เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 192 หนิงเส่าเฉิน คุณบ้าไปแล้วเหรอ
เธออยู่แผนกสูตินรีเวช เธอรู้ว่าสถานการณ์การแท้งบุตรอย่างนี้ของเย่หลิน หมายถึงอะไร
เธอรู้ดีว่าคำพูดของหมอจะไม่ทำให้คนอื่นๆ ตกใจ
ปิดวิดีโอคอลแล้ว หนิงเส่าเฉินก็โทรเข้ามา “หนิงเชี่ยน ฉันต้องการเห็นพี่สะใภ้คุณ ทำไมคุณไม่รับสายวิดีโอคอล? ”
เสียงที่คำรามและวิตกกังวลดังออกมาจากด้านใน
หนิงเชี่ยนสูดหายใจเข้า หลังจากปรับอารมณ์ให้คงที่แล้ว สักพักจึงพูดออกมา : “พี่……พี่สะใภ้หลับแล้ว พรุ่งนี้ค่อยดูใหม่เถอะนะ? ”
“คุณไม่รับสายฉันใช่ไหม อย่างนั้นฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย”
เส่าเฉิน คุณบ้าไปแล้วเหรอ ขาของคุณไม่ต้องการแล้วใช่ไหม? ” หนิงเชี่ยนได้ยินโทรศัพท์ทางด้านนั้น หลิวซูกำลังดูดตวาดเสียงดังอยู่
เธอปิดปาก รีบพูดว่า “โอเค พี่ ฉันจะให้คุณดู”
วางสายไป ก็วิดีโอคอลมาทันที หนิงเชี่ยนรับสาย เปลี่ยนเป็นกล้องหลัง ยืนห่างจากหัวเตียงออกไป “พี่ คุณดูสิ พี่สะใภ้หลับแล้ว ฉันบอกแล้วไง”
“คุณเดินเข้าไปใกล้ๆ หน่อย”
“พี่ คุณทำอย่างนี้ จะทำให้พี่สะใภ้ตื่นนะ”
“ฉันให้คุณเข้าไปใกล้ๆ ก็เข้าไปใกล้ๆ สิ! ”
หนิงเชี่ยนฟังถึงตรงนี้ ก็ร้องไห้โฮออกมา “พี่ ไม่ดูได้ไหม ขอร้องล่ะ……”
เธอเป็นคนนอก เห็นอย่างนี้ก็ยังรับไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนิงเส่าเฉิน
วิดีโอถูกตัดไป
ผ่านไปไม่นาน ประตูก็ถูกผลักออกอย่างแรง หลิวซูกับหมอหนึ่งคนประคองหนิงเส่าเฉินเข้ามา
หนิงเชี่ยนลุกขึ้น วิ่งเข้าไป “พี่ คุณบ้าไปแล้วเหรอ หมอบอกว่าไม่ให้คุณขยับ”
หนิงเส่าเฉินกวาดสายตามองเธออย่างเย็นชา มือใหญ่ผลักเธอออกไป
บนเตียงผู้ป่วย เย่หลินนอนหลับตาอยู่ ใบหน้าของเธอ ใหญ่กว่าปกติครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่ว่าอวัยวะบนใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคิดว่ามาผิดห้อง
หน้าผากของเธอ แก้มสองข้าง มุมปาก คาง ทั้งใบหน้าที่เดิมทีขาวหมดจด ก็เป็นรอยขีดข่วนฟกช้ำไปหมด เมื่อมองลงมา คอของเธอ แขนของเธอ มองไม่เห็นสีเดิมเลย ด้านบนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลที่นับไม่ถ้วน
หนิงเส่าเฉินประคองเตียง ค่อยยกผ้าห่มเปิดออก ในฉับพลันหนิงเชี่ยนก็ยกมือมากดเขาไว้ “พี่ คุณทำอย่างนี้จะไปรบกวนพี่สะใภ้ให้ตื่นนะ”
เวลานี้ มีพยาบาลเดินเข้ามา พูดว่า “พวกคุณอย่ามาอยู่ที่นี่กันเยอะ ให้คนไข้พักผ่อนดีๆ เธอเพิ่งจะแท้งลูกไป อีกทั้งร่างกายทรุดโทรมขนาดนี้ ถ้าฟื้นฟูไม่ดี ก็อาจจะเสียชีวิตได้” พูดจบ ก็เปลี่ยนน้ำเกลือขวดใหม่ให้เย่หลิน ทันทีที่ยกผ้าห่มขึ้น หนิงเส่าเฉินก็เห็นว่าบนท้องน้อยของเย่หลินมีผ้าพันแผลสีขาวขนาดใหญ่พันไว้ และบริเวณนอกเสื้อผ้าทุกๆที่มีรอยแผลเต็มไปหมด
แท้งลูก? หนิงเส่าเฉินยิ่งเจ็บปวดอย่างที่สุด
มือของหนิงเชี่ยนยังกดอยู่บนหลังมือของหนิงเส่าเฉิน ฉะนั้น ในตอนนี้มีของเหลวหยดลงมาที่หลังมือ เธอจึงเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ ก็เห็นน้ำตาบนใบหน้าของหนิงเส่าเฉิน
“พี่……”
“ออกไปให้หมด”
“เส่าเฉิน”
“พวกคุณออกไปให้หมด” น้ำเสียงของเขาเบามาก ทว่าเย็นชาจนทำให้คนกลัวจนตัวสั่น เดิมทีพยาบาลคนนั้นคิดอยากจะพูดอะไร หลังจากที่เห็นการแสดงออกของเขาแล้ว ก็เงียบไปเลย
รีบหยิบขวดน้ำเกลือเปล่าที่เปลี่ยนแล้วออกไปอย่างตะลีตะลาน
หมอคนนั้นจึงนำที่ประคองมาให้หนิงเส่าเฉิน แล้วนำขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บนั้นวางไว้บนที่ประคอง แล้วจึงออกไป
หลิวซูโอบกอดหนิงเชี่ยนที่ยังคงตัวสั่นเทา ตบไหล่เขาเล็กน้อย จึงค่อยๆ เดินออกไป
ในห้องผู้ป่วยที่กว้างขวาง มีหนิงเส่าเฉินและเย่หลินที่ยังหมดสติอยู่
หนิงเส่าเฉินมองเธออยู่นานมาก
ขยับลูกกระเดือกครั้งแล้วครั้งเล่า หนิงเส่าเฉินกุมมือนั้นที่บวมจนไม่เห็นรูปร่างเดิม เล็บของเธอถูกตัดจนได้ระดับ แต่รอยบริเวณขอบเล็บนั้น มีคราบเลือดที่แห้งกรัง เตือนสติให้รู้ว่า เวลานั้นผู้หญิงคนนี้ได้รับความทุกข์ตรมแค่ไหน
“เส่าเฉิน พวกเราไม่คุมกำเนิดแล้วดีไหม? ถือโอกาสตอนที่ยังหนุ่มสาว พวกเราก็ให้กำเนิดลูกอีกสักคน ต่อไป จะได้เป็นเพื่อนกับเสี่ยวซีและเสี่ยวโม่”
“เส่าเฉิน เดือนนี้ทำไมยังไม่ท้องอีกนะ? ”
“เส่าเฉิน คุณว่าฉันออกกำลังกายไม่เพียงพอหรือเปล่า ดังนั้น จึงค่อนข้างติดลูกยาก? ”
“เส่าเฉิน คุณว่า ฉันคลอดลูกไม่ได้แล้วหรือเปล่า? ครั้งที่แล้วคลอดเสี่ยวโม่ มันทำให้ร่างกายเสียหายไปแล้วหรือเปล่า? ”
“เส่าเฉิน ตอนคลอดลูกทั้งสองคน คุณล้วนไม่ได้อยู่ข้างๆ ฉัน ฉันเลยอยากคลอดอีกคนหนึ่ง ให้คุณปรนนิบัติฉันให้ดีๆ คนอื่นบอกว่าตอนท้อง ผู้หญิงก็คือเจ้าหญิง คลอดแล้วก็ยังเป็นราชินี แต่ฉันคลอดลูกสองคน ล้วนเป็นเหมือนสาวใช้”
“เส่าเฉิน ถ้าคลอดลูกไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็ช่างมันไปได้ไหม? เสี่ยวซีและเสี่ยวโม่สิงคนก็พอแล้ว”
“เส่าเฉิน แต่ฉันยังอยากมีลูกอีกสักคนหนึ่ง”
หนิงเส่าเฉินรู้ว่า เธอชอบเด็ก รักหนิงเสี่ยวซี รักเย่เสี่ยวโม่ เธออยากที่จะให้กำเนิดลูกอีกคนหนึ่ง เธอต้องการอย่างมาก…..
แต่แล้ว?
เธอก็ไม่สามารถให้กำเนิดได้อีกแล้ว? เพื่อช่วยเหลือขาข้างนี้ของเขา
เธอเดินลงจากเขาในเส้นทางที่เพิ่งเกิดหิมะถล่มเพียงคนเดียว
จะต้องหวาดกลัวและไม่สบายใจขนาดไหนกัน?
เธอหกล้มที่ตรงไหน ตกลงไปในหลุมไหน ถูกอะไรกระแทกบ้าง เวลานั้น เธอจะหมดหนทางและหวาดกลัวเพียงใด?
เขาจนปัญญาที่จะจินตนาการได้!
เธอยังนำอาหารและน้ำทิ้งไว้ให้เขาอีก เย่หลิน นั่นคือคุณกำลังเล่นกับชีวิตอยู่นะ?
ถ้าหากคุณตายไป เขามีชีวิตอยู่คนเดียว จะไปมีความหมายอะไร?
แต่ไหนแต่ไรเขาไม่ใช่คนที่อ่อนไหว แต่ว่าเวลานี้ เขากลับสะอึกสะอื้นอย่างมาก
เย่หลินฟื้นขึ้นมาวันที่สาม
เธอตื่นขึ้นมา ลืมตาก็เห็นว่า เธอนอนอยู่ในห้องห้องหนึ่ง หนิงเส่าเฉินนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอีกเตียงหนึ่ง เห็นขาของเขาถูกพยุงขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะโล่งอก
เธอพลิกตัวเบาๆ สองสามวันก่อน ร่างกายที่บอบช้ำนั้น ก็คล้ายกับดีขึ้นมาก
เธอมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มมุมปาก ดีจริงๆ เขาก็กลับมาแล้ว
ประตูห้องถูกเปิดออก คือหนิงเชี่ยน เห็นว่าเธอฟื้นแล้ว หนิงเชี่ยนกำลังเตรียมจะส่งเสียงร้องตะโกน เย่หลินก็ส่งสัญญาณบ่งบอกให้เธอเงียบเสียง แล้วชี้ไปยังหนิงเส่าเฉินที่หลับสนิทอยู่ข้างๆ
“เสี่ยวเชี่ยน ขานั้นของพี่ชายคุณ หมอบอกว่ายังไง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ” เธอกล่าวถามเบาๆ เป็นกังวลเล็กน้อย
หนิงเชี่ยนนำซุปในมือวางลงบนโต๊ะ แล้วโค้งคำนับต่อเย่หลิน “พี่สะใภ้ ฉันเป็นตัวแทนของครอบครัวพวกเรา ขอขอบคุณคุณมาก ขอบคุณที่คุณใช้ชีวิตเพื่อช่วยเหลือพี่ชายของฉัน”
เย่หลินนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ต่อจากนั้น ก็ปิดปากที่เผลอยิ้มออกมา “เสี่ยวเชี่ยน คุณทำอะไรเนี่ย? เรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ถ้าพี่ชายคุณไม่ไปเป็นเพื่อนฉัน เขาก็คงไม่ต้องประสบกับเคราะห์ร้ายอบบนี้หรอก อีกอย่างเขาเป็นผู้ชายของฉัน มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำ”
หลายคำพูดของเธอที่พูดอย่างหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญ ทำให้หนิงเชี่ยนเข้าใจในชั่วพริบตาว่า เพราะเหตุใดพี่ชายของเธอ ที่เคยพบเจอผู้หญิงมามากมาย แต่สุดท้ายกลับรักเดียวใจเดียวต่อผู้หญิงคนนี้
จิตใจที่ดีงามของเธอ ความทุ่มเทของเธอ ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนไหน ก็จะสามารถทำได้
ชัดเจนว่าต้องทุกข์ทรมานขนาดนั้น ได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น ถึงตอนนี้ เธอก็พูดเรื่องราวที่ผ่านมาเพียงแค่สั้นๆ