เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 306 ความน้อยเนื้อต่ำใจของซูหย่า
ทันใดนั้น ภาพเงาที่สวยงามก็เดินเข้ามาในสายตาของซูหย่า เธอห่อด้วยผ้าเช็ดตัวสีขาว ผมเธอก็พันไว้ด้วยผ้าขนหนู เห็นได้ชัดว่าฝึกซ้อมทุกวัน แต่ภายนอกของผู้หญิงคนนี้ที่เปลือยเปล่า ดูขาวผ่องเป็นพิเศษ อีกทั้งรูปร่างที่วัดด้วยสายตายังดูดีอย่างมาก
เห็นมู่ซืออาบน้ำอยู่ที่นี่ ซูหย่ารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็รู้สึกแข็งแกร่งขึ้นมาเล็กน้อย มู่ซือสามารถผ่านไปได้ เธอก็ผ่านไปได้
คิดแล้วสีหน้าก็กลับมาเป็นปกติ “โอเค ขอบคุณนะ”
หลังจากมู่ซือไปแล้ว ซูหย่าก็เดินเข้าไป
“จุ๊ๆๆ คุณว่าไหม มิน่าล่ะหัวหน้าเซียวถึงได้ปฏิบัติดีต่อผู้หญิงคนนี้ขนาดนั้น เห็นไหมล่ะรูปร่างนั้นช่างดูดีจริงๆ”
“พอเถอะ อย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้าเลย คนช่างพูดกัน เดี๋ยวเล็ดลอดออกไป คนที่จะลำบาก ก็คือผู้ชายของคุณนะ”
“ใช่ๆๆ……ไม่พูดแล้วๆ…”
มือของซูหย่าที่จะถอดเสื้อผ้า แข็งทื่ออยู่อย่างนั้น เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนไม่รู้จักตัวตนของเธอ แล้วก็ไม่ได้จงใจจะพูดแบบนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจ ก็คือความจริง ไม่ใช่เหรอ?
เซียวอู๋ ไอ้คนเลว นี่คือคุณต้องการทั้งเมียหลวงเมียน้อยเลยใช่ไหม?
ตำแหน่งของมู่ซือ ค่อนข้างอยู่ด้านใน และมีหมอกปกคลุม แต่ดีอย่างมาก
เป็นครั้งแรกกับการเปลื้องผ้าอาบน้ำต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ ในใจซูหย่ารู้สึกเขินอายเล็กน้อย ดังนั้นจึงอาบอย่างรีบร้อน แล้วพันผ้าเช็ดตัวออกจากโรงอาบน้ำมา
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาแล้ว ก็เห็นเซียวอู๋ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า ห้องอาบน้ำชายหญิงห่างกันไม่กี่ห้อง ชัดเจนว่าเซียวอู๋รอเธออยู่ ในใจรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย
แต่เมื่อนึกถึงความไร้น้ำใจของเขาก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่ได้ทำสีหน้าดีๆให้เขา
“คุณมาทำอะไร?”
เซียวอู๋มองมือเธอที่กอดเสื้อผ้าอยู่ ก็พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า : “กลัวว่าคุณหนูตระกูลซูผู้สง่าผ่าเผย จะใช้สถานะในทางที่ผิด ขับไล่คนในห้องอาบน้ำออกมา แล้วใช้เฉพาะตนเอง ฉันกลัวว่าฉันจะเสียหน้าอีก ก็เลยมาดูสักหน่อย”
ซูหย่าได้ยินอย่างนั้น ความโกรธก็ปะทุขึ้นมา ทางเดินค่อนข้างคับแคบ ทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากัน เซียวอู๋สูงกว่า เขามองได้ตามอำเภอใจ ก็เห็นภาพที่ไม่ควรเห็น ในใจก็กระสับกระส่ายอย่างอธิบายไม่ถูก
จึงหันหลังกลับแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “คุณคิดว่าที่นี่คือที่ไหน ถึงได้ใส่ชุดนอน คุณไม่รังเกียจที่จะขายหน้า แต่ฉันรังเกียจ”
พูดจบก็เดินออกไป
ซูหย่าหลับตา แล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง จับที่ท้องน้อย เธอพูดเงียบๆในใจ : “ลูก นี่คือพ่อของคุณ พ่อ พ่อ”
เพราะพื้นที่ลื่น เธอจึงเดินค่อนข้างช้า เมื่อกลับมาถึงห้อง ก็ไม่เห็นเซียวอู๋แล้ว เห็นชุดทหารที่เขาถอดวางไว้บนโต๊ะ จึงเอามาพับให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
คาดว่าเขาคงไปอาบน้ำแล้ว
มองไปยังเตียง 1.5 เมตรนั่น ซูหย่าก็ขมวดคิ้ว รู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อย
นำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวออกจากกล่องมาทาหน้า เป่าผมจนแห้ง เซียวอู๋ก็ยังไม่กลับมา ในห้องรู้สึกอึดอัดเกินไป เธอจึงเดินไปที่หน้าต่าง กำลังจะเปิดหน้าต่าง ก็เห็นคู่ที่เหมาะสมกันคู่นั้นอยู่ใต้เสาธงชั้นล่าง
ทั้งสองคนก้มหน้า ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันอยู่
ชั่วขณะในใจก็เหมือนถูกยัดด้วยนุ่นในชั่วพริบตา รู้สึกอึดอัดใจและหงุดหงิด
ดึงผ้าม่านขึ้น ถอดเสื้อคลุมออก แล้วขึ้นเตียงนอน
เตียงแข็งมาก ผ้าห่มก็ไม่นุ่มเลย แต่ว่าในใจหนาวเหน็บอย่างมาก
เธอเชื่อมั่นในตนเองมาตลอด แต่ว่าต่อหน้ามู่ซือคนนั้น เธอก็รู้สึกว่าตนเองไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง
พลิกตัว เธอนำผ้าห่มคลุมศีรษะ
เมื่อเซียวอู๋เข้ามา เห็นซูหย่าที่ห่อตัวเองจนเป็นบ๊ะจ่าง
เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกไป เมื่อกลับมาอีกครั้ง ในมือก็มีผ้านวมมาด้วย
อาจจะเพราะตอนกลางวันทรมานเกินไป แล้วก็อาจเพราะท้องอยู่เลยขี้เซา ถึงแม้ภายในใจจะไม่สบายใจก็ตาม เมื่อซูหย่าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ที่นอนข้างๆก็ว่างเปล่าแล้ว
มองเครื่องแบบทหารบนโต๊ะก็ไม่มีแล้ว มีหมั่นโถวสองสามชิ้นกับปาท่องโก๋หนึ่งชิ้น แล้วก็น้ำเต้าหู้หนึ่งถ้วย
เธอดูมือถือ 9โมงกว่าแล้ว
จึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ กลับมานานอาหารเช้า แล้วก็วิดีโอคอลไปหาเล่อจยา
แต่อาจเพราะสัญญาณไม่ดี ภาพเลยค้าง ซูหย่าจึงวางสาย แล้วส่งวีแชตไปหาเธอ: จยาจยา คุณทำอะไรอยู่?”
เวลานี้เล่อจยานอนเอนกายอยู่บนโซฟาห้องทำงานเกาไห่ “กำลังรบเร้าผู้ชายของฉัน ให้อนุญาตให้ฉันไปทำงาน”
“ไปที่ไหน เกากรุ๊ปเหรอ?”
“ไม่อยากไปเกากรุ๊ป แล้วก็ไม่อยากไปบริษัทก่อนหน้านี้ของเธอ อยากไปทำอีกบริษัทหนึ่ง เขาไม่อนุญาต”
“นั่นก็แน่นอนล่ะ คุณเป็นคนมีความสามารถ เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลออกข้างนอก เป็นฉัน ฉันก็ไม่อนุญาต”
เล่อจยาบุ้ยปาก “คุณเป็นอย่างไรบ้าง?ที่นั่นค่อนข้างลำบาก คุณจะต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”
ซูหย่าถอนหายใจยาว อดไม่ได้ที่จะเล่อาเรื่องอาบน้ำเมื่อคืนและที่เซียวอู๋ไปประชุมกับเมียน้อยตอนกลางคืนให้เล่อจยาฟัง
เล่อจยาจึงโทรศัพท์เข้ามาโดยตรง “เสี่ยวหย่า คุณฟังน้ำเสียงของคุณตอนนี้สิ?เหมือนภรรยาที่คับแค้นใจอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ของเสี่ยวอู๋และมู่ซืออะไรนั่น ที่ไปเจอกันเจอกันตอนกลางคืน ก็อาจจะมีเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือกัน คุณอย่าคิดเรื่องอะไรเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรมไปซะหมดสิ?”
ซูหย่าฟังเล่อจยาพูดกับตนเองแบบนี้ ก็บุ้ยปาก “คุณดูสิ แม้แต่คุณก็รังเกียจฉัน….”
“นี่ หยุดเลยนะ ฉันมีสิทธิ์อะไรที่จะรังเกียจคุณ นี่ฉันพูดเตือนด้วยความหวังดีแต่อาจจะขัดหู เรื่องนั้นเมื่อวาน คุณก็ผิดจริงๆ เสี่ยวหย่า เสี่ยวอู๋อยู่ในกองทหาร นั่นคือพลตรี นั่งคือผู้นำ คุณว่า คุณที่เป็นภรรยาผู้นำ มันไม่ควรจะเป็นผู้นำด้วยเหรอ?คาดไม่ถึงว่าจะได้สิทธิพิเศษ จุดจุดนี้ ฉันคิดว่าเสี่ยวอู๋ไม่ผิด ตอนนี้คุณไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว คุณเป็นตัวแทนเสี่ยวอู๋ คุณลองดูภรรยาของผู้นำประเทศสิ เขา…..”
“จยาจยา คุณเข้าประเด็นหน่อยได้ไหม?” อันที่จริง หลังจากนอนหลับมาคืนหนึ่งแล้วตื่นขึ้นมา ซูหย่าก็ไม่ได้โมโหแล้ว ถึงแม้เธอจะเป็นลูกสาวคนรวย แต่ก็ได้รับการศึกษาที่สูง เธอไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเหตุผล แต่อาจจะเป็นเพียงแค่ความรู้สึก
“เอาล่ะ คุณก็ลองคิดให้ดีๆ ผู้ชายของฉันจะต้องพาฉันไปทำธุระแล้ว บ๊ายบาย มีอะไรก็โทรมา ดูแล….สุขภาพด้วย”
“คุณมันเห็นสามีดีกว่าเพื่อน!” เห็นโทรศัพท์ถูกวางสายไป ซูหย่าก็บ่นพึมพำ
มองดูวีแชต ข้อความของแม่ซู คิดๆแล้วเธอก็ตอบกลับ เมื่อวานโกรธ เธอเลยไม่ได้ตอบกลับ
แล้วก็ตอบกลับข้อความของปี๋ไค
เวลานี้ ก็ได้ยินว่ามีคนเคาะประตู เธอเปิดประตู พบโอวหยางเฟิง ก็ตกใจเล็กน้อย “มีธุระอะไรเหรอ?”
โอวหยางเฟิงกล่าวว่า: “พี่สะใภ้ อีกสักครู่ฉันจะเข้าเมืองไปทำธุระเล็กน้อย คุณต้องการไปด้วยกันกับฉันไหม?เมื่อวาน ฉันได้ยินคนพูดว่า คุณมองหาซูเปอร์มาร์เก็ต”
ซูหย่าได้ยิน ก็ดีใจ “ดีๆ คุณรอฉันแป๊บนะ ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
โอวหยางเฟิงจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองว่า ซูหย่ายังสวมชุดนอนอยู่ จึงเก้อเขินเล็กน้อย กระแอมเบาๆ “เอ่อ อย่างนั้นฉันไปรอคุณที่ชั้นล่างนะ”
ซูหย่าเปลี่ยนเสื้อผ้าไปได้ครึ่งหนึ่ง เธอก็หยุดชะงักลง นึกถึงคำพูดเมื่อกี้นี้ของเล่อจยา เธอจึงลังเลใจเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าตนเองตามโอวหยางเฟิงไปแบบนี้ นับว่าเป็นสิทธิพิเศษหรือไม่
หลังจากลงไปชั้นล่าง เธอคิดๆแล้วเลยเอ่ยปากถามว่า: “โอวหยางเฟิง คุณว่า ฉันตามคุณไปแบบนี้ ถือว่าเป็นสิทธิพิเศษไหม?หากหัวหน้าทหารของพวกคุณรู้เข้า จะโกรธไหม?”