เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 277 เฉินลู่เหยาเปลี่ยนไป
หนานกงเยี่ยพยักหน้า ”ครับ ขอให้หน้าที่การงานของคุณในเมืองหลงประสบความสำเร็จ ถ้ามีเรื่องลำบากอะไรก็มาหาผมได้ตลอด”
เฉินลู่เหยายิ้มบางเบา จากนั้นเดินออกไปจากห้อง ถ้าเธอมีปัญหา เธอจะกล้าไปหาหนานกงเยี่ยได้อย่างไร แม้แต่เข้าไปทำงานบริษัทของเขา เขายังไม่รับ แล้วหนานกงเยี่ยจะช่วยอะไรเธอได้ เขาแค่พูดตามมารยาทเท่านั้น เรื่องของพวกเขาไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
ซย่าอี่มั่วมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความเกลียดชัง จากนั้นเดินตามเฉินลู่เหยาออกไป
เหลิ่งรั่วปิงเหยียดตัวลุกขึ้น ปรายตามองหนานกงเยี่ยด้วยความเย็นชา โดยไม่พูดอะไร เธอมองจนหนานกงเยี่ยรู้สึกประหม่า สุดท้ายเขายิ้มแล้วพูดออดอ้อน ”ที่รัก มีเรื่องอะไรเรากลับไปคุยที่บ้านนะครับ หืม?”
เหมือนว่าอวี้ไป่หันไม่กลัวเรื่องวุ่นวาย เขายิ้มแล้วนั่งตัวตรง ”กลับไปพูดที่บ้านทำไม มีอะไรก็พูดกันตรงนี้ ตอนนั้นแกดูแลเฉินลู่เหยาเป็นอย่างดี ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะอธิบายให้รั่วปิงฟังยังไง ฮ่าๆๆ…”
ขณะที่อวี้ไป่หันกำลังหัวเราะ หมอนใบหนึ่งก็ถูกเขวี้ยงไปที่หน้าของเขา ตามด้วยสายตาเยือกเย็นของหนานกงเยี่ย อวี้ไป่หันรู้สึกตัวเย็นวาบราวกับกลายเป็นน้ำแข็ง เขาตกใจจนพูดไม่ออก
จู่ๆ เหลิ่งรั่วปิงก็ยิ้ม รอยยิ้มของเธอราวกับลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านหลังจากฝนตกโปรยปราย ”ที่แท้ก็เป็นคนรักเก่าของคุณนี่เอง คุณหนานกงเยี่ย คุณแสดงละครเก่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ต่อหน้าอดีตคนรัก คุณสวีทหวานกับฉันด้วยความใจเย็น หึ ฉันประเมินคุณต่ำไปแล้วจริงๆ!”
พูดจบ เหลิ่งรั่วปิงหุบยิ้ม แววตาเยือกเย็นกวาดมองไปที่หน้าของหนานกงเยี่ย ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง
“ที่รัก!” หนานกงเยี่ยรีบวิ่งตามไป มีเสียงของอวี้ไป่หันตามไล่หลังมา ”ว้าว คืนนี้จะมีคนต้องคุกเข่าบนพื้นแล้ว”
เพลิงไฟแห่งความโมโหที่อยู่ในใจของหนานกงเยี่ยพุ่งทะยาน เขาหันไปเตะอวี้ไป่หัน แล้วรีบวิ่งตามเหลิ่งรั่วปิงออกไป
มองดูประตูห้องที่ถูกปิดอย่างแรง อวี้ไป่หันปัดฝุ่นที่อยู่บนตัว แล้วบอกกับถังเฮ่า ”เฮ้อ แกว่า หนานกงมันคิดยังไงกับเฉินลู่เหยากันแน่”
ถังเฮ่ายิ้ม ”คิดยังไงอย่างนั้นเหรอ ตอนนั้นหนานกงเยี่ยดีกับเฉินลู่เหยามากก็จริง แต่แกเคยเห็นมันทำกับเฉินลู่เหยาเหมือนที่ทำกับเหลิ่งรั่วปิงไหม ถึงขั้นยอมทิ้งชีวิตตัวเอง”
อวี้ไป่หันครุ่นคิด ”ฉันไม่เข้าใจ หนานกงไม่ได้ดีกับผู้หญิงคนไหนง่ายๆ ทำไมตอนนั้นมันถึงต้องทำดีกับเฉินลู่เหยามากขนาดนั้นด้วย”
ถังเฮ่านิ่งเฉย ”นั่นก็เป็นเรื่องของมัน พวกเราไม่ต้องกังวลหรอก ถึงแม้เราจะเป็นเพื่อนกันมาหลายปี แต่ไม่มีใครเคยเดาความคิดของหนานกงได้ มันมีความลับมากเกินไปแล้ว”
อวี้ไป่หันหัวเราะ ”ก็จริง อยากจะสนใจแค่ไหนพวกเราก็ยุ่งไม่ได้ มา ดื่มกันดีกว่า”
ถังเฮ่ายิ้มแล้วยกแก้วไวน์ขึ้น ชนแก้วกับอวี้ไป่หัน หลินมั่นหรูกะพริบตาปริบๆ อย่างครุ่นคิด เธอรู้สึกว่าการกลับมาของเฉินลู่เหยาในครั้งนี้ ไม่ธรรมดา
เหลิ่งรั่วปิงโมโหจริงๆ หนานกงเยี่ยเคยบอกกับเธอ เขาเคยมีผู้หญิงมาก่อนสามคน จากสิ่งที่อวี้ไป่หันพูดเมื่อกี้ ทำให้รู้ว่าในอดีตหนานกงเยี่ยดีกับเฉินลู่เหยามาก ซึ่งหมายความว่า เฉินลู่เหยาเคยเป็นหนึ่งในผู้หญิงของหนานกงเยี่ย ถึงแม้นี่จะเป็นเรื่องในอดีต แต่เหลิ่งรั่วปิงยังคงรู้สึกไม่สบายใจ เธอเองก็เป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ไม่ชอบให้แฟนเก่าของสามีเดินเพ่นพ่านอยู่ตรงหน้า
“ที่รัก” ก่อนที่เหลิ่งรั่วปิงจะเดินขึ้นไปบนรถ หนานกงเยี่ยจับมือเธอเอาไว้ มองสีหน้าของเหลิ่งรั่วปิงที่ไม่สบอารมณ์ด้วยแววตากรุ้มกริ่ม ”เป็นอะไรไปครับ ทำไมหึงเก่งจัง หืม?”
เหลิ่งรั่วปิงสะบัดมือหนานกงเยี่ยทิ้ง แล้วขึ้นไปนั่งบนรถ หนานกงเยี่ยรีบเข้ามานั่งบนรถกับเธอ ยิ้มราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ”เรื่องในอดีตที่ผ่านมานานแล้ว คุณยังจะถือสาอีกเหรอครับ”
เหลิ่งรั่วปิงปรายตามองหนานกงเยี่ย จากนั้นหันกลับไป มองออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์โดยไม่พูดอะไร รอบตัวของเธอแผ่ออร่าปฏิเสธ
หนานกงเยี่ยไม่ได้บีบบังคับ บอกให้ก่วนอวี้ขับรถ กลัวจะขับได้ไม่นิ่ม มือของเขาจึงโอบเอวเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้เบาๆ เธอไม่พูด เขาเองก็ไม่พูด มองดูเธอด้วยรอยยิ้มแบบนี้ เวลาเหลิ่งรั่วปิงหึง เป็นอะไรที่น่ารักมาก
กลับไปถึงวิลล่าหย่าเก๋อ เหลิ่งรั่วปิงสะบัดมือหนานกงเยี่ยทิ้ง เดินขึ้นชั้นบนเพียงลำพัง กลับไปถึงห้องนอนเธอก็เดินตรงเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที ไม่ให้โอกาสหนานกงเยี่ยในการพูด เขาจะช่วยเธอทำอะไรเธอก็ไม่ยอมให้ช่วย ดังนั้นหนานกงเยี่ยจึงทำได้เพียงไปอาบน้ำอีกห้องหนึ่ง หลังจากเหลิ่งรั่วปิงอาบน้ำเสร็จ เขาเองก็เสร็จพอดี เขารีบหยิบไดร์เป่าผมมาเป่าให้เธอ มุมปากเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
หลังจากเป่าผมจนแห้ง ในที่สุดเหลิ่งรั่วปิงก็โมโหขึ้นมาทันที ”คุณหนานกงเยี่ย คุณภูมิใจมากใช่ไหมคะ”
หนานกงเยี่ยยิ้มราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ ”ผมภูมิใจมากครับ ภรรยาที่ผมทุ่มสุดตัวก็รั้งเอาไว้ไม่ได้ได้ ตอนนี้กลับเริ่มหึงผมแล้ว ดูเหมือนว่าผมจะเอาภรรยาคนนี้อยู่หมัดแล้วจริงๆ ฮ่าๆๆ…”
เหลิ่งรั่วปิงทั้งเขินทั้งโมโห คว้าหมอนขึ้นมาแล้วโยนออกไป หนานกงเยี่ยไม่โมโหและไม่โกรธแต่อย่างใด เขายิ้มแล้วเก็บหมอนบนพื้น จากนั้นนั่งบนเตียงแล้วโอบกอดเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้ พูดด้วยเสียงแหบพร่า ”ที่รักครับ คุณไม่อยากฟังคำอธิบายของผมหน่อยเหรอครับ”
เหลิ่งรั่วปิงย่นจมูก ”มีอะไรให้ต้องอธิบายด้วยค่ะ ก็แค่เธอเคยเป็นผู้หญิงของคุณมาก่อน แต่ว่าตอนนี้คุณไม่ได้รักเธอแล้ว”
หนานกงเยี่ยยังคงยิ้ม มือใหญ่ลูบผมของเขาแผ่วเบา พูดด้วยความอ่อนโยน ”ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้รักเฉินลู่เหยาแล้ว แต่ผมไม่เคยรักเธอมาก่อน” ก้มหน้าลงมองใบหน้าเล็กๆ ของเหลิ่งรั่วปิง ”ถ้าผมบอกว่า ตอนที่ผมคบกับคุณ ความเป็นจริงนั่นก็เป็นครั้งแรกของผมเหมือนกัน คุณเชื่อไหมครับ”
เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะในลำคอ ”อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ ตอนนั้นคุณเป็นคนบอกฉันเอง เรื่องระหว่างฉันกับคุณไม่ใช่ครั้งแรก คุณเคยมีผู้หญิงมาแล้วสามคน”
หนานกงเยี่ย ”นั่นเป็นเพราะว่าตอนนั้นคุณไม่ได้รักผม คุณคิดอยากจะไปจากผมตลอดเวลา ผมบอกความจริงกับคุณไม่ได้ เรื่องทั้งหมดนั้นล้วนเป็นความลับของผม แม้แต่ก่วนอวี้ก็ยังไม่รู้
สีหน้าของหนานกงเยี่ยแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ”ผมเคยคบผู้หญิงมาแล้วสามคนก็จริง แต่คนที่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผม ไม่มีแม้แต่คนเดียว พวกเธอทุกคน เซ็นสัญญาเป็นนางบำเรอของผม ถูกผมสั่งให้ย้ายมาอยู่ในวิลล่าหย่าเก๋อ ความเป็นจริงทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น ผมทำเพื่อปกป้องเฉินลู่เหยา”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้นมองหนานกงเยี่ย แววตาของเธอเต็มไปด้วยคำถาม
หนานกงเยี่ยยิ้มบางๆ ”ตอนนั้นผมให้ความช่วยเหลือเฉินลู่เหยาหลายอย่าง ทำให้สังคมคาดการณ์ไปต่างๆ นานา บอกว่าผมรักเฉินลู่เหยา แน่นอนว่าเรื่องนี้ไปถึงหูของพ่อผม ตอนนั้นผมเพิ่งรับช่วงดูแลกิจการของบริษัทหนานกงได้ไม่นาน ท่านไม่อนุญาตให้ผมทำเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งมากขนาดนี้ ดังนั้นท่านจึงบีบให้เฉินลู่เหยาไปจากชีวิตผม ถ้าผมไม่ทำอะไรพวกนี้ให้ท่านสับสน ท่านอาจจะทำร้ายเฉินลู่เหยาต่อไป หรืออาจจะเอาชีวิตของเธอเลยก็ได้”
“ดังนั้นคุณก็ซื้อตัวผู้หญิงสามคนมาเลี้ยง?”
“ครับ”
เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะในลำคอ ”ซื้อตัวพวกเธอมาแล้วแต่คุณกลับไม่แตะต้องพวกเธอ ไม่มีใครเชื่อหรอก!”
หนานกงเยี่ยยิ้มด้วยความรักใคร่ ”ผมเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง แน่นอนว่ามีความต้องการ ผมคิดอยากจะแตะต้องพวกเธอมาก่อน แต่ตอนที่พวกเธอเปลื้องผ้า แล้วมานอนอยู่ข้างกายผม ผมรู้สึกรังเกียจ ถึงขั้นขยะแขยง สุดท้ายผมจึงไม่ได้แตะต้องใครทั้งนั้น” หัวเราะด้วยความตลก ”ตอนนั้นผมเองก็คิดว่าตัวเองผิดปกติ ดังนั้นเรื่องนี้แม้แต่ก่วนอวี้ก็ยังไม่รู้”
“ฮ่าๆๆ…” เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะร่า ”คุณหนานกงเยี่ย คุณมันไม่เอาไหนเลยจริงๆ”
หนานกงเยี่ยเอียงคอแล้วยิ้ม ”หลังจากนั้นผมก็เข้าใจ ผมปกติดี แต่แค่ยังไม่เจอผู้หญิงที่ทำให้ผมหวั่นไหว ถ้าไม่รู้สึกหวั่นไหวแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะมีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนก็รู้สึกจืดชืด ดังนั้นผมจึงปล่อยให้มันว่างแบบนั้น จนกระทั่งผมได้เจอกับคุณ ตอนแรกผมไม่ยอมรับว่าตนเองหวั่นไหวกับคุณ ผมคิดแค่ว่าความต้องการของผมไปถึงจุดสูงสุด ดังนั้นเมื่อเห็นผู้หญิงที่มองแล้วชอบ ก็เลยอยากครอบครอง แต่หลังจากที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ผมกลับคุมตนเองไม่ได้ คิดถึงคุณตลอดเวลา สุดท้ายผมก็เลยยอมรับ ผมหวั่นไหวกับคุณตั้งแต่แรกเจอ”
เหลิ่งรั่วปิงเบ้ปาก แล้วจัดคอเสื้อของหนานกงเยี่ย ”แล้วทำไมคุณต้องทำดีกับเฉินลู่เหยามากขนาดนั้นด้วยคะ”
สำหรับความไว้วางใจของเหลิ่งรั่วปิง หนานกงเยี่ยรู้สึกได้รับการปลอบประโลม ”เพราะเธอเป็นคนพิเศษ คุณเองก็รู้ดี แม่ของผมเป็นเด็กกำพร้าที่ตระกูลเซียวเก็บมาเลี้ยง ตอนที่ถูกเก็บมาเลี้ยงแม่อายุสิบกว่าแล้ว ตอนอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าแม่มีเพื่อสนิทคนหนึ่ง เพื่อนคนนั้นเคยช่วยชีวิตแม่ของผมจากสุนัขจรจัด แม่รู้สึกซึ้งในน้ำใจของเพื่อนคนนั้นมาก ดังนั้นหลังจากตระกูลเซียวรับแม่ไปแล้ว แม่สัญญว่า วันข้างหน้าถ้าท่านมีชีวิตที่ดี ท่านจะกลับไปหาเพื่อนคนนั้น ทั้งสองยังได้แลกเปลี่ยนของแทนสัญญาใจกันด้วย”
“แต่ว่า เรื่องทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ใจเราต้องการ ในตอนหลังเพื่อนสนิทของแม่คนนั้นก็ถูกรับไปเลี้ยง ได้ยินว่าครอบครัวที่รับไปเลี้ยงมีฐานะยากจน แม่ของผมไม่เคยหยุดตามหาเพื่อนสนิทคนนั้นมาก่อน ท่านตามหาเพื่อนคนนั้นมานานหลายปี”
“ในตอนหลัง แม่ของผมป่วยและจากโลกนี้ไป ตอนนั้นแม่ยังหาเพื่อนสนิทคนนี้ไม่เจอ ดังนั้นท่านจึงให้ผมช่วยท่านตามหา ตอนนั้นผมอายุแค่สามขวบกว่า แม่กลัวว่าผมจะจำไม่ได้ ดังนั้นเลยทิ้งจดหมายและของแทนใจเอาไว้ให้ จากนั้นก็ให้พ่อบ้านที่ดูแลวิลล่าหย่าเก๋อคอยเก็บรักษาเอาไว้ หลังจากที่ผมโตขึ้น ผมรู้ว่านี่คือปรารถนาของแม่ผม ดังนั้นผมจึงตามหาเพื่อนสนิทของแม่”
เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ เหลิ่งรั่วปิงเข้าใจทุกอย่างทันที ”แม่ของเฉินลู่เหยา คือผู้หญิงที่แม่ของคุณตามหาใช่ไหมคะ”
“ครับ” หนานกงเยี่ยพยักหน้า ”แม่ผมเห็นเพื่อนคนนั้นเป็นผู้มีพระคุณมาโดยตลอด อยากให้เพื่อนสนิทมีชีวิตที่ดี ดังนั้นหลังจากที่ผมเจอป้าคนนั้น ผมก็ให้การสนับสนุนเฉินลู่เหยาทุกอย่าง”
เหลิ่งรั่วปิง ”แล้วเฉินลู่เหยารู้ไหมคะ”
หนานกงเยี่ยส่ายหน้า ”ไม่รู้ครับ ผมไม่เคยบอกเธอมาก่อน ที่ผมเก็บเงียบเอาไว้ก็เพื่อปกป้องพวกเธอสองแม่ลูก การที่ผมช่วยเหลือเฉินลู่เหยาแบบนี้ ทุกคนจะได้เข้าใจว่าผมสนใจในตัวเธอ แต่ถ้าเรื่องนั้นถูกเปิดเผยออกไป อาจจะนำมาความเดือดร้อนไปให้พวกเธอสองแม่ลูกได้ เพราถึงอย่างไรตระกูลหนานกงมีศัตรูมากมาย”
สีหน้าของเหลิ่งรั่วปิงหม่นหมอง ”ที่รักคะ สิ่งที่ฉันทำในวันนี้มันเกินกว่าเหตุหรือเปล่าคะ”
หนานกงเยี่ยลูบจับแก้มของเธอด้วยความทะนุถนอม ยิ้มด้วยความอ่อนโยน ”ไม่ครับ คุณทำแบบนี้ผมดีใจมาก ผมเห็นภรรยาตัวเองให้ความสำคัญกับผมมากขึ้นแล้ว”
เหลิ่งรั่วปิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ”ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณให้เฉินลู่เหยาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดของคุณสิคะ”
หนานกงเยี่ยเงียบไปสองวินาที ”ไม่จำเป็นครับ ผมรู้สึกว่าเฉินลู่เหยาในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน เธอกลับเมืองหลงกะทันหันแบบนี้ ต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ๆ”