เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 279 แผนการของเฉินลู่เหยาล้มเหลว
ถึงแม้เฉินลู่เหยาจะเป็นดารานักแสดงที่มากความสามารถ ทุกบทบาทที่เธอเล่นจะแสดงออกมาได้ดีและเป็นธรรมชาติ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายอย่างหนานกงเยี่ย ภายใต้สายตาที่เปรียบเสมือนพญาอินทรีของเขา เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกร็ง มือที่ถือแก้วน้ำเอาไว้สั่นเทาเล็กน้อย ”คุณหนานกง ดื่มน้ำค่ะ”
หนานกงเยี่ยรับแก้วน้ำมา แต่ไม่ยอมดื่ม ทั้งยังเงยหน้าขึ้นมองเฉินลู่เหยาด้วยแววตานิ่งเฉย เขาไม่ได้เจอเธอมานานกว่าห้าปี เฉินลู่เหยาในตอนนั้นเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อและบริสุทธิ์ เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยและจิตใจดี ถึงแม้เขาจะไม่เคยหวั่นไหวกับเธอมาก่อน แต่พูดจากใจจริง เขาไม่เคยเกลียดเธอ ยิ่งไปกว่านั้นแม่ของเธอก็ยังเป็นผู้มีพระคุณของแม่เขา ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนน้องสาว
มีหลายครั้ง เธอกับเขาเผชิญหน้ากันในระยะที่อยู่ใกล้กันแบบนี้ เขาสง่างาม เผด็จการและเย็นชา ภาพลักษณ์ภายนอกที่หล่อเหลา ทำให้หัวใจของหญิงสาวหวั่นไหว ไม่ได้เจอกันห้าปี เผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง เฉินลู่เหยาหัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ เธอมองสบตาเขาด้วยความกล้าหาญ มองดูเขาเงียบๆ ด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความรัก เหมือนดอกไม้ที่งดงาม
หนานกงเยี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วทอดถอนหายใจ ผู้หญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้นหายไปแล้ว ใบหน้าของเธอที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอาง ทำให้เขารู้สึกรังเกียจ เพียงแค่ชั่วพริบตา เขานึกถึงใบหน้าบริสุทธิ์พระเจ้าประทานของเหลิ่งรั่วปิง มุมปากของเขาอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นด้วยความอารมณ์ดี
แต่ว่า เขาไม่แสดงสีหน้าออกมาชัดเจน หลังจากผ่านไปนาน เขาคลายยิ้มบางๆ ”คุณไม่มีอะไรอยากจะพูดกับผมเหรอ”
เฉินลู่เหยาคล้ายกับตื่นจากฝัน ถอนแววตาเขินอายกลับไป ”ฉัน…ฉันคิดถึงคุณหนานกงมากจริงๆ นะคะ”
หนานกงเยี่ยหลุบตาลง มองแก้วน้ำเปล่าบนโต๊ะ ความเหี้ยมโหดฉายออกมาจากนัยน์ตาคู่นั้น น้ำเสียงของเขายังคงเรียบเฉย แหบพร่าได้น่าฟังมาก ”คุณไม่ใช่เด็กผู้หญิงแล้ว คำพูดบางอย่างพูดออกมาเรื่อยเปื่อยไม่ได้ จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด”
การปฏิเสธอ้อมค้อมแบบนี้ มีหรือที่เฉินลู่เหยาจะไม่เข้าใจ แต่เมื่อเธอนึกถึงแม่ของตนเอง เฉินลู่เหยากัดฟันแน่นและยิ้มอีกครั้ง ”เพราะฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงแล้ว ดังนั้นฉันจึงเข้าใจความรู้สึกของตนเองมากขึ้น หัวใจของฉันอยู่ที่คุณหนานกงมาโดยตลอด หลายปีที่ผ่านมานี้ไม่ว่าจะมีคนมาจีบฉันมากมายแค่ไหน ฉันยังคงรักษาความบริสุทธิ์ของตนอย่างดี ฉันยินดีที่จะเป็นผู้หญิงของคุณหนานกง เป็นผู้หญิงที่ไม่ต้องการชื่อเสียงและเงินทอง”
สีหน้าของหนานกงเยี่ยไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ ”นี่เป็นเหตุผลที่คุณกลับเมืองหลงอย่างนั้นเหรอ”
เฉินลู่เหยาเหมือนรุ้งกินน้ำหลังฝนพัดผ่าน มีความเชื่อที่บริสุทธิ์ ”ใช่ค่ะ”
หนานกงเยี่ยหมุนแก้วในมือเบาๆ น้ำเสียงของเขายังคงนิ่งเฉย ”ทำไมคุณถึงคิดว่าผมจะยอมรับคุณ”
เฉินลู่เหยาคุกเข่าลงบนพื้น ซบลงบนต้นขาของหนานกงเยี่ย เงยหน้าขึ้นมองเขา ”คุณไม่ชอบฉันเหรอคะ”
แววตานิ่งเฉยของหนานกงเยี่ยกวาดมองไปที่ใบหน้างดงามของเฉินลู่เหยา จากนั้นหัวเราะเล็กน้อย ”คุณเป็นผู้หญิงฉลาด ผมคิดหรือไม่คิดอะไรกับคุณ คุณดูไม่ออกหรือไง”
ดวงตาของเฉินลู่เหยาเหมือนเปลวไฟที่อบอุ่น ”ถ้าคุณไม่ได้คิดอะไรกับฉัน แล้วทำไมคุณต้องทำดีกับฉันด้วยคะ” ความเป็นจริงสิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง ถึงแม้หนานกงจวิ้นจะไม่บีบบังคับ เธอก็ยินดีที่จะเป็นผู้หญิงของหนานกงเยี่ย ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้ออกหน้าออกตาให้สังคมรับรู้ก็ตาม
“การที่ผู้ชายคนหนึ่งดีกับผู้หญิงคนหนึ่ง นอกจากความรักแล้ว ยังมีเหตุผลอย่างอื่น หรือการกระทำของผมมันทำให้คุณเข้าใจผิด ทำให้คุณคิดว่าผมชอบคุณ” เสียงของหนานกงเยี่ยเรียบนิ่ง ไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่กลับทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกถูกตำหนิ
เฉินลู่เหยาก้มหน้าลง ”เปล่าค่ะ” เขาไม่ได้ทำให้เธอเข้าใจผิด แววตาของเขาที่มองมาหาเธอ เป็นแววตาที่บริสุทธิ์ ไม่เคยมีแววตาหยาบคาย ”แต่ฉันรักคุณหนานกงนี่คะ ฉันยินดีเป็นผู้หญิงของคุณโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ คุณเคยมีผู้หญิงมาแล้วสามคน ถือว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบพวกเธอได้ไหมคะ ฉันยินดีที่จะเป็นค่ะ ขอแค่ให้ฉันได้อยู่เคียงข้างคุณ”
หนานกงเยี่ยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่สบอารมณ์ ”คุณทำให้ผมผิดหวังมาก เฉินลู่เหยาที่เคยใสซื่อบริสุทธิ์ วันนี้กลายเป็นผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้แล้วเหรอ”
ชั้นต่ำ?
คำพูดนี้ดังก้องในหูของเฉินลู่เหยา เหมือนก้อนหินที่ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ ตอนนี้เขามองเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นแล้วเหรอ ไม่สิ เธอไม่เคยลืมคำสอนของแม่ ไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร ห้ามทำเรื่องต่ำช้า ห้ามกลายเป็นผู้หญิงชั้นต่ำ
ภายใต้ความเย็นยะเยือกของหนานกงเยี่ย เฉินลู่เหยาขยับตัวไปด้านหลังเล็กน้อย เพื่อเว้นระยะห่าง ก้มหน้าลง กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ร้องไห้
หนานกงเยี่ยมองดูหญิงสาวที่คุกเข่าลงตรงหน้า ทอดถอนหายใจเบาๆ ”คุณอยากรู้มากใช่ไหมว่าทำไมผมถึงดีกับคุณ ตอนนี้ผมจะเล่าให้คุณฟังเอง” สายตาเย็นชาของเขาทอดมองไปยังหญิงสาว ”แม่ของคุณคงเคยเล่าให้คุณฟังแล้ว ตอนที่ท่านอยู่บ้านเด็กกำพร้า ท่านมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ทั้งสองสัญญากันว่าเมื่อโตขึ้นจะต้องตามหากันจนเจอ เรื่องบังเอิญก็คือ แม่ของผมคือคนที่แม่ของคุณตามหา”
เฉินลู่เหยาเงยหน้าขึ้นทันที มองหนานกงเยี่ยด้วยความเหลือเชื่อ ”คุณหนานกง...”
น้ำตาของเฉินลู่เหยารินไหลลงมาหยดแล้วหยดเล่า ผู้หญิงที่ฉลาดเหมือนเธอ เข้าใจเรื่องทั้งหมดทันที เขาไม่ได้เห็นเธอเป็นผู้หญิงที่อยากครอบครอง แต่ดูแลเธอเหมือนญาติคนหนึ่ง
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ เฉินลู่เหยาพูดเสียงสั่น ”คุณหนานกง ฉันผิดไปแล้วค่ะ”
หนานกงเยี่ยคลายยิ้มบางๆ ดูเหมือนว่าเฉินลู่เหยาคนเดิมยังไม่หายไหน เขายกมือขึ้นจะวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ แต่เฉินลู่เหยาคิดว่าเขาจะดื่ม จึงรีบดึงแก้วน้ำกลับมา ”ห้ามดื่มนะคะ น้ำแก้วนี้ไม่ปลอดภัย”
หนานกงเยี่ยยังคงยิ้มบางเบา น้ำเสียงของเขาดูไม่ตกใจแม้แต่น้อย ”คุณวางยาผม” ไม่ต้องสงสัย นี่เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว วินาทีแรกที่เขาเห็นแก้วน้ำ เขาก็รู้ทันทีว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน ที่เขาไม่พูดอะไร เพราะเขายังอยากจะให้โอกาสเฉินลู่เหยาก็เท่านั้น
เฉินลู่เหยาพยักหน้า ”ฉันสมควรตาย คุณลงโทษฉันเถอะค่ะ”
หนานกงเยี่ยไม่ได้ถือสาเรื่องนี้ เขามองหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเฉินลู่เหยาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ”คุณมีเรื่องเดือดร้อนอะไร”
เฉินลู่เหยาอยากจะพูดแต่ก็หยุด เธอพูดไม่ได้ แม่ของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย
“บอกผมมา” เสียงของเขาเรียบเฉย แต่เต็มไปด้วยพลัง ทำให้คนไม่กล้าขัดคำสั่ง
เฉินลู่เหยาคิดไตร่ตรอง สุดท้ายเธอก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดความจริงออกมา ”ท่านหนานกงค่ะ ท่านส่งคนมาลักพาตัวแม่ของฉัน บีบให้ฉันยั่วยวนคุณ อยากใช้ฉันเป็นเครื่องมือทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณเหลิ่งรั่วปิง และกำจัดเด็กในท้องของเธอ”
มือที่จับแก้วน้ำเอาไว้ของหนานกงเยี่ยบีบแน่น ดวงตาสีนิลฉายความเยือกเย็น เขาคิดไม่ถึงว่า เขาที่เห็นแก่ความเป็นพ่อลูก จึงอดทนแล้วอดทนอีก แต่หนานกงจวิ้นกลับบีบเขาทุกอย่าง จนถึงขั้นลอบทำร้ายลูกของเขา
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น หนานกงเยี่ยเขวี้ยงแก้วน้ำไปที่ผนัง เสียงแก้วแตกที่แสบแก้วหูทำให้เฉินลู่เหยาทรุดตัวลงบนพื้น อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาไปทั้งตัว ”คุณหนานกง ฉันสมควรตาย คุณฆ่าฉันก็ได้นะคะ แต่ได้โปรดช่วยแม่ของฉันด้วยค่ะ”
หนานกงเยี่ยหลับตาลง พยายามอดกลั้นความโมโห ไม่อย่างนั้นเขาคงจะทำลายทุกอย่างจนสิ้นซากแล้วแน่นอน
เฉินลู่เหยาไม่กล้าพูดอะไร เธอเงียบและรอคอยการลงโทษจากเขา
หลังจากผ่านไปนาน หนานกงเยี่ยลืมตาขึ้นช้าๆ แสงแห่งความเยือกเย็นฉายไปทั่วทั้งห้อง เสียงของเขาทำให้อากาศในห้องก่อตัวเป็นน้ำแข็ง ”แม่ของคุณอยู่ที่ไหน”
เฉินลู่เหยาไม่รู้ว่าหนานกงเยี่ยคิดจะทำอะไร แต่เธอไม่กล้าปิดบังอะไรอีกแล้ว ”อยู่ที่ซีหลิงค่ะ แต่ท่านหนานกงเอาตัวแม่ไปซ่อนเอาไว้ ฉันไม่รู้ว่าแม่อยู่ที่ไหน”
หนานกงเยี่ยเองก็คิดแบบนี้ เพราะเกาะส่วนตัวของตระกูลหนานกงถือเป็นความลับขั้นสุดยอด ไม่มีทางให้คนนอกเข้าออกง่ายๆ ดังนั้นหนานกงจวิ้นไม่มีวันจับตัวแม่ของเฉินลู่เหยาไปซ่อนบนเกาะ แต่น่าจะเลือกซ่อนตัวแม่ของเฉินลู่เหยาเอาไว้ในซีหลิง
หนานกงเยี่ยครุ่นคิดไม่กี่วินาที แล้วพูดอีกครั้ง ”ผมขอถามคุณแค่คำเดียว คุณจะฟังคำสั่งของพ่อผม หรือจะฟังคำสั่งของผม”
เฉินลู่เหยาเดินมาด้านหน้าสองก้าว ”แน่นอนว่าต้องเชื่อฟังคำสั่งของคุณหนานกงค่ะ ฉันไม่เคยอยากจะทำงานให้ท่านหนานกงมาก่อน”
หนานกงเยี่ยถอนหายใจเบาๆ ”ลุกขึ้นมาเถอะ”
เฉินลู่เหยาส่ายหน้า ”ไม่ค่ะ ฉันไม่กล้า ฉันมีความผิด”
หนานกงเยี่ยคลายยิ้มบางๆ ”คุณไม่ได้ทำความผิดใหญ่โต ผมไม่ตำหนิคุณหรอก” นัยน์ตาฉายแสงเยือกเย็น ”แต่ผมจะบอกคุณว่า เหลิ่งรั่วปิงคือชีวิตของผม ถ้าคุณคิดจะทำร้ายเธอ ผมจะไม่มีวันปรานีอย่างแน่นอน!”
หนานกงเยี่ยมีความสามารถนี้ พูดคำพูดทั่วไป ด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับทำให้คนฟังหนาวสะท้านไปถึงกระดูก คำพูดของเขาล้วงลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของเธอ เฉินลู่เหยารีบคุกเข่าลง ”ฉันเข้าใจแล้วค่ะ คุณหนานกง”
ความเป็นจริง เฉินลู่เหยาเป็นคนมีจิตสำนึก ถึงแม้เธอจะอยู่ในวงการบันเทิงมานาน แต่เธอยังคงรักษาจิตใจที่บริสุทธิ์เอาไว้ ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากคำสอนของผู้เป็นแม่ รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อหนานกงเยี่ย ทำให้เธอยืนหยัดความเชื่อนี้เอาไว้ ห้ามทำตัวต่ำทราม เพราะเธอไม่อยากให้เขาดูถูกเธอ
เฉินลู่เหยาครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น ”คุณหนานกงคะ หลังจากนี้คุณจะให้ฉันทำอะไรต่อคะ”
นัยน์ตาของหนานกงเยี่ยนิ่งสงบ ราวกับน้ำในบ่อบาดาล ”ผมจะให้คุณแสดงละครเรื่องนี้ให้ดี ให้ทุกคนคิดว่าผมมีใจให้คุณ ให้พ่อลดความระมัดระวัง ในเวลาเดียวกันผมจะส่งคุณไปตามหาแม่ของคุณ จนกว่าจะช่วยท่านออกมาได้”
เฉินลู่เหยารู้สึกซึ้งใจมาก ”ขอบคุณนะคะคุณหนานกง” วินาทีนี้ ความปรารถนาในตัวเขาที่อยู่ในใจของเธอ ได้หลอมละลายกลายเป็นความซาบซึ้งและเคารพนับถือ เธอไม่กล้าคิดเกินเลยกับหนานกงเยี่ย เช่นเดียวกับหลินมั่นหรูที่สิ้นหวังกับซือคงอวี้
ซือคงอวี้ใช้ความเหี้ยมโหดของเขาทำลายความหวังของหลินมั่นหรู แต่หนานกงเยี่ยใช้ความใจกว้างของเขาทำลายความหวังของเฉินลู่เหยา ดังนั้นหลินมั่นหรูจึงหนีไป แต่เฉินลู่เหยาตัดสินใจที่จะทดแทนบุญคุณ
“อืม” หนานกงเยี่ยพยักหน้า ”พรุ่งนี้ไปทำงานที่บริษัทหนานกง ผมจะให้ก่วนอวี้เซ็นสัญญากับคุณ หลังจากนั้นบริษัทหนานกงจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้คุณในเมืองหลงเอง”
พูดจบ หนานกงเยี่ยยืนขึ้น เฉินลู่เหยามองแผ่นหลังของเขา แววตาเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้ง ในสายตาของเธอ หนานกงเยี่ยยิ่งใหญ่ เป็นประกายเหมือนเทพบุตร เหมือนราชา ทั้งยังเหมือนพี่ชายที่ใจดี
ตอนที่หนานกงเยี่ยกลับไปวิลล่าหย่าเก๋อ ดึกมากแล้ว เขาไปอาบน้ำอีกห้องหนึ่ง แล้วค่อยกลับไปหาเหลิ่งรั่วปิงในห้องนอน เห็นว่าเธอไม่ได้นอนหลับ แต่นอนพิงหัวเตียงแล้วมองมาที่เขา เธอไม่ได้เปิดไฟ ท่ามกลางความมืด เธอเหมือนนางฟ้าในยามค่ำคืน