เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 297 ความรักที่ขมขื่นของอวี้ไป่หัน
อวี้ไป่หันพาไซ่หย่าเซวียนไปลานโบว์ลิ่งที่อยู่ในเครือบริษัทอวี้ซื่อ เมื่อพนักงานทุกคนได้ยินว่าบอสจะมาก็รีบเคลียร์ลานโบว์ลิ่งหรูและใหญ่ที่สุดเอาไว้ให้อวี้ไป่หันและไซ่หย่าเซวียนใช้
ตลอดทาง อวี้ไป่หันอารมณ์ดีมาก เขารู้สึกเหมือนตนเองอยู่บนสวรรค์ ถึงแม้ผู้หญิงที่นั่งข้างๆ จะไม่ได้รักเขา อีกทั้งตอนนี้เธอยังเป็นแฟนของผู้ชายคนอื่น แต่การที่ได้นั่งมองเธอแบบนี้ ทั้งยังได้อยู่กับเธออย่างใกล้ชิดแบบนี้ ดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ราวกับฤดูใบไม้ผลิจากตัวของเธอ ทำให้เขารู้สึกดียิ่งกว่าตอนอยู่คนละประเทศที่ทำได้เพียงคิดถึงเธอด้วยความทรมาน
รถสปอร์ตสีแดงแล่นอย่างรวดเร็วบนสะพานสูงคล้ายกับเปลวไฟสีแดงที่ร้อนระอุเหมือนความรู้สึกของเขา
เขาห้ามใจตัวเองไม่ได้จึงชำเลืองมองหญิงสาวข้างๆ ทุกสองสามวินาที รอยยิ้มในนัยน์ตาของเขาเอ่อล้นออกมาคล้ายกับน้ำที่รินไหลท่วมพื้นที่เล็กๆ โอบล้อมหญิงสาวเอาไว้
ไซ่หย่าเซวียนโดนมองจนรู้สึกประหม่า หันไปมองค้อนอวี้ไป่หัน ”เลิกมองด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่มสักที!”
“ฮ่าๆๆ…” อวี้ไป่หันหัวเราะ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เขาคิดถึงท่าทีหงุดหงิดของเธอเหลือเกิน ”ผมทำสีหน้ากรุ้มกริ่มตรงไหนครับ คุณสัมผัสถึงความรักที่บริสุทธิ์ของผมไม่ได้เหรอครับ”
ไซ่หย่าเซวียนเบ้ปาก ”คนเจ้าชู้อย่างคุณมีความรักที่บริสุทธิ์?”
“ชิ!” อวี้ไป่หันเบ้ปาก ”เรื่องนี้คุณจะพูดอีกนานแค่ไหนถึงจะพอ ผมบอกแล้วไงครับ ตั้งแต่รู้จักคุณ ผมก็กลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้ว ผมไม่มีผู้หญิงอื่นมานานมากแล้ว”
ไซ่หย่าเซวียนรู้สึกว่าตนเองทำเกินกว่าเหตุไปแล้ว เหมือนว่าตั้งแต่เธอรู้จักกับเขา เธอเอาเรื่องนี้มาดูถูกเขา มาประชดเขามากมายหลายครั้งจนแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อ ”ก็ได้ค่ะ ถ้าวันนี้คุณทำให้ฉันสนุก ฉันจะว่าคุณน้อยลงหน่อยก็แล้วกัน”
รอยยิ้มของอวี้ไป่หันมีเสน่ชวนหลงใหล ”ไม่มีปัญหาครับ คุณพูดมาได้เลยว่าวันนี้อยากให้ผมรับใช้คุณยังไงบ้าง ผมจะบริการคุณจนกว่าจะพอใจ”
“ฮ่าๆๆ…” ไซ่หย่าเซวียนหัวเราะเหมือนนกน้อยที่มีความสุข
เมื่อไปถึงลานโบว์ลิ่งของบริษัทอวี้ซื่อ ทั้งสองได้รับการบริการอย่างดีราวกับเป็นราชาและราชินี พนักงานยืนเรียงแถวต้อนรับ ปรนิบัติรับใช้จนไซ่หย่าเซวียนรู้สึกเหมือนถูกอุ้มลอยขึ้นบนท้องฟ้า เธอกลัวเหลือเกินว่าหากตนเผลอตัวไม่ทันระวังจะตกลงมาในบ่อโคลน ”อวี้๋ไป่หัน ปกติแล้วคุณก็เป็นคนฟุ่มเฟือยแบบนี้เหรอคะ”
อวี้ไป่หันขมวดคิ้วเป็นม ”เปล่าครับ ปกติผมเป็นคนถ่อมตนมาก ที่ผมทำแบบนี้เพราะเห็นว่าคุณเป็นคนสำคัญ”
ไซ่หย่าเซวียนกลอกตามองบน แกล้งทำเป็นโมโห ”เหอะ! ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้ รีบสั่งให้คนพวกนี้ออกไปให้หมด!”
อวี้ไป่หันพยักหน้า ”ครับๆๆ น้อมรับคำสั่ง อย่าโกรธเลยนะ หืม”
ดังนั้น อวี้ไป่หันจึงผายมือ พนักงานเข้าใจในทันที หายออกไปอย่างรวดเร็วราวกับหมอกควัน
มองดูลานกว้างที่ว่างเปล่าไม่มีคน ไซ่หย่าเซวียนสบายใจขึ้นมาก เธอเดินขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับเบ้ปากพูด ”คุณไม่มีข้อดีอะไรเลยจริงๆ เมื่อก่อนไม่มี ตอนนี้ก็ยังไม่มี”
ภายในใจของอวี้ไป่หันมีก้อนหินขนาดใหญ่กดทับเอาไว้ ในสายตาของเธอ เธอไม่มีความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับเขาเลย เดิมทีคิดว่าไม่ได้เจอกันหลายเดือน ถึงแม้เธอจะไม่ได้อิดโรยเหมือนเขา แต่อย่างน้อยก็คงจะคิดถึงสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้เธอ ทว่าไม่เพียงแต่เธอไม่คิดแม้แต่น้อย แต่ยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กลับมาเจอกันอีกครั้ง เธอยังคงดูถูกเขา
เขาอวี้ไป่หันเคยเป็นคนที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเมือหลวง ทุกคนขนานนามเขาว่าคาสโนว่าตัวพ่อ ผู้หญิงทุกคนที่ได้เจอเขา ไม่ว่าจะทำด้วยความจริงใจหรือแสแสร้งก็ไม่มีใครกล้าถูกถูกเขา ทว่าผู้หญิงหยิ่งผยองตรงหน้า ตั้งแต่รู้จักกันเธอก็ไม่เคยเห็นข้อดีของเขา
แต่ถึงแม้เธอจะดูถูกเขาแบบนี้ เขาก็ยังคงรักเธอแทบบ้า ทั้งที่รู้ว่าเธอเลือกผู้ชายคนอื่นไปแล้ว แต่เขากลับยังไม่ลืมเธอ เหมือนกับการเฝ้ามองดูแตงในสวนของคนอื่น อยากจะไปเด็ด แต่ทำอย่างไรก็เด็ดไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้ช่างทรมานมาก
นี่ต้องเป็นบทลงโทษจากสวรรค์เพราะความเจ้าชู้ของเขาในอดีตอย่างแน่นอน!
ภายในลานโบว์ลิ่งวีไอพี ไซ่หย่าเซวียนมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ เธอโยนบอลลิ่งรอบแล้วรอบเล่าอย่างมีความสุข ใช้เวลาในการโยนโบว์ลิ่งนานกว่าสองชั่วโมง สุดท้ายเธอเหนื่อยจนเหงื่อแตก จึงจำต้องนั่งพักบนเก้าอี้
อวี้ไป่หันคอยดูแลไซ่หย่าเซวียนตลอดเวลา ยินดีที่จะเป็นคนรับใช้ให้เธอ เห็นไซ่หย่าเซวียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขารีบยื่นผ้าขนหนูผืนใหม่และน้ำให้เธอ ”เหนื่อยแล้วใช่ไหมครับ”
ไซ่หย่าเซวียนเงยหน้าขึ้นแล้วดื่มน้ำไปหลายอึกใหญ่ เพราะดื่มน้ำมากจนเกินไป ทำให้มีน้ำบางส่วนไหลลงมาจากมุมปาก น้ำรินไหลลงมาเรื่อยไปยังคอระหงของเธอ ผิวเนียนขาวและใบหน้าที่งดงามนั้น ขับให้เธอดูสวยราวกับดอกสาลี่ สวยจนไม่อาจบรรยาย
อวี้ไป่หันมองดูเธอเงียบๆ จนหลงละเมอ ไซ่หย่าเซวียนไม่ได้เป็นผู้หญิงที่สวยสะดุดตาเหมือนเหลิ่งรั่วปิง แต่เธอเป็นผู้หญิงที่สวยบริสุทธิ์ ดูสะอาดสะอ้าน สดใส คล้ายกับภูตตัวน้อยๆ ที่วิ่งเข้ามาในหัวใจของเขา
ไซ่หย่าเซวียนเบ้ปากมองอวี้ไป่หันด้วยความไม่พอใจ ”ทำไมต้องมองฉันแบบนี้ด้วยคะ” ตั้งแต่เจอกันอีกครั้ง เขามักจะมองไซ่หย่าเซวียนด้วยความเหม่อลอย มองจนเธอรู้สึกประหม่า
อวี้ไป่หันคลายยิ้มบางๆ ”ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คุณไม่คิดถึงผมบ้างเลยเหรอครับ”
ดวงตากลมโตของไซ่หย่าเซวียนกรอกไปมา นัยน์ตาของเธอมีความขี้เล่นแสดงออกมา ”คิดถึงสิคะ”
แววตาของอวี้ไป่หันฉายความดีใจ ”จริงเหรอครับ”
“อื้ม” ไซ่หย่าเซวียนยิ้มตาหยีพร้อมกับพยักหน้า ”คิดถึงสิคะ คิดถึงความน่าหมั่นไส้ของคุณ”
นัยน์ตาของอวี้ไป่หันมืดหมองลงทันที ”ทำไมคุณถึงดูถูกผมแบบนี้ครับ” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ”คุณเป็นผู้หญิงที่ไม่มีหัวใจจริงๆ ผมคิดถึงคุณทุกวันจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมลงเรื่อยๆ แต่คุณกลับยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีน้ำมีนวล ไม่แม้แต่จะคิดถึงผม” มองดูสีหน้าผิดหวังของเขา ไซ่หย่าเซวียนลำบากใจเล็กน้อย เธอเคยคิดถึงเขาไหม แน่นอนว่าเคย เรื่องที่เธอคิดถึงมากที่สุดก็คือ เขาเป็นคนพรากจูบแรกของเธอไป เธอยังคงไม่พอใจมาโดยตลอด ทั้งที่เธออยากจะแต่งงานกับฉู่เทียนรุ่ย แต่จูบแรกที่หอมหวานกลับถูกผู้ชายคนนี้พรากไป ดังนั้น เมื่อไหร่ที่เธอคิดถึงเรื่องนี้ก็จะยิ่งโมโห แต่ถึงแม้จะโมโหมากแค่ไหน เธอก็ทำอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ได้
ไซ่หย่าเซวียนเม้มริมฝีปาก พูดออกมาด้วยความยากลำบาก ”คุณทุกข์ใจแบบนี้มันดีจริงๆ เหรอคะ ฉันมีแฟนแล้ว”
อวี้ไป่หันมองค้อนเธอ ”ผมรู้ว่าคุณมีแฟนแล้ว ไม่ต้องคอยย้ำตลอดเวลาก็ได้!” เขาเงียบไปด้วยความเศร้าประมาณสองวินาที แล้วถามด้วยความปวดใจ ”เขาดีกับคุณไหม”
“แน่นอนสิคะ” ไซ่หย่าเซวียนคิดภาพฉู่เทียนรุ่ย เขาดีกับเธอไหม แน่นอนว่าดีสิ ดีมากด้วย เขาตามใจเธอทุกวัน ทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง คอยหยอกให้เธอมีความสุข เที่ยวเล่นกับเธอ เขาอายุมากกว่าเธอเจ็ดแปดปี แต่ดูแลใส่ใจเธอทุกรายละเอียด เหมือนกับพ่อที่ดูแลลูกไม่มีผิด
อวี้ไป่หันหึงขึ้นมาทันที จับหน้าไซ่หย่าเซวียนให้หันไปมาหาตนพร้อมกับบดขยี้ริมฝีปากของเธอ เขาจูบอย่างแรงและเร่าร้อน คล้ายจะระบายความไม่พอใจทั้งหมดด้วยการดูดปากเธอด้วยความรุนแรง จนกระทั่งริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธอแดงก่ำ เขาก็ยังไม่ยอมถอนจูบ
วินาทีที่เขาจูบเธอ ไซ่หย่าเซวียนหยุดชะงักไปอีกครั้ง เหมือนครั้งแรกที่เขาจูบเธอ เธอถึงกับนิ่งค้างไปเลย ความรู้สึกแบบนี้แปลกประหลาดมาก เธอควบคุมร่างกายของตนเองไม่ได้ สมองของเธอสับสนไปหมด
จูบของเขามีกลิ่นเปปเปอร์มิ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชายหนุ่มคล้ายกับน้ำที่ท่วมตัวเธอ ทำให้เธอนึกถึงความทรงจำของตนเอง ในความทรงจำของเธอ เขาดีกับเธอมาก ดีมาก ดีจนกระทั่งไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้เธอรู้สึกเชื่อใจและปลอดภัยแบบนี้มาก่อน และไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงแบบนี้ ทั้งยังรู้สึกดีอย่างมหัศจรรย์
หลังจากผ่านไปนาน เขามองดูหญิงสาวที่นิ่งค้างในอ้อมกอด ยิ้มหวาน ”เขาดีกับคุณ แล้วเคยจูบคุณแบบที่ผมจูบรึเปล่า”
ภาพในหัวของไซ่หย่าเซวียนตัดไปอีกครั้ง ฉู่เทียนรุ่ยเคยจูบเธอแบบนี้รึเปล่า แน่นอนว่าไม่เคย
ถึงแม้เธอกับฉู่เทียนรุ่ยจะเป็นแฟนกันแล้ว เขาเองก็รักและตามใจเธอทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยจูบเธอมาก่อน คล้ายกับว่าเขาไม่เคยคิดจะทำเรื่องรักใคร่เข้าถึงตัวแบบนี้ ทุกครั้งที่เธอเข้าไปใกล้เขา เขาก็จะหอมแก้มเธอด้วยความทะนุถนอมเท่านั้น
เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉู่เทียนรุ่ย เมื่อเทียบกับคู่รักคนอื่นๆ เหมือนขาดอะไรไป ตอนนี้เธอถูกอวี้ไป่หันจูบด้วยความร้อนแรง ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว ระหว่างเธอกับฉู่เทียนรุ่ยขาดความร้อนแรง พูดให้ถูกก็คือ เธอกับฉู่เทียนรุ่ยไม่เหมือนคู่รัก แต่เหมือนพี่น้องกันมากกว่า
มองดูแววตาเพ้อละเมอไปไกลของหญิงสาว อวี้ไป่หันยิ้ม ”ผมเดาว่าต้องไม่เคยแน่ๆ”
ใช่ เขาเป็นคาสโนว่า เขาอ่านแววตาละเอียดอ่อนของหญิงสาวได้ เธอดูไม่คุ้นเคยกับการจูบ สีหน้าของเธอนิ่งค้าง ไม่เหมือนคนที่เคยถูกผู้ชายจูบด้วยความร้อนแรงมาก่อน
เมื่อคิดได้แบบนี้ เขารู้สึกดีใจขึ้นมา ดีใจมากๆ
ไซ่หย่าเซวียนเคยบอกว่า เขาคือจูบแรกของเธอ
ไซ่หย่าเซวียนตื่นจากภวังค์ ภายใต้รอยยิ้มได้อกได้ใจของอวี้ไป่หัน ความเขินอายของเธอแปรเปลี่ยนเป็นความโกธ ยกมือขึ้นตบไปที่หน้าของเขา ”อวี้ไป่หัน คุณมันสารเลว รังแกฉันอีกแล้ว!”
เสียงตบดังชัดในลานโบว์ลิ่งกว้างใหญ่ ทั้งยังก้องไปทั่ว หน้าของอวี้ไป่หันมีรอยนิ้วมือแดงอ่อนๆ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกเธอตบ ทำให้เขานึกถึงความทรงจำที่หอมหวาน เขายิ้มอีกครั้งอย่างมีความสุข ”ไม่ได้เจอกันหลายเดือน คุณยังโหดเหมือนเดิมเลยนะ”
ไซ่หย่าเซวียนโมโหจนหายใจแรง ลุกขึ้นยืนแล้วกำลังจะเดินออกไป อวี้ไป่หันรีบคว้าข้อมือของเธอแล้วดึงตัวเธอเข้ามากอด ”ไซ่หย่าเซวียน ความเป็นจริงคุณเองก็คิดแบบนั้นกับผม คุณไม่รู้เหรอครับ อย่างน้อยคุณก็เคลิ้มไปกับจูบของผม คุณไม่รู้ตัวเหรอ”
พูดถึงจูบ ไซ่หย่าเซวียนโมโหมากกว่าสเดิม ใช่ เธอไม่ปฏิเสธ จูบของเขาทำให้เธอรู้สึกดีมาก เมื่อไหร่ที่เขาจูบเธอ เธอก็ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้เธออับอาย
อยากจะไปก็ไปไม่ได้ ดิ้นรนไปจากพันธนาการของเขาไม่ได้ ทั้งยังคลายความโมโหของตนเองไม่ได้ ไซ่หย่าเซวียนคว้าข้อมือของอวี้ไป่หันขึ้นมาด้วยความโมโห กำลังจะกัดให้เต็มแรง แต่เมื่อเลิกแขนเสื้อกัน เห็นรอยแผลเป็นรูปฟันชัดเชน นั่นเป็นรอยแผลที่ได้จากตอนที่เขาพรากจูบแรกไปจากเธอ เธอโมโหจึงกัดไปเต็มแรง ตอนนั้นเขาไม่เพียงแต่ไม่โกรธ ทั้งยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ บอกว่าวันครบรอบแต่งงานในอนาคตจะเอาออกมาดู