เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 283 แผนการที่มองไม่เห็น
เหลิ่งรั่วปิงหันหน้าหนีด้วยความเย็นชา ”คุณหนานกงเยี่ย ทำไมคุณต้องมาถามฉันด้วยคะ ไม่ว่าฉันจะชอบหรือไม่ชอบ ถึงยังไงคุณก็ต้องดูแลเธออยู่ดี ทั้งยังจะรักษาความสัมพันธ์ที่สนิทสนมแบบนี้อีกด้วย สิ่งที่คนในสังคมพูดถึงกันคุณก็ไม่ออกมาปฏิเสธ ยังคงจะเล่นละครกับเธอเหมือนเดิม” สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ”ฉันขอแค่อย่าให้การเล่นละครฉากใหญ่นี้กลายเป็นความจริงก็แล้วกันนะคะ”
หนานกงเยี่ยจับหน้าเหลิ่งรั่วปิงให้หันกลับมามองตนอย่างเอาแต่ใจ ”คุณกำลังพูดอะไร เล่นละครจนคิดเกินเลยกันจริงๆ อะไรกัน รายงานข่าวพวกนั้นแค่จะทำให้ทุกคนสับสนก็เท่านั้น หลังจากนี้จะไม่มีการรายงานข่าวแบบนั้นอีกแล้ว นะครับ?”
เหลิ่งรั่วปิงไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก ”ฉันหิวแล้วค่ะ”
“ครับ เดี๋ยวผมตักน้ำซุปให้คุณ”
หลังจากหนานกงเยี่ยตักน้ำซุปมาให้ เหลิ่งรั่วปิงดื่มน้ำซุปด้วยความตั้งใจทีละคำๆ เธอนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
เหลิ่งรั่วปิงเงียบมาก เงียบราวกับเป็นนางฟ้า แต่ภายในใจของเธอนั้นกลับแตกต่างกับสีหน้าลิบลับ
เธอรู้ หนานกงเยี่ยเป็นคนที่รับผิดชอบหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี เขารู้สึกว่าควรรับผิดชอบและรู้สึกผิดต่อเฉินลู่เหยา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องดูแลผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เช่นเดียวกับตอนที่เขาดูแลอวี้หลานซี ถ้าไม่ใช่อวี้หลานซีบีบจนเขาถอยหลังไม่ได้อีก เขาไม่มีวันโกรธอวี้หลานซีอย่างแน่นอน
เฉินลู่เหยา เธอเป็นคนเจ้าแผนการ ทั้งยังแสดงละครสมบทบาท รู้ว่าควรวางตัวอย่างไร หนานกงเยี่ยไม่มีวันทิ้งผู้หญิงคนนี้เอาไว้โดยไม่เหลียวแลอย่างแน่นอน เฉินลู่เหยาและหนานกงเยี่ยต้องถูกพูดถึกตลอด
ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้สามีของตนเองมีข่าวฉาวกับผู้หญิงคนอื่นไม่หยุด เหลิ่งรั่วปิงก็เหมือนกัน
มองดูเหลิ่งรั่วปิงดื่มน้ำซุปเงียบๆ ภายในใจของหนานกงเยี่ยรู้สึกผิดมาก เขารู้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบด้านลบต่อเหลิ่งรั่วปิง การที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องทนเห็นสามีของตนเองมีข่าวฉาวกับผู้หญิงคนอื่น แน่นอนว่าไม่มีวันสบายใจ การที่เหลิ่งรั่วปิงไม่โกรธและทำตัวงี่เง่า ถือว่าเธอทำได้ดีมากแล้ว
“ที่รักครับ ผมจะจัดการข่าวฉาวพวกนั้นให้เร็วที่สุด ไม่ทำให้คุณต้องได้รับผลกระทบอีก หืม?”
เหลิ่งรั่วปิงดื่มน้ำซุปจนหมด จากนั้นมองหนานกงเยี่ยด้วยสีหน้าจริงจัง ”ถ้าฉันทะเลาะกับเฉินลู่เหยาขึ้นมา คุณจะทำยังไงคะ”
เธอรู้ เฉินลู่เหยาต้องพยายามกำจัดเธออย่างแน่นอน เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นว่าจะช้าหรือเร็ว ความไม่สบอารมณ์ที่อยู่ในแววตาของเฉินลู่เหยา เหลิ่งรั่วปิงเห็นอย่างชัดเจน
หนานกงเยี่ยเงียบไปหลายวินาที แล้วถอนหายใจ ”ที่รัก ผมไม่อยากให้พวกคุณต้องทะเลาะกัน คนหนึ่งคือภรรยาของผม อีกคนคือผู้หญิงที่ผมรู้สึกติดค้าง ผมอยากให้พวกคุณอยู่ด้วยกันอย่างสันติ”
เหลิ่งรั่วปิงหัวเราะในลำคอ ”กลัวก็แต่ สุดท้ายฉันจะเป็นเหมือนที่นักข่าวเขียน ถูกปลดจากตำแหน่งคุณผู้หญิงหนานกง โดนคุณทอดทิ้ง”
หนานกงเยี่ยจับคางเหลิ่งรั่วปิงด้วยความโมโห นัยน์ตาของเขามีความโกรธเคืองมากมายแสดงออกมา ”คุณกำลังพูดเหลวไหลอะไร ผมไม่มีค่าพอให้คุณเชื่อใจขนาดนั้นเลยเหรอ คุณจะให้ผมทำยังไง ต้องให้ผมควักหัวใจของตนเองออกมาให้คุณดูไหม”
เหลิ่งรั่วปิงชำเลืองมองขึ้นไปบนเพดาน ริมฝีปากสวยคลายยิ้มบางๆ ”คุณหนานกงเยี่ย คุณรู้จักนิสัยของฉันเป็นอย่างดี ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมทำให้ตัวเองเสียใจเพื่อให้คนอื่นมีความสุข ยินดีที่จะเป็นหยกที่มีรอยร้าวแต่ไม่มีวันเป็นกระเบื้อง สำหรับเฉินลู่เหยา ฉันยอมให้คุณดูแลเธอเหมือนน้องสาวได้ แต่ถ้าเธอมาหาเรื่องฉัน ฉันไม่มีวันปรานีอย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าฉันจะดูถูกผู้หญิงคนนั้น ปฏิบัติต่อเธอเหมือนกับที่ปฏิบัติต่ออวี้หลานซีในตอนนั้น”
หนานกงเยี่ยเงียบอีกครั้ง ห้าวินาทีหลังจากนั้น ริมฝีปากบางเอ่ยพูด ”เธอไม่มีวันทำแบบนั้นหรอกครับ”
ตอนที่เขาตัดขาดกับอวี้หลานซี เขาเองก็ปวดใจอย่างมาก เพราะถึงอย่างไรการตัดขาดกับอวี้หลานซีเท่ากับว่าเขาต้องสูญเสียญาติคนหนึ่งที่โตมาด้วยกัน สำหรับลู่เฉินเหยา เขาเองก็ไม่อยากทอดทิ้งเธอ เพราะครอบครัวของเธอเป็นผู้มีพระคุณของแม่ นอกจากนี้เขายังรู้สึกละอายแก่ใจกับแม่ของเธอด้วย
แน่นอน คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาคือเหลิ่งรั่วปิง ตอนนั้นเขาตัดขาดกับอวี้หลานซีได้ ตอนนี้ถ้าหากเฉินลู่เหยาทำร้ายเหลิ่งรั่วปิง เขาก็ไม่ลังเลที่จะเด็ดขาดกับเธอ
แต่ประเด็นคือ ตอนนี้เขาไม่มีเหตุผลในการทอดทิ้งเฉินลู่เหยา ในสายตาของเขาเฉินลู่เหยาไม่มีอะไรที่ส่งผลเสียต่อเหลิ่งรั่วปิง สิ่งที่เขาเห็นคือหลังจากแม่ของเฉินลู่เหยาจากไป เฉินลู่เหยาอ่อนแอ ไร้ที่พึ่งพิง เจ็บปวดเสียใจ ไว้วางใจเขาอย่างมาก ต้องการเขา และให้ความสำคัญกับเขา ไม่เคยโอดครวญและโทษเขาแม้แต่คำเดียว เธอเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ ต้องการคนปลอบประโลม เธอยอมหักหลังหนานกงจวิ้นเพื่อเขา สุดท้ายยังต้องสูญเสียแม่อีก เขามีหน้าที่ที่ต้องดูแลเฉินลู่เหยา
เหลิ่งรั่วปิงถอนสายตากลับมาด้วยความเย็นชา ”ฉันเหนื่อยแล้วค่ะ ขอตัวขึ้นไปนอนก่อน”
พูดจบ เหลิ่งรั่วปิงเดินขึ้นไปชั้นบน
หนานกงเยี่ยมองแผ่นหลังของเธอเงียบๆ เจ็บปวดไปทั้งหัวใจ เขาไม่อยากให้เหลิ่งรั่วปิงต้องเจ็บปวด แต่เขาเองก็มีเรื่องที่อยากจะพูดบ่นเหมือนกัน เหลิ่งรั่วปิงเป็นห่วงซือคงอวี้ตลอดเวลา นอกจากนี้เธอยังเกือบจะแต่งงานกับไซ่ตี้จวิ้น แล้วทำไมเขาถึงดูแลผู้หญิงที่ต้องเจ็บปวดเพราะตนไม่ได้
เขามีเธอคนเดียวมาโดยตลอด แต่เธอกลับทิ้งเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่เชื่อใจเขา
หลังจากเงียบอยู่นาน สุดท้ายหนานกงเยี่ยถอนหายใจ เดินขึ้นชั้นบน ตอนที่เขาเข้าไปในห้องนอน เห็นว่าเหลิ่งรั่วปิงนอนหลับไปแล้ว เขาเงียบแล้วไปอาบน้ำ จากนั้นนอนลงข้างๆ เธอ หลังจากลังเลอยู่หลายวินาที สุดท้ายเขาก็โอบกอดเธอ
ไม่ว่าจะเสียใจที่เธอใจแคบแค่ไหน แต่เขาก็รักเธอ รักเธอสุดขั้วหัวใจ
หลังจากคุยโทรศัพท์กับหนานกงเยี่ย เฉินลู่เหยาดีใจจนนอนไม่หลับ เธอเดินไปมาในห้องนอน หวนนึกถึงคำพูดทุกคำของหนานกงเยี่ย สิ่งที่เธอหวั่นไหวที่สุดคือคำพูดที่ว่า การดูแลเธอคือหน้าที่ของเขา
ในที่สุดเธอก็เข้าใจ การตายของแม่มีความหมายกับเธอมากแค่ไหน การตายของแม่ทำให้หนานกงเยี่ยรู้สึกผิดอย่างมาก ดังนั้นเธอใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ ทำให้เขาไม่มีวันตีตัวออกห่างจากเธอ
หันไปมองนอกหน้าต่าง พบว่าท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว เฉินลู่เหยาจึงลุกขึ้นไปปิดไฟ เตรียมเข้านอน
แต่วินาทีที่เธอปิดไฟลง ประตูในห้องถูกเปิดออกอย่างแรง มีชายชุดดำสองคนบุกเข้ามา พวกเขาจับตัวเธอเอาไว้ พร้อมกับเอามีดเล่มเล็กจ่อเอาไว้ที่คอของเธอ
เฉินลู่เหยาตกใจจนหัวใจเต้นแรง เพียงแค่เธออ้าปากหัวใจก็แทบกระดอนออกมา ”พวก…พวกแกเป็นใคร อยากได้เงิน หรืออยากได้อะไร”
ชายชุดดำเงียบ รีบกดโทรออกไปหาใครบางคน หลังจากปลายสายรับสายก็ยื่นโทรศัพท์ไปแนบหูเฉินลู่เหยา เสียงเหี้ยมโหดดังขึ้นจากปลายสาย ”เฉินลู่เหยา เธอคิดว่าหนานกงเยี่ยปกป้องเธอได้อย่างนั้นเหรอ คิดว่าฉันทำอะไรเธอไม่ได้? วันนี้ฉันจะทำให้เธอรู้ คนที่หักหลังฉันมีจุดจบยังไง!”
เสียงนี้ เฉินลู่เหยาคุ้นเคยอย่างมาก ก่อนหน้านี้เป็นเสียงที่ตามหลอกหลอนเธอมาโดยตลอด ”ท่านหนานกง ฉัน…” เฉินลู่เหยารีบครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว เพื่อหาวิธีรับมือ เธอไม่อยากตายแบบนี้ ”ท่านหนานกง ท่านฟังฉันก่อนนะคะ ฉันเองก็ถูกบีบบังคับให้ทำแบนี้ คุณหนานกงฉลาดมาก ทั้งยังมีอำนาจ ฉันกลับเมืองหลงกะทันหันแบบนี้ ทำให้คุณหนานกงสงสัย เขาสั่งให้คนสะกดรอยตามฉัน ดังนั้นเขาจึงรู้ทุกอย่างที่เราวางแผนตั้งแต่แรก เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของฉันนะคะ”
“หึ โกหกปลิ้นปล้อน!” ถึงแม้หนานกงจวิ้นจะพูดเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เฉินลู่เหยาพูด แต่น้ำเสียงของเขาสั่นคลอนเล็กน้อย เขารู้จักลูกชายของตนเป็นอย่างดี หนานกงเยี่ยเป็นคนที่ฉลาดและมีความสามารถ ”ในเมื่อหนานกงเยี่ยรู้แผนการทั้งหมดของเราแล้ว ทำไมเธอถึงไม่รายงานฉัน”
เฉินลูเหยาลอบดีใจ เธอแสดงความสามารถในการแสดงละครออกมาทันที ”ท่านหนานกงคะ ท่านเองก็รู้ว่าหลังจากที่ฉันกลับเมืองหลง คุณหนานกงเยี่ยสั่งให้คนคอยจับตาดูฉัน ฉันไม่มีโอกาสที่จะรายงานเรื่องนี้กับคุณได้” เงียบไปสองวินาที ”แต่ว่าตอนนี้ฉันมีแผนการใหม่แล้วค่ะ”
หนานกงจวิ้นเงียบ รอให้เฉินลู่เหยาพูด
เสียงของเฉินลู่เหยาน่าฟังเหมือนน้ำที่รินไหลลงมาจากบนภูเขาสูง ”ท่านหนานกง ตอนนี้คุณหนานกงเยี่ยเชื่อใจฉันแล้วค่ะ ฉันอยู่ใกล้ชิดกับเขาได้ จนกระทั่งกำจัดเหลิ่งรั่วปิงได้แล้วค่ะ”
“หึๆๆ…” หนานกงจวิ้นหัวเราะในลำคอ ”เธอต้องการอะไร”
เฉินลู่เหยากัดฟันแน่น พูดในสิ่งที่เธอคิด ”หลังจากทำสำเร็จ ฉันอยากให้ท่านหนานกงอนุญาตให้ฉันอยู่เคียงข้างคุณหนานกงเยี่ย เป็นผู้หญิงของคุณหนานกงเยี่ย ฉันไม่ต้องการตำแหน่งคุณผู้หญิงหนานกงอะไรทั้งนั้นค่ะ ขอแค่ได้อยู่เคียงข้างคุณหนานกงเยี่ยก็พอแล้ว”
หนานกงจวิ้นหัวเราะในลำคอ ”เธอเป็นผู้หญิงที่ตาบอดเพราะความรักจริงๆ” เสียงของหนานกงจวิ้นเริ่มแสดงความเกียจคร้าน แต่ยังคงความคาดเดา ”ได้ ฉันตกลง ตั้งแต่ตอนนี้ เธอต้องรายงานทุกเรื่องของเยี่ยให้ฉันฟัง ฉันจะช่วยเธอ กำจัดเหลิ่งรั่วปิง”
“ค่ะ ท่านหนานกง”
เวลาตีสอง เฉินลู่เหยาโทรหาหนานกงเยี่ยกะทันหัน ปลายสายมีแต่เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น ”คุณหนานกงคะ ฉันกลัวมากเลยค่ะ ฉันอาจจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้ว”
หนานกงเยี่ยลุกขึ้น ”เกิดอะไรขึ้นครับ ลู่เหยา”
เสียงของเฉินลู่เหยายังคงสั่นเทา ”มีชายชุดดำบุกเข้ามาในบ้าน พวกเขาถือปืนเอาไว้ด้วยค่ะ ฉันกลัวมากเลย”
หนานกงเยี่ยรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมกับคุยกับเธอ ”ตอนนี้คุณอยู่ไหน”
“ฉันล็อคตัวเองเอาไว้ในห้องน้ำค่ะ ไม่กล้าออกไป พวกเขากำลังพังประตูห้องนอนแล้ว”
“คุณไม่ต้องกลัว ผมจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้” หนานกงเยี่ยวิ่งลงไปชั้นล่าง สั่งให้บอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยของเหลิ่งรั่วปิง จากนั้นเขาก็ขับรถไปหาเฉินลู่เหยาด้วยตนเอง
เขาวิเคราะห์แล้ว เฉินลู่เหยาเพิ่งมาถึงเมืองหลง เธอยังไม่มีศัตรูที่ไหน คนที่อยากฆ่าเธอมีแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือพ่อของเขา หนานกงจวิ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขากระวนกระวายแบบนี้ แม่ของเธอต้องตายเพราะความขัดแย้งของเขากับพ่อแล้ว ถ้าเฉินลู่เหยาเป็นอะไรขึ้นมาอีก เขาคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
หลังจากหนานกงเยี่ยออกไป เหลิ่งรั่วปิงลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังประตูที่ปิดเอาไว้ ริมฝีปากคู่สวยเผยยิ้มเย้ยหยัน
คิดไม่ถึงว่าเฉินลู่เหยาจะลงมือเร็วขนาดนี้!
หนานกงเยี่ยขับรถด้วยความเร็วสูง ไม่นานเขาก็ไปถึงวิลล่าของเฉินลู่เหยา กระโดดข้ามประตูเหล็ก เข้าไปด้านในวิลล่า คว้าปืนออกมา แล้วขึ้นไปชั้นสอง
เวลานี้ ประตูห้องชั้นสองถูกพังเรียบร้อยแล้ว ด้านในวุ่นวายไปหมด ชายชุดดำกำลังพยายามพังประตูห้องน้ำ เมือเห็นหนานกงเยี่ย พวกเขาก็รีบกระโดดหนีไปทางหน้าต่าง
หนานกงเยี่ยไม่อยากตามชายชุดดำไป มองดูพวกเขากระโดดออกไปทางหน้าต่าง เขาเก็บปืน แล้วเดินไปที่ประตูห้องน้ำพร้อบกับเคาะประตูเบาๆ ”ลู่เหยา ผมคือหนานกงเยี่ยเอง ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ออกมาเถอะครับ”
เวลาประมาณห้าวินาที ประตูห้องน้ำเปิดกว้าง เฉินลู่เหยาที่สวมชุดนอนกระโปรงตัวสั้นวิ่งออกมา สีหน้าของเธอหวาดกลัวและตกใจอย่างมาก ดวงตากลมโตฉายความหวาดกลัว ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยน้ำตา