เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 275 หญิงผู้ลึกลับเฉินลู่เหยา
มู่เฉิงซีมัวแต่ดีใจกับเรื่องที่เวินอี๋จะกลับมา เขาไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดกับการไล่แขกของหนานกงเยี่ย ยิ้มจนตาโค้งมน ”ได้ๆๆ ฉันกลับก่อน”
มู่เฉิงซีเพิ่งเดินไปถึงหน้าประตู หนานกงเยี่ยพูดเสริม ”อย่าให้เหลิ่งรั่วปิงรู้เด็ดขาดว่าฉันเป็นคนบอกเรื่องนี้กับแก ถ้าพวกฉันทะเลาะกัน ฉันจะตัดขาดความเป็นเพื่อนกับแก”
มู่เฉิงซีมองหนานกงเยี่ยด้วยความเย้ยหยัน จากนั้นหมุนตัวหันหลังเดินออกไปจากวิลล่าหย่าเก๋อ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ซย่าอี่มั่วรักเฉิงซีมากเท่าไร เธอก็เกลียดเวินอี๋มากเท่านั้น เธอรู้สึกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของเวินอี๋ เรื่องระหว่างเธอกับมู่เฉิงมีความเป็นไปได้ที่จะลงเอยกัน เติมโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก อีกทั้งผู้ใหญ่ของทั้งสองครอบครัวก็ต้องการให้แต่งงานกัน นอกจากนี้ทั้งสองตระกูลยังเป็นเพื่อนกันอีก ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก แต่เพราะมีเวินอี๋เข้ามา ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป
ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยพายุหิมะ อยากจะแล่เนื้อเวินอี๋จนหมดสิ้น ถึงแม้ว่าตอนนี้เวินอี๋จะอยู่ไกลกับเธอมากก็ตาม แต่ซย่าอี่มั่วก็ยังคงอยากจะแก้แค้น แต่ว่า ตอนนี้เธอไม่กล้าแก้แค้นเวินอี๋ เพราะเวินอี๋เป็นคนที่เหลิ่งรั่วปิงให้ความสำคัญมากที่สุด อีกทั้งเหลิ่งรั่วปิงก็เป็นคนที่หนานกงเยี่ยให้ความสำคัญ ต่อให้เธอจะไม่รู้ที่ต่ำที่สูงมากแค่ไหน เธอก็ไม่กล้ายุ่งกับคนของหนานกงเยี่ย
ยังคงคำพูดเดิม ถ้าซย่าอี่มั่วอยากจะจัดการเหลิ่งรั่วปิง ต้องทำให้เธอไม่ใช่คุณผู้หญิงหนานกงเสียก่อน
แต่ว่า เป็นที่รู้กันดีว่าหนานกงเยี่ยรักภรรยาของเขามากแค่ไหน แล้วเขาจะยอมทิ้งเหลิ่งรั่วปิงได้อย่างไร
ขณะที่เธอกำลังเครียดอยู่นั้น ผู้หญิงที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปีติดต่อมาหาเธอ ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าเฉินลู่เหยา
เฉินลู่เหยาเคยเป็นคนอันดับต้นๆของเมืองหลง ถึงแม้ว่าในตอนหลังเธอจะย้ายไปซีหลิง ไม่ได้กลับเมืองหลงมาหลายปี แต่ชื่อเสียงของเธอยังเป็นที่รู้จักในเมืองหลง ใครบ้างจะไม่รู้จักดารานักแสดงชื่อดังระดับโลกเฉินลู่เหยา หนังทุกเรื่องที่เฉินลู่เหยาแสดงล้วนทำรายได้เป็นอย่างดี พูดได้ว่า เธอเป็นคนที่ทำให้ตั๋วหนังขายหมด
ซย่าอี่มั่วสนิทกับเฉินลู่เหยามาก สนิทกันจนถึงขั้นพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิท
เฉินลู่เหยาบอกว่าเธอจะกลับมาเมืองหลง สิ่งนี้ทำให้ซย่าอี่มั่วมีความคิดอะไรบางอย่าง เธอรู้สึกว่าโอกาสในการล้มเหลิ่งรั่วปิงมาแล้ว
เพราะอะไรนะหรือ เพราะเฉินลู่เหยาเกี่ยวข้องกับหนานกงเยี่ย ตอนนั้นทุกคนต่างคิดว่าเฉินลู่เหยาเป็นผู้หญิงที่หนานกงเยี่ยรัก
เฉินลู่เหยาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก บุคลิกของเธอคล้ายกับเหลิ่งรั่วปิง เป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์และเย็นชา แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ เหลิ่งรั่วปิงบริสุทธิ์และสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนเฉินลู่เหยามีออร่าของเทพธิดา
พูดมาแล้ว นั่นเป็นเรื่องเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นหนานกงเยี่ยอายุยี่สิบเอ็ด เพิ่งรับช่วงดูแลตระกูลหนานกงได้ไม่นาน ในตอนนั้น เฉินลู่เหยาอายุสิบเก้า กำลังสวยสะพรั่งเหมือนนางฟ้านางสวรรค์
ตอนนั้น ทุกคนต่างพูดกันว่าหนานกงเยี่ยรักเฉินลู่เหยา เพียงเพราะบังเอิญเจอกันครั้งเดียว เขาก็ได้รู้จักกับเฉินลู่เหยา จากนั้นก็ตกหลุมรักเธอจนไม่อาจถอนตัว ในตอนนั้นชีวิตของเฉินลู่เหยารันทดมาก พ่อเธอตายตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่ก็ป่วยหนัก เพื่อที่จะหาเงินมารักษาแม่ เธอต้องทำงานทั่วทุกสารทิศ หนานกงเยี่ยเป็นคนช่วยเธอเอาไว้ เขาให้เงินก้อนโตกับเฉินลู่เหยาเพื่อให้แม่ของเธอได้เข้ารับการผ่าตัด ซื้อบ้านหลังใหญ่ให้เธอ ทั้งยังส่งเธอเรียนมหาวิทยาลัยการแสดงที่เธอรัก
หนานกงเยี่ยไม่ได้ทำเพียงแค่นี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่บริษัทหนานกงลงทุนล้วนเชิญเธอเป็นนางเอก เธอมีพรสวรรค์ด้านการแสดงอย่างมาก ไม่ทำลายความหวังของหนานกงเยี่ย แสดงแค่เรื่องเดียวก็ดังไปทั้งประเทศ
ตอนนั้น ทุกคนต่างบอกว่าเธอคือผู้หญิงคนใหม่ของหนานกงเยี่ย หนานกงเยี่ยเองก็ไม่เคยปฏิเสธ
ในตอนหลัง ได้ยินว่า เพราะอวี้หลานซีหึงหวง นายท่านหนานกงก็ไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์นี้ บีบให้เฉินลู่เหยาไปจากหนานกงเยี่ย พาแม่ของเธอย้ายไปอยู่ซีหลิง แต่หนานกงเยี่ยยังคงไม่ลืมเธอ แอบให้ความช่วยเหลือเธอมากมาย
เวลานี้หนานกงเยี่ยทำทุกอย่างเพื่อเหลิ่งรั่วปิง น่าจะเป็นเพราะเห็นเธอเป็นตัวแทนของเฉินลู่เหยา ได้ยินว่าตอนนั้นเพราะเรื่องเฉินลู่เหยา หนานกงเยี่ยทะเลาะกับนายท่านหนานกงยกใหญ่ เหมือนถูกกรีดหัวใจ สาเหตุที่ทุกวันนี้เขาไม่ยอมปล่อยเหลิ่งรั่วปิงหลุดมือ น่าจะเป็นเพราะความดื้อรั้นในจิตใจ ไม่อยากถูกทำร้ายจิตใจอีกครั้ง
ซย่าอี่มั่วรู้สึกว่า ไม่ว่าตอนนี้หนานกงเยี่ยจะรักเหลิ่งรั่วปิงมากแค่ไหน เธอก็เป็นแค่ตัวแทนของเฉินลู่เหยา ทันทีที่เฉินลู่เหยากลับมา เหลิ่งรั่วปิงต้องถูกทิ้งอย่างแน่นอน ดังนั้น ตอนที่เฉินลู่เหยาโทรมา เธอดีใจจนกระโดดโลดเต้น อยากจะรีบขับรถไปรับเฉินลู่เหยาที่สนามบินด้วยตนเอง
หลายปีที่ผ่านมานี้ ซย่าอี่มั่วได้เห็นเฉินลู่เหยาเฉพาะในละครและภาพยนตร์เท่านั้น เธอรู้สึกว่าเฉินลู่เหยาสวยยิ่งกว่าเดิม ในภาพยนตร์ใหม่ทุกเรื่อง เฉินลู่เหยาสวยจนทำให้เธอแทบหยุดหายใจ ไม่เพียงแค่ผู้ชายที่หลงใหลเธอ แม้แต่ผู้หญิงก็มองเธอตาไม่กะพริบ
ถ้าส่งเฉินลู่เหยาไปหาหนานกงเยี่ย...
ยืนอยู่บนถนน ซย่าอี่มั่วยกยิ้มที่น่าหลงใหลขึ้น นัยน์ตาของเธอเผยแสงแวววับแห่งความเจ้าเล่ห์
“อี่มั่ว” เฉินลู่เหยาสวมชุดเดรสสีขาวที่ขับให้เธอมีสง่า รองเท้าหนังสีขาว ผมยาวสลวยปล่อยพริ้ว ยิ้มแล้วหันไปโบกมือให้ซย่าอี่มั่ว เธอสวยเหมือนนางฟ้าที่เดินเหยียบบนก้อนเมฆ ถ้ามองอย่างละเอียด คล้ายว่าจะมีออร่าความเป็นเทพธิดาฉายออกมาจากตัวเธอ
ซย่าอี่มั่วเดินเข้าไปกอดด้วยความดีใจ ”ลู่เหยา ฉันดีใจจริงๆ ที่แกกลับมา”
เฉินลู่เหยายิ้มได้สวยและน่าหลงใหลมาก ทว่าก็เย็นยะเยือกเช่นเดียวกัน ”อี่มั่ว ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี”
ซย่าอี่มั่วยิ้ม ”จริงด้วย ไม่ได้เจอกันสี่ปีแล้ว ตอนนั้นฉันยังคิดว่าเธอจะคบกับคุณหนานกงเยี่ยซะอีก”
พูดถึงหนานกงเยี่ย นัยน์ตาของเฉินลู่เหยาสั่นคอลน ”ได้ยินว่าเขาแต่งงานแล้ว ตอนนี้ภรรยากำลังตั้งครรภ์”
ซย่าอี่มั่วเลิกคิ้วขึ้นด้วยความเย้ยหยัน ”หึ แล้วยังไง ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่ตัวแทนของเธอ ขอแค่เธอปรากฎตัวต่อหน้าหนานกงเยี่ย เขาต้องทิ้งผู้หญิงคนนั้นเพื่อเธอแน่ๆ”
เฉินลู่เหยายิ้มอย่างสง่างาม เพียงแต่ผู้หญิงที่ไม่ใส่ใจรายละเอียดอย่างซย่าอี่มั่ว มองไม่เห็น แววตาของเธอลุ่มลึกมากแค่ไหน ลึกเหมือนทะเลสาบ
ซย่าอี่มั่วรีบพูดเชื่อมไปยังจุดประสงค์ของเธอทันที ”แกกลับมา หนานกงเยี่ยรู้เรื่องนี้ไหม?”
เฉินลู่เหยาส่ายหน้าเบาๆ นัยน์ตาของเธอเคลือบด้วยรอยยิ้มจางๆ รอยยิ้มนั้นไม่ว่าอย่างไรซย่าอี่มั่วก็มองไม่ออก ถึงแม้จะบอกว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่เฉินลู่เหยากลายเป็นจิ้งจอกพันปีมานานแล้ว แต่ซย่าอี่มั่วยังคงอยู่ที่เดิม
ดังนั้น ซย่าอี่มั่วที่อยู่ตรงหน้าเฉินลู่เหยาดูเหมือนคนไม่มีความรู้สึก ”แกมันโง่จริงๆ ตอนนั้นก็แอบไปเงียบๆ ตอนนี้ก็กลับมาเงียบๆ คืนนี้ฉันจะพาแกไปไนท์คลับเฟิ่งหวงไถ ฉันได้ยินว่าคุณหนานกงเยี่ยนัดรวมตัวกันที่นั่น ถึงตอนนั้นเราไปให้คุณหนานกงเยี่ยตกใจกันเถอะ”
เฉินลู่เหยาหลุบตาลง ”ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ เพราะถึงยังไงเขาก็มีภรรยาแล้ว”
ซย่าอี่มั่วร้อนใจเล็กน้อย ถ้าเฉินลู่เหยาไม่ยอมไปเจอหนานกงเยี่ย แล้วแผนการโค่นล้มเหลิ่งรั่วปิงของเธอจะทำอย่างไร ”หึ ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังครอบครองผู้ชายที่ควรจะเป็นของแก ตำแหน่งคุณผู้หญิงหนานกงควรจะเป็นของแก ไป ไปกินข้าวกันก่อน เดี๋ยวตอนกลางคืนเราไปไนท์คลับเฟิ่งหวงไถด้วยกัน”
เฉินลู่เหยาไม่ได้ปฏิเสธอะไรมากมาย เธอยิ้มบางๆ แล้วขึ้นไปบนรถของซย่าอี่มั่ว ระหว่างทาง เธอฟังซย่าอี่มั่วพูดเรื่องต่างๆอย่างไม่ใส่ใจเท่าไร พร้อมทั้งสองตึกสูงนอกหน้าต่างด้วยความคิดถึง
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เมืองหลง!
ซย่าอี่มั่วดีใจมาก เธอต้อนรับเฉินลู่เหยาโดยการพามารับประทานอาหารในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งในเมืองหลง เฉินลู่เหยาเป็นผู้หญิงที่สวย กิริยาท่าทางของเธอเวลากินข้าวสวยยิ่งกว่า ซย่าอี่มั่วที่มองดูเธอนั้นพูดชมไม่หยุด ”ลู่เหยา ไม่ได้เจอกันไม่กี่ปี นับวันแกก็ยิ่งสวย”
เฉินลู่เหยายิ้มอย่างสง่างาม ”สวยแล้วจะมีประโยชน์อะไร ถึงยังไงฉันก็ยังตัวคนเดียว” แววตาของเธอแปรเปลี่ยนเป็นไกลห่าง คล้ายว่ากำลังคิดถึงอะไรมาบางอย่าง ถูก เธอนึกถึงเรื่องในอดีต ถ้าตอนนั้นหนานกงเยี่ยครอบครองตัวเธอแล้วจะเป็นอย่างไร? ตอนนั้นทำไมเขาถึงดีกับเธอมากขนาดนั้น แต่กลับไม่ยอมครอบครองเธอ
ซย่าอี่มั่วถอนหายใจ ”ลู่เหยา แกไม่ต้องเสียใจ ตอนนั้นเป็นเพราะนายท่านหนานกงคอยขัดขวาง แกก็เลยจำเป็นต้องไปจากเขา ตอนนี้นายท่านหนานกงทำอะไรหนานกงเยี่ยไม่ได้แล้ว โอกาสของแกกลับมาแล้ว”
“จริงเหรอ?” เฉินลู่เหยาหลุบตาลง นัยน์ตาของเธอ ราวกับหยดน้ำค้างที่เงางามบนหยกสีนิล ความรู้จักเศร้าเสียใจซ่อนเร้นเอาไว้ด้านใน
ซย่าอี่มั่วให้กำลังใจ ”แน่นอน ตอนนั้นคุณหนานกงเยี่ยดีกับเธอมากแค่ไหน ไม่มีผู้หญิงคนไหนเคยได้รับความช่วยเหลือแบบนั้นจากเขามาก่อน”
เฉินลู่เหยาทอดถอนหายใจ ”แต่ว่า ตอนนั้นคุณหนานกงเยี่ยก็ดีกับอวี้หลานซีมาก แต่สุดท้ายเขายอมทิ้งอวี้หลานซีเพื่อเหลิ่งรั่วปิง”
ซย่าอี่มั่ว ”มันไม่เหมือนกัน เขาไม่ได้รักอวี้หลานซีอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงทิ้งอวี้หลานซีได้ แต่กับเธอมันไม่เหมือนกัน คุณหนานกงเยี่ยเคยรักเธอมาก่อน”
เฉินลู่เหยาไม่ได้พูดอะไรอีก มือที่จับส้อมเอาไว้กระชับแน่นขึ้น เขาเคยรักเธอมาก่อนจริงๆ เหรอ ตอนนั้นในสายตาของทุกคน เขาดีกับเธอมาก แต่มีแค่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ตั้งแต่ต้นจนจบเขายังคงรักษาระยะห่างกับเธอ ระหว่างพวกเขาไม่มีอะไรเกินเลย เธอเองก็ไม่เข้าใจ ทำไมเขาต้องดีกับเธอมากขนาดนี้ด้วย
ตอนกลางคืน หนานกงเยี่ยพาเหลิ่งรั่วปิงไปไนท์คลับเฟิ่งหวงไถ เพื่อเจอกับถังเฮ่าและอวี้ไป่หัน หลินมั่นหรูเองก็อยู่ ขาดแค่มู่เฉิงซีคนเดียวเท่านั้น เพราะเหลิ่งรั่วปิงไม่อยากเจอเขา ดังนั้นเขาจึงไม่มาอย่างรู้ตัวดี
อวี้ไป่หันยกแก้วไวน์ขึ้นมา ถามหนานกงเยี่ย ”งานแต่งงานมีอะไรที่ไม่โอเคหรือเปล่า ถ้ามีรีบบอกฉัน ฉันจะได้ให้คนไปจัดการ”
หนานกงเยี่ยเอนตัวลงพิงโซฟาด้วยความเกียจคร้าน มือขวาโอบแขนเหลิ่งรั่วปิง แววตาของเขาแสดงความรักใคร่ออกมาอย่างเอ่อล้น ”เรื่องนี้ต้องถามคุณภรรยาสุดที่รัก”
รอยยิ้มของเหลิ่งรั่วปิงสวยราวกับดอกไม้ ”ไม่มีค่ะ ฉันชอบทุกอย่าง” เธอรู้สึกว่าตอนนี้งานแต่งงานดูโอเวอร์มากเกินไปแล้ว
มองเหลิ่งรั่วปิงที่สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข หลินมั่นหรูรู้สึกอิจฉา เธอแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับเหลิ่งรั่วปิงมาโดยตลอด แต่เธอไม่เคยโชคดีเหมือนเหลิ่งรั่วปิง เหลิ่งรั่วปิงแทบจะไม่ได้ทำอะไร แต่เหลิ่งรั่วปิงก็ได้รับความสุขมากมาย ในทางกลับกัน เธอที่อยู่เคียงข้างซือคงอวี้มานานกว่าสิบปี ไม่เคยได้แม้กระทั่งการชายตามองจากเขา ทั้งยังเกือบต้องทิ้งชีวิตของตนเอง ตอนนี้เธอเจอผู้ชายที่รักเธอด้วยใจจริง แต่กลับไม่อาจอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นนักฆ่า แต่เธอก็เป็นผู้หญิง ผู้หญิงทุกคนล้วนอยากจะมีงานแต่งงาน น่าเสียดาย ที่เธอไม่อาจมีได้
บนโลกใบนี้มีหนานกงเยี่ยแค่คนเดียว เธอไม่อาจเรียกร้องให้ถังเฮ่าทำให้เธอเหมือนที่หนานกงเยี่ยทำให้เหลิ่งรั่วปิงได้ เขาให้ความคุ้มครองที่แข็งแกร่งมากขนาดนั้นไม่ได้ได้ ข้อนี้หลินมั่นหรูรู้ดี ดังนั้น เธอทำได้เพียงผิดหวัง แต่ไม่ได้ตำหนิถังเฮ่า เขาบอกว่าเขาจะมีเธอแค่คนเดียว แค่นี้เธอก็พอใจมากแล้ว
ขณะที่บรรยากาศโอบล้อมไปด้วยความอบอุ่น ประตูห้องเปิดออก เฉินลู่เหยาและซย่าอี่มั่วปรากฎตัวขึ้นที่หน้าประตู
เฉินลู่เหยาสวมชุดเดรสสีขาว คอระหงส์ของเธอประดับด้วยสร้อยไข่มุก ภายใต้แสงไฟที่สาดส่อง สว่างไสวเจิดจรัส ทำให้เธอสวยจนไม่อาจบรรยายได้