เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 305 เธอไม่ควรร้องขอให้เขาสมบูรณ์แบบ
เมื่อคิดได้แบบนี้ เหลิ่งรั่วปิงเริ่มรู้สึกสงสารหนานกงเยี่ย หลังจากเงียบอยู่นานครู่หนึ่ง เธอหมุนตัวหันหลัง เผชิญหน้ากับหนานกงเยี่ย นิ้วมือเรียวยาวลูบจับใบหน้าของเขา “คุณลำบากใจมากใช่ไหมคะ”
ความอ่อนโยนของเธอ ทำให้หนานกงเยี่ยตกใจเล็กน้อย เขากอบกุมมือเล็กๆ ของเธอด้วยความดีใจ “ที่รักครับ”
เหลิ่งรั่วปิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างสะท้อนให้เห็นถึงความสวยงามของเธอ “ฉันรู้ค่ะ การที่คุณยอมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณแม่ ทำให้คุณเจ็บปวดมาก”
หนานกงเยี่ยจับมือของเหลิ่งรั่วปิงด้วยความทะนุถนอม นำมือของเธอมาทาบอก “อย่าคิดแบบนี้เลยนะครับ ผมอยากให้คุณรู้ว่า ผมรักคุณ มากกว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพื่อคุณแล้ว ผมยอมทิ้งทุกอย่างได้”
เหลิ่งรั่วปิงซบไหล่หนานกงเยี่ย เธออ่อนโยนราวกับผืนน้ำ “ฉันก็รักคุณค่ะ คุณหนานกงเยี่ย อันที่จริงฉันไม่ได้อยากเป็นภรรยาที่เอาแต่ใจ และยิ่งไม่ต้องการให้คุณต้องลำบากใจแบบนี้ ในอดีตฉันยอมเปิดใจให้อวี้หลานซีได้ แน่นอนว่าฉันก็เปิดใจให้เฉินลู่เหยาได้เหมือนกัน แต่ที่ตอนนี้ฉันยอมเปิดใจให้เฉินลู่เหยาไม่ได้ นอกจากเป็นเพราะฉันรักคุณมากกว่าเดิม ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งก็คือเฉินลู่เหยาคนนี้เก็บเอาไว้ไม่ได้แล้วจริงๆ ค่ะ”
“อวี้หลานซีในตอนนั้น ที่เธอเกลียดฉันเป็นเพราะเธอรักคุณมาก ทำให้เธอทำความผิดมากมาย แต่เนื้อแท้ของเธอเป็นคนจิตใจดี ตรงไปตรงมา ไม่เจ้าแผนการหรือมีเล่ห์เหลี่ยม อีกทั้งสำหรับคุณแล้ว อวี้หลานซียังเป็นญาติคนสำคัญ ดังนั้นฉันถึงยอมให้โอกาสอวี้หลานซี แต่กับเฉินลู่เหยา ถ้าขืนฉันปล่อยเธอเอาไว้แบบนี้ ฉันต้องตายโดยไม่รู้ตัวแน่นอนค่ะ”
เฉินลู่เหยาเป็นจอมวางแผนที่น่ากลัว ทั้งยังเป็นนักแสดงที่น่ากลัว คนแบบนี้อันตรายเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะหลินมั่นหรูที่มีความเชี่ยวชาญด้านยาพิษสังเกตเห็นความผิดปกติบนตัวเธอ เธอคงเสียลูกของตนเองไป โดยที่ไม่รู้ตัวในอนาคตอันใกล้นี้
การเก็บเฉินลู่เหยาเอาไว้ จะทำให้เธอตนตายโดยไม่รู้ตัว!
คำพูดประโยคนี้ของเหลิ่งรั่วปิงราวกับค้อนที่ทุบลงมาในใจหนานกงเยี่ยอย่างแรง เจ็บปวด ทรมาน อึดอัดอย่างมาก เขาด่าตัวเองว่าสารเลวในใจอีกครั้ง ทำไมต้องเก็บเฉินลู่เหยาเอาไว้จนถึงตอนนี้ ทำไมต้องปล่อยให้เหลิ่งรั่วปิงมีความรู้สึกแบบนี้
หนานกงเยี่ยไม่ได้พูดอะไร เขาเงียบแล้วตั้งใจฟัง เขารู้ว่าเธอจะบอกอะไรหลายๆ อย่างให้เขาฟัง แต่เหลิ่งรั่วปิงยังไม่ได้พูด เขาก็โทษตัวเองและเกลียดตัวเองไปแล้ว เพราะไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เขาก็เชื่อเธอทุกอย่าง เฉินลู่เหยาอันตรายมากขนาดนี้ แต่เขากลับเอาแต่ปกป้องผู้หญิงคนนั้น เขาสมควรตาย!
เหลิ่งรั่วปิงพูดต่อ “ที่คืนนี้ฉันไปพาตัวคุณกลับมาจากวิลล่าของเฉินลู่เหยา นั่นเป็นเพราะฉันยังเชื่อใจคุณ ในเมื่อฉันยังเชื่อใจคุณ แล้วทำไมคุณถึงไม่เชื่อใจตัวเองคะ”
หนานกงเยี่ยเงียบอยู่หลายวินาที แล้วเอ่ยปากพูด “ผมไม่รู้จะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ยังไงดี ที่รัก ผมไม่ได้กินและไม่ได้ดื่มอะไรทั้งนั้น ทั้งยังไม่ได้มีใครฉีดยาอะไรให้ผม ผม…”
“ฉันรู้อยู่แล้วค่ะว่าต้องไม่มีเรื่องพวกนี้ คุณคือหนานกงเยี่ย ใครจะกล้าวางยาคุณคะ ถ้าหากเฉินลู่เหยาทำ แม้ว่าก่อนเกิดเรื่องขึ้นคุณจะไม่รู้ตัว แต่หลังจากเรื่องทุกอย่างจบลงคุณไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่ ดังนั้น เธอไม่มีวันกล้าวางยาคุณแน่นอน”
หนานกงเยี่ยขมวดคิ้วเป็นปม “แล้วคุณคิดว่าเฉินลู่เหยาทำอะไรผม”
น้ำเสียงของเหลิ่งรั่วปิงจริงจัง “ฉันลองคิดวิเคราะห์ดูแล้ว ที่คืนนี้คุณหลงกลเฉินลู่เหยา เกิดจากสองสาเหตุ เฉินลู่เหยาเป็นเพื่อนสนิทของซย่าอี่มั่ว ซย่าอี่มั่วเป็นถึงทายาทของตระกูลทหารชั้นสูง ทั้งยังเคยเป็นทหารมาก่อน ดังนั้นเธอต้องมียาที่ใช้ในด้านการทหารแน่นอน คุณเคยได้ยินไหมคะ เวลาทหารสอบปากคำนักโทษ พวกเขาจะให้ยากล่อมประสาทเพื่อให้นักโทษขาดสติ ยาที่พวกทหารใช้นั้น ทำให้คนหลงกลโดยไม่รู้ตัว คุณกับเฉินลู่เหยาใกล้ชิดสัมผัสกัน ไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะถูกวางยาตัวนี้”
หนานกงเยี่ยคิดขึ้นได้ทันที จากนั้น ความรู้สึกโกรธแค้นก็ปะทุขึ้นมาในใจของเขา เฉินลู่เหยา!
เหลิ่งรั่วปิงพูดต่อ “ด้วยความหนักแน่นของคุณ ยาพวกนี้ไม่น่าจะส่งผลอะไรกับคุณได้มากมายเท่าไหร่ ถึงแม้จะเป็นยาที่ใช้ในด้านการทหารก็ดี ยังมียาอีกตัวหนึ่งที่ทำให้คุณทำพลาดไป”
หนานกงเยี่ยก้มหน้าลงมองเหลิ่งรั่วปิง พยายามข่มความโกรธของตนเอง เอ่ยถามเสียงเบา “ยาอะไรครับ”
ริมฝีปากบางของเหลิ่งรั่วปิงเอ่ยพูดเบา “ยาที่สกัดมาจากต้นลำโพง”
“คุณบอกว่าอะไรนะ” หนานกงเยี่ยลุกขึ้นนั่ง มองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความตกใจ “คุณรู้จักยาที่สกัดมาจากต้นลำโพงได้ยังไง”
เหลิ่งรั่วปิงเหยียดตัวขึ้นนั่ง เธอคลายยิ้มบางๆ “ยาที่สกัดจากต้นลำโพงเป็นยาประเภทไหน ใครบ้างที่จะครอบครองมันได้ แล้วยาชนิดนี้ส่งผลกระทบอย่างไร คุณน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะคะ” มือของเหลิ่งรั่วปิงจับจี้หยกดำที่หลินมั่นหรูให้เธอ “ระยะหลังฉันเอาแต่ฝันร้าย ส่วนคุณก็อดกลั้นความต้องการทางเพศด้วยความทรมาน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะยาที่สกัดมาจากต้นลำโพง ถ้าไม่ใช่เพราะคืนนี้หลินมั่นหรูสังเกตเห็นความผิดปกติของฉันตอนอยู่ที่ไนท์คลับเฟิ่งหวงไถ ฉันคงยังไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ทั้งยังเกือบจะเสียลูกไป”
ตอนที่เล่าให้หนานกงเยี่ยฟัง แววตาของเหลิ่งรั่วปิงฉายความเหี้ยมโหด เธอจะทำให้เฉินลู่เหยามีจุดจบที่น่าอนาถ!
หนานกงเยี่ยเป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบ วินาทีนี้เขาได้ทิ้งความรับผิดชอบและความรู้สึกผิดที่มีต่อเฉินลู่เหยาไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว มีแค่หนานกงจวิ้นเท่านั้นที่จะมียาสกัดจากต้นลำโพง ส่วนคนที่มีความเป็นไปได้สูงว่าเอายาชนิดนี้เข้ามาในห้องของเหลิ่งรั่วปิงมีแค่เฉินลู่เหยาเท่านั้น เช้าวันนั้นที่เขาให้เธอเข้ามาอยู่ในบ้าน เกือบจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
ที่แท้เฉินลู่เหยายังคงร่วมมือกับหนานกงจวิ้นอย่างลับๆ เธอไม่ได้เห็นคุณค่าของโอกาสที่เขามอบให้ สมควรตายจริงๆ!
หนานกงเยี่ยกำหมัดแน่น เกลียดตัวเองอย่างมาก ความประมาทแค่ชั่ววูบเกือบฆ่าลูกที่เขาเฝ้ารอคอยที่จะพบเจอ
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หนานกงเยี่ยดึงตัวเหลิ่งรั่วปิงเข้าหาแล้วโอบกอดเธอเอาไว้แน่น พูดด้วยเสียงสั่นเทา “ที่รัก ผมขอโทษด้วย” เขากลัวมาก เขาเกือบทำลายความรักของเขากับเหลิ่งรั่วปิงไปแล้ว
เทียบกับความหวาดกลัวของหนานกงเยี่ย เหลิ่งรั่วปิงดูนิ่งสงบอย่างเห็นได้ชัด เธอซบอยู่ตรงแผงอกแข็งแกร่งของเขา “คุณหนานกงเยี่ย เพราะลูก เพราะฉันยังรักคุณ ฉันถึงยอมปล่อยวางความแค้นทั้งหมดลงได้ แล้วกลับเมืองหลงกับคุณ ในขณะเดียวกัน ฉันเองก็พยายามอดทนต่อการดูแลของคุณที่มีต่อเฉินลู่เหยา แต่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกคุณก็คือ เพราะรัก เพราะชีวิตคู่ เพราะครอบครัว ฉันยอมถอยก้าวหนึ่งและยอมประนีประนอม แต่การทำแบบนั้นมันทำให้ฉันเหนื่อย”
ความหมายของเธอก็คือ เธอกำลังบอกกับหนานกงเยี่ย เมื่อไหร่ที่เธอเหนื่อย ไม่อยากทนแบกรับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกต่อไป เมื่อนั้นเธอก็จะไปโดยไม่หันกลับมา
มีดแหลมคมเชือดเฉือนหัวใจของหนานกงเยี่ย ทุกครั้งที่มันทิ่มแทงหัวใจของเขา มันทำให้เขาเจ็บปวดจนสั่นเทา หนานกงเยี่ยกอดเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้แน่น ใช้แก้มคลอเคลียผมของเหลิ่งรั่วปิงไปมา อยากจะชดเชยความเจ็บปวดทั้งหมดที่เหลิ่งรั่วปิงได้รับ เขาเกลียดตัวเองที่ทำผิดต่อเธออีกครั้ง ทำไมถึงปล่อยให้เธอต้องเสียใจ
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง คล้ายว่าหนานกงเยี่ยคิดอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน เขาช้อนตัวเหลิ่งรั่วปิงขึ้นจะพาเธอออกไปนอกห้อง “เราเปลี่ยนไปนอนห้องอื่นกันเถอะ ห้องนี้ผมจะส่งคนมาตรวจสอบ”
เหลิ่งรั่วปิงคลายยิ้มบางๆ “ไม่เป็นไรค่ะ หลินมั่นหรูให้ยาต้านพิษสารสกัดจากต้นลำโพงกับฉันแล้ว” เหลิ่งรั่วปิงส่ายจี้หยกดำที่อยู่บริเวณคอไปมา
หนานกงเยี่ยครุ่นคิดอยู่สองวินาที แต่ยังคงไม่สบายใจ “แบบนั้นก็ไม่ได้ ผมไม่อยากทำอะไรผิดพลาดอีก”
ขณะพูด หนานกงเยี่ยอุ้มเหลิ่งรั่วปิงออกไปจากห้อง เดินลงไปชั้นล่าง แล้ววางเธอไว้บนโซฟาในห้องรับแขก จากนั้นก็ร้องเรียกพ่อบ้าน ให้หมอประจำตระกูลหนานกงมาพบกลางดึก
หมอตรวจร่างกายเหลิ่งรั่วปิงอย่างละเอียด สุดท้ายเมื่อมั่นใจว่าเด็กในท้องไม่เป็นอะไร หนานกงเยี่ยถึงโล่งอก เขาสั่งให้พ่อบ้านเก็บกวาดห้องนอนแขก เปลี่ยนผ้าปูที่นอน จากนั้นก็ช้อนตัวเหลิ่งรั่วปิงขึ้นมาแล้วอุ้มเธอเข้าไปในห้อง วางเธอลงบนเตียง ห่มผ้าให้ จากนั้นโอบกอดเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้ ตบแผ่นหลังของเธอเบาๆ “ดึกมากแล้ว คุณนอนเถอะนะ”
ถึงแม้เขาจะพูดด้วยถ้อยคำอ่อนโยน ทั้งยังปฏิบัติต่อเธออย่างอบอุ่นราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิ แต่เหลิ่งรั่วปิงสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือด เธอรู้ หนานกงเยี่ยตัดสินใจกำจัดเฉินลู่เหยาแล้ว เมื่อความจริงทุกอย่างกระจ่างชัด เขาไม่สงสารผู้หญิงคนนั้นแม้แต่น้อย ไม่เพียงแต่ไม่สงสาร แต่ยังเกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก เขาจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นตายด้วยความทรมาน
ทั้งสองสามีภรรยาปรับความเข้าใจและเคลียร์เรื่องที่เข้าใจผิดทั้งหมด เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกตัวเบาหวิว เธอเหนื่อยมากแล้ว หลับตาลงช้าๆ แต่ก่อนนอน เธอพูดกำชับหนานกงเยี่ย “เก็บเฉินลู่เหยาเอาไว้ให้ฉันด้วยนะคะ”
ใช่ เทียบกับสามีของตนเอง เธอไม่ได้ใจดีมากไปกว่าเขาสักเท่าไหร่ สำหรับศัตรู ทั้งเธอและเขาต่างเหี้ยมโหดเหมือนกัน เธอจะจัดการเฉินลู่เหยาด้วยตนเอง เหลิ่งรั่วปิงเคยพูดแล้ว เธอจะทำให้เฉินลู่เหยารู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้เล่นตัวจริง
หนานกงเยี่ยลูบผมของเธอด้วยความทะนุถนอม น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนอย่างมาก “ครับ ทำตามที่คุณต้องการทุกอย่าง”
ความจริงในค่ำคืนนี้ ทำให้เขาโมโหอย่างมาก ไม่เพียงแต่โมโหเฉินลู่เหยา เขาโมโหหนานกงจวิ้นยิ่งกว่า กับทั้งสองคนนี้ เขาไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์อีกต่อไปแล้ว เพราะแค่หนานกงเยี่ยเห็นใจพวกเขา ล้วนมีความเป็นไปได้ว่าจะส่งผลร้ายต่อเหลิ่งรั่วปิง ดังนั้น เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เหลือเยื่อใยใดไว้อีก
เหลิ่งรั่วปิงหลับๆ ตื่นๆ ได้ยินเสียงหนานกงเยี่ยพูดกระซิบอยู่ข้างหูเธอ “ที่รักครับ ต่อไปนี้ผมจะเชื่อทุกอย่างที่คุณพูด ไม่ว่าจะมีหลักฐานหรือไม่มีผมก็จะเชื่อคุณ หลังจากนี้ ทุกเรื่องที่คุณไม่ชอบ ผมจะไม่ยืนกรานที่จะทำแม้เพียงวินาทีเดียว”
เหลิ่งรั่วปิงค่อยๆ นอนหลับไป ริมฝีปากของเธอเผยรอยยิ้ม
เธอเข้าใจแล้ว การทะเลาะกันไม่สามารถรักษาความสุขในชีวิตคู่ได้ ชีวิตคู่จำเป็นต้องให้คนทั้งสองฝ่ายเปิดใจให้กัน เข้าใจกันและกัน เชื่อใจกันและกัน ทั้งยังต้องพูดคุยกันด้วยความจริงใจ เธอรู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้ตนคิดจะจบชีวิตคู่กับหนานกงเยี่ย
บนโลกใบนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบทั้งนั้น ตัวเธอเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรไปเรียกร้องให้หนานกงเยี่ยสมบูรณ์แบบ ถึงแม้เขาจะฉลาด แต่เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำได้ดีทุกเรื่อง เธอไม่ควรร้องขอให้เขาสมบูรณ์แบบ
ในอดีต เธอเป็นคนแข็งกระด้าง ทิ้งเขาไปโดยไม่มีเยื่อใยครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังปฏิเสธเขา แต่เขายังคงไม่ตัดใจจากเธอ พยายามตามง้อเธอกลับมา ตอนนี้ ไหล่ที่แข็งแกร่งของหนานกงเยี่ยมีหน้าที่หนักอึ้งจนทำให้แทบจะหายใจไม่ออก มีบางเวลาที่ทำพลาดไป เธอควรจะช่วยเขา เผชิญหน้ากับปัญหาพร้อมกับเขา ไม่ใช่มาทะเลาะกับเขาแบบนั้น กดดันเขาแบบนี้ ไม่ควรคิดจะทิ้งเขาไปง่ายๆ
ชีวิตคู่ เธอได้คิดทบทวนถึงปัญหาของตนเองอีกครั้ง
หลังจากกล่อมเหลิ่งรั่วปิงจนนอนหลับไป หนานกงเยี่ยจูบเธออย่างแผ่วเบา แล้วลุกขึ้นช้าๆ เดินออกไปจากห้อง
เวลานี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับพิษกำลังตรวจสอบห้องของเหลิ่งรั่วปิง โดยมีพ่อบ้านของวิลล่าหย่าเก๋อนำทีม เพื่อตรวจหายาที่น่าสงสัย