เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 267 หนานกงเยี่ยต้องการที่จะฆ่าหลินมั่นหรู
เหลิ่งรั่วปิงเงียบ เธอเองก็ทำอะไรไม่ได้ เธอติดค้างซือคงอวี้มากมายเกินไปแล้ว ไม่อาจขอร้องเพื่อหลินมั่นหรูได้ เธอไม่มีเหตุผลที่จะร้องขอ และไม่มีสิทธิ์
หนานกงเยี่ยครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดขึ้น ”ผมคิดว่า ถังเฮ่าไปซีหลิงครั้งนี้ ต้องวางแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาน่าจะพาหลินมั่นหรูกลับมาเมืองหลงได้โดยไม่มีใครรู้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคตผมเองก็บอกไม่ได้”
ตอนที่ซือคงอวี้รู้ว่าสายลับของวิหารหนีไปกับผู้ชาย เขาต้องโมโหมากแน่ๆ ถ้าไม่จับตัวหลินมั่นหรูกลับไปแล้วลงโทษอย่างหนัก ก็ต้องตามฆ่าเธอ ถึงอย่างไรศักดิ์ศรีและความลับของวิหารสำคัญที่สุด
อวี้ไป่หันถอนหายใจ โน้มตัวลงพิงบนโซฟากว้าง ”ช่วงนี้มีแต่เรื่องไม่ราบรื่น” ชำเลืองมองหนานกงเยี่ย ”คนอย่างพวกเรา ถูกกำหนดให้อาภัพในเรื่องความรักใช่ไหม แกเพิ่งมีความรักดีๆ เฉิงซีกลับต้องเจอเรื่องแบบนั้น ถังเฮ่ายังเสี่ยงตาย ส่วนฉัน…เฮ้อ ฉันไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะสู้”
ได้ยินชื่อของมู่เฉิงซี ใบหน้าที่กลมมนเล็กน้อยของเหลิ่งรั่วปิงเคลือบด้วยความเย็นบางๆ ”อย่าพูดถึงชื่อผู้ชายสารเลวแบบนั้นต่อหน้าฉันอีก!”
อวี้ไป่หันอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน ”รั่วปิง ถ้าคุณเกิดในตระกูลแบบพวกผม มีฐานะแบบพวกผม คุณไม่มีวันด่าเฉิงซีแบบนี้หรอก เฉิงซีรักเวินอี๋จริงๆ แต่เขาต่อต้านตระกูลไม่ได้ บนโลกใบนี้มีแค่หนานกงเยี่ยเท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้ คุณรถเรียกร้องให้ทุกคนปกป้องความรักของตนเองเหมือนหนานกงเยี่ยไม่ได้หรอกนะ”
เหลิ่งรั่วปิงโยนดินสอทิ้งด้วยความโมโห สายตาเย็นยะเยือกจ้องมองไปที่อวี้ไป่หัน ”อวี้ไป่หัน ฟังจากที่คุณพูด ตอนที่คุณชายอย่างพวกคุณคบกับผู้หญิงคนหนึ่ง พวกคุณไม่คิดที่จะรับผิดชอบเธอเหรอคะ หลังจากได้กันแล้วรักกันแล้ว พวกคุณอ้างเหตุผลมากมายในการปัดความรับผิดชอบได้? ในเมื่อไม่มีปัญญาที่จะรักก็อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้น เวินอี๋เป็นผู้หญิงที่ใสซื่อมาก แต่กลับถูกมู่เฉิงซีทำลายถึงขั้นนี้ได้”
อวี้ไป่หันก้มหน้าลง เพราะสิ่งที่เหลิ่งรั่วปิงพูดมีเหตุผล คิดว่าคงเป็นเพราะเหตุนี้ ตอนนั้นเธอถึงคัดค้านไม่ยอมให้เขาตามจีบไซ่หย่าเซวียน บางทีสิ่งที่เหลิ่งรั่วปิงพูดอาจจะถูก คู่ชีวิตที่ดีที่สุดของไซ่หย่าเซวียนคือฉู่เทียนรุ่ย เขาไม่ควรไปวุ่นวายกับชีวิตเธอ
เหลิ่งรั่วปิงยังคงจ้องอวี้ไป่หันด้วยสายตาเย็นชา ”นี่เป็นรักครั้งแรกของเวินอี๋ แต่เธอกลับต้องชดใช้ด้วยทั้งหมดที่มี ทั้งร่างกายและหัวใจของเธอยกให้มู่เฉิงซีแล้ว แต่สุดท้ายสิ่งที่เวินอี๋ได้กลับมาคืออะไร คือการดูถูกและทำร้ายตบตีของตระกูลมู่ รวมถึงการเป็นเมียเก็บของมู่เฉิงซี เขามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้”
เหลิ่งรั่วปิงยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห ถ้าตอนนี้มู่เฉิงซีอยู่ตรงหน้าเธอ มีดบินของเธอคงพุ่งไปตรงหน้าเขาอย่างไม่ลังเลอีกครั้ง
หนานกงเยี่ยถอนหายใจ รีบลุกขึ้น โอบเอวเหลิ่งรั่วปิง ”พอแล้วครับ อย่าโมโหเลยนะ หืม?” หันไปมองอวี้ไป่หัน แววตาตำหนิเย็นยะเยือกเคลือบอยู่บนใบหน้าของเขา
อวี้ไป่หันรีบขอโทษ ”โอเคๆ รั่วปิง ผมผิดไปแล้ว อย่าโกรธเลยนะ ผมรับปากว่าหลังจากนี้จะไม่พูดถึงเขาต่อหน้าคุณอีก โอเคไหม”
เหลิ่งรั่วปิงสูดลมหายใจเข้า ถอนสายตาเย็นยะเยือกกลับมา เตรียมวาดออกแบบต่อ ในเวลานี้เอง พ่อบ้านเดินเข้ามา ”คุณชายเยี่ยครับ คุณผู้หญิงครับ คุณชายถังมาครับ”
ทั้งสามเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ มองหน้ากัน ยังไม่รอพวกเขาลุกขึ้นยืน ถังเฮ่าก็เดินเข้ามา พร้อมกับหญิงสาวรูปร่างอรชร แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นคือหลินมั่นหรู
หลินมั่นหรูแต่งตัวเรียบง่าย เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงรัดรูปสีดำ รองเท้าหนังสีดำ ผมสีดำดัดลอนยาว นุ่มสลวยนั้นปิดบังใบหน้าที่งดงามของเธอ ทำให้เธอดูสวยมาก
พบเจอกับเหลิ่งรั่วปิงอีกครั้ง ความหยิ่งผยองของหลินมั่นหรูลดน้อยลงมาก แววตาที่มองเหลิ่งรั่วปิง มีความเขินอายเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเหลิ่งรั่วปิงจะกลายเป็นแบบนี้ได้ พวกเธอใช้ชีวิตอยู่ในวิหารร่วมกันมานานถึงหกปี เป็นศัตรูกันมานานถึงหกปี เธอถึงขั้นคิดจะเอาชีวิตเหลิ่งรั่วปิง แต่พอวันนี้ลองย้อนกลับไปมอง เรื่องพวกนั้นไม่คุ้มค่าแม้แต่น้อย เพื่อแย่งผู้ชายที่ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวมองตน เธอทำผิดพลาดมากมาย
ตอนนี้เธออยู่ข้างกายถังเฮ่า ทำให้เธอได้ดื่มด่ำกับความรักและความสุขที่ผู้หญิงควรจะได้รับ เธอไม่อยากเสียมันไป ในเมื่อไม่อยากเสียมันไป เธอจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับเหลิ่งรั่วปิง
เหลิ่งรั่วปิงมองไปที่หลินมั่นหรู รู้สึกแปลกใจอย่างมาก ตามด้วยรู้สึกสับสน ถึงแม้เธอจะไม่อยากให้หลินมั่นหรูต้องตาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะอยู่กับผู้หญิงคนนี้อย่างสงบได้ ถึงยังไงผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนที่คิดจะเอาชีวิตเธอหลายครั้ง สำหรับหลินมั่นหรู เหลิ่งรั่วปิงเกลียดเธอมาก
“รั่วปิง” หลินมั่นหรูเป็นคนพูดก่อน น้ำเสียงของเธอเคล้าไปด้วยเจตนาดี
เหลิ่งรั่วปิงกลับทำสีหน้าดูถูก ”หยุด อย่าเรียกชื่อฉันเหมือนว่าเราสนิทกันมาก ฉันจำได้ว่าพวกเราเป็นศัตรูกัน ฉันเกือบตายด้วยน้ำมือของเธอหลายครั้งแล้ว”
ฟังสิ่งที่เหลิ่งรั่วปิงพูดจบ หนานกงเยี่ยสีหน้าเคร่งขรึมทันที คนที่คิดจะฆ่าภรรยาของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จะให้เขารู้สึกดีด้วยได้อย่างไร ถ้าหากหลินมั่นหรูไม่เกี่ยวข้องกับถังเฮ่า หนานกงเยี่ยกระโดดเตะหลินมั่นหรูไปแล้ว
ถังเฮ่าใช้ชีวิตร่วมกับหลินมั่นหรูมาหลายวัน ทำให้เขาพอจะรู้เรื่องราวระหว่างเธอและเหลิ่งรั่วปิง เผชิญหน้ากับคำพูดเย็นชาของเหลิ่งรั่วปิงและสีหน้าเยือกเย็นของหนานกงเยี่ย เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย อยากจะทำลายความกระอักกระอ่วนนี้ เพราะถึงอย่างไร เขากับหนานกงเยี่ยก็เป็นเพื่อนกันมานานกว่ายี่สิบปี อีกทั้ง ถ้าจะให้หลินมั่นหรูอยู่ในเมืองหลงอย่างปลอดภัย เขาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากหนานกงเยี่ย
อวี้ไป่หันทำลายบรรยากาศตึงเครียดเก่งที่สุด เขาหัวเราะเสียงดัง ”ถังเฮ่า แกตามจีบภรรยาตั้งไกล ตอนนี้จีบติดแล้วเหรอ”
ถังเฮ่ายิ้มแล้วพยักหน้า ”อื้ม จีบติดแล้วก็เลยพากลับมาให้พวกแกเจอ”
“ชิ!” เหลิ่งรั่วปิงปรายตามองถังเฮ่า ”ฉันเห็นมาหกเจ็ดปีแล้ว มองจนเบื่อแล้ว ไม่เห็นอยากจะเจอ”
หนานกงเยี่ยมองภรรยาของตนด้วยความรัก พูดด้วยเสียงเกียจคร้าน ”อะไรที่รั่วปิงของฉันชอบฉันก็ชอบ อะไรที่รั่วปิงของฉันเกลียดฉันก็เกลียดด้วย ถังเฮ่า ถ้าไม่มีธุระอะไรแกกลับไปเถอะ”
หลินมั่นหรูเป็นคนอารมณ์ร้อน เคยชินกับความรุนแรง อีกทั้งตลอดหกปีที่อยู่ในวิหาร เธอไม่เคยเห็นเหลิ่งรั่วปิงอยู่ในสายตา อิจฉาเหลิ่งรั่วปิงจนแทบอยากจะเอาเธอมาเคี้ยววันละหลายรอบ อยากจะเหยียบเธอให้จมดิน แต่สิ่งที่ปรารถนายังไม่เป็นจริง กลับต้องมาขอความช่วยเหลือเธอ แล้วหลินมั่นหรูจะสบอารมณ์ได้ยังไง ดังนั้นสีหน้าของคนอื่นเธอยังพอทนได้ แต่ทนเห็นเหลิ่งรั่วปิงชักสีหน้าให้ตนไม่ได้
หลินมั่นหูรเงยหน้าขึ้นด้วยความโมโห ”เหลิ่งรั่วปิง เธอมีอะไรให้จองหอง”
เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะ กัดกับหลินมั่นหรูในวิหารมานานกว่าหกปี พวกเธอสองคนไม่เคยเป็นมิตรกันมาก่อน ถ้าหากวันไหนเป็นเพื่อนกันขึ้นมา เธอรู้สึกแปลกมาก หลินมั่นหรูกลับมาโหมดปกติแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมา
เสียงของเหลิ่งรั่วปิงราวกับหนามแหลมคม ”หลินมั่นหรู ฉันกับเธอไม่ถูกกันมานานแล้ว ใครเหนือกว่าใคร ข้อนี้เธอรู้ดีที่สุด ไม่ต้องมาแสแสร้ง” แสยะยิ้มด้วยความร้ายกาจ ”คิดไม่ถึงว่าคนอย่างเธอจะหนีไปกับผู้ชายแบบนี้ ฉันคิดว่าเธอจะเลือดเย็นไปตลอดชีวิตซะอีก”
หลินมั่นหรูมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความท้าทาย แววตาของเธอสะท้อนความเย้ยหยันเช่นเดียวกับเหลิ่งรั่วปิง ”แล้วเธอดีกว่าฉันตรงไหน เธอเองก็หักหลังเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อครั้งแล้วครั้งเล่า ควงผู้ชายคนอื่นจนเป็นข่าวใหญ่ไม่ใช่หรือไง”
เรื่องของเหลิ่งรั่วปิงเป็นข่าวใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงที่เธอหนีทั้งสองครั้งจนกลายไปข่าวดังทั่วเมือง ทั้งยังขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ’Global Times’ แค่เรื่องที่เธอทำให้หนานกงเยี่ยคว่ำบาตรซีหลิง ทั้งยังสู้กับซือคงอวี้ เรื่องนี้ก็เอาไปพูดได้หลายปีแล้ว
เหลิ่งรั่วปิงไม่มีอะไรจะค้าน เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำให้ตนเองมีข่าวเสียหายแบบนี้ ความคิดในตอนแรกของเธอคือการแก้แค้นเท่านั้น หลังจากแก้แค้นจบลงก็เงียบหาย ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป แต่สุดท้ายใครจะไปรู้ว่าเธอจะยืนอยู่บนจุดสูง มีสายตามากมายจับจ้อง ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นเพราะหนานกงเยี่ย
คิดได้แบบนี้ เหลิ่งรั่วปิงจึงมองค้อนหนานกงเยี่ย แน่นอนหนานกงเยี่ยรู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงกำลังตำหนิตน อดไม่ได้ที่จะยักไหล่ เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนั้นเธอพยายามไปจากเขา เขาเองก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อรั้งเธอเอาไว้ สุดท้ายแล้ว ต้องตำหนิตัวเธอเอง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไร้เยื่อใย ดึงดันจะไปจากเขาให้ได้ จะมีชื่อเสียงแย่ๆ แบบนี้เกิดขึ้นเหรอ
เหลิ่งรั่วปิงปรายตามองหลินมั่นหรู ”เธออยากจะหนีไปกับใครก็หนีไป ไม่ต้องมายืนเสนอหน้าให้ฉันเห็น ไสหัวออกไป! เมื่อไหร่ที่เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อตามล่าเธอ จับตัวเธอกลับไปซีหลิง เอาตัวเธอไปลงโทษ ฉันจะอวยพรขอให้เธอมีความสุข”
“เหลิ่งรั่วปิง!” หลินมั่นหรูโมโห เธอขมวดคิ้วเป็นปม ยกมือขึ้นแล้วโยนผงยาออกไป
หนานกงเยี่ยยืนอยู่ข้างเหลิ่งรั่วปิง ไม่รอให้เหลิ่งรั่วปิงลงมือ เขาก็หมุนตัวเหลิ่งรั่วปิง 360 องศาเพื่อหลบผงยาพิษ หนานกงเยี่ยโมโหมาก หลังจากเห็นว่าเหลิ่งรั่วปิงไม่เป็นอะไรเขาก็พุ่งตัวไปหาหลินมั่นหรู บีบคอของเธอ หนานกงเยี่ยบีบแรงมาก ทำให้หน้าของหลินมั่นหรูกลายเป็นสีเลือดอย่างรวดเร็ว ความโมโหของเขารุนแรงมาก แทบจะทำลายทุกอย่างในห้องหลังนี้
ถ้าผงยานั้นพุ่งมาที่เขา เขาคงไม่โมโหขนาดนี้ แต่หลินมั่นหรูกลับกล้าแตะต้องภรรยาและลูกของเขา เขาไม่สนว่าหลินมั่นหรูจะเป็นผู้หญิงของเพื่อนหรือไม่ จะเอาชีวิตเธอทันที
ถังเฮ่าตกใจ รีบเดินเข้าห้าม ”หนานกง ใจเย็นก่อน”
หนานกงเยี่ยนิ่ง เพิ่มน้ำหนักมือขึ้นเรื่อยๆ ต้องการที่หักคอหลินมั่นหรู ถ้าหลินมั่นหรูไม่ใช่สายลับที่ผ่านการฝึกฝนมานาน น้ำหนักมือในตอนนี้เพียงพอที่จะทำให้เธอไปพบยมบาลได้แล้ว
ถังเฮ่าร้อนใจ ”หนานกง แกจะบีบให้ฉันลงมือหรือไง”
หนานกงเยี่ยพูดด้วยความร้ายกาจ ”ถังเฮ่า แกอยากให้ฉันใจกว้างกับผู้หญิงที่คิดทำร้ายภรรยาและลูกหรือไง”
อวี้ไป่หันเองก็เริ่มเป็นกังวล รีบลุกขึ้นกระชากเสื้อของหนานกงเยี่ย ”หยุดๆๆ หนานกง อย่าทะเลาะกันเพราะผู้หญิงคนเดียว” หันไปมองถังเฮ่า ”ถังเฮ่า เรื่องนี้ผู้หญิงของแกเป็นฝ่ายผิด รีบบอกให้เธอขอโทษหนานกงเร็วเข้า”
ถังเฮ่าหันไปมองหลินมั่นหรูด้วยความจนปัญญา ยอมรับผิด เธอจะยอมรับผิดได้ยังไง โดนหนานกงเยี่ยบีบคอจนหายใจไม่ออกแล้ว เอาแรงที่ไหนมาพูด ”หนานกง ฉันขอโทษแทนมั่นหรูด้วย แกหักมือฉันทิ้ง แล้วปล่อยมั่นหรูได้ไหม”
แต่หนานกงเยี่ยยังคงไม่ไหวติง เพื่อปกป้องภรรยากับลูก เขาขังได้แม้กระทั่งพ่อตนเอง แล้วจะสนใจผู้หญิงของเพื่อน?
ถังเฮ่ารู้ เขาไม่มีวันทะเลาะกับหนานกงเยี่ย หนึ่งเป็นเพราะเขากับหนานกงเป็นเพื่อนกันมานานกว่ายี่สิบปี ความสัมพันธ์ไม่มีวันถูกทำลายเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง และสอง เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนานกงเยี่ย ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของตระกูลหรือฝีมือการต่อสู้