เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 280 การที่คุณหึงทำให้ผมสบายใจ
หนานกงเยี่ยหยุดชะงัก แล้วหมุนตัวหันหลังปิดประตู จากนั้นขึ้นไปบนเตียง โอบกอดเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้ ”ทำไมยังไม่นอนครับ” น้ำเสียงของเขาดูประหม่า ถึงแม้เขาจะไม่ได้ทำความผิด แต่ก็กลัวว่าเธอจะโกรธ
สีหน้าของเหลิ่งรั่วปิงนิ่งเฉย ไม่ได้ขัดขืนตอนที่เขาโอบกอดเธอ แต่ก็ไม่ได้ยินดีที่เขาทำแบบนี้ ”สามีของฉันแอบไปหาคนรักเก่ากลางดึกแบบนี้ แล้วฉันจะนอนหลับได้ยังไงคะ”
น้ำเสียงของเหลิ่งรั่วปิงนิ่งสงบ ไร้ซึ่งอารมณ์ แต่หนานกงเยี่ยฟังออกว่าเธอกำลังพูดหยอกล้อ เธอไม่ได้โกรธ ด้วยเหตุนี้เขาจึงยิ้ม ”ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น ต้องวิ่งแจ้นไปที่โรงแรมเพื่อจับชู้รักแล้ว ทำไมคุณถึงทนได้ครับ”
“ฮ่าๆๆ…” เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะ จับคอเสื้อของหนานกงเยี่ยแล้วพูดหยอกล้อ ”หึ ถึงแม้คุณจะอาบน้ำแล้ว แต่ยังคงมีกลิ่นเหม็นคาว”
“เฮ้อ!” หนานกงเยี่ยถอนหายใจ ”ตั้งแต่ที่รักของผมท้อง ไม่ให้ผมแตะต้องแม้แต่น้อย แล้วผมจะไม่ออกไปหาเศษหาเลยได้ยังไงครับ”
เพียะ!
ตบไปที่หนานกงเยี่ยด้วยน้ำหนักที่ไม่แรงและไม่เบา เหลิ่งรั่วปิงกอดคอของเขาเอาไว้ ”รีบพูดมาเดี๋ยวนะคะ เมื่อกี้คุณออกไปทำอะไร”
สำหรับความซื่อสัตย์ของหนานกงเยี่ย เหลิ่งรั่วปิงเชื่อใจเต็มร้อย ผู้ชายที่ยอมตายเพื่อเธอ เธอไม่จำเป็นต้องหวาดระแวงสงสัย ถ้าหากเธอยังไม่เชื่อใจเขา เธอก็เป็นคนโง่แล้ว
มีภรรยาที่ฉลาด ทำให้หนานกงเยี่ยได้รับการปลอบโยน โอบกอดเหลิ่งรั่วปิงด้วยความรัก ”ผมไปเจอเฉินลู่เหยามาครับ”
เหลิ่งรั่วปิงอยู่ในอ้อมกอดของหนานกงเยี่ยด้วยความผ่อนคลาย ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนตัวเขา ”ทำไมเฉินลู่เหยาถึงใจร้อนอยากจะเจอคุณจังเลยคะ”
หนานกงเยี่ยไม่คิดจะปิดบัง เพราะภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและแข็งแกร่งที่สุดในโลก การที่เขาปิดบังเธอมีแต่จะทำให้เธอโกรธ ”แม่ของเฉินลู่เหยาถูกพ่อของผมจับตัวไป เธอมาเมืองหลงเพราะต้องการทำลายความสัมพันธ์ของเรา”
เหลิ่งรั่วปิงเงียบ คิดไม่ถึงว่าหนานกงจวิ้นจะทำเรื่องต่ำทรามแบบนี้ได้ ”แล้วคุณคิดจะทำยังไงคะ”
เหลิ่งรั่วปิงรู้ ไม่ว่าหนานกงจวิ้นจะทำเกินกว่าเหตุแค่ไหน หนานกงเยี่ยก็ไม่มีวันปฏิบัติต่อเขาเหมือนที่ทำกับศัตรู เพราะถึงยังไงหนานกงจวิ้นก็เป็นพ่อแท้ๆ ของเขา
หนานกงเยี่ยมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความรู้สึกผิด ”ขอโทษด้วยนะครับที่รัก ผมมันไม่ดีเอง” เขาไม่เคยมอบความปลอดภัยให้เธอได้เลย
เหลิ่งรั่วปิงยิ้มบางเบา ”ตั้งแต่วินาทีที่ฉันตัดสินใจกลับมาคบกับคุณ ฉันเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับเรื่องทุกอย่างแล้วค่ะ ฉันไม่ได้รู้สึกเศร้า”
หนานกงเยี่ยโอบกอดเหลิ่งรั่วปิงด้วยความรักใคร่ ”เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของผม ผมบุกไปฆ่าพ่อถึงบนเกาะไม่ได้ ดังนั้นช่วงนี้ผมอาจจะใกล้ชิดกับเฉินลู่เหยาหน่อย เพื่อให้พ่อลดความระมัดระวัง แล้วผมจะส่งคนไปช่วยแม่ของเฉินลู่เหยาออกมา จากนั้นผมจะเริ่มกำจัดอำนาจของพ่อทิ้ง จนกระทั่งอำนาจของท่านจะหมดไป”
เหลิ่งรั่วปิงตั้งใจคลายความตึงเครียด ”คิดไม่ถึงว่า คุณจะมีเสน่ห์ขนาดนี้ เฉินลู่เหยายอมทิ้งแม่ตัวเองเพื่อคุณ”
หนานกงเยี่ยยิ้ม ”ผมรับปากเฉินลู่เหยาแล้วนะครับ พรุ่งนี้ผมจะเซ็นสัญญากับเฉินลู่เหยาให้เธอเป็นดาราในสังกัดของบริษัทหนานกง ทั้งยังโปรโมทเธออย่างหนัก คุณจะหึงไหมครับ”
เหลิ่งรั่วปิงเบ้ปาก ”หึงสิคะ แน่นอนว่าฉันต้องหึง!”
ถูกต้อง เหลิ่งรั่วปิงไม่สบอารมณ์อย่างมาก แค่ว่าเธอเก็บซ่อนความรู้สึกของตนเองได้เป็นอย่างดีเท่านั้น ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบที่จะให้สามีของตนเองเข้าใกล้กับผู้หญิงคนอื่นหรอก ถึงแม้จะเป็นแค่การแสดงแต่ก็ทำให้เธอรู้สึกแย่ ยิ่งไปกว่านั้นเธอสัมผัสได้อย่างชัดเจน เฉินลู่เหยาไม่ได้มีเจตนาดีกับเธอ ทั้งยังรักหนานกงเยี่ยมากด้วย แต่เหลิ่งรั่วปิงกำลังเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้าง ในเมื่อเธอตัดสินใจรักหนานกงเยี่ยแล้ว เธอต้องเชื่อมั่นในตัวเขา ทำให้เขาลำบากใจน้อยลง นี่คือสิ่งที่สามีภรรยาพึงกระทำ
หนานกงเยี่ยยิ้มอย่างมีความสุข ”เห็นคุณหึงผมก็วางใจแล้วครับ” สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือความนิ่งเฉยไร้ความรู้สึกของเหลิ่งรั่วปิง ขอแค่เธอหึง แม้ว่าเธอจะทำตัวไม่มีเหตุผลแต่มันก็ทำให้เขาสบายใจ
วันที่สอง พาดหัวข่าวอันดับหนึ่งของเมืองหลง คนรักเก่าของหนานกงเยี่ยกลับเมืองหลง ได้รับความรักจากหนานกงเยี่ยอีกครั้ง เซ็นสัญญาอยู่ภายใต้สังกัดของบริษัทหนานกง ทั้งยังให้การสนับสนุนอย่างยิ่งใหญ่ ทุกข่าวบันเทิง ล้วนเป็นรูปถ่ายประกบคู่ของหนานกงเยี่ยและเฉินลู่เหยาในงานวันแถลงข่าว ทั้งสองคนหนึ่งคือผู้ชายหน้าตาดีอีกคนหนึ่งคือผู้หญิงที่สวย
ทั้งยังมีสำนักข่าวที่วิเคราะห์อย่างเจาะลึก คุณผู้หญิงหนานกงคนปัจจุบันเหลิ่งรั่วปิงเป็นแค่ตัวแทนของเฉินลู่เหยาเท่านั้น ตอนนั้นหนานกงเยี่ยและเฉินลู่เหยาจำเป็นต้องเลิกรากันไปเพราะท่านหนานกงไม่เห็นด้วยกับความรักครั้งนั้น แต่หนานกงเยี่ยยังคงไม่ลืมรักเก่า จึงคบกับเหลิ่งรั่วปิงที่มีบุคลิกคล้ายกับเฉินลู่เหยา ตอนนี้คนรักตัวจริงกลับมาแล้ว เหลิ่งรั่วปิงถูกทอดทิ้ง
สำหรับข่าวนี้ หนานกงเยี่ยไม่มีการโต้ตอบแต่อย่างใด และเหลิ่งรั่วปิงเองก็ไม่ค่อยออกจากวิลล่าหย่าเก๋อ ทุกอย่างดูสับสนปั่นป่วนไปหมด
แน่นอนว่าข่าวนี้ไปถึงหูท่านหนานกงที่อยู่บนเกาะส่วนตัวที่มหาสมุทรทางตอนใต้ หนานกงจวิ้นดีใจอย่างมาก รีบติดต่อไปหาเฉินลู่เหยาพร้อมกับตกรางวัลให้เธอ และรับปากกับสิ่งที่เฉินลู่เหยาร้องขอ อนุญาตให้เธอคุยโทรศัพท์กับแม่หนึ่งวัน แน่นอนว่าเขาไม่รู้ คนที่เขาคิดว่าอยู่ในกำมือของตนเอง ตอนนี้ได้หลุดพันจากกำมือของเขาแล้ว ระหว่างที่เฉินลู่เหยาคุยโทรศัพท์กับแม่ของเธอ หนานกงเยี่ยตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของแม่เธอและได้คำตอบทันที
ความเป็นจริงหนานกงจวิ้นไม่ใช่คนธรรมดา ตามหลักการแล้วเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะถูกเฉินลู่เหยาหลอก แต่เขาเชื่อว่าเฉินลู่เหยาไม่กล้าหักหลังตน เพราะเขาไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเฉินลู่เหยาและหนานกงเยี่ยเป็นอย่างไร ดังนั้นเขาจึงประเมินความรู้สึกที่เฉินลู่เหยามีต่อหนานกงเยี่ยต่ำเกินไป
หนานกงเยี่ยเป็นคนทำงานเฉียบขาด เหี้ยมโหดและเป็นขั้นเป็นตอน ดังนั้นเขาใช้เวลาไม่นานก็เจอตัวแม่ของเฉินลู่เหยา พร้อมทั้งช่วยท่านออกมา พาท่านกลับมาเมืองหลง จนได้เจอกับเฉินลู่เหยา
น่าเสียดาย สุขภาพของท่านไม่ดีอยู่แล้ว ตอนที่ถูกหนานกงจวิ้นจับตัวไป ไม่ได้รับการดูแลอย่างดี หลังจากที่หนานกงเยี่ยช่วยออกมา อาการกำเริบ เมื่อมาถึงเมืองหลง ถึงแม้หนานกงเยี่ยจะส่งท่านไปรักษากับหมอที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาลเอกชนหนานกง แต่สุดท้ายก็หมดหนทาง แม่ของเฉินลู่เหยาเหมือนน้ำมันที่กำลังเหือดแห้ง วาระสุดท้ายของชีวิต แม่ของเฉินลู่เหยาขอเจอหนานกงเยี่ยและเหลิ่งรั่วปิงสักครั้ง
หนานกงเยี่ยเป็นคนที่สูงศักดิ์ ไม่ใช่คนที่ใครอยากจะเจอก็ได้ แต่ทันทีที่เฉินลู่เหยาติดต่อไปหาเขา บอกเขาว่านี่เป็นปรารถนาสุดท้ายของแม่ก่อนตาย หนานกงเยี่ยไม่ลังเลและตอบตกลงทันที เพราะถึงอย่างไรแม่ของเฉินลู่เหยาเป็นคนที่แม่ของเขาฝากให้ดูแล สำหรับคนแก่ที่กำลังจะไปจากโลก เขารู้สึกว่าตนเองทำให้ท่านสมปรารถนาได้
สำหรับเหลิ่งรั่วปิง แม้ว่าเธอจะด้านชากับความเป็นความตายไปนานแล้ว ทั้งยังไม่หวั่นไหวกับเรื่องพวกนี้ แต่หลังจากที่เธอตั้งครรภ์ หัวใจที่เย็นชาของเธอค่อยๆ อ่อนโยนและอบอุ่น ดังนั้นเหลิ่งรั่วปิงจึงไม่ได้พูดอะไร เธอและหนานกงเยี่ยไปยังห้องพักผู้ป่วย
ภายในห้องพักผู้ป่วย เฉินลู่เหยานั่งอยู่ข้างเตียงของแม่และร้องไห้ไม่หยุด วินาทีที่แม่ซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของเธอกำลังจะไปจากโลกนี้ เธออับจนหนทาง นอกจากเสียใจแล้ว เธอทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ถึงแม้เธอจะเป็นดาราที่โด่งดังไปทั่วโลก แต่ภายในใจของเธอกลับโดดเดี่ยวมาโดยตลอด แม่ของเธอเป็นคนเดียวที่ทำให้หัวใจของเธออบอุ่น ตอนแรกเธออยากจะรับแม่กลับมาอยู่ด้วยกัน แล้วอยู่ดูแลท่าน แต่ตอนนี้ ความหวังสุดท้ายในชีวิตของเธอกำลังหมดลง ความแค้นที่อยู่ในใจปะทุขึ้นมาราวกับน้ำพุ เอ่อล้นออกมา
ทว่าเธอเกลียดใคร เธอเองก็ไม่รู้
วินาทีที่เห็นเหลิ่งรั่วปิง คลื่นลมแห่งความแค้นก่อตัวขึ้นในใจ ความรู้สึกที่สับซ้อนก่อตัวขึ้นโดยไร้ซึ่งเสียง ความโลภที่เธอข่มเอาไว้ ภายใต้ความเจ็บปวดรวดร้าว ความสุขที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเหลิ่งรั่วปิง เฉินลู่เหยาเริ่มคิดเรื่องโง่ๆ อีกครั้ง
ดูเหมือนว่าความแค้นของเธอจะมีทางออกแล้ว แม่ของเธอตายเพราะหนานกงเยี่ยและพ่อของเขา เหลิ่งรั่วปิงคือตัวต้นเหตุของความขัดแย้งระหว่างท่านหนานกงและหนานกงเยี่ย ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหนานกงเยี่ย ดื่มด่ำความสุขนั้น ควรจะเป็นเธอ ไม่ใช่เหลิ่งรั่วปิง
แม่ของเฉินลู่เหยานอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดขาว อิดโรยไร้เรี่ยวแรง สำหรับความตายที่กำลังคืบคลานมาหา ท่านดูนิ่งสงบมาก ตอนที่หนานกงเยี่ยและเหลิ่งรั่วปิงเข้ามา แววตานิ่งสงบของท่านเปล่งประกายอีกครั้ง มองไปที่หนานกงเยี่ยพร้อมกับยื่นมือออกไปด้วยความดีใจ แต่สุดท้ายมือของท่านก็ร่วงหล่นอย่างหมดแรง
“คุณน้าครับ” หนานกงเยี่ยร้องเรียกด้วยความเคารพ เหลิ่งรั่วปิงเองก็พยักหน้าด้วยความอ่อนโยน
แม่ของเฉินลู่เหยาคลายยิ้มบางๆ ”คุณหนานกง น้า…น้ามีความลับอยากจะบอกคุณค่ะ”
หญิงชราที่ใกล้ตาย ทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมาล้วนต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะความปรารถนาที่อยู่ในใจ ทำให้อดทนมาจนถึงตอนนี้ เกรงว่าคงจะตายไปนานแล้ว
เสียงของท่านอ่อนแรงลงเรื่อยๆ หนานกงเยี่ยทำได้เพียงเดินไปด้านหน้าสองสามก้าวโน้มตัวลงไปใกล้ท่านจึงจะได้ยินชัด
แม่ของเฉินลู่เหยากัดฟันแน่น พยายามพูดออกมา ”ตอนที่น้าถูกท่านหนานกงจับตัวไป ได้ยินความลับหนึ่งเข้า ตอนนั้นท่านหนานกงไม่คิดที่จะให้คุณเป็นผู้สืบทอดของตระกูล แต่ต้องการให้ลูกนอกสมรสเป็น ท่านหนานกงต้องการเปลี่ยนลูกนอกสมรสให้กลายเป็นลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วให้เขาเป็นคนสืบทอดตระกูล แต่เพราะลูกนอกสมรสป่วยเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด รับตำแหน่งนี้ไม่ได้ ดังนั้นท่านหนานกงจึงยกตำแหน่งนี้ให้คุณ อีกเรื่องหนึ่ง ท่านหนานกงไม่ได้ลงจากตำแหน่งเพราะสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง แต่เป็นเพราะมีเรื่องสำคัญทำให้จำต้องลงจากตำแหน่ง”
หนานกงเยี่ยขมวดคิ้วเป็นปม ครุ่นคิด ”เรื่องสำคัญอะไรครับ”
แม่ของเฉินลู่เหยา ”น้าเองก็ไม่รู้ค่ะ น้าแค่แอบได้ยินมาเท่านั้น และน้ายังได้ยินอีกว่า ท่านหนานกงกำลังเตรียมการใหญ่ เหมือนว่าเรื่องนี้จะส่งผลร้ายต่อคุณ ดังนั้นคุณต้องระวังตัวให้มาก”
พูดถึงตรงนี้ แม่ของเฉินลู่เหยาหมดเรี่ยวแรง หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต สุดท้ายท่านหันไปมองเหลิ่งรั่วปิง อย่างอิดโรย แววตาเปี่ยมไปด้วยความสับสน
ทุกคนไม่เข้าใจ แม้แต่เฉินลู่เหยาเองก็ไม่เข้าใจ ”แม่คะ เธอคือคุณผู้หญิงหนานกงค่ะ แม่บอกว่ามีเรื่องจะพูดกับเธอใช่ไหมคะ”
แม่ของเฉินลู่เหยาพยักหน้า อ้าปากอยากจะพูดบางอย่าง แต่หมดเรี่ยวแรงแล้ว ดังนั้นท่านจึงร้อนใจมาก แววตาของท่านยิ่งร้อนรน
เหลิ่งรั่วปิงหลักแหลม เธอยิ้มเหมือนดอกลิลลี่ขาวที่เงียบสงบ เสียงของเธอไพเราะราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ ”คุณน้าทำใจให้สบายนะคะ หนูไม่ถือสาเรื่องที่ลู่เหยาทำ ถ้าเธอไม่ทำผิดอีก หนูและหนานกงจะดูแลเธอเหมือนญาติคนหนึ่งแน่นอนค่ะ”
แน่นอน คำพูดนี้เหลิ่งรั่วปิงไม่ได้พูดจากใจ ตอนที่เธอสัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายของเฉินลู่เหยาที่หลบซ่อนเอาไว้ในแววตาคู่นั้น เธอไม่คิดที่จะทำดีกับผู้หญิงที่คิดร้ายกับตน แต่สำหรับคนเป็นแม่ที่จิตใจดี เธอยินดีที่จะให้ท่านสบายใจและหมดห่วง