เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 276 เมื่อจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เข้ามาใกล้ เสริมเกราะป้องกันดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
- Home
- เดิมพันเสน่หา
- ตอนที่ 276 เมื่อจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เข้ามาใกล้ เสริมเกราะป้องกันดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
เมื่อเทียบกับความสวยของเหลิ่งรั่วปิง ความสวยของเฉินลู่เหยาบางเบากว่าเล็กน้อย หากจะบอกว่าเหลิ่งรั่วปิงสวยเหมือนนางฟ้า ถ้าอย่างนั้นเฉินลู่เหยาก็สวยเหมือนเงาที่สะท้อนในน้ำของนางฟ้า
ตั้งแต่เข้ามาในห้อง แววตาของเธอเหมือนหยดน้ำ ที่รินไหลรอบตัวหนานกงเยี่ย เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและรักใคร่ของหญิงสาว
แววตาของซย่าอี่มั่วที่มองไปทางเหลิ่งรั่วปิง มีกลิ่นของความเย้ยหยัน
เหลิ่งรั่วปิงที่ฉลาดหลักแหลม แน่นอนว่าต้องดูออก ถึงแม้เธอจะไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหนานกงเยี่ยกับเฉินลู่เหยา แต่สายตาของเฉินลู่เหยาที่มองไปทางหนานกงเยี่ย เหลิงรั่วปิงมองออกอย่างชัดเจน พวกเขาเคยมีอดีตด้วยกัน
แต่ว่า เหลิ่งรั่วปิงเป็นคนที่อดรนทนได้ เธอเพียงแค่ปรายตามองเฉินลู่เหยา จากนั้นหลบตาลง ไม่พูดอะไร
เฉินลู่เหยา แน่นอนว่าเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ที่ประเทศซีหลิง เฉินลู่เหยาเป็นดาราชื่อดัง ทั้งยังเคยไปร้องเพลงที่โรงละครโอเปร่าในราชวัง
หลินมั่นหรูเองก็เป็นผู้หญิงที่มีไหวพริบ แน่นอนว่เธอก็รู้จักเฉินลู่เหยาเหมือนกัน แต่สถานะของเธอในตอนนี้ไม่สะดวกที่จะพูด ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเงียบและนั่งอยู่ข้างถังเฮ่า โดยไม่มีสีหน้าใดๆ
ถังเฮ่าและอวี้ไป่หันกลับไม่อยู่นิ่ง พวกเขาสนิทสนมกับหนานกงเยี่ยเป็นอย่างดี แน่นอนว่าต้องรู้เรื่องในอดีตที่เกิดขึ้น ดังนั้นทั้งสองจึงหันไปมองหน้าหนานกงเยี่ย แต่หนานกงเยี่ยกลับดูไม่ตกใจแม้แต่น้อย เขาดูนิ่งสงบ แววตาไม่มีคลื่นลม มือขวาของเขายังคงโอบเหลิ่งรั่วปิงด้วยความรักใคร่ ทั้งยังนั่งตัวติดกับเธอเหมือนเดิม
อวี้ไป่หันยิ้มแห้ง ”อั๊ยย๊า นี่มันดาราชื่อดังเฉินลู่เหยานี่นา วันนี้คุณจะมาไนท์คลับเฟิ่งหวงไถของผม ทำไมไม่บอกกันสักคำครับ ผมจะได้ทำการต้อนรับ ถือว่าเป็นการทำโฆษณาให้ไนท์คลับเฟิ่งหวงไถของผมด้วย”
สำหรับความนิ่งสงบของหนานกงเยี่ย เฉินลู่เหยารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอยังคงสง่างาม เสียงของเธอก็ยังหวานใสน่าฟังเหมือนเดิม ”คุณอวี้พูดเป็นเล่นไปได้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนานกงคอยสนับสนุน ฉันก็ไม่มีวันนี้หรอกค่ะ ดังนั้นมาที่นี่ฉันควรจะถ่อมตัว”
อวี้ไปหันทักทายเฉินลู่เหยา เห็นได้ชัดว่าเป็นการปูทางให้หนานกงเยี่ย แต่หนานกงเยี่ยดูเหมือนไม่ต้องการมันแม้แต่น้อย เขาเงยหน้าขึ้น มองเฉินลู่เหยา แววตามีรอยยิ้มเล็กน้อย ”ลู่เหยา ได้ข่าวว่าคุณกลับมาทำงานที่เมืองหลงแล้ว?”
แม้ว่านัยน์ตาของหนานกงเยี่ยจะอ่อนโยน แต่ดูบริสุทธิ์มาก บริสุทธิ์จนอวี้ไป่หันรู้สึกประหม่า นึกถึงอดีตที่ผ่านมา เขาเอาเฉินลู่เหยามาพูดล้อเล่นกับหนานกงเยี่ยอยู่หลายครั้ง นอกจากนี้เขากับถังเฮ่า เคยบอกให้หนานกงเยี่ยคบกับเฉินลู่เหยา แต่ทุกครั้งหนานกงเยี่ยก็มองค้อนกลับมาด้วยแววตาเย็นชา ให้พวกเขาหยุดพูดเล่น ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่พูดอะไรมากแล้ว จนถึงวันนี้พวกเขายังไม่เข้าใจ ตอนนั้นหนานกงเยี่ยกำลังคิดอะไรอยู่
สำหรับเฉินลู่เหยา แววตาของหนานกงเยี่ยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นแววตาเดิมในอดีต ตอนนั้นเขาก็มองเธอด้วยแววตาบริสุทธิ์แบบนี้ ไม่มีความปรารถนาในตัวเธอ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เธอสับสน เขาให้ความช่วยเหลือเธอมากมาย แต่ไม่มีความปรารถนาในตัวเธอ มันเป็นเพราะอะไรกันแน่
ถึงแม้หนานกงเยี่ยจะอ่อนโยนกับเธอมาก แต่เฉินลู่เหยายังคงกลัวเขา กลัวเขาจากใจจริง ดังนั้นตอนที่เขาเอ่ยถาม เธอจึงอดที่จะประหม่าไม่ได้ ”ใช่…ใช่ค่ะ อยู่ที่ซีหลิงถึงจุดอิ่มตัวแล้ว กลับมาทำงานที่เมืองหลงจะส่งผลดีมากกว่าค่ะ”
หนานกงเยี่ยพยักหน้า ”อืม ไม่เลว มานั่งด้วยกันสิ”
หนานกงเยี่ยชี้ไปยังที่นั่งตรงข้ามเขา ลู่เฉินเหยาไม่กล้าขัดคำสั่ง เธอเดินไปนั่งอย่างว่าง่าย ทางด้านซย่าอี่มั่วก็นั่งลงข้างๆ เฉินลู่เหยาด้วยความประหม่า ท่าทีของหนานกงเยี่ยทำให้เธอเป็นกังวล เธอไม่เห็นแววตาปรารถนาในตัวเฉินลู่เหยาฉายออกมาจากดวงตาของหนานกงเยี่ย
หนานกงเยี่ยยังคงยิ้มอ่อนโยน มองไปที่เฉินลู่เหยาด้วยความใจดี ”แม่ของคุณสบายดีไหม”
เฉินลู่เหยารู้สึกประหม่าเล็กน้อย ”ค่ะ คุณแม่สบายดี”
หนานกงเยี่ยกะพริบตาเล็กน้อย ”ผมมีคนอยากจะแนะนำให้รู้จัก เธอชื่อเหลิ่งรั่วปิง เป็นภรรยาของผม”
เฉินลู่เหยาเป็นผู้หญิงที่ผ่านโลกมามาก แค่มองเธอก็รู้แล้วว่าหนานกงเยี่ยรักภรรยาคนนี้มากแค่ไหน ด้วยเหตุนี้เธอจึงยิ้มแล้วกล่าวทักทาย ”สวัสดีค่ะคุณผู้หญิงหนานกง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“คุณเฉิน ฉันได้ยินชื่อของคุณมานาน” ความสง่าและใจกว้างของเหลิ่งรั่วปิงไม่น้อยไปกว่าเฉินลู่เหยา ถ้ามองอย่างละเอียด เหลิ่งรั่วปิงดูสง่างามของเฉินลู่เหยามาก ทั้งที่เป็นผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้าเหมือนกันทั้งคู่ เหลิ่งรั่วปิงคือนางฟ้าที่แหวกทะเลได้ ส่วนเฉินลู่เหยาเป็นเพียงนางฟ้าที่นั่งชมดอกไม้เงียบๆ นี่คือข้อแตกต่างระหว่างพวกเธอทั้งคู่
มองดูหน้าด้านข้างของเหลิ่งรั่วปิง หนานกงเยี่ยหลงใหลมากกว่าเดิม ผู้หญิงที่ทำให้เขาหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็มีเสน่ห์ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงยิ้มด้วยความพอใจ นิ้วมือเรียวยาวคล้องผมของเธอไปที่หลังหู จากนั้นพูดกับเฉินลู่เหยาด้วยความใจดี ”มาเมืองหลง อยากจะทำงานด้านไหน”
ไม่รอให้เฉินลู่เหยาตอบ ซย่าอี่มั่วชิงพูดก่อน ”มาเมืองหลง แน่นอนว่าอยากจะทำงานภายใต้บริษัทหนานกงของคุณชายเยี่ยอีกครั้งสิคะ”
หนานกงเยี่ยยิ้มแล้วพยักหน้า ”ลู่เหยามีคุณสมบัติที่เพรียบพร้อม บริษัทหนานกงก็ให้ความสำคัญกับคนที่มีความสามารถ แต่ว่า…”
อวี้ไป่หันพูดขึ้น ”แต่ว่า ตอนนี้บริษัทหนานกงอยู่ในความดูแลของคุณผู้หญิงหนานกง ลู่เหยา ถ้าเธออยากจะมาเป็นนักแสดงภายใต้สังกัดของบริษัทหนานกง ต้องให้รั่วปิงอนุญาต ตอนนี้หนานกงเยี่ยไม่ใช่หนานกงเยี่ยคนเดิมแล้ว เขาเป็นคนที่เชื่อฟังคำพูดของภรรยา”
ซย่าอี่มั่วโมโหจนกำหมัดแน่น เล็บยาวจิกเข้าไปในผิวหนัง เฉินลู่เหยามองหนานกงเยี่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอจินตนาการไม่ได้จริงๆ ว่าวันหนึ่งคนอย่างหนานกงเยี่ยจะเชื่อฟังคำพูดของผู้หญิง เขาเป็นราชาที่ไม่เคยถูกดูหมิ่น เขารักและตามใจผู้หญิงคนหนึ่งได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องยอมทำตามเขาทุกอย่าง เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะยอมทำตามคำสั่งของเหลิ่งรั่วปิง
เหลิ่งรั่วปิงปรายตามองเฉินลู่เหยา เพียงแค่ครู่หนึ่ง เหมือนจะสะท้านเข้าไปถึงกระดูก จากนั้นเหลิ่งรั่วปิงยิ้มบางๆ รอยยิ้มของเธอมีเสน่ห์มาก ”ปกติฉันดูแลแค่เรื่องเงิน เรื่องอื่นฉันไม่เคยสนใจค่ะ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันจะไม่มีวันนิ่งดูดาย ซึ่งก็คือการที่มีคนมาคุกคามตำแหน่งคุณผู้หญิงหนานกงของฉัน ฉันเองก็เป็นผู้หญิง ฉันจะชอบให้มีผู้หญิงสวยๆ มาอยู่ใกล้สามีของตนเองได้ยังไงคะ” ยิ้มแพรวพราวอีกครั้ง ”ดังนั้น คุณเฉิน ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
เหลิ่งรั่วปิงฉลาดมาก ถึงแม้เฉินลู่เหยาจะสวยและนิ่งสงบ ไม่เผยเจตนาออกมา แต่ซย่าอี่มั่วแสดงออกมาชัดเจน เฉินลู่เหยากลับมาเมืองหลงครั้งนี้เพราะหนานกงเยี่ย ด้วยความเกลียดของซย่าอี่มั่วที่มีต่อเธอ ต้องใช้เฉินลู่เหยาเป็นเครื่องมือเพื่อแย่งตำแหน่งคุณผู้หญิงหนานกงอย่างแน่นอน ถึงแม้เหลิ่งรั่วปิงไม่เคยคิดจะแย่งผู้ชายกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน และเธอก็เชื่อว่าหนานกงเยี่ยซื่อสัตย์กับเธอ แต่เธอไม่มีวันปล่อยให้คนที่คิดวางแผนทำร้ายเธอมีความสุข
เฉินลู่เหยาถูกปฏิเสธโต้งๆ แบบนี้ ทำให้สีหน้าของเธอกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่ยังคงความสง่างามเหมือนเดิม แต่ซย่าอี่มั่วกลับไม่นิ่งเฉย ”คุณผู้หญิงหนานกง คุณทำแบบนี้หมายความว่าอะไรคะ ลู่เหยาเป็นถึงดาราดังระดับโลก คุณปฏิเสธเธอแบบนี้ เป็นการทำให้บริษัทเสียหายไม่ใช่เหรอคะ หรือว่าบริษัทด้านบันเทิงภายใต้ชื่อของบริษัทหนานกงเซ็นสัญญากับนักแสดงผู้หญิงหน้าตาดีไม่ได้คะ”
เหลิ่งรั่วปิงลูบจับเล็บของตนเองอย่างไม่ใส่ใจ เสียงของเธอดูเกียจคร้านราวกับแมวที่เพิ่งตื่นนอน ”เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียสามีให้ใคร เมื่อจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เข้ามาใกล้ เสริมเกราะป้องกันดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์”
“ฮ่าๆๆ…” เดิมทีอวี้ไป่หันรู้สึกว่าบรรยากาศตึงเครียด เขาจึงพยายามปรับบรรยากาศด้วยความระมัดระวัง แต่คำพูดของเหลิ่งรั่วปิงทำให้เขาอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ เกือบจะหัวเราะจนร้องไห้ออกมา ตีต้นขาของตนเองไม่หยุด ”หนานกง แกเอารั่วปิงอยู่หมัดตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อก่อนให้ตายยังไงเหลิ่งรั่วปิงก็ไม่ยอมคบกับแก แต่ตอนนี้กลับหึงแกแล้ว?”
เฉินลู่เหยาถูกด่าว่าเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ สีหน้าของเธอไม่อาจคงความสง่างามได้อีกต่อไป แต่เธอก็ได้แต่อดทนเอาไว้ไม่กล้าระเบิดอารมณ์ออกมา แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ ดูน่าสงสารมาก เงยหน้าขึ้นมองหนานกงเยี่ย นึกว่าเขาจะโมโห ทำไมผู้หญิงของเขาถึงหยาบคายแบบนี้ อย่างน้อยก็ต้องให้เกียรติเขา แต่หนานกงเยี่ยยังคงยิ้มแล้วกอดเธอเอาไว้ เสียงหัวเราะเบาๆ ของเขาเปี่ยมไปด้วยความรัก
ภายในใจของเฉินลู่เหยามีคลื่นลมทะเลปั่นป่วน เธอไม่เคยคิดมาก่อน วันหนึ่งหนานกงเยี่ยจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ เขารักและตามใจผู้หญิงคนนี้จนไม่มีขีดจำกัด หรือเพราะว่านี่คือรักแท้? ถ้าอย่างนั้นการกลับมาเมืองหลงของเธอในครั้งนี้โอกาสจะชนะมากแค่ไหน
ซย่าอี่มั่วโมโห โกรธจนเผลอขยำเสื้อของตนเอง ”คุณผู้หญิงหนานกง ทำไมคุณถึงหยาบคายแบบนี้คะ”
เหลิ่งรั่วปิงซบอยู่ในอ้อมกอดของหนานกงเยี่ยด้วยความเกียจคร้าน เหมือนผู้หญิงที่ทระนงกับความรักใคร่ ใช้ความรักของเขาเป็นเครื่องมือ ”แบบนี้จะเรียกว่าหยาบคายได้ยังไงคะ เรียกว่าดับไฟแต่ต้นลมต่างหากค่ะ เห็นได้ชัดว่าด้านนี้คุณทำได้ไม่ดี ได้ยินว่าหลังจากที่คุณแต่งงาน มู่เฉิงซีก็ไม่กลับไปค้างที่บ้านอีกเลย เฮ้อ ฉันไม่อยากต้องนอนโดดเดี่ยวคนเดียวในห้องเหมือนคุณหรอกนะคะ แค่คิดก็เศร้าแล้ว”
“เฮ้อ!” เหลิ่งรั่วปิงถอนหายใจ แล้วซบอยู่ในอ้อมกอดของหนานกงเยี่ย ”เราอย่าสนใจสามีของคนอื่นเลยนะคะ และเฝ้าสามีของตนเองเอาไว้ให้ดี”
ท่าทีกวนประสาทของเหลิ่งรั่วปิง ทำให้ถังเฮ่าหลุดหัวเราะ อวี้ไป่หันปิดหน้าแล้วนอนพิงลงบนโซฟา หัวเราะจนหายใจแทบไม่ทัน ในที่สุดเขาก็เห็นอย่างชัดเจน เหลิ่งรั่วปิงคิดอยากจะจัดการใครสักคน ไม่เพียงแค่ใช้มีดบิน เธอยังใช้คำพูดเชือดเฉือนคนอื่นได้อีก
คำพูดของเธอ ด่าจนเฉินลู่เหยาอับอายขายหน้า นางฟ้าที่สง่างามกลายเป็นหงส์ปีกหัก ส่วนซย่าอี่มั่วถูกพูดแทงใจดำ ก็ยิ่งนั่งไม่ติด
จู่ๆ ภายในห้องก็เงียบกะทันหัน ถังเฮ่า อวี้ไป่หันและหลินมั่นหรูลอบหัวเราะ เฉินลู่เหยาสุดจะทน ซย่าอี่มั่วโมโหจนหน้าแดงก่ำ หนานกงเยี่ยก้มหน้าลงมองภรรยาของตนเอง ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหล เธอคอยทำเรื่องเซอร์ไพรส์เขาได้ตลอดจริงๆ วันนี้ท่าทีหวงสามีของเหลิ่งรั่วปิง ทำให้หัวใจของเขาหวานชื่นยิ่งกว่ากินน้ำผึ้ง
หลังจากผ่านไปนาน สุดท้ายเฉินลู่เหยาทำลายความเงียบ ขจัดความน้อยอกน้อยใจและกระอักกระอ่วนทิ้ง เผยรอยยิ้มที่น่าหลงใหล ”วันนี้รบกวนทุกคนแล้ว คุณหนานกง ฉันขอตัวก่อนนะคะ”