เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 278 หนานกงเยี่ยเจอกับเฉินลู่เหยา
เหลิ่งรั่วปิงเบ้ปาก ”เป้าหมายของเฉินลู่เหยาคือคุณนี่คะ เธอมองคุณด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก แม้แต่คนโง่ก็ดูออกว่าเฉินลู่เหยาชอบคุณ”
หนานกงเยี่ยถอนหายใจ ”ถ้าจะบอกว่าเฉินลู่เหยาชอบผม ผมก็ไม่ปฏิเสธ แต่สัญชาตญาณของผมบอกกับผมว่า เธอมีความลับบางอย่างเก็บซ่อนเอาไว้ เธอกลับเมืองหลงอย่างกะทันหันในครั้งนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน”
เหลิ่งรั่วปิงกะพริบตาปริบ ”คุณระแวงว่าเธอจะลอบทำร้ายพวกเราเหรอคะ”
แววตาของหนานกงเยี่ยแปรเปลี่ยนเป็นลุ่มลึก ถ้ามองอย่างละเอียด จะให้ความเย็นยะเยือกสะท้อนออกมาจากดวงตาคู่นั้น ”ตอนนี้ผมก็พูดอะไรไม่ได้ แต่ถึงยังไง ผมรู้สึกว่าเฉินลู่เหยามีบางอย่างเปลี่ยนไป ผมคิดว่าเธอน่าจะเกี่ยวข้องกับซือคงอวี้”
ถูกต้อง ดวงตาคู่นั้นของหนานกงเยี่ย เพียงแค่กวาดตามองเฉินลู่เหยาเล็กน้อย เขาก็ดูออกว่ามีเงื่อนงำอะไรบางอย่างซ่อนเอาไว้ เขารู้สึกว่าในแววตาของเธอมีความรู้สึกที่ซ่อนเอาไว้ ความรู้สึกนั้น สำหรับเขามันไม่ใช่เรื่องที่ดี
เฉินลู่เหยาโด่งดังในวงการบันเทิงของประเทศซีหลิงมาก ถ้าหากเธอได้รับความสนใจจากซือคงอวี้ แล้วซื้อตัวเธอมาใช้ประโยชน์ นี่เป็นการคาดการณ์ที่สมเหตุสมผล
“ไม่มีวันเกี่ยวข้องกับซือคงอวี้อย่างแน่นอน!”เหลิ่งรั่วปิงปฏิเสธสิ่งที่หนานกงเยี่ยคาดเดาด้วยเสียงที่หนักแน่น ”ซือคงอวี้ไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าเขาคิดจะทำให้พวกเราเลิกกัน เขาไม่มีวันใช้ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเครื่องมือ”
ถูกต้อง ซือคงอวี้มีความทระนง เขาเกลียดหนานกงเยี่ย อยากจะทวงคืนคนที่ตนรัก แต่เขาไม่มีวันใช้วิธีชั้นต่ำแบบนี้มาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหนานกงเยี่ยอย่างแน่นอน
หนานกงเยี่ยขมวดคิ้วด้วยความไม่สบอารมณ์ ”คุณรู้จักเขาดีขนาดนี้เลยเหรอ”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้นสบตาหนานกงเยี่ย ”ใช่ค่ะ คุณหนานกงเยี่ย ฉันรู้จักซือคงอวี้เป็นอย่างดี เขาไม่มีวันทำเรื่องแบบนี้ ฉันทำงานกับเขามาหกปี เขาไม่มีวันทำแบบนี้กับฉัน”
ความหึงหวงก่อตัวขึ้นในใจของหนานกงเยี่ย เม้มปากด้วยความหงุดหงิด
เขาเป็นคนที่ใจแคบมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เรื่องนี้เหลิ่งรั่วปิงรู้ดี ดังนั้นเธอจึงจับมือของเขา ”พอแล้วค่ะ คุณอย่าหึงกับเรื่องอะไรแบบนี้เลย ฉันแค่พูดตามความจริงเท่านั้น คุณอย่าไปคิดว่าจะเป็นฝีมือของซือคงอวี้เลย ในเมื่อคุณคิดว่าการกลับมาของเฉินลู่เหยาในครั้งนี้มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง ถ้าอย่างนั้นพวกเราคอยจับตาดูเธอ ไม่ว่าใครจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ต้องเผยพิรุธออกมาอย่างแน่นอน”
ในที่สุดหนานกงเยี่ยก็ยิ้ม ”ครับ ขอแค่คุณเชื่อมั่นในตัวผมก็พอแล้ว”
คนในสังคมต่างพูดกันว่าหนานกงเยี่ยเหี้ยมโหดและกระหายเลือด แต่ความเป็นจริงเขาแค่เป็นคนชัดเจนในเรื่องบุญคุณและความแค้นเท่านั้น ถ้าหากเฉินลู่เหยาไม่ได้เป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทแม่ เขาไม่มีวันลังเลที่จะกำจัดเธอทิ้ง เขากำจัดเฉินลู่เหยาทิ้งไม่ได้ง่ายๆ เพราะการตายของแม่ไม่อาจปฏิบัติด้วยความไม่ใส่ใจ
*****
เฉินลู่เหยากลับโรงแรม ซย่าอี่มั่วยังคงพูดบ่นไม่หยุด ”คุณหนานกงเยี่ยกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ทำไมเขาถึงไม่มีเยื่อใยกับแกเลย”
เฉินลู่เหยาเองก็รู้สึกหงุดหงิดมากเหมือนกัน แต่เธอยังคงความสง่างาม ”ช่างเถอะ อี่มั่ว แกกลับไปก่อนเถอะ ฉันอยากจะพักผ่อน”
ซย่าอี่มั่วพยักหน้า ”อื้ม ฉันกลับก่อนก็ได้” วันนี้เธอผิดหวังมาก ตอนแรกเธอคิดว่าจะได้เห็นเหลิ่งรั่วปิงพ่ายแพ้เสียอีก
หลังจากซย่าอี่มั่วออกไป เฉินลู่เหยาล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า ค่อยๆ หวนคิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับหนานกงเยี่ย เธอพบว่าตัวเองไม่เคยเข้าใจความคิดของเขามาก่อน
เมื่อห้าปีก่อน ตอนที่ชีวิตของเธอตกต่ำที่สุด เขาเหมือนเทพบุตรที่จุติลงมาในชีวิตของเธอ คอยให้การช่วยเหลือเธอโดยไม่มีเงื่อนไข สานฝันการเป็นดาราของเธอ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะชอบเธอ แต่ว่าหลังจากรู้จักกันมานาน เธอไม่เห็นความรักระหว่างชายหญิงแสดงออกมาจากแววตาของเขาแม้แต่น้อย แต่ว่า ถ้าเขาไม่ชอบเธอ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ต้องดีกับเธอเป็นพิเศษด้วย
ไม่พูดถึงเรื่องที่หนานกงเยี่ยชอบหรือไม่ชอบเธอ แต่เธอตกหลุมรักเขาจนไม่อาจถอนตัว ตอนนั้นเพราะหนานกงจวิ้นบีบบังคับ ทำให้เธอต้องไปจากเมืองหลง แล้วย้ายไปอยู่ที่ซีหลิง ตอนที่ไปถึงซีหลิงแรกๆ หนานกงเยี่ยลอบให้ความช่วยเหลือเธอมากมาย ตลอดเวลาที่อยู่ซีหลิงเธอรอให้หนานกงเยี่ยมารับเธอ แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว เขากลับไม่เคยมาหาเธอเลย
ชีวิตของเขามีผู้หญิงเข้ามาสามคน เธอคิดว่าเขาลืมเธอไปแล้ว แต่ผู้หญิงทั้งสามคนนั้น ทุกคนคบกับเขาไม่ถึงสองเดือน หลังจากนั้นเขาไม่เคยมีใครอีกเลย เธอคิดว่าสักวันหนึ่งเขาจะนึกถึงเธอ เธอพยายามทำงานเพื่อให้ตนเองมีชื่อเสียงโด่งดัง ขอแค่เขาพลิกดูนิตยสารบันเทิง เขาก็จะได้เห็นเธอ เธอตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาโดยตลอด แต่เขายังคงไม่มีทีท่าอะไร
จนกระทั่งเหลิ่งรั่วปิงปรากฏตัว เธอหมดสิ้นความหวัง ชีวิตของเขามีผู้หญิงที่ทำให้เขาบ้าคลั่งได้ถึงขนาดนี้ ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอกัน หัวใจของเธอตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็งพันปี เขาไม่เคยชอบเธอมาก่อน ตอนนี้ก็ไม่มีวันชอบเธอ อนาคตข้างหน้ายิ่งไม่มีวันชอบเธอ ผู้หญิงที่ชื่อเหลิ่งรั่วปิงคนนั้น เข้าไปในจิตวิญญาณของเขาแล้ว แววตาคู่นั้นของเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจน
เฉินลู่เหยาหลับตาลง
ภายในห้องเงียบสงัด ผู้หญิงที่รอคอยด้วยความลำบากตลอดห้าปีที่ผ่านมา บอกลากับความรักที่ไม่เคยผลิบาน
เฉินลู่เหยาเป็นผู้หญิงที่มีไหวพริบ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบภายในห้อง เฉินลู่เหยาสะดุ้งตกใจ ลุกขึ้นมานั่ง แล้วคว้าโทรศัพท์ มองดูเบอร์โทรศัพท์บนหน้าจอ เธอประหม่าอย่างมาก คล้ายว่ากำลังรวบรวมความกล้าให้ตนเอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดรับสาย ”ท่านหนานกง?”
เสียงทุ้มต่ำของหนานกงจวิ้น ปะปนไปด้วยความเกียจคร้าน ”อืม วันนี้เป็นยังไงบ้าง”
เฉินลู่เหยาคิดไตร่ตรองครู่หนึ่ง ”ท่านหนานกง ขอโทษที่ฉันต้องพูดตรงๆ นะคะ ท่านอย่าตั้งความหวังไว้กับฉันเลยค่ะ ฉันคิดว่า คุณชายเยี่ยรักคุณเหลิ่งมาก รักเธอแค่คนเดียว ฉันเข้าไปแทรกกลางระหว่างพวกเขาสองคนไม่ได้ค่ะ”
“หึ!” หนานกงจวิ้นหัวเราะในลำคอด้วยความเยือกเย็น ตามด้วยเสียงเครื่องหยกแตก ดังสะท้านเข้ามาในหูของเฉินลู่เหยา ”ถ้าเธอทำไม่ได้ แล้วฉันจะเก็บเธอไว้ทำไม ดูเหมือนว่าเธอไม่สนใจชีวิตของแม่ตัวเองแล้วใช่ไหม!”
“ไม่นะคะ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ!” เฉินลู่เหยาลุกขึ้นยืนด้วยความกังวล ”ท่านหนานกง อย่าทำร้ายแม่ของฉันเลยนะคะ”
น้ำเสียงของหนานกงจวิ้นกลับมานิ่งสงบอีกครั้ง ตามด้วยเสียงหอบหายใจ ”ถ้าไม่อยากให้แม่ของเธอตาย ใช้มารยาทุกอย่างของเธอ ทำให้เยี่ยเลิกหลงเหลิ่งรั่วปิง และกำจัดเด็กในท้องของผู้หญิงคนนั้นซะ”
“…ค่ะ ฉันจะพยายามทำให้เต็มที่ค่ะ ท่านหนานกงวางใจได้ค่ะ” มือทั้งสองข้างของเฉินลู่เหยาสั่นเทา
หลังจากวางสาย เฉินลู่เหยาหมดเรี่ยวแรง ล้มลงนั่งบนพื้น ดวงตาคู่สวยมีหยดน้ำใสคลอเต็มเบ้า เธอจ้องมองบนพื้น แววตากลับเหม่อลอย ”คุณหนานกง ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้อยากจะทำร้ายคุณ”
พูดพึมพำคนเดียว เสียใจยิ่งกว่าเดิม น้ำตาเม็ดโตของเฉินลู่เหยาร่วงหล่นลงบนพื้น เสียงหยดน้ำตา เจ็บปวดรวดร้าวกร้าวหัวใจ สุดท้าย เธอนั่งกอดเข่าอย่างหมดหนทาง แม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่เธอกลับหนาวสั่นไปทั้งตัว
หลังจากผ่านไปนาน น้ำตาของเฉินลู่เหยาแห้งเหือด เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ อุณหภูมิของน้ำที่อุ่นกำลังดีทำให้เธออาบน้ำด้วยความผ่อนคลาย ชำระล้างน้ำตาจนหมดสิ้น แล้วเป่าผมให้แห้งด้วยสีหน้านิ่งสงบ เปลี่ยนเป็นชุดเดรสตัวยาว แต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องสำอางอีกครั้ง มองดูตนเองในกระจก เธอเศร้ากับความสวยของตนเอง เวลานี้หัวใจของเธอมันไม่งดงามอีกต่อไปแล้ว
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาหนานกงเยี่ย เธอเก็บบันทึกเบอร์ของหนานกงเยี่ยมาโดยตลอด ผ่านมาห้าปีแล้ว เบอร์โทรศัพท์ของเขายังเป็นเบอร์แรกในโทรศัพท์ของเธอ
เวลานี้ หนานกงเยี่ยกำลังนั่งทำงานในห้องหนังสือ ส่วนเหลิ่งรั่วปิงนอนหลับไปแล้ว ตั้งแต่ท้องเหลิ่งรั่วปิงก็เข้านอนเร็วมาโดยตลอด หนานกงเยี่ยมักจะรอให้เธอนอนหลับไปสักพักหนึ่งแล้วค่อยกลับไปนั่งทำงานที่ห้องหนังสือ
มองตัวเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ หนานกงเยี่ยกระตุกยิ้ม เขาแค่เดาก็รู้ทันทีว่าปลายสายเป็นใคร เขากำลังรอเธอโทรมา นิ้วมือเรียวยาวเลื่อนหน้าจอ แล้วรับสาย ”สวัสดีครับ”
เฉินลู่เหยาพยายามควบคุมหัวใจที่เต้นแรงของตนเอง ทำเสียงของตนเองให้นิ่งที่สุด เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นนักแสดงที่มากความสามารถ จึงไม่ใช่เรื่องยากในการปรับโทนเสียง ”คุณหนานกง ฉันคือลู่เหยานะคะ”
น้ำเสียงของหนานกงเยี่ยฟังดูผ่อนคลายมาก ”ครับ ผมจำเสียงคุณได้ เรื่องที่ไนท์คลับเฟิ่งหวงไถต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ” เฉินลู่เหยารีบพูดปฏิเสธ ”คุณหนานกง ห้าปีที่ผ่านมานี้ ฉันคิดถึงคุณมากนะคะ”
หนานกงเยี่ยยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
เฉินลู่เหยาเม้มกัดริมฝีปาก ”คุณหนานกง ฉันอยากจะเจอคุณค่ะ”
หนานกงเยี่ยยังคงยิ้มอย่างผ่อนคลาย รอยยิ้มของเขาทำให้คนอ่านความคิดของเขาไม่ได้ ”ครับ แล้วคุณอยู่ไหน” ในเมื่อคิดว่าการกลับมาของเฉินลู่เหยาในครั้งนี้มีจุดประสงค์ ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะไปเจอเธอ
เฉินลู่เหยาดีใจจนสั่นเทาเล็กน้อย ”ฉันอยู่โรงแรมวั่นเหาค่ะ”
“ครับ เดี๋ยวผมไปหา”
หลังจากตัดสาย เฉินลู่เหยาดีใจมาก เธอคิดไม่ถึงว่า หนานกงเยี่ยจะตอบตกลงง่ายๆ แบบนี้ หรือว่าเขายังรักเธออยู่
หนานกงเยี่ยจับโทรศัพท์เอาไว้ ค่อยๆ หุบยิ้ม แววตาของเขาแสดงความเยือกเย็น ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะขอให้เขาดูแลครอบครัวของเฉินลู่เหยา แต่ถ้าเฉินลู่เหยากล้าทำร้ายเหลิ่งรั่วปิง เขาไม่มีวันปรานีอย่างแน่นอน
ลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน มองเหลิ่งรั่วปิงที่กำลังนอนหลับสนิท เขาก้มลงหอมแก้มเธอเบาๆ แล้วเดินออกไป ลงไปชั้นล่าง บอกให้ก่วนอวี้เพิ่มกำลังคน คอยเฝ้าระวังตลอดเวลา เตรียมการทุกอย่างให้พร้อม จากนั้นเขาจึงออกไปจากวิลล่าหย่าเก๋อ
ขับรถด้วยตนเอง เมื่อมาถึงโรงแรมวั่นเหา วินาทีที่ประตูเปิดออก ดวงตาคมเฉี่ยวของหนานกงเยี่ยเคลื่อนไหวเล็กน้อย แววตาของเขาแสดงความเย้ยหยัน เห็นได้ชัดว่าเฉินลู่เหยาได้ตกแต่งห้องเตรียมเอาไว้เพื่อเขา ผู้หญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์ในวันนั้น ตอนนี้กลับเติบโตเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์จอมแผนการ
ทว่าเฉินลู่เหยากลับไม่เห็นแววตาเย้ยหยันของเขา เธอดีใจจนหัวใจเต้นแรง ยิ้มสดใสราวกับดอกท้อ ”คุณหนานกง มาถึงแล้วเหรอคะ”
“ครับ” หนานกงเยี่ยขานตอบ จากนั้นเดินเข้าไปในห้อง แล้วนั่งบนโซฟาด้วยความสง่างาม
เฉินลู่เหยามองแผ่นหลังของหนานกงเยี่ยด้วยความหลงใหล จากนั้นปิดประตูลงด้วยความตื่นเต้น แล้วเดินเข้ามาในห้อง นั่งลงบนโซฟาด้วยความประหม่า ”คุณหนานกง อยากดื่มอะไรสักหน่อยไหมคะ”
“น้ำเปล่าครับ” สีหน้าของหนานกงเยี่ยยังคงนิ่งสงบ ทำให้คนดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไร
“เดี๋ยวฉันไปเติมให้นะคะ” เฉินลู่เหยาหมุนตัวหันหลัง เดินไปที่ห้องครัว
ยืนอยู่ในห้องครัว เฉินลู่เหยาเดินวนไปวนมาหลายรอบด้วยความกังวล ในมือถือยาเอาไว้หนึ่งแคปซูล กำลังลังเลว่าจะผสมยาลงไปในน้ำดีไหม หลังจากลังเลอยู่นาน สุดท้ายเธอก็ผสมยาลงไปในน้ำ เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ แม่ของเธอก็ต้องตาย