เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 271 ความรักสุดบังเอิญของเวินอี๋
สีหน้าของหนานกงเยี่ยเย็นยะเยือกราวกับปกคลุมไปด้วยหิมะ แววตาที่มองเหลิ่งรั่วปิงคล้ายมีเมฆดำ ”มันไม่เหมือนกันนี่ครับ หืม? ตอนนั้นคุณเกือบแต่งงานกับไซ่ตี้จวิ้น คุณคิดว่าผมจะยอมให้คุณกับว่าที่เจ้าบ่าวเป็นเพื่อนกัน?” พูดถึงเรื่องนี้หนานกงเยี่ยก็ยิ่งงอนมากกว่าเดิม ”ผมขอถามคุณ ตอนนั้นคุณชอบไซ่ตี้จวิ้นที่ตรงไหน ถึงได้ตกลงแต่งงานกับเขา หืม”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน หนานกงเยี่ยที่กำลังโมโหต้องจับคางเหลิ่งรั่วปิงแน่นแล้ว ตอนนี้เขากลับทำไม่ลงคอ
มองดูหนานกงเยี่ยที่หึงหวงกับเรื่องในอดีต เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะเสียงดัง ”เรื่องมันผ่านไปนานแล้วนะคะ คุณยังจะหึงอีก ไม่เหมือนคนที่จะเป็นพ่อคนเลย ไม่ว่าในอดีตฉันจะเคยมองผู้ชายคนไหน สุดท้ายก็ถูกคุณหลอกกลับมา”
พูดถึงเรื่องนี้ หนานกงเยี่ยภาคภูมิใจขึ้นมาทัน ”ผมมีวิธีในการตามตัวภรรยากับมา หึ สมน้ำหน้าไซ่ตี้จวิ้นทำได้แค่เสียใจ”
เหลิ่งรั่วปิงตบแผงอกกว้างของหนานกงเยี่ยด้วยความออดอ้อน เป็นตำแหน่งเดียวกับที่เธอใช้มีดบินทำร้ายเขา เมื่อตอนตัดสินใจไปจากเมืองหลง บาดแผลในวันนั้นทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ลูบจับแผลเป็นนั้นด้วยความปวดใจ ถึงแม้จะมีเสื้อเชิ้ตกั้นเอาไว้ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงรอยแผลที่นูนขึ้นมา ตอนนั้นเธอใจร้ายขนาดนี้ได้อย่างไร เธอทำร้ายผู้ชายที่รักตัวเองมากขนาดนี้ได้อย่างไร
หนานกงเยี่ยรู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงกำลังเสียใจเรื่องอะไร ทุกครั้งที่เธอเห็นรอยแผลเป็นนี้ของเขา เธอก็จะเสียใจทุกครั้ง รอยแผลเป็นนี้ทำให้เขามีความสุข แต่ก็ทำให้เขาปวดใจ ”พอแล้วครับ เรื่องมันผ่านไปแล้วอย่าคิดถึงมันอีกเลย หืม” จับมือของเธอขึ้นมาประทับจูบลงไปด้วยความอ่อนโยน ”นั่นคือร่องรอยของความรัก ไม่ใช่แผลเป็น ผู้ชายทั้งโลกไม่มีใครโชคดีเหมือนผม ที่ทำให้คุณรักได้”
เหลิ่งรั่วปิงพยายามกลั้นน้ำตา ยิ้มแล้วซบลงในอ้อมกอดของหนานกงเยี่ย ”คุณไม่มีวิธีในการตามภรรยาเลยสักนิด”
ใช่ เขาไม่มีวิธีดีๆ ในการตามภรรยาเลยสักนิด เขามีแต่ความเผด็จการ ไม่มีทักษะด้านความรักแม้แต่น้อย เขาไม่รู้จักความรัก ที่เขาทำให้เธอยอมกลับมาได้ ล้วนเป็นเพราะทุ่มสุดชีวิต
หนานกงเยี่ยยิ้ม ถูกต้อง เขายอมรับ เขาเป็นคนนิสัยเสีย ไม่เคยรู้วิธีเอาใจผู้หญิง ถ้าตอนนั้นไม่ใช่ทุ่มสุดชีวิตเพื่อพาตัวเหลิ่งรั่วปิงกลับมา ตอนนี้เธอคงไม่อยู่ในอ้อมกอดของเขา
ความรักบนโลกใบนี้ คำพูดหวานหยดย้อยใดๆ เมื่อเทียบกับความรักที่บ้าคลั่ง ล้วนสูญเปล่า เขาใช้ชีวิตในการรักเธอ ดังนั้นเธอต้องเป็นของเขาตลอดไป
*****
เวินอี๋โทรหาเหลิ่งรั่วปิงขณะที่อยู่ในคาเฟ่แห่งหนึ่ง หลังจากพูดคุยกันเสร็จเธอก็เดินไปจ่ายเงิน ตอนเดินออกไปนอกร้านบังเอิญชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
คนคนนี้ เป็นผู้ชาย รูปร่างสูงโปร่ง แต่ดูอ่อนแอเล็กน้อย เขาสวมชุดสูทสีดำแบรด์ดัง แสดงถึงฐานะของเขาออกมาอย่างชัดเจน หางคิ้วมีรอยแผลเป็นเล็กน้อย แต่รอยนี้จางมาก พูดได้ว่าเมื่อก่อนเขาเป็นคนที่ซ่ามาก แต่ตอนนี้กลับตัวกลับใจแล้ว
ผู้ชายคนนี้ คือกู้จือเหานั่นเอง
ตอนนั้นเขาถูกหนานกงเยี่ยบิดข้อมือจนหัก ความเจ็บปวดนั้นเตือนสติเขา ถ้าหากเขายังเป็นคุณชายไม่เอาถ่าน เขาก็จะถูกคนที่แข็งแกร่งอย่างหนานกงเยี่ยทำทุกอย่างได้ตามใจชอบ
ตอนที่เขารู้ว่าแท้จริงแล้วฉู่หนิงซยาไม่ใช่ฉู่หนิงซยา แต่เป็นเหลิ่งรั่วปิงที่มีชื่อเสียงด้านความสวย ความรู้สึกเศร้าในใจของเขาก็หายไปทันที ที่แท้เขาไม่ได้ตกหลุมรักลูกอีกาที่กลายเป็นหงส์ แต่เขาหลงเสน่ห์หงส์ตัวจริง
ความใจกว้างและเย้ยหยันที่เหลิ่งรั่วปิงมีต่อเขา ทำให้เขาจดจำมันได้เป็นอย่างดี เขาอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นเหมือนหงส์ ก็ต้องทำตัวให้เป็นมังกรเหมือนกับหนานกงเยี่ย ไม่อย่างนั้น เขาก็คู่ควรแค่กับฉู่หนิงซยาคนเดิมในอดีต
ดังนั้น กู้จือเหาเรียนรู้จากวามเจ็บปวด เปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่ทำตัวเสเพล ไม่แต่งตัวตามแฟชั่น เขาเริ่มให้ความสำคัญกับบุคลิกของตนเอง และกลับไปทำงานที่บริษักกู้ซื่อ การเปลี่ยนแปลงของเขา ทำให้พ่อและพี่ชายดีใจอย่างมาก
การมองผู้หญิงของเขาในเวลานี้ก็เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่เที่ยวเล่นกับผู้หญิงไปทั่ว แต่อยากเจอผู้หญิงที่เย็นชาและทระนงเหมือนเหลิ่งรั่วปิง ผู้หญิงที่เพิ่งเดินมาชนเขา ถึงแม้จะไม่ได้เย็นชาเหมือนเหลิ่งรั่วปิง แต่เธอมีความทระนงและไม่ย่อท้อ ดึงดูดเขาเป็นอย่างมาก
ดังนั้น เขาจึงเอื้อมจับแขนของเวินอี๋ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ ”เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
เวินอี๋รีบดึงแขนตัวเองกลับ โค้งตัวลงขอโทษ ”ขอโทษด้วยนะคะ”
กู้จือเหาคลายยิ้มบางๆ แววตาของเขาลุ่มลึก ผู้หญิงตรงหน้าคล้ายกับเหลิ่งรั่วปิงเล็กน้อย ”ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกครับ เป็นความผิดของผมเอง”
เวินอี๋โล่งอก ”ขอบคุณนะคะ” อยู่ต่างประเทศ ไม่รู้จักใคร เธอไม่อยากมีปัญหา
เวินอี๋กำลังจะเดินไป แต่กู้จือเหากลับคว้าข้อมือของเธอ ”ผมขอทราบชื่อคุณหน่อยได้ไหมครับ”
เวินอี๋เงยหน้าขึ้นด้วยความฉงน มองกู้จือเหา ผู้ชายคนนี้หน้าตาคมเข้ม รอยแผลเป็นตรงหางคิ้ว ทำให้เขาดูหล่อร้าย การที่เขาไม่ยอมปล่อยมือแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าอยากตามจีบเธอ น่าเสียดาย ตอนนี้เธอไม่สนใจเรื่องความรัก
เห็นเวินอี๋ลังเล กู้จือเหาคว้าโทรศัพท์ในมือของเวินอี๋มาอย่างรวดเร็ว เขารีบกดเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นโทรออก เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น กู้จือเหาจึงวางสาย รอยยิ้มนั้นเคล้าไปด้วยความลุ่มหลง แล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้กับเวินอี๋ เขาบังเอิญเห็นตราสัญลักษณ์บริเวณหน้าอกของเวินอี๋ ”คุณเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปศาสตร์ประเทศเอ้าตูเหรอครับ”
เวินอี๋ยิ้มด้วยความกระอักกระอ่วน แล้วพยักหน้า ”ใช่ค่ะ”
กู้จือเหาหยิบโทรศัพท์ตนเองขึ้นมา แล้วบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเวินอี๋ ”ช่วยบอกชื่อของคุณให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”
เวินอี๋ลังเล ทำตัวไม่ถูก ”คุณคะ ฉัน…”
“ผมไม่มีเจตนาร้ายครับ” กู้จือเหายิ้มแล้วอธิบาย ”ผมไม่เป็นคุณชายนิสัยไม่ดีแล้ว คุณวางใจได้”
กู้จือเหาคิดว่าเวินอี๋เป็นคนในเมืองหลวงของประเทศเอ้าตู ชื่อเสียงของเขาในอดีต ไม่ดีเท่าไร คุณชายเสเพลนิสัยแย่ ผู้หญิงดีๆ ทุกคนต่างพากันหนีเขา ดังนั้นเขาจึงรีบอธิบายให้เวินอี๋ฟัง
น่าเสียดายที่เวินอี๋ไม่รู้จักเขา หลังจากฟังเขาพูดจบ เธอพะงาบปากไม่รู้จะตอบยังไง
กู้จือเหามองเวินอี๋ที่ตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ”คุณมีแฟนหรือยังครับ”
“มีแล้วค่ะ…” เวินอี๋พูดติดขัดแล้วรีบส่ายหน้า ”เลิกไปแล้วค่ะ”
กู้จือเหายิ้มร่า ”ดีจัง ตอนนี้คุณบอกชื่อของคุณให้ฟังหน่อยนะครับ”
เวินอี๋เม้มกัดริมฝีปากด้วยความลำบากใจ เธอกำลังคิดว่าจะไปจากที่นี่ยังไงดี เหมือนอย่างที่เธอบอกกับเหลิ่งรั่วปิง ตอนนี้เธออยากจะตั้งใจแล้ว ทำให้ตัวเองยืนด้วยลำแข้งของตนได้ เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ไม่สนใจเรื่องความรัก แต่ผู้ชายตรงหน้าดูสนใจเธออย่างชัดเจน เธออยากจะรีบไปจากเขา
กู้จือเหาไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นสุภาพบุรุษ เห็นเวินอี๋ลำบากใจ เขาจึงไม่รีบร้อน ยืนรอด้วยความใจเย็น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ
“เวินอี๋!” ไซ่หย่าเซวียนวิ่งมาด้วยความร้อนใจ ดึงตัวเวินอี๋ไปอยู่ใกล้ มองกู้จือเหาด้วยสายตารังเกียจ ”กู้จือเหา นายคิดจะทำอะไร”
เห็นไซ่หย่าเซวียนที่ดูโกรธจัด กู้จือเหาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความลำบากใจ ตอนนี้เขากลายเป็นสุภาพบุรุษแล้ว ไม่อาจทะเลาะกับไซ่หย่าเซวียนเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างอ่อนโยน ”พวกคุณรู้จักกันด้วยเหรอ”
ไซ่หย่าเซวียนมองกู้จือเหาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่เป็นมิตร ”หึ ตอนนี้นายดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะเลยนี่ ทำไม ไม่เป็นคุณชายนิสัยเสียแล้วเหรอ”
กู้จือเหายิ้มแห้งๆ แล้วมองเวินอี๋ ”หย่าเซวียน เราอย่าพูดถึงเรื่องในอดีตเลยนะครับ ตอนนี้ผมกลับตัวกลับใจแล้ว หลังจากนี้คุณอย่าเกลียดผมเลย”
“ฮ่าๆๆ…” ไซ่หย่าเซวียนหัวเราะ เหมือนได้ฟังข่าวแปลกประจำวัน ”กลับตัวกลับใจแล้วจริงๆ เมื่อหลายวันก่อนพี่ชายฉันบอกว่านายเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว แต่ฉันไม่เชื่อ ฮ่าๆๆ ดูนายตอนนี้สิแต่งตัวเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ มองสบายตาขึ้นมาก”
กู้จือเหาโดนต่อว่าจนรู้สึกประหม่า เขารู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ”ผมเลี้ยงข้าวพวกคุณดีไหมครับ”
ไซ่หย่าเซวียนเป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อยที่สุด ถึงแม้เมื่อก่อนเวลาเจอกู้จือเหาทีไรต้องมีเรื่องกันทุกที แต่พอเธอได้ยินไซ่ตี้จวิ้นบอกว่า ตอนนี้กู้จือเหาไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอเองก็ไม่ได้ถือสา ให้อภัยกู้จือเหาเร็วยิ่งกว่าอากาศที่เปลี่ยนแปลงในฤดูร้อน ”ได้ ในฐานะที่นายกลับตัวกลับใจ ฉันจะให้เกียรตินาย” ยิ้มแล้วหันไปมองเวินอี๋ ”นี่คือเวินอี๋ น้องสาวของเหลิ่งรั่วปิง”
กู้จือเหาเงยหน้าขึ้นมองเวินอี๋ด้วยความตกใจ แล้วหันไปมองไซ่หย่าเซวียน ”คุณบอกว่าเธอคือน้องสาวของเหลิ่งรั่วปิง?”
ไซ่หย่าเซวียนยิ้มร่า ”ถูกต้อง เวินอี๋มาจากเมืองหลง ตอนนี้กำลังเรียนศิลปศาสตร์ในมหาวิทยาลัยศิลปศาสตร์ประเทศเอ้าตู ทั้งยังทำงานพาร์ทไทม์เป็นผู้ช่วยของประธานในบริษัทพี่ชายฉันด้วย”
สายตาที่กู้จือเหามองเวินอี๋ ยิ่งเปี่ยมไปด้วยความหลงใหล หลังจากเจอกับเหลิ่งรั่วปิง เขาไม่สนใจพวกผู้หญิงที่สวยแต่รูปอีกแล้ว เวินอี๋คนนี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาหวั่นไหวหลังจากผ่านมานาน และเธอก็เป็นน้องสาวของเหลิ่งรั่วปิง นี่มันเรื่องบังเอิญจริงๆ เป็นเรื่องที่ดี!
ดังนั้น กู้จือเหายิ้มราวกับแสงแดดในฤดูร้อน ”ไปกันเถอะ เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวพวกคุณ”
ขณะพูด เขาก็ผายมือเชิญอย่างสุภาพ ”เชิญขึ้นรถครับ คุณผู้หญิงทั้งสาว”
“ไปกันเถอะเวินอี๋” ไซ่หย่าเซวียนไม่เกรงใจแม้แต่น้อย เธอจับมือเวินอี๋แล้วขึ้นไปบนรถ
กู้จือเหานั่งประจำที่นั่งคนขับ สตาร์ตรถด้วยความจริงจัง ระหว่างทาง เขามองเวินอี๋ผ่านกระจกมองหลัง อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ”พวกคุณอยากรับประทานอะไรครับ”
ไซ่หย่าเซวียนไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ”แน่นอนว่าต้องเป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศเอ้าตู หูฉลามมังกร”
กู้จือเหาอารมณ์ดีมาก เขาตอบด้วยความชื่นมื่น ”ครับ ถ้าอย่างนั้นเราไปกินหูฉลามมังกรกัน”
ทั้งสามขับรถมาจนถึงภัตตาคารสุดหรูในประเทศเอ้าตู สั่งอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ หูฉลามมังกร รวมถึงอาหารขึ้นชื่ออีกหลายอย่าง