เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 299 ใครเป็นคนวางยาพิษ
เหลิ่งรั่วปิงหลุบตาลง “พวกคุณคนหนึ่งไม่ใช่ลูกสาวฉัน อีกคนก็ไม่ใช่ลูกชายฉัน ฉันจะว่างมากถึงขั้นไปยุ่งเรื่องของพวกคุณได้ยังไง แต่ว่า…”
ถ้าหากไม่มีคำว่า ‘แต่ว่า’อวี้ไป่หันคงจะมีความสุขมาก แต่เหลิ่งรั่วปิงกลับพูดคำว่า ‘แต่ว่า’ ทำให้หัวใจของเขาแทบจะกระดอนออกมา รอฟังคำพูดที่ยากจะยอมรับได้ของเธอ
เหลิ่งรั่วปิงกวาดตามองไปที่หน้าของไซ่หย่าเซวียน “หย่าเซวียน ไม่ว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อฉู่เทียนรุ่ยจะเป็นแค่ความหลงใหลตอนวัยรุ่นก็ดี หรือจะเป็นแค่ความหลงระเริงชั่วครู่ก็ช่าง แต่ถ้าเธอชอบไป่หันมากกว่า และอยากจะคบกับเขา เธอก็ต้องบอกกับฉู่เทียนรุ่ยให้ชัดเจน ถึงแม้ฉู่เทียนรุ่ยจะเป็นผู้ชาย ทั้งยังอายุมากกว่าเธอ แต่ในเรื่องของความรู้สึกเราต้องยุติธรรมต่อกัน ไม่ใช่เหรอ”
ไซ่หย่าเซวียนพยักหน้าด้วยความรู้สึกผิด “ฉันรู้ รั่วปิง เธอไม่ต้องเป็นห่วงว่าฉันจะทำให้พี่เทียนรุ่ยเสียใจ ฉันกับอวี้ไป่หันไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น ฉันจะกลับประเทศเอ้าตูทันทีที่งานแต่งของเธอจบลง” คำพูดของเธอบ่งบอกเจตนาอย่างชัดเจน ซึ่งก็คือเธอยังคงเลือกฉู่เทียนรุ่ย
อวี้ไป่หันมองไซ่หย่าเซวียนด้วยความผิดหวัง รู้สึกปวดร้าวไปทั้งหัวใจ ทั้งที่นัยน์ตาของเธอกำลังต่อสู้กับความคิดของตนเอง สัญชาตญาณของเธอไม่ปฏิเสธเขา แต่เธอก็เลือกฉู่เทียนรุ่ยทุกครั้ง เหมือนในอดีต ทั้งที่เธออยู่กับเขาแล้วมีความสุขมาก ต้องการเขาอย่างมาก ทั้งยังดื่มด่ำกับการดูแลของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทันทีที่ฉู่เทียนรุ่ยมาถึง เธอก็กระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของฉู่เทียนรุ่ยทุกครั้ง
หรือว่าความรักของเขาไม่สามารถเทียบกับความรักที่เธอมีต่อฉู่เทียนรุ่ยได้?
ไซ่หย่าเซวียนถูกอวี้ไป่หันมองจนรู้สึกประหม่า เธอตบหน้าเขาด้วยความหงุดหงิด “นี่ ทำไมคุณต้องมองฉันแบบนี้ด้วย ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันชอบพี่เทียนรุ่ย ไม่ได้ชอบคุณ แต่คุณก็ยังจะตามตอแยฉันไม่เลิก ฉันไม่เคยให้ความหวังคุณนะ”
อวี้ไป่หันพยักหน้าด้วยความปวดใจ “ครับ ไม่ใช่ความผิดคุณ”
หลังจากพูดจบ อวี้ไป่หันก็ไม่มองไซ่หย่าเซวียนอีกเลย เขาก้มหน้าลงดื่มไวน์แก้วใหญ่ เขาจะพูดอะไรได้ ฉู่เทียนรุ่ยฝังรากลึกอยู่ในใจของเธอมานานสิบกว่าปี ตั้งแต่เธอเป็นแค่เด็กสาวจนกระทั่งเวลานี้ เขาคงไม่มีวันทำให้เธอเปลี่ยนใจมารักเขาได้
ไซ่หย่าเซวียนอยากจะปลอบโยนเขา แต่สุดท้ายก็กลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป บางครั้ง คำพูดไม่ใช่การแสดงออกที่ดีที่สุด ความเงียบต่างหากที่ล้ำค่ายิ่งกว่า
คนที่คอยสร้างบรรยากาศให้กับทุกคนนั่งเงียบ เอาแต่ดื่มไวน์ด้วยความเศร้า ทำให้การรวมตัวครั้งนี้น่าอึดอัด
มู่เฉิงซีเอาแต่มองเวินอี๋ตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ แต่เวินอี๋เอาแต่หลบสายตาของเขา เธอรู้สึกประหม่า นั่งอยู่หลังเหลิ่งรั่วปิงไม่ยอมเผยหน้าออกมา
ภายในใจของหลินมั่นหรูมีก้อนหินขนาดใหญ่กดทับเอาไว้ ไม่ว่าถังเฮ่าจะหยอกเธอให้มีความสุขแค่ไหน เธอก็ยิ้มไม่ออก
หนานกงเยี่ยเป็นคนเย็นชาและสง่างาม มีแค่เหลิ่งรั่วปิงเท่านั้นที่ทำให้เขาพูดได้มากขึ้น ถ้าคนอื่นไม่ชวนเขาพูด แน่นอนว่าเขาไม่มีวันเป็นฝ่ายพูดก่อน ทางด้านเหลิ่งรั่วปิงอาจจะเป็นเพราะกำลังตั้งครรภ์ หลายวันที่ผ่านมานี้เธอรู้สึกว่าตนเองเหนื่อยง่ายมาก ทั้งยังไม่มีชีวิตชีวา
นั่งไม่นาน เหลิ่งรั่วปิงก็รู้สึกเมื่อยหลัง เธอจึงล้มตัวลงซบในอ้อมกอดของหนานกงเยี่ย
หนานกงเยี่ยลูบผมของเธอด้วยความรักและทะนุถนอม “เหนื่อยอีกแล้วเหรอครับ”
เหลิ่งรั่วปิงหาวเล็กน้อย “นิดหน่อยค่ะ” ระยะหลังที่ผ่านมานี้เธอขี้เซามาก แต่ทุกครั้งที่นอนเธอมักจะฝันถึงเรื่องต่างๆ ทำให้การนอนของเธอไม่มีประสิทธิภาพ แต่คนท้องห้ามกินยาระงับประสาทเรื่อยเปื่อย ตัวเธอเองก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรง
หนานกงเยี่ย “ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปพักผ่อนกันดีไหม”
เหลิ่งรั่วปิงพยักหน้า ขณะที่เธอกำลังจะยืนขึ้น หลินมั่นหรูเงยหน้าขึ้นมาทันที “รั่วปิง ฉันมีเรื่องอยากพูดกับเธอ” นัยน์ตาของเธอแสดงความอ้อนวอนที่มีเพียงเหลิ่งรั่วปิงเท่านั้นที่มองออก
เหลิ่งรั่วปิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอก็ตอบตกลง “ได้” หันไปมองหนานกงเยี่ย “คุณรอฉันสักเดี๋ยวนะคะ”
เรื่องของวิหารซีหลิง ทุกอย่างล้วนเป็นความลับ ถึงแม้เธอกับหนานกงเยี่ยจะเป็นสามีภรรยากัน แต่เหลิ่งรั่วปิงไม่มีวันพูดเรื่องของวิหารซีหลิงให้เขารับรู้แม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงยิ้มแล้วพยักหน้า “รีบไปรีบกลับนะครับ อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป”
“ค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงพยักหน้า แล้วหันไปมองหลินมั่นหรู “ไปกันเถอะ”
หลินมั่นหรูตามเหลิ่งรั่วปิงออกไปจากห้อง หลังจากประตูปิดลง หลินมั่นหรูจึงเดินเข้าไปใกล้เหลิ่งรั่วปิงด้วยความกังวล “รั่วปิง เธอรู้แล้วใช่ไหม เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อจะมาเมืองหลง ซือคงอวี้มาเมืองหลงเพราะฉัน เขาต้องฆ่าฉันแน่ๆ”
เหลิ่งรั่วปิงนิ่งสงบ นั่งอยู่บนโซฟา “ถ้าเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อต้องการชีวิตเธอ เขาไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเอง”
แน่นอนว่าหลินมั่นหรูก็คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน “ฉันรู้ว่าเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อมาเมืองหลงเพราะมีเรื่องอื่นที่สำคัญยิ่งกว่า แต่การที่เขามาด้วยตนเองแบบนี้ ฉันคงหนีไม่พ้นแน่ๆ” รีบคว้ามือเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้ “รั่วปิง ฉันรู้ว่าเมื่อก่อนฉันทำผิดไป เพื่อที่จะได้รับความสนใจจากเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อ ฉันทำร้ายเธอหลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนี้ฉันคิดได้แล้ว ฉันแค่อยากอยู่กับถังเฮ่า ไม่ง่ายเลยกว่าฉันจะเจอคนที่รักฉันด้วยใจจริง ฉันไม่อยากเสียเขาไป ฉันไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในวิหารที่เยือกเย็นนั้น รั่วปิง เธอช่วยฉันหน่อยนะ”
เหลิ่งรั่วปิงขมวดคิ้วเป็นปม เงยหน้าขึ้น แววตาของเธอเหม่อมองไปไกล เธอนึกถึงใบหน้าของซือคงอวี้ “เธออยากให้ฉันไปขอร้องเขา?”
หลินมั่นหรูเงยหน้าขึ้นมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความเว้าวอน “เจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อรักเธอมาก ขอแค่เธอพูด เขาต้องทำตามความต้องการของเธอแน่นอน”
เหลิ่งรั่วปิงก้มหน้าลง เธอนึกถึงคำพูดของอาเธอร์ เขาบอกว่าตั้งแต่เธอออกไปจากวิหาร ซือคงอวี้ไม่มีความสุขแม้แต่น้อย เขาทุกข์ทรมานเพราะความรักที่มีให้เธอ แล้วเธอจะใช้ความรักของเขาเป็นเครื่องมือได้ยังไง จะให้ซือคงอวี้ทำลายกฎของวิหารได้ยังไง “หลินมั่นหรู ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยเธอ แต่ฉันไปขอร้องเจ้าแห่งผู้สอนหลักความเชื่อไม่ได้จริงๆ ฉันไม่มีความกล้ามากพอที่จะเจอกับเขาอีก”
หลินมั่นหรูก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวัง ขอบตาของเธอมีน้ำตาคลอ “ฉันเข้าใจ” เธอเข้าใจถึงความลำบากใจของเหลิ่งรั่วปิง แต่เธอกลับเศร้ากับเรื่องของตนเองมากยิ่งกว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เธอคิดถึงความสุขของตนเอง ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์ด้านชาไร้หัวใจที่เอาแต่ทำงานรับใช้วิหาร และไม่ได้หน้ามืดรักซือคงอวี้จนหัวปักหัวปำ แต่เส้นทางนี้กลับยากที่จะเดิน
ถึงอย่างไรก็อยู่ในวิหารด้วยกันมานานกว่าหกปี ปฏิบัติภารกิจร่วมเป็นร่วมตายกันมากหลายครั้ง เป็นความสัมพันธ์ที่หล่อหลอมมาด้วยเลือดที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีปัญหาอะไรกัน แต่เวลานี้เหลิ่งรั่วปิงก็รู้สึกสงสารหลินมั่นหรู เธอตบหลังมือหลินมั่นหรูเบาๆ “พวกเราค่อยเป็นค่อยไปทีละก้าวกันเถอะ”
เธอไม่อยากเห็นหลินมั่นหรูตาย ถ้าเรื่องถึงขั้นนั้นจริงๆ เธอก็ทำได้เพียงไปขอร้องซือคงอวี้
หลินมั่นหรูเงยหน้าขึ้นมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความดีใจ “รั่วปิง ขอบคุณเธอมาก”
เหลิ่งรั่วปิงคลี่ยิ้มบางๆ แล้วนั่งพิงโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธออ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงเวลาตั้งครรภ์ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไร้ประโยชน์จริงๆ
เงียบอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ หลินมั่นหรูขมวดคิ้วเป็นปม เธอขยับเข้าไปใกล้หน้าอกของเหลิ่งรั่วปิง พร้อมกับสูดดม สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที
หลินมั่นหรูคือคนที่เชี่ยวชาญด้านยาพิษ เธออ่อนไหวกับกลิ่นของยาอย่างมาก สีหน้าของเธอทำให้เหลิ่งรั่วปิงตกใจ “เกิดอะไรขึ้น ฉันมีอะไรผิดปกติอย่างนั้นเหรอ”
หลินมั่นหรูมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยสีหน้าจริงจัง “ช่วงนี้เธอฝันร้ายบ่อยมากเลยใช่ไหม ทั้งยังเหนื่อยง่าย หลังจากนอนหลับก็รู้สึกทรมาน ทั้งยังรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง”
นัยน์ตาของเหลิ่งรั่วปิงปรากฏแสงวาววับ “เธอรู้ได้ยัง”
หลินมั่นหรูในตอนนี้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยาแล้ว “ฉันได้กลิ่นยาสกัดจากต้นลำโพงบนตัวเธอ ยาชนิดนี้เป็นเป็นยาพิษที่มีน้อยมาก คนธรรมดาทั่วไปไม่มีวันมีเด็ดขาด มันแทบจะไม่มีกลิ่น ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเชี่ยวชาญด้านยาพิษ ทั้งยังอยู่ใกล้เธอแบบนี้ คงไม่มีวันได้กลิ่นอย่างแน่นอน”
“บนตัวเธอมีกลิ่นยาอ่อนๆ ซึ่งหมายความว่าในห้องนอนของเธอมีคนลอบเอายาตัวนี้ไปใส่ไว้ในห้อง เธอสูดดมยานี้ทุกวัน ทำให้ร่างกายของเธอกลายเป็นแบบนี้”
เหลิ่งรั่วปิงไม่ได้กระวนกระวาย เธอนิ่งสงบอย่างมาก “ยานี้มีฤทธิ์ยังไงบ้าง”
หลินมั่นหรูวิเคราะห์ด้วยความตั้งใจ “ยาพิษชนิดนี้ถือเป็นยาพิษของผู้หญิง ขจัดธาตุหยาง ถ้าผู้ชายสูดดมนานเข้า จะทำให้มีอารมณ์ทางเพศ แต่ถ้าเธอแท้งเพราะยาพิษตัวนี้ ต้องไม่มีคนสงสัยว่าถูกวางยาอย่างแน่นอน คนที่วางยาพิษชนิดนี้เป็นคนที่ฉลาดมาก”
นัยน์ตาของเหลิ่งรั่วปิงฉายประกายเหี้ยมโหด เธอพอจะคาดเดาได้บ้างแล้ว
หนานกงเยี่ยไม่ใช่ผู้ชายหมกมุ่นกับเรื่องอย่างว่า อีกทั้งเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายของเธอ เขาควบคุมตนเองได้เป็นอย่างดี แต่หลายวันที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนว่าเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการควบคุมอารมณ์ทางเพศของตน บางครั้งอดทนจนรู้สึกทรมาน เขาก็รีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำ ดูเหมือนจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาจากต้นลำโพง ที่หนานกงเยี่ยสามารถควบคุมตนเองได้ เป็นเพราะสูดดมพิษตัวนี้ในระยะเวลาสั้นๆ เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าสูดดมไปนานๆ จะเป็นยังไง
คนที่วางยาพิษตัวนี้เป็นคนที่เหี้ยมโหดมาก นอกจากทำร้ายทารกในครรภ์ของเธอแล้ว ยังทำให้ความสัมพันธ์ของสามีภรรยาต้องมีปัญหาอีกด้วย
เงียบอยู่พักหนึ่ง นัยน์ตาของเหลิ่งรั่วปิงเปล่งประกายวาววับราวกับดาวบนท้องฟ้า แต่กลับเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งขั้วโลก “เธอบอกว่ายาพิษชนิดนี้มีน้อยมาก คนธรรมดาไม่มีวันมี แล้วต้นพวกนี้มันปลูกได้ที่ไหนบ้าง”
หลินมั่นหรู “ทะเลทางตอนใต้ของจีน”
ริมฝีปากของเหลิ่งรั่วปิงยกขึ้นมาเล็กน้อย เป็นองศาที่เยือกเย็น เธอมั่นใจแล้วว่าใครเป็นคนทำร้ายเธอ “จะกำจัดพิษพวกนี้ในห้องของฉันได้ยังไง”
หลินมั่นหรูถอนหายใจ “ยาพิษชนิดนี้แค่เม็ดเล็กๆ หนึ่งเม็ดก็ทำให้เกิดพิษมหาศาล ทั้งยังไม่มีกลิ่น ดังนั้นถ้าคนที่วางยาพิษนี้เอาไปซ่อนไว้ในที่ลับ คงหาเจอไม่ง่าย อยากจะกำจัดยาพิษชนิดนี้ไม่ง่าย แต่ว่า ยาพิษชนิดนี้มีฤทธิ์ไม่นาน ปกติใช้เวลาหนึ่งเดือนฤทธิ์ของมันก็หมดลงแล้ว”
หลินมั่นหรูถอดจี้หยกดำออกมา “พวกเธอมักจะแปลกใจไม่ใช่เหรอว่าทำไมฉันถึงชอบใส่จี้พวกนี้อันที่จริงจี้นี้มันธรรมดามาก แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ ฉันเอาไว้ใส่ยาถอนพิษต่างๆ เพื่อป้องกันเรื่องไม่คาดคิด”