีขาว ถึงแม้ชีวิตจะยากจน แต่เธอก็มีความสุขในการเพ้อฝัน แต่มู่เฉิงซี เข้าไปในชีวิตของเธอ ทำลายความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอ ทำให้เวินอี๋ต้องเจ็บปวดตลอดชีวิต ในเมื่อไม่มีปัญญาที่จะรักเวินอี๋ ก็ไม่ควรเข้าไปในชีวิตเธอตั้งแต่แรก นี่เป็นสิ่งที่คนทุกคนพึงกระทำ แต่เห็นชัดว่ามู่เฉิงซีรักษาระยะห่างของตนเอาไว้ไม่ได้
มองดูสภาพของมู่เฉิงซี หนานกงเยี่ยรู้สึกสงสาร เขากอดเอวเหลิ่งรั่วปิงเบาๆ ”พอแล้วครับที่รัก เรากลับบ้านกันเถอะ หืม”
เหลิ่งรั่วปิงปิงก็คร้านจะมองมู่เฉิงซีอีก เธอกะพริบตา ทำลายเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะตัวอยู่ในดวงตาคู่สวย จากนั้นหมุนตัวหันหลัง แล้วเดินจากไป
หนานกงเยี่ยตบไหล่มู่เฉิงซีเบาๆ เป็นการปลอบโยน แล้วรีบวิ่งตามเหลิ่งรั่วปิงไป เรื่องของความรู้สึกต้องเจอด้วยตนเองถึงจะเข้าใจ เจ็บปวดก็ดี มีความสุขก็ช่าง มีแค่พบเจอด้วยตนเองเท่านั้นถึงจะรู้ว่า สุดท้ายตนทำใจลืมมันได้หรือไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครช่วยได้
*****
วิหารซีหลิง ภายในโถงวิหารเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ แสงแดดยามเช้า เคล้าไปด้วยแสงสนธยา ส่องกระทบพื้นหินอ่อนผ่านกระจกใจบานใหญ่ สะท้อนเป็นแสงสีรุ้ง ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์
หลินมั่นหรูที่คุกเข่าอยู่ในแสงสีรุ้ง กลับเหมือนดอกบัวเหี่ยวเฉา เรือนร่างของเธอสั่นเทา ดวงตาคู่สวยมองลงบนพื้น โดยไม่ได้จับจ้องสิ่งใด
ซือคงอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทองคำตัวใหญ่ ดวงตานกฟีนิกซ์ฉายความเย็นยะเยือก นิ้วมือเรียวยาววางไว้บนเสารองมือกระจก ทุกคนต่างรู้ดี ใต้เสารองมือนั้นมีมีดบินซุกซ่อนเอาไว้ และทุกคนเองก็รู้ดี มีดบินทุกเล่มเคยปลิดชีพคน ปลิดชีพคนที่หักหลังวิหาร
ดังนั้น หลินมั่นหรูรู้ชะตากรรมของตนเองเป็นอย่างดี เธอทำความผิด ความผิดมหันต์ ความผิดที่ไม่อาขให้อภัยได้
ความผิดของเธอคือการทำนอกเหนือคำสั่ง ยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง และยังเปิดเผยตัวตน
ซือคงอวี้ดูคลิปวิดีโอในห้องฝึกต่อสู้เล็ก นัยน์ตาของเขาเยือกเย็นมากกว่าเดิม ”หลินมั่นหรู บอกมา เธอไปข้องเกี่ยวกับถังเฮ่าตั้งแต่เมื่อไหร่”
หลินมั่นหรูก้มหน้าลง เสียงของเธอสั่นเทา ”ครั้งแรกที่ไปเมืองหลงค่ะ”
ครั้งแรกที่ไปเมืองหลง หลินมั่นหรูไปปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของซือคงอวี้ ร่วมมือกับอาเธอร์เพื่อช่วยเหลิ่งรั่วปิงแก้แค้น
ซือคงอวี้โมโหอย่างมาก ”ไปเมืองหลงครั้งแรก เธอก็กล้าไปหายุ่งเกี่ยวกับถังเฮ่า ทั้งยังปิดบังจนถึงตอนนี้!” โยนแท็บเล็ตไปตรงหน้า ”บอกมา เปิดเผยความลับของวิหารไปเท่าไรแล้ว”
หลินมั่นหรูตัวสั่นเทา ”ไม่ค่ะ เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ ต่อให้ฉันต้องตายฉันก็ไม่มีวันเปิดเผยความลับของวิหาร ตอนนั้นฉันมีความจำเป็นจริงๆ จึงต้องไปยุ่งเกี่ยวกับถังเฮ่า”
ในเมื่อไม่อาจหนีพ้นความตายได้ หลินมั่นหรูจึงพูดออกไปทั้งหมด ตายก็ต้องลากเหลิ่งรั่วปิงลงมาด้วย ดังนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ ”ตอนนั้นฉันไปเมืองหลงพร้อมกับอาเธอร์ ตามคำสั่งของเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ เพื่อดูสถานการณ์ของนางฟ้ารัตติกาล และช่วยเธอแก้แค้น หลังจากที่ฉันไปเมืองหลง ฉันสืบรู้อย่างรวดเร็วว่านางฟ้ารัตติกาลกลายเป็นผู้หญิงของหนานกงเยี่ยแล้ว จึงอยากจะรายงานเรื่องนี้ให้เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ ทว่านางฟ้ารัตติกาลและอาเธอร์กลับให้ฉันกินยาอะไรบางอย่าง ซึ่งยานั้นคือยาพิษสูตรลับของตระกูลถัง พร้อมทั้งบีบบังคับไม่ให้ฉันรายงานเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ เพื่อจะถอนพิษในร่างกาย ฉันจึงลอบเข้าไปในวิลล่าของถังเฮ่า แต่กลับถูกจับได้ ทำให้เข้าไปพัวพันกับเขา”
หลินมั่นหรูเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าพระเจ้าประธานของซือคงอวี้ ชายหนุ่มที่เธอรักมานานกว่าสิบปี ตั้งแต่เด็กสาวที่ไม่รู้ประสีประสา จนกระทั่งตอนนี้กลายเป็นนักฆ่าอันดับต้นๆ ของวิหาร เธอไม่เคยรักผู้ชายคนอื่นนอกจากเขา แต่เขากลับไม่เคยปรายตามองเธอมาก่อน อีกทั้งวันนี้เขายังจะฆ่าเธอ
นัยน์ตาของซือคงอวี้มืดมนราวกับน้ำหมึก ถ้ามองอย่างละเอียด เห็นได้ว่านัยน์ตาของเขามีเมฆดำก้อนใหญ่ เหลิ่งรั่วปิง ผู้หญิงที่เขาทั้งรักทั้งแค้น เขารักเธอ รักสุดขั้วหัวใจ ขาดเธอทำให้เขาสูญเสียจิตวิญญาณ เขาเกลียดเธอ เกลียดที่เธอหักหลังเขาอย่างไร้เยื่อใย เกลียดเธอสุดหัวใจ
ทว่า ถึงแม้เขาจะเกลียดเธอมากถึงขั้นนี้ แต่กลับฆ่าเธอไม่ลงคอ
นัยน์ตาของซือคงอวี้กลอกไปมา ท้ายที่สุดก็หยุดลงบนตัวอาเธอร์ ลมเย็นยะเยือกพัดไปยังอาเธอร์ ความหนาวเย็นนั้นทำให้อาเธอร์สั่นเทา เขารีบคุกเข่าลงกับพื้น ”เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ เรื่องนี้เป็นความคิดของอาเธอร์เพียงคนเดียวครับ ไม่เกี่ยวกับรั่วปิง”
อาเธอร์ไม่กลัวตาย เขาตายเพื่อเหลิ่งรั่วปิงได้ครั้งหนึ่ง ก็ต้องตายเพื่อเธอเป็นครั้งที่สองได้
หมาป่าสีเทาที่ยืนอยู่ข้างอาเธอร์ หัวใจบีบรัด เขารู้ว่าครั้งนี้อาเธอร์ยากที่จะรอดพ้น
ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือ ซือคงอวี้ไม่ได้โมโหอย่างที่ทุกคนคิด เขาเงียบแล้วมองอาเธอร์อยู่นาน จากนั้นใบหน้าพระเจ้าประธานก็มีรอยยิ้มบางๆ เขาจ้องไปที่อาเธอร์ พูดด้วยเสียงอ่อนโยน ”อาเธอร์ นายบอกฉันมา รั่วปิงมีอะไรดี ทำไมนายถึงยอมตายเพื่อเธอ”
ประโยคนี้ถามอาเธอร์ สู้บอกว่าเขาถามตัวเองยังจะดีเสียกว่า กี่ค่ำคืนที่นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงเธอ เขาอดถามตัวเองไม่ได้ เขารักเธอที่อะไรกันแน่ หรือเป็นเพราะครั้งแรกที่เจอกัน ดวงตาสดใสคู่นั้นของเธอดึงดูดเขา?
น้ำเสียงของซือคงอวี้พยายามยิ้ม แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่าคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ อาเธอร์เองก็ฟังออก เขาเงยหน้าขึ้นแล้วมองตาซือคงอวี้ด้วยความจริงจัง ”เธอดีทุกอย่าง และไม่ดีไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าเธอจะมีข้อดีหรือเสียอะไร ผมก็ยินดีตายเพื่อเธอ นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า”
พระประสงค์ของพระเจ้า?
ซือคงอวี้ครุ่นคิด นัยน์ตาสีดำคล้ายกับน้ำที่รินไหล เขามองไปยังแท่นบูชาที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางห้องโถง แล้วมองขึ้นด้านบน สุดท้ายหยุดลงที่รูปปั้นเทพ เงียบอยู่นานโดยไม่พูดอะไร
โถงใหญ่เงียบสงัด ราวกับเวลาหยุดเดิน
เหมือนซือคงอวี้ลืมทุกอย่าง ลืมว่าหลินมั่นหรูทำความผิดร้ายแรง และลืมว่าอาเธอร์ขัดคำสั่งของเขา ซือคงอวี้ราวกับรูปปั้นเทพเจ้า นั่งนิ่งอยู่ท่าเดิม ราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งกับเทพเจ้า
อาเธอร์และหลินมั่นหรูคุกเข่าอยู่บนพื้น รอรับการลงโทษ
หมาป่าสีเทาเงยหน้าขึ้นมองซือคงอวี้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้ เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อกำลังคิดถึงใครคนนั้นอีกแล้ว
ถูกต้อง ซือคงอวี้กำลังคิด เหลิ่งรั่วปิงเคยกลับมาหาเขาแล้ว และเคยรับปากว่าจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป แต่สุดท้ายเธอก็ไปจากเขา ทั้งยังตั้งท้องลูกของผู้ชายคนอื่น เขาไม่อาจรักษาเธอเอาไว้ได้ ทุกคนพากันคัดค้านการกระทำของเขา และเธอเองก็ถูกบีบบังคับจนอยากจะไปใช้ชีวิตตามลำพัง เขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ
วันนี้ เธอกลับไปหาหนานกงเยี่ยอีกครั้ง เป็นภรรยาของเขา และยังมีลูกกับผู้ชายคนนั้น
หรือว่าทั้งหมดนี้ คือพระประสงค์ของพระเจ้า?
เขาอยากจะถามพระเจ้าจริงๆ ทำไมต้องวางแผนชีวิตของเขาแบบนี้ด้วย ทำไมต้องให้ความหวังเขา แล้วสุดท้ายก็พรากมันไป ถ้าหากเหลิ่งรั่วปิงถูกกำหนดมาแล้วว่าไม่ใช่คู่ของเขา แล้วทำไมถึงต้องทำให้เขารักเธอมากขนาดนี้
ตอนนี้เขารู้สึกว่า เหลิ่งรั่วปิงไม่มีอะไรดีเลย เธอทั้งเย็นชา ไร้เยื่อใย เป็นผู้หญิงแข็งกระด้าง ไร้ความอ่อนโยน ไม่เข้าใจความรัก เกิดและตายเพื่อความแค้น ผู้หญิงแบบนี้มีดีอะไร แต่เขาก็รักเธอ รักมากและลืมไม่ลง หรือทั้งหมดนี้คือพระประสงค์ของพระเจ้า
หลังจากผ่านไปนาน ซือคงอวี้หลับตาลงช้าๆ ร่างกายเอนไปด้านหลัง นั่งพิงเก้าอี้ทองคำตัวใหญ่
กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง เงียบอยู่นาน นานจนทุกคนคิดว่าเขานอนหลับไปแล้ว
ท่ามกลางความเงียบ ซือคงอวี้ลืมตาขึ้นกะทันหัน ดวงตานกฟีนิกซ์ฉายแสงเยือกเย็น มองไปยังหลินมั่นหรู ลำแสงนั้นราวกับมีดที่แหลมคม ”หลินมั่นหรู ตอนที่รั่วปิงสูญเสียการมองเห็น รั่วปิงคิดว่าฉันจะฆ่าเธอ เธอเป็นคนปลุกปั่นใช่ไหม”
ถูกต้อง ระหว่างที่ซือคงอวี้อยู่ในความเงียบ เขาคิดถึงเรื่องต่างๆ มากมาย นึกถึงตอนที่เหลิ่งรั่วปิงออกไปจากวิหาร กลับไปแก้แค้นที่เมืองหลง คนที่ฉลาดเหมือนเขา ต้องคิดได้แน่นอนว่าหลินมั่นหรูคิดจะทำร้ายเหลิ่งรั่วปิง เรื่องนี้เขาไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น เขาไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนบนโลกใบนี้กล้าทำร้ายเธอ
ถึงแม้หลินมั่นหรูจะไม่ได้เงยหน้าขึ้น แต่สายตาคมเฉียบของซือคงอวี้ที่มองมานั้น เธอสัมผัสได้อย่างชัดเจน แววตาเยือกเย็นทำให้หัวใจของเธอรัดแน่น เธอรับรู้ได้ เขาคิดจะฆ่าเธอ
ซือคงอวี้เหยียดตัวนั่งตรง เสียงของเขาราวกับมีดที่แหลมคม ”ใครให้ความกล้านั้นกับเธอ ถึงได้กล้าทำร้ายรั่วปิง ฮะ?!”
เสียงของซือคงอวี้ ราวกับลมที่ผ่ากลางอากาศ พัดเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ทุกคนที่ได้ฟังต่างสั่นเทา
ถึงแม้หลินมั่นหรูจะกลัวซือคงอวี้มาก แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ตอนที่เธอรู้ว่าสุดท้ายก็แค่ต้องตาย เธอนิ่งสงบมาก หลินมั่นหรูเงยหน้าขึ้น มองซือคงอวี้เงียบๆ ไร้ซึ่งความหวาดกลัว มุมปากของเธอมีรอยยิ้มเผยออกมาเล็กน้อย ”เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อเป็นคนมอบความกล้านั้นให้ฉันเองค่ะ”
ซือคงอวี้ขมวดคิ้วเป็นปม มองไปที่หลินมั่นหรู เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าหลินมั่นหรูจะพูดอะไรต่อ