เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 260 ธาตุแท้
เล่อจยาเหลือบมองเล่อเหวิน เขาหันศีรษะไปอย่างรู้สึกผิด แล้วรีบเดินไปที่หมู่บ้านทิศทางบ้านของคุณปู่
“เขาเสียชีวิตด้วยอาการป่วย”เล่อจยามองแผ่นหลังนั้น พูดเสียงเบา ถึงแม้จะไม่มีความรู้สึกกับเขาแล้ว แต่ เขาเป็นลูกชายของพ่อ เธอทนไม่ได้ที่จะพูดอย่างนั้นต่อหน้าคนนอก คิดๆแล้ว เรื่องภายในครอบครัวไม่ควรสาวไส้ให้กากิน
เห็นได้ชัดว่าอาสะใภ้รองยังไม่หายจากอาการตกใจที่พ่อเสียชีวิต และตกตะลึงอยู่กับที่
ความรู้สึกที่เล่อจยามีต่ออาสะใภ้คนนี้ไม่ได้ดีตั้งแต่เด็ก ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องพูดคุยให้ยืดเยื้อ เธอหันตัว เดินไปทางบ้านของคุณปู่
พอถึงหน้าบ้านคุณปู่ เล่อจยาก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากข้างใน ทั้งชายและหญิง เด็กและผู้ใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเฮฮามาก เทียบกับวันตายของพ่อที่เงียบสงบแล้วแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
บ้านของคุณปู่ ยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน อิฐสีน้ำเงินและกระเบื้องหิน มองจากภายนอกห้องจะมืดไปหน่อย เล่อจยายืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปข้างใน มีเด็กและผู้ใหญ่หลายคนนั่งอยู่ในบ้าน เฮฮากันมาก
เล่อเหวินนั่งอยู่ข้างคุณยาย คุณยายจับมือเขา มองขึ้นและลง มองไปทางซ้ายและขวา ในตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม
เธอยืนหน้าประตูอยู่นาน แต่กลับไม่มีใครทักเธอเลยสักคน
“เหวินเหวิน นี่นานเท่าไหร่แล้วที่นายไม่มาหาปู่กับย่าเลย นายรู้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของปู่ ถึงได้ตั้งใจกลับมาใช่ไหม?”
เสียงของชายชราค่อนข้างแหบ เล่อจยาใจกระตุกไปที พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของคุณปู่?
ถ้าอย่างนั้น ดูเหมือนว่า ข่าวที่พ่อเสียชีวิต คงพูดวันนี้ไม่ได้แล้ว
แต่ว่า……
“พ่อ พี่ใหญ่เสียแล้ว”เสียงตะโกนต่ำดังมาจากทางประตู
‘ตึกตัก’เสียงหัวใจของเล่อจยา จบแล้ว เธอลืมไปได้ยังไง ว่าเมื่อกี้บอกอาสะใภ้รองไป ด้วยนิสัยปากมากของเธอ ถึงเธออยากจะปิดบังก็เก็บไว้ไม่อยู่
เธอเข้ามาในบ้าน มองทุกคนในนั้น พยักหน้า และทักทีละคน
สุดท้ายสายตาไปตกอยู่ที่คุณปู่และคุณย่า “คุณปู่คะ ที่ฉันและเสี่ยวเหวินกลับมาวันนี้ ก็เพื่อจะมาบอกข่าวการตายของพ่อ”
พูดไป เธอก็หันไปมองเล่อเหวิน
เล่อเหวินมองเธอ แล้วก้มหน้าลงไปซุบซิบข้างหูคุณปู่ ระยะห่างไกลเกินไป เล่อจยาไม่ได้ยิน แต่ ดูจากสายตาที่คุณปู่มองเธอแล้ว อีกอย่าง นิสัยของเล่อเหวินไม่เคยพูดถึงเรื่องดีของเธอตั้งแต่เด็กแล้ว เธอรู้ว่า เขาไม่มีทางพูดเรื่องดีๆแน่นอน
“โฮ…….”เธอเพิ่งพูดจบ คุณยายก็นั่งลงกับพื้น ตบขาตัวเอง ร้องไห้ขึ้นมาเสียงดัง “โธ่ลูกของฉัน……ทำไมนายถึงให้คนผมขาวส่งศพคนผมดำล่ะ?”เสียงร้องไห้ที่โศกเศร้านั้น ทำให้เย่หลินรู้สึกสงสัย ว่าก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพราะคนที่อยู่ข้างหน้าเธอคนนี้หรอกเหรอที่ไม่สนใจพ่อ
เธอก้มหน้าลง รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“เธอคงจะเป็นจยาจยาสินะ มานี่สิ เข้ามาใกล้หน่อย ไหนลองพูดซิ ว่าพ่อเธอเสียได้ยังไง? เสียเมื่อไหร่?”คนที่พูด คือปู่ของเล่อจยา สีหน้าเขาดูแย่มาก กวักมือเรียกเล่อจยา
เธอคงจะเป็นจยาจยาสินะ? เล่อจยาคิดว่ามันตลกมาก
ปู่แท้ๆของเธอไม่สามารถยืนยันตัวตนของเธอได้
แต่ก็เอาเถอะ เธอรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาโกรธ เธอเดินเข้าใกล้สองก้าว เพียงแต่ ยังไม่ทันได้ยืนนิ่ง เธอก็โดนตบหน้า
เล่อจยากุมหน้าตัวเองไว้ มองคุณปู่ที่อยู่ข้างหน้าเธออย่างไม่เชื่อ “ทำไมถึงตบฉัน?”
“เธอพูดมาซิ ว่าเธอทำพ่อเธอตายยังไง?”
ทำพ่อตาย? เล่อจยาขมวดคิ้ว “คุณปู่ ฉันฟังที่ปู่พูดไม่รู้เรื่อง?”
“ฟังไม่รู้เรื่อง? เธอยักยอกเงินค่ารื้อถอนของพ่อเธอทั้งหมดและไม่ได้ซื้อยาให้พ่อของเธอ เขาป่วยและเสียชีวิตไป เธอบอกว่า เธอไม่ได้ทำให้เขาตาย แล้วเธอทำอะไร?”
เล่อจยาตกตะลึง เธอหันไปมองเล่อเหวินด้วยสายตาเฉียบขาด ชี้นิ้วขึ้น “เล่อเหวิน นายพูดเหรอ?”
เล่อเหวินไปหลบหลังคุณปู่ “คุณปู่ คุณดูสิ ผมบอกคุณแล้ว ถ้าเธอรู้เข้า เธอตีผมตายแน่”
พูดไป ก็ทำท่าทางเหมือนกลัว
การแสดงที่เหมือนจริงมากของเขา ทำให้เล่อจยาเปิดหูเปิดตา “เล่อเหวิน นายไม่ไปเป็นนักแสดงคงน่าเสียดาย”
เธอพูด และเหยียดแขนออกไป ต้องการจะดึงเล่อเหวิน “เอาแต่พูดโกหกคำโต วันนี้ถ้าฉันไม่สามารถฉีกปากนาย ถือว่านายเก่งมาก”
เพียงแต่ ปู่เล่อกลับเร็วกว่า ลุกขึ้นยืนบังตัวเล่อเหวินไว้ “ในสายตาเธอยังเห็นฉันที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนนี้อยู่ไหม?”
เล่อจยาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามให้อารมณ์ของตัวเองนิ่งลง เอ่ยปากพูด“คุณปู่ เล่อเหวินมันเล่นการพนัน และเป็นหนี้ก้อนโต เพื่อที่จะชำระหนี้ให้เขา พ่อของฉันเอาเงินค่ารื้อถอนทั้งหมดให้กับเขา นั่นมันตั้งหลายล้านเลยนะ แถมยังแอบเอาเงินค่ายาให้เขาลับหลังฉันอีก ต่อมา เพราะไม่ได้กินยาเป็นเวลานาน พ่อก็สลบไป พวกเราไปถึงโรงพยาบาล ก็เพิ่งจะมารู้เรื่องของเล่อเหวิน และพอพ่อของฉันมารู้ธาตุแท้ของเล่อเหวิน ก็ไปหาเขา สุดท้ายเขาก็พูดจาไร้มารยาทกับพ่อ พ่อฉันโกรธ จึงวิ่งไปกลางถนน โดนรถชน พ่อถึงได้เสีย”
เล่อจยาพูดจบในเฮือกเดียว จากนั้น ยื่นมือออกจะจับเล่อเหวินที่อยู่หลังปู่เล่อ “เล่อเหวิน นายออกมานะ”
แต่ใครจะคิดว่าเล่อเหวินกลับหัวเราะเสียงเย็น“เล่อจยา เธอใส่ร้ายฉัน เงินรื้อถอนของพ่อ เป็นเธอต่างหากที่เอาไปคืนหนี้”
พูดจบ ก็เข้าไปดึงเสื้อกันหนาวของเล่อจยา “พวกคุณดูสิ เสื้อที่พี่สาวผมใส่ เป็นแบรนด์ดังระดับประเทศ ตัวละหมื่นกว่า แค่งานที่เธอทำ จะมีเงินที่ไหน มาซื้อเสื้อแพงขนาดนี้”
ลูกพี่ลูกน้องสองสามคนที่อายุน้อยกว่าเล่อจยา เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหวิน พวกเขาทั้งหมดก็ยืนขึ้นมามอง จากนั้น เสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นแถบ
เล่อจยาอ้าปากค้าง แต่หาเหตุผลที่จะเถียงไม่ได้ เสื้อตัวนี้ ซูหย่าเป็นคนเลือกให้เธอเมื่อวาน เธอซื้อมันไม่ลง ถึงขนาดเดินออกจากร้าน ซูหย่าก็ดึงเธอกลับเข้าไปอีก บอกว่าไม่ซื้อของแพงสักสองสามชุด จะทำให้เกาไห่เสียหน้า
แต่ว่า วินาทีนี้ เธอกลับไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกาไห่เป็นคนซื้อ เพราะก่อนหน้านี้ได้พูดโกหกเล่อเหวินไปแล้ว
อีกอย่าง เกาไห่ก็ไม่อยู่ ถึงเธอจะบอกว่าตัวเองแต่งให้กับเศรษฐี ก็คงไม่มีใครเชื่อ เมื่อกี้อาสะใภ้รองอยู่หน้าหมู่บ้าน คงเห็นว่าเธอลงจากรถบัสแล้ว มีคนรวยที่ไหน นั่งรถบัสกัน
พิจารณารอบด้าน เธอก็ก้มหน้า ไม่พูดอะไร แต่กลับโกรธหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง
น้องชายของเธอคนนี้ไม่ได้แค่เลวธรรมดา แต่กลับเลวเข้ากระดูกเลยด้วยซ้ำ เสียดายที่เมื่อกี้เธออุส่าห์คิดว่าจะไม่เปิดเผยความจริง
เธอไม่รู้ว่าเมื่อกี้เขาพูดอะไรกับคุณปู่ แต่ เธอรู้ดี ว่าวันนี้ ต่อให้ตัวเองไปกระโดดลงแม่น้ำเหลืองก็คงอธิบายไม่ได้
ทันใดนั้น เธอก็นึกอะไรขึ้นได้ “นายบอกว่าฉันยักยอกเงินรื้อถอนของพ่อ นายมีหลักฐานอะไรไหม? ตอนนั้นเงินค่ารื้อก็โอนเข้าบัญชีของพ่อ ถ้านายไม่มีเลสนัย พวกเราก็ตรวจสอบบันทึกการโอนของพ่อเลย”แบบนี้ คงสามารถพิสูจน์ได้แล้ว
แต่ว่า สิ่งที่ไม่คาดคิด เล่อเหวินรีบหยิบมือถือออกมาโดยเร็ว “ได้ นี่เธอพูดเองนะ เธอบอกว่าพ่อโอนเงินให้ใคร ก็แสดงว่าใครเป็นคนใช้เงินนี้ใช่ไหม?”
เล่อจยาได้ยินแบบนี้ รู้สึกว่าไม่มีอะไรผิด จึงพยักหน้า