CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

เดิมพันเสน่หา - ตอนที่ 78 รับรู้ความจริง ยินดีที่จะเสียแลนด์มาร์คเพื่อเธอ

  1. Home
  2. เดิมพันเสน่หา
  3. ตอนที่ 78 รับรู้ความจริง ยินดีที่จะเสียแลนด์มาร์คเพื่อเธอ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เมื่อเข้าไปยังห้องน้ำ เหลิ่งรั่วปิงมองหน้าเวินอี๋ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เวินอี๋ ทำไมเธอถึงไม่เชื่อฟังคำพูดของพี่เลย ทำไมสุดท้ายเธอก็ยังตกหลุมพรางของมู่เฉิงซีได้”

เวินอี๋มองไปทางเหลิ่งรั่วปิงด้วยความหวาดระแวง มือน้อยๆ ของเธอกระชับชายเสื้อแน่น จากนั้นพูดขึ้น “พี่รั่วปิงคะ ฉันอยากจะลองดูสักครั้งจริงๆ ค่ะ คุณมู่เฉิงซีเป็นผู้ชายคนแรกที่ดีกับเวินอี๋แบบนี้ และเวินอี๋เองก็ชอบเขามากด้วย ถ้าไม่ได้ลองคบกับเขาสักครั้งฉันคงจะรู้สึกเสียใจ”

เหลิ่งรั่วปิงมองดูเวินอี๋เงียบๆ เธอสงบสติอารมณ์ลงมาบ้างแล้ว เวินอี๋ไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่คอยตามหลังเธอ ไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่เธอต้องคอยปกป้องแล้ว ไม่ได้เจอกันสิบปี เวินอี๋โตขึ้นมา เธอโตพอที่จะคบใครสักคนแล้วและเธอเองก็มีความคิดเป็นของตนเอง บางทีตนคงไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเธอจนเกินไป

แต่ว่า ไม่ว่าอย่างไรเหลิ่งรั่วปิงก็กลัวเธอจะเสียใจ

“เวินอี๋ ในเมื่อเธอตัดสินใจที่จะคบกับตานั่น พี่เองก็ไม่สามารถห้ามเธอได้ แต่พี่ต้องขอเตือนเธอเอาไว้ก่อน พวกเธอสามารถคบกันได้ แต่อย่ามีลูกด้วยกันเด็ดขาด ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่สามารถแต่งงานกับเธอ ลูกจะกลายเป็นภาระและความเจ็บปวดของเธอไปชั่วชีวิต” เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกว่าผู้หญิงที่มีลูกให้กับผู้ชายที่คิดสนุกไปวันๆ ชีวิตนี้ของผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีวันมีความสุข

เวินอี๋เม้มกัดริมฝีปาก “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ พี่รั่วปิง ฉันจะระวังตัวนะคะ” เงียบไปครู่หนึ่ง เวินอี๋เงยหน้าขึ้นมา “พี่รั่วปิงคะ พี่คบกับคุณหนานกงจริงๆ หรอคะ”

“อืม” เหลิ่งรั่วปิงพยักหน้า อันที่จริงเธอไม่อยากให้เวินอี๋รู้ว่าตนกับหนานกงเยี่ยเป็นอะไรกัน เธออยากให้เวินอี๋จดจำตนเองในภาพที่แสนดี แต่ระหว่างเธอกับหนานกงเยี่ยแค่เริ่มต้นก็สกปรกมากพอแล้ว มันไม่เคยมีคำว่าแสนดี

“คุณหนานกงเยี่ยดีกับพี่มากเลยนะคะ”

“หึ ผู้ชายรวยๆ ไม่มีวันดีกับผู้หญิงคนหนึ่งจากใจจริงหรอก ตอนที่เขาชอบเรา เขาก็ยอมทำตามใจเราทุกอย่าง แต่ถ้าวันไหนที่เขาเบื่อ เขาก็พร้อมที่จะเตะเราออกไปจากชีวิต” เหลิ่งรั่วปิงจ้องมองดูเวินอี๋ “ดังนั้น เวินอี๋ ฉันไม่อยากให้เธอต้องเดินเส้นทางเดียวกับฉัน”

เวินอี๋ตกใจมาก “พี่รั่วปิง พี่ไม่ชอบคุณหนานกงหรอคะ”

“ไม่ชอบ”

“แล้วทำไมพี่ต้องคบกับเขาด้วยคะ”

“เรามีข้อแลกเปลี่ยนต่อกัน” เหลิ่งรั่วปิงพูดเสียงเรียบนิ่ง เหมือนกำลังพูดถึงเรื่องของคนอื่น “พี่ใช้เรือนร่างของตนเองเข้าแลก เพื่อที่จะได้เป็นสถาปนิกของบริษัทหนานกงและเพื่อที่จะได้รับสิทธิ์ในการออกแบบแลนด์มาร์ค พี่จะใช้วิธีนี้ผลักคนเลวๆ อย่างลั่วเฮิ่งลงนรก”

เวินอี๋ยื่นมือไปจับมือของเหลิ่งรั่วปิงด้วยความปวดใจ น้ำใสๆ คลอเต็มเบ้าตาของเธอ “พี่รั่วปิง ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าพี่ต้องทำถึงขนาดนี้”

เหลิ่งรั่วปิงคลายยิ้ม เธอยื่นมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเวินอี๋ “เด็กดี อย่าร้องไห้เลย ตอนนี้พี่ทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว รอให้พี่แก้แค้นสำเร็จ พี่ก็จะไปจากเมืองนี้ แล้วไปหาความสุขที่แท้จริงของตนเอง”

เวินอี๋เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ หยดน้ำใสเม็ดโตไหลลงมาอาบแก้ม ดวงตากลมโตของเธอเบิกกว้าง “พี่รั่วปิง พี่จะไปจากเมืองหลงอีกแล้วหรอคะ พี่จะไปอยู่ที่ไหน เวินอี๋กับพ่อคือครอบครัวของพี่นะคะ พี่จะไม่อยู่กับพวกเราหรอคะ”

เหลิ่งรั่วปิงยิ้มเศร้า “พี่อยากจะอยู่กับเวินอี๋และพ่อมากนะ แต่เมืองนี้มีความทรงจำมากมายที่เจ็บปวดจนทำให้พี่ไม่อยากนึกถึงบ้าน หลังจากแก้แค้นเสร็จแล้ว พี่จะไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักและเริ่มต้นชีวิตใหม่”

“พี่รั่วปิง” เวินอี๋ร้องไห้ เธอโผเข้ากอดเหลิ่งรั่วปิง

เหลิ่งรั่วปิงตบแผ่นหลังของเวินอี๋เบาๆ “พอได้แล้ว อย่าร้องไห้เลย เวินอี๋ต้องจำคำพูดของพี่ให้ดี ถ้าหากว่ามู่เฉิงซีจริงใจกับเธอ พี่เองก็ขออวยพรให้พวกเธอมีความสุข แต่ถ้าเขาแค่คิดจะเล่นสนุก เธอต้องปกป้องตนเองนะ”

น้ำตาของเหลิ่งรั่วปิงไม่ไหลแม้แต่หยดเดียว หลังจากที่เธอผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมาย เธอกลายเป็นคนไม่มีน้ำตาแล้วและเธอเองก็ไม่ร้องไห้อีก เธอในตอนนี้ทำได้เพียงยิ้มให้กับอดีตและยิ้มให้กับความเจ็บปวดที่จะต้องเผชิญในอนาคต

“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

“ไปกันเถอะ”

ทั้งสองคนเติมหน้าเล็กน้อย แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยกัน หลังจากที่พวกเธอเดินเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง หนานกงเยี่ยก็ค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำชาย สีหน้าของเขาเรียบเฉย นัยน์ตาของเขามองไปยังแผ่นหลังของเหลิ่งรั่วปิงด้วยความเจ็บปวด

ถูกต้องแล้ว เขาได้ยินทุกอย่างที่พวกเธอสองคนคุยกัน

แท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่เธอทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้น คนที่เป็นศัตรูของเธอคือลั่วเฮิ่ง

เหลิ่งรั่วปิงพูดว่าไม่ได้ชอบเขา และยังบอกอีกว่าจะไปจากเมืองหลง ไปจากเขา

เขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ตอนที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจของเขากลับบีบรัดด้วยความเจ็บปวด อดไม่ได้ที่จะจับหน้าอกเอาไว้แน่นๆ

นอกจากคำพูดเหล่านี้ที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดแล้วนั้น ภายในใจของเขากลับรู้สึกสงสารเธอ เมื่อก่อนเขาไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้แค่นึกถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้ที่เหลิ่งรั่วปิงต้องพบเจอ เขากลับรู้สึกสงสารเธอมาก

กลับไปที่ห้องอาหาร รอยยิ้มของหนานกงเยี่ยเจื่อนมาก ถึงแม้มองจากภายนอกจะไม่แตกต่างจากเดิม แต่มีแค่ตัวเขาเท่านั้นที่รู้ดีว่าภายในใจของเขาเจ็บปวดมาก และยิ่งตอนที่เห็นเหลิ่งรั่วปิง เขาก็รู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น

หลังจากออกมาจากไนท์คลับเฟิ่งหวงไถ หนานกงเยี่ยขับรถไปส่งเหลิ่งรั่วปิงที่โรงแรม ตลอดทางที่ขับรถกลับโรงแรมเขานิ่งเงียบและไม่พูดไม่0k ทว่าเมื่อเข้าไปถึงในห้อง จู่ๆ เขาก็กอดเธออย่างแรง แล้วประโคมจูบอย่างหนักหน่วง เหมือนใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีในการจูบ

การจูบในครั้งนี้ไร้ซึ่งความหื่นกาม มันเคล้าไปด้วยความทะนุถนอม คล้ายกับว่าเขาอยากจะใช้จูบนี้เพื่อลบรอยแผลในใจของเธอ

เหลิ่งรั่วปิงรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของหนานกงเยี่ย แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้ เธอที่ถูกเขาสวมกอดเอาไว้แน่น ทำได้เพียงปล่อยให้เขาจูบตามอำเภอใจ

การจูบในครั้งนี้ใช้เวลานาน จนกระทั่งทั้งสองคนเริ่มหายใจไม่ออก เขาจึงละออกจากริมฝีปากของเธอ แต่มือของเขาที่โอบกอดเธอเอาไว้นั้นยังคงแน่นเหมือนเดิม ทั้งสองคนกอดกันแน่นเหมือนทารกที่เกิดมาตัวติดกัน เวลานี้ต่างก็ได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน

หนานกงเยี่ยมองดูริมฝีปากของเธอที่ถูกตนจูบจนแดงระเรื่อ เขาเริ่มรู้สึกหวั่นไหว จากนั้นพูดด้วยเสียงแหบพร่า “คืนนี้ ให้ผมอยู่ที่นี่นะครับ?”

เหลิ่งรั่วปิงยังคงยิ้ม รอยยิ้มของเธอนั้นสง่างามมาก “เหลือเวลาอีกแค่สองวัน คุณหนานกงก็ไม่คิดจะให้ฉันหรอคะ”

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ ภายในใจของเขาก็ยิ่งเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานี้รอยยิ้มของเธอนั้นไม่ได้มาจากใจ สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มที่สง่างามนี้ เป็นความเจ็บปวดและบาดแผลที่มีนับไม่ถ้วน เขาไม่อยากเห็นรอยยิ้มนี้ของเธอ ในทางกลับกันสิ่งที่เขาอยากเห็นคือความรู้สึกที่อยู่ภายในใจของเธอมากกว่า

แต่ว่า เขาไม่สามารถทำมันได้ เขาไม่สามารถเดินเข้าไปอยู่ในหัวใจของเธอ เธอพูดย้ำอยู่หลายครั้งว่าไม่ได้ชอบเขา

หนานกงเยี่ยขมวดคิ้ว แล้วสวมกอดเธอแน่น เขาเกี่ยวผมของเธอขึ้นไปทัดหู “ครับ ผมไม่ฝืนใจคุณ คุณเองก็รีบเข้านอนเถอะ” จากนั้นก็ตามด้วยจุมพิตที่แสนอ่อนโยน แล้วเดินออกไปจากห้อง

เหลิ่งรั่วปิงยืนเหม่อลอยมองดูประตูอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหมุนตัวเดินไปที่หน้าต่าง เธอมองดูจนกระทั่งรถยนต์ของเขาขับไกลออกไป เธอไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในใจตอนนี้ยังไงดี มันเป็นความรู้สึกที่ว่างเปล่า เธอรู้สึกว่าตนเองรู้สึกไม่เหมือนเดิมกับหนานกงเยี่ยแล้ว

เหลิ่งรั่วปิงนั่งเงียบอยู่บนโซฟาครู่หนึ่ง จู่ๆ เธอก็หัวเราะเยาะตนเอง แล้วปฏิเสธความรู้สึกนั้น ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ใช่คนสำคัญของเธอ อีกไม่นานเธอก็จะไปจากที่นี่ ทิ้งทุกอย่างที่นี่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเมืองนี้อีก ในเมื่อไม่คิดที่จะกลับมา เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเหยียดตัวนั่งตรง จากนั้นเดินไปอาบน้ำแล้วเข้านอน

*****

หลังจากนานกงเยี่ยออกมาจากโรงแรมวั่นเหา เขาก็โทรศัพท์ไปหาก่วนอวี้ทันที “เรื่องตระกูลเจียงที่ฉันให้นายไปสืบ ได้ความอะไรบ้าง”

“คุณชายเยี่ยครับ ตอนนี้เอกสารได้จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ผมกำลังจะรายงานคุณวันพรุ่งนี้ครับ”

“ไปพบฉันที่วิลล่าหย่าเก๋อตอนนี้เลย ฉันจะดูเอกสารพวกนั้นเดี๋ยวนี้”

“ครับ”

กลับมาถึงวิลล่าหย่าเก๋อ ก่วนอวี้ยืนรอเขาที่ประตูวิลล่าแล้ว

หนานกงเยี่ยเดินลงมาจากรถยนต์ เขาเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว แล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา “ข้อมูล?”

ก่วนอวี้รีบยื่นเอกสารในมือให้กับบอสของตนทันที เขารู้จักหนานกงเยี่ยเป็นอย่างดี รู้ดีว่าหนานกงเยี่ยคงจะรู้เรื่องอะไรเข้า ดังนั้นเขาจึงต้องการดูข้อมูลด่วนแบบนี้

หนานกงเยี่ยอ่านเนื้อหาของเอกสารตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉย ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาพอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง แต่เมื่อได้รู้ความจริง ภายในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา เขาสามารถจินตนาการถึงเสียงกรีดร้องของเหลิ่งรั่วปิงในกองไฟได้ และสามารถจินตนาการถึงความโดดเดี่ยวที่เธอต้องพบเจอตอนที่อยู่ซีหลิง นอกจากรู้สึกสงสารเธอแล้วนั้น เขาก็รู้สึกปวดใจ เขารู้สึกปวดใจจนแทบจะหายใจไม่ออก

นอกเหนือจากความสงสาร เขายังรู้สึกแค้นลั่วเฮิ่ง อยากจะยิงมันให้ตาย

หนานกงเยี่ยวางเอกสารลงเบาๆ เขาหลับตาลงช้าๆ คล้ายกับว่ากำลังระงับความโกรธ

ก่วนอวี้ไม่รู้ว่าหนานกงเยี่ยกำลังคิดอะไร แต่เขาสัมผัสได้ว่าหนานกงเยี่ยกำลังโมโห “คุณชายเยี่ยครับ จากข้อมูลที่สืบได้นั้น ทำให้เรารู้ว่าคุณเหลิ่งเย่ว์และคุณเจียงเฉิงเป็นเพื่อนสนิทกัน คุณเหลิ่งเป็นลูกสาวของคุณเหลิ่งเย่ว์ จึงไม่แปลกที่เธอจะผูกพันธ์กับตระกูลเจียง ดังนั้นการที่เธอช่วยชีวิตเวินอี๋ และสั่งสอนลั่วซูเยียงก็เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ครับ”

หนานกงเยี่ยลืมตาขึ้น “ไม่ เธอไม่ใช่ลูกสาวของเหลิ่งเย่ว์ แต่เธอคือลูกสาวของเจียงเฉิง”

“?” ก่วนอวี้ตกใจมาก

หนานกงเยี่ยหยิบรูปถ่ายในซองเอกสารออกมา “นายดูนี่สิ นี่คือรูปถ่ายของเจียงหน่วนซินเมื่อสิบปีก่อน เธอกับเหลิ่งรั่วปิงหน้าตาคล้ายกันมาก อีกทั้งอายุของพวกเธอก็เท่ากันด้วย”

ก่วนอวี้มองดูอย่างพิจารณา “หน้าตาคล้ายกันครับ แต่เวลาก็ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว หน้าตาก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน เราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าพวกเธอสองคนเป็นคนคนเดียวกัน”

หนานกงเยี่ยรู้สึกมั่นใจมาก “มีแค่นิสัยของเธอเท่านั้นที่เปลี่ยนไปมาก แต่แววตาของเธอกลับไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย คนเราไม่ว่าจะหน้าตาเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่แววตาก็ไม่มีวันเปลี่ยน เธอคือเจียงหน่วนซิน การที่เธอกลับมาเมืองหลงก็เพื่อแก้แค้นลั่วเฮิ่ง”

บทสนทนาระหว่างเหลิ่งรั่วปิงและเวินอี๋ในคืนนี้ บวกกับรูปถ่ายพวกนี้ ทำให้หนานกงเยี่ยมั่นใจมากว่าเธอคือเจียงหน่วนซิน

ก่วนอวี้คิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ตามด้วยรู้สึกเป็นกังวล “คุณเยี่ยครับ ถึงแม้ว่าคุรเหลิ่งจะหลอกคุณมาโดยตลอด แต่เธอก็น่าสงสารมากไม่ใช่หรอครับ” เขากลัวว่าหนานกงเยี่ยจะทำเหมือนครั้งที่แล้ว กลัวว่าเขาโมโหแล้วจะเอาปืนจ่อหน้าเหลิ่งรั่วปิง แน่นอนว่าก่วนอวี้ไม่ได้เป็นห่วงเหลิ่งรั่วปิง แต่เขากลัวว่าเจ้านายของตนจะเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป

“ใช่ เธอน่าสงสารมาก” หนานกงเยี่ยรู้สึกปวดใจ เขาเดินไปตรงหน้าต่างแล้วเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ หนานกงเยี่ยนึกถึงวันแรกที่เหลิ่งรั่วปิงเข้ามาอยู่ในวิลล่าหย่าเก๋อ วันนั้นเธอเองก็แหงนหน้าขึ้นมองพระจันทร์ เธอในตอนนั้นเคล้าไปด้ยความเจ็บปวด แต่เขากลับไม่ทันได้สังเกต เมื่อหวนคิดดูแล้ว ความเข้มแข็งสง่างามที่เหลิ่งรั่วปิงแสดงออกมา ที่แท้ก็เป็นเพียงแค่การซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยรู้เลย

นานครู่หนึ่งกว่าหนานกงเยี่ยจะหมุนตัวหันหลัง “ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าเธอต้องการจะทำอะไร” เงียบอยู่ครู่หนึ่ง “แจ้งคนตรวจวัสดุของโรงแรมอิมพีเรียล บอกให้พวกเขาไม่ต้องตรวงวัสดุในการก่อสร้างโรงแรม แล้วก็เรื่องแลนด์มาร์คของเมืองหลง ให้บริษัทของลั่วเฮิ่งเป็นคนดำเนินการ หลังจากออกแบบตัวอาคารเรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการก่อสร้างทันที”

ก่วนอวี้เป็นคนที่ฉลาด เขาเพียงแค่ใช้สมองนิดหน่อยก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว เขาตกใจมาก คิดไม่ถึงว่าหนานกงเยี่ยจะทำเพื่อเหลิ่งรั่วปิงมากมายขนาดนี้ เขาถึงขั้นยอมแลกด้วยแลนด์มาร์คเมืองหลง หนานกงเยี่ยให้ใจเหลิ่งรั่วปิงแล้วจริงๆ”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 78 รับรู้ความจริง ยินดีที่จะเสียแลนด์มาร์คเพื่อเธอ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์