เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 285 เมื่อเทียบกับซือคงอวี้แล้ว หนานกงเยี่ยไม่ใช่ผู้ชายที่ดี
- Home
- เดิมพันเสน่หา
- ตอนที่ 285 เมื่อเทียบกับซือคงอวี้แล้ว หนานกงเยี่ยไม่ใช่ผู้ชายที่ดี
อวี้หลานซีไม่เข้าใจอย่างมาก ทั้งที่หนานกงเยี่ยรู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงเป็นคนอย่างไร เธอไม่มีวันทนเห็นอะไรขวางตาตนเองเด็ดขาด แล้วทำไมหนานกงเยี่ยถึงต้องกลับมาใกล้ชิดสนิทสนมกับเฉินลู่เหยาอีกครั้ง หรือว่าเป็นเหมือนที่เขาลือกัน เหลิ่งรั่วปิงเป็นแค่ตัวแทนของเฉินลู่เหยา
เฉินลู่เหยาคลายยิ้มบางๆ ”คุณหนานกงเป็นคนพาฉันมาที่นี่คะ”
อวี้หลานซีขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความไม่เข้าใจที่มากขึ้น ”เยี่ย คุณคิดจะให้เธออยู่ที่นี่เหรอคะ ถ้าหากเฉินลู่เหยาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ เหลิ่งรั่วปิงต้องโมโหมากไม่ใช่เหรอ”
หนานกงเยี่ยรู้ว่าอวี้หลานซีหมายความว่าอะไร เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ”อยู่แค่วันสองวัน”
เขาเองก็ไม่ได้อยากจะพาเฉินลู่เหยามาอยู่ที่นี่ แต่เขาเองก็ไม่มีทางเลือก วิลล่าที่เฉินลู่เหยาพักมันไกลมาก แม้จะส่งบอดี้การ์ดไปรักษาความปลอดภัยแต่ก็ยังคงไม่ปลอดภัยอยู่ดี นอกจากนี้เฉินลู่เหยายังเป็นดารา อาชีพของเธอพิเศษกว่าคนอื่นๆ มีปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญหลายด้าน ดังนั้นเธอจะพักอยู่ที่ไหนจึงเป็นเรื่องที่ต้องเก็บเงียบเป็นความลับ ก่อนที่จะเจอบ้านที่ลงตัว เขาทำได้เพียงพาเฉินลู่เหยามาอยู่ที่วิลล่าหย่าเก๋อ
อวี้หลานซีโตมาพร้อมกับหนานกงเยี่ย ทั้งยังเป็นน้องสาวบุญธรรมของเขา สูงศักดิ์กว่าเฉินลู่เหยามาก ดังนั้นเธอจึงไม่เห็นเฉินลู่เหยาอยู่ในสายตา พูดในสิ่งที่คิดทันที ”เยี่ยคะ นางบำเรอเลี้ยงเอาไว้นอกบ้านได้ แต่หิ้วกลับบ้านไม่ได้นะคะ”
เฉินลู่เหยาทำหน้าเศร้าพร้อมกับบีบน้ำตาทันที ”คุณอวี้ คุณกำลังพูดอะไรคะ”
อวี้หลานซียิ้มบางๆ ”เฉินลู่เหยา ในอดีตเธอกับเยี่ยเป็นอะไรกัน ฉันไม่มีสิทธิ์พูด แต่ตอนนี้เยี่ยแต่งงานแล้ว อีกอย่างภรรยาของเยี่ยก็กำลังตั้งครรภ์ เธอที่เป็นนางบำเรอรู้จักคำว่ายางอายบ้างไหม ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมาได้”
น้ำตาของเฉินลู่เหยากำลังจะรินไหลลงมา ”คุณอวี้ ฉัน…”
อวี้หลานซีพูดขัดขึ้นมาก่อน ”คนที่อยู่ในวงการบันเทิงจนดังเป็นพลุแตก คือมารพันปีดีๆ นี่เอง เธอไม่ต้องมาทำตัวเป็นลูกสุนัขจิ้งจอกน่าสงสารกับฉัน” หันไปมองหนานกงเยี่ย ”เยี่ย ถ้าคุณไม่อยากให้เหลิ่งรั่วปิงผิดหวังในตัวคุณ กำจัดเฉินลู่เหยาไปจากชีวิตซะ กับอีแค่คนรักเก่าทำไมถึงต้องอาลัยอาวรณ์ด้วย”
เฉินลู่เหยามองอวี้หลานซีด้วยความเหี้ยมโหดครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองหนานกงเยี่ยด้วยความน่าสงสาร ”คุณหนานกง ถ้าฉันทำให้คุณเดือดร้อน ฉันออกไปก็ได้ค่ะ”
หนานกงเยี่ยพยายามอดทนกับการโต้เถียงของผู้หญิงทั้งสองคน เขากำลังเป็นห่วงเหลิ่งรั่วปิง ไม่มีอารมณ์มาสนใจเรื่องพวกนี้ จึงร้องเรียกพ่อบ้านด้วยความหงุดหงิด ”พ่อบ้านจัดห้องนอนสำหรับแขกให้คุณเฉิน แล้วพาเธอไปพักที”
พ่อบ้านลังเลพักหนึ่ง สุดท้ายเขาโค้งตัวลงทำตามคำสั่ง ”ครับ” เขาไม่เข้าใจอย่างมากทำไมคุณชายเยี่ยต้องทำแบบนี้
หลังจากพ่อบ้านพาเฉินลู่เหยาออกไป อวี้หลานซีเดินไปหาหนานกงเยี่ยด้วยความร้อนใจ ”เยี่ยคะ คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ คุณก็รู้ดีว่ารั่วปิงเป็นคนยังไง ทำไมคุณถึงต้องให้เฉินลู่เหยามาอยู่ใกล้กับตัวเองด้วย หรือว่าเป็นเหมือนที่เขาลือกัน รั่วปิงเป็นแค่คนที่มาแทนที่เฉินลู่เหยา”
หนานกงเยี่ยนวดคิ้วของเขาด้วยความหงุดหงิด ”หลานซี เรื่องในอดีตบางเรื่องคุณไม่เข้าใจ คุณอย่ากังวลเลย กลับไปเถอะ”
เมื่อก่อนอวี้หลานซีไม่มีวันขัดคำสั่งของหนานกงเยี่ย แต่วันนี้เธอยังคงดึงดัน ”เยี่ย ระหว่างคุณกับเหลิ่งรั่วปิงต้องผ่านอะไรมาบ้าง ฉันเห็นมาหมดทุกอย่าง ตอนนั้นที่ฉันยอมถอยออกมา นอกจากฉันจะรู้ว่าตัวเองคิดยังไงกับก่วนอวี้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฉันตื้นตันกับความรักของคุณและรั่วปิง การแต่งงานของพวกคุณที่ได้มาด้วยความยากลำบาก คุณจะทำลายมันเพราะเฉินลู่เหยาแค่คนเดียวเหรอคะ”
หนานกงเยี่ยโน้มตัวลงพิงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า ”ผมกับเฉินลู่เหยาไม่ได้เป็นอะไรกัน ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ผมรักภรรยาของผมแค่คนเดียว คุณวางใจเถอะ”
“แต่ว่า…”
เสียงของหนานกงเยี่ยนิ่งสงบมาก ”หลานซี ผมบอกแล้วไง เรื่องบางเรื่องในอดีตคุณไม่รู้ คุณไม่ต้องเที่ยวกังวลไปเรื่อยเปื่อย ผมรู้สึกผิดต่อเฉินลู่เหยา เหมือนในอดีตที่ผมทำร้ายคุณไม่ได้ ถ้าเธอไม่ทำอะไรผิดผมก็ทอดทิ้งเธอไม่ได้” น้ำเสียงของเขามีความผิดหวังเล็กน้อย ”ผมบอกเรื่องทุกอย่างให้เหลิ่งรั่วปิงฟังแล้ว ถ้าเธอยังคงไม่เข้าใจผม ผมก็รู้สึกผิดหวังมากจริงๆ”
อวี้หลานซีขยับริมฝีปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร นี่คือครั้งแรกที่เธอเห็นหนานกงเยี่ยเป็นแบบนี้
เหลิ่งรั่วปิงในเวลานี้ อยู่ในวิลล่าหลังหนึ่งทางชาญเมืองตะวันตก เธอแอบมาเจอกับอาเธอร์
หลังจากหนานกงเยี่ยออกไปได้ไม่นาน อาเธอร์ก็โทรมาหาเธอ ดังนั้นเธอจึงรีบออกมา แน่นอนว่าการมาเจออาเธอร์แบบนี้เธอพาบอดี้การ์ดมาไม่ได้ และไม่อาจทิ้งร่องรอยให้พวกเขาตามสืบได้
พูดตามความจริง ตอนที่หนานกงเยี่ยรีบออกไปหาเฉินลู่เหยา ภายในใจของเธอรู้สึกแย่มาก เธอเคยเป็นนักฆ่าที่เหี้ยมโหด เป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่กำลั้งท้อง ผู้หญิงที่กำลังท้องเป็นผู้หญิงที่อารมณ์อ่อนไหว การที่หนานกงเยี่ยดูแลคนคนหนึ่งจนเกินกว่าเหตุ และมีข่าวกับผู้หญิงคนอื่น ทำให้เธอรู้สึกเสียใจ
ซือคงอวี้ต้องการจะมาเมืองหลง แต่ยังไม่ได้เดินทาง ส่วนอาเธอร์เดินทางมาทำภารกิจที่นี่ล่วงหน้า เมื่อมาถึงเมืองหลงเขาก็รีบติดต่อไปหาเหลิ่งรั่วปิงทันที ถึงแม้เขาจะอยู่ซีหลิง แต่คอยสนใจดูข่าวของเมืองหลงอยู่ตลอดเวลา ช่วงระยะหลังที่ผ่านมาเขาเห็นหนานกงเยี่ยมีข่าวฉาวกับผู้หญิงคนอื่น เหลิ่งรั่วปิงต้องแบกรับกับการคาดเดาต่างๆ ของสำนักข่าว เขารู้สึกเสียใจ ความสุขของเหลิ่งรั่วปิงคือความคาดหวังเพียงอย่างเดียวของเขา ถ้าเธอไม่มีความสุขเขาไม่ลังเลที่จะพาเหลิ่งรั่วปิงไปจากที่นี่
เพื่อป้องกันไม่ให้ใครรู้ เหลิ่งรั่วปิงขับรถของตระกูลหนานกงมาด้วยตนเอง เธอเลือกที่จะขับมาตามเส้นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิด แล้วขึ้นไปนั่งบนรถของอาเธอร์ ทั้งสองมายังวิลล่าลับที่อยู่ตรงชาญเมืองตะวันตกด้วยกัน
“รั่วปิง ช่วงนี้เธอไม่มีความสุขใช่ไหม” อาเธอร์มองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความปวดใจ ถึงแม้เขาไม่เคยมีความรักมาก่อน ไม่เคยแต่งงาน แต่ทุกคนล้วนรู้ดี ผู้หญิงคนหนึ่ง สามีมีข่าวฉาวกับผู้หญิงอีกคน ต้องรู้สึกไม่ดีอย่างแน่นอน
อยู่กับอาเธอร์ เหลิ่งรั่วปิงทิ้งความหวาดระแวงทุกอย่างลงจนหมด เธอยิ้มบางๆ ”นิดหน่อย แต่ว่าไม่ถึงขั้นที่ต้องเอามาใส่ใจหรอก”
อาเธอร์ขมวดคิ้ว ”ทำไมหนานกงเยี่ยถึงไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น”
“คุณหนานกงเยี่ยติดค้างผู้หญิงคนนั้น ดังนั้นก็เลยต้องดูแลเธอมากเป็นพิเศษ” เวลานี้ เหลิ่งรั่วปิงยังคงเชื่อใจหนานกงเยี่ย
ดวงตาคมเฉี่ยวของอาเธอร์ฉายความเหี้ยมโหด ”ให้ฉันกำจัดผู้หญิงคนนั้นทิ้งไหม”
เหลิ่งรั่วปิงยิ้ม ”กำจัดเธอต้องให้นายลงมือด้วยเหรอ ฉันเองก็เอาชีวิตผู้หญิงคนนั้นได้ตลอดเวลา” ถูกต้อง เหลิ่งรั่วปิงไม่คิดจะสนใจท่าทีของหนานกงเยี่ย ถ้าเฉินลู่เหยากล้าทำร้ายเธอ เธอจะฆ่าเฉินลู่เหยาทิ้งแน่นอน โดยไม่สนใจว่าหนานกงเยี่ยจะรู้สึกอย่างไร
อาเธอร์ขมวดคิ้วเป็นปม ใบหน้าเคร่งขรึมเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ ”แล้วทำไมเธอต้องอดทนแบบนี้ด้วย เธออยากจะแบ่งผู้ชายของตัวเองให้ผู้หญิงคนอื่นใช้เหรอ ในสายตาของฉัน เธอไม่ใช่คนแบบนั้น”
รอยยิ้มของเหลิ่งรั่วปิงสวยเหมือนดอกไม้ เธอได้รับความเป็นห่วงและอบอุ่นเหมือนญาติสนิทจากอาเธอร์ ”นายเองก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ที่ฉันยังอดทน เป็นเพราะฉันเชื่อใจคุณหนานกงเยี่ย เขารักฉันสุดหัวใจ แค่ว่ารู้สึกติดค้างผู้หญิงคนนั้น ก็เลยทำอะไรชดเชยให้เธอก็เท่านั้น ฉันในฐานะภรรยา ไม่มีทางทำให้เขาต้องลำบากใจ”
อาเธอร์มองคนตรงหน้าที่อยู่เคียงข้างตนมานานกว่าหกปี ผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เหี้ยมโหด เขารู้สึกว่าตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว หนามแหลมคมที่อยู่ในตัวเหลิ่งรั่วปิงถูกกำจัดออกไป ตอนนี้เธออ่อนโยน พบเจอความขัดแย้งเธอเรียนรู้ที่จะหลบเลี่ยง พบเจอปัญหาเธอเรียนรู้ที่จะปรับตัว
เพราะการแต่งงานและลูกทำให้เหลิ่งรั่วปิงเปลี่ยนไปอย่างนั้นเหรอ
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง เหลิ่งรั่วปิงพูดขึ้นอีกครั้ง ”ทำไมนายถึงมาเมืองหลงกะทันหันแบบนี้ล่ะ”
แววตาอาเธอร์ลุ่มลึก ราวกับผืนป่า ”ฉันมาตามคำสั่งของเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ เพื่อตามหาหลินมั่นหรู”
เหลิ่งรั่วปิงเงยหน้าขึ้น ”เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อคิดจะกำจัดหลินมั่นหรู”
แววตาของอาเธอร์ที่มองมาทางเหลิ่งรั่วปิงนั้นเปี่ยมไปด้วยความหมาย นัยน์ตาของเขาซับซ้อน ”รั่วปิง เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อจะมาเมืองหลงด้วยตนเอง”
ขนตางอนยาวของเหลิ่งรั่วปิงสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความกังวล ”หลินมั่นหรูแค่คนเดียว เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อถึงกับมาด้วยตนเอง?”
อาเธอร์ถอนหายใจ ”ในเมื่อเธอเองก็รู้ว่าเพื่อหลินมั่นหรู เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อไม่มีวันมาถึงเมืองหลง การที่เขามาที่นี่เพื่อใคร เธอน่าจะรู้ดีที่สุด”
นึกถึงซือคงอวี้ เหลิ่งรั่วปิงเงียบ ภายในใจของเธอรู้สึกเหมือนมีเข็มนับพันทิ่มแทง ”เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อสบายดีไหม”
อาเธอร์พูดไปตามตรง ”ไม่ดีเลยสักนิด ตั้งแต่เธอไปจากซีหลิง เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อเกรี้ยวกราด นิ่งเงียบ มักจะใจลอยตลอด ไม่ว่าใครก็ดูออกว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน ไม่พอใจแค่ไหน”
เหลิ่งรั่วปิงก้มหน้าลง นัยน์ตาของเธอเคลือบไปด้วยหมอกแห่งความเจ็บปวด ซือคงอวี้ คือความเจ็บปวดที่อยู่ภายในใจของเธอ
อาเธอร์ทำลายความเงียบอีกครั้ง ”รั่วปิง ฉันไม่เคยสนใจว่าเธอรักใคร ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุข ดังนั้นฉันถึงสนับสนุนทุกการตัดสินใจของเธอ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่า อยู่กับเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อเธอคงมีความสุขกว่าอยู่กับหนานกงเยี่ย เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อไม่เคยมีข่าวฉาว เขารักษาความบริสุทธิ์ของตนมาโดยตลอด เขาตัดสินใจทำทุกอย่างเพื่อเธอได้ ทำลายขนบธรรมเนียมกฎเกณฑ์ที่มีมานานกว่าสี่พันปีของซีหลิง ชิงตำแหน่งเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ การแต่งงานและอิสรภาพอยู่ในมือของตนเอง เขาสัญญาว่าจะให้เธอมีชีวิตที่เป็นอิสระ และพยายามทำมาโดยตลอด อีกทั้งเพื่อเธอ เขายอมทุกอย่าง ไม่ถือสาที่เธอเคยแต่งงานกับหนานกงเยี่ย ตอนนี้ก็ไม่ถือสาที่เธอมีลูกกับคนอื่น เธอจะไปหาผู้ชายที่รักเธอแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก”
เหลิ่งรั่วปิงเงียบ เรื่องทั้งหมดนี้เธอรู้ดี เขาทำเพื่อเธอมามากมาย และเธอก็ไม่อาจตอบแทนเขาได้
อาเธอร์พูดต่อ ”แต่หนานกงเยี่ย ตอนนั้นเขาเลือกที่จะทำให้เธออับอาย ทำให้เธอเสียใจ ตอนนี้เขายังมีข่าวฉาวไม่หยุดหย่อน ทำให้เธอถูกคนในสังคมตราหน้า และจัดการกับสิ่งที่พ่อของเขาทำไม่ได้ เมื่อเทียบกับเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อแล้ว เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ดี”
เหลิ่งรั่วปิงโต้เถียงไม่ได้ แต่ความรักเป็นเรื่องที่แปลก คนเรามักจะเลือกคนที่ทำให้ตนเองเสียใจ คล้ายว่าจะต้องผ่านความเจ็บปวดเท่านั้น ถึงจะเข้าใจคำว่ารัก
ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่กำลังตั้งท้อง เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงรอทุกอย่างเงียบๆ เธอหวังว่าสักวันหนึ่ง ซือคงอวี้จะเดินออกไปจากความรู้สึกที่มีให้เธอได้ และเจอความสุขที่เป็นของตนเอง เธอแต่งงานกับหนานกงเยี่ยแล้ว ทั้งยังตั้งครรภ์ แน่นอนว่าต้องอยู่กับหนานกงเยี่ยต่อไป
หลังจากผ่านไปนาน เหลิ่งรั่วปิงยิ้มบางๆ เธอเหมือนดอกมะลิยามเช้า ขาวบริสุทธิ์ไร้จุดด่างพร้อย คงความสง่างาม ”อาเธอร์ ฉันเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของตนเองไม่ได้ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น”
ใช่ แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน แล้วอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์