เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 399 หานฉุนคือใคร?
มู่เฉียวหันไปมองโม่หาน โยนเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายใส่ในกระเป๋า จากนั้นก็บิดขี้เกียจ แล้วหันไปมองโม่หาน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “โม่หาน ฉันจะต้องไปแอฟริกาใต้แล้ว!”
สีหน้าโม่หานมืดมนลงอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวยาวของเขายื่นออกมาดึงแขนมู่เฉียว : “ไปแอฟริกาใต้ คุณจะไปแอฟริกาใต้ทำไม?” เขายอมรับว่าตอนนี้เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย
มู่หานกะพริบตาปริบๆ ยกมืออีกข้างแล้วผลักมือของโม่หานออกไป กล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ฉันทำงานเป็นล่าม ไปเป็นล่ามส่วนตัวของหานฉุน คุณน่าจะเคยดูหนังของเขานะ ดาราหนังระดับนานาชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำเงินไปหลายร้อยล้านเหรียญ” อันที่จริงเธอก็ไม่ได้เต็มใจจะเอ่ยถึงหานฉุนหรอก คนคนนั้นทำให้เธอเกลียดยิ่งกว่าโม่หานในตอนแรกเสียอีก แต่เวลานี้ ยอมรับว่าเธอจงใจ
พูดจบก็นำกระเป๋าเดินทางมาไว้ข้างๆ เดินอย่างร่าเริงมีความสุข ถึงแม้ว่าคนมีปัญหา แต่การไปแอฟริกาใต้ทำให้เธอมีความสุขมาก
เห็นคนข้างหลังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นโม่หานทำสีหน้าเย็นชา
“ทำไมเหรอ? คุณไม่ดีใจกับฉันเหรอ?” นึกถึงตรงนี้ เธอก็ผิดหวังเล็กน้อย
โม่หานชำเลืองมองเธอ เดินอ้อมเธอไป นำเสื้อคลุมโยนไปที่เก้าอี้ข้างๆ จากนั้นก็นอนลงบนเตียง พูดออกมาอย่างเย็นชา : “ไม่อนุญาตให้ไป!”
“ทำไมล่ะ?” มู่เฉียวร้อนใจเล็กน้อย พับเสื้อผ้าครึ่งหนึ่งแล้วโยนลงบนเก้าอี้ เดินเข้าไปข้างๆโม่หาน ก้มหน้าขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยถาม
โม่หานพลิกตัวหันหลังให้เธอ พูดอย่างไม่สะทกสะท้าน : “หลิวฮั่วจัดการให้ใช่ไหม!”
มู่เฉียวตัวแข็งทื่อ ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของโม่หาน แต่ยังคงตอบว่า : “ใช่!”
โม่หานลุกขึ้นนั่ง “ฉะนั้น จึงไม่สามารถให้คุณไปได้!”
หลิวฮั่วจัดการให้ ทำไมเธอถึงไม่สามารถไปได้? มู่เฉียวยิ่งไม่เข้าใจ
“คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?” พลาดโอกาสอย่างนี้ไปแล้ว ในชีวิตนี้คงไม่มีอีกแล้ว
“มูเฉียว!” โม่หานตวาดใส่
มู่เฉียวหันกลับเดินไปสองก้าว นำเสื้อบนเก้าอี้ที่เขาวางไว้เมื่อกี้ หยิบขึ้นมาแล้วโยนไปข้างๆ
จากนั้นก็ตั้งสติแล้วมองโม่หาน : “ฉันแค่แบ่งปันความสุขกับคุณ ไม่ได้ต้องการความคิดเห็นจากคุณ ฉะนั้น……คุณจะเห็นด้วยหรือไม่ นั่นมันเรื่องของคุณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉัน”
ข้อมือของเธอถูกจับไว้แน่น “มู่เฉียว คุณฟังดีๆนะ เราเป็นสามีภรรยากัน ฉันมีอำนาจที่จะยุ่งเกี่ยวกับคุณ”
มู่เฉียวกลอกตา “สามีภรรยา? หึหึ โม่หาน คุณไม่รู้สึกว่ามันน่าตลกเหรอ? คุณหมั้นกับคนอื่น และกำลังจะแต่งงานกับคนอื่น แต่คุณกลับบอกว่า เราเป็นสามีภรรยากันอย่างนั้นเหรอ?” พูดจบ แล้วหยิบชุดนอนเข้าห้องน้ำไป
เพียงแต่กำลังจะปิดประตู แต่ก็ถูกผลักเปิดออกเหมือนเดิม
โม่หานยืนอยู่ตรงหน้าประตู มือข้างหนึ่งพิงประตู อีกข้างหนึ่งจับแขนมู่เฉียว ขมวดคิ้วแน่น “หานฉุนคนนั้นปฏิบัติกับคุณเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องมีแผนการอะไร!” พูดคำว่าหานฉุนสองคำ โม่หานก็แทบจะกัดฟันพูดออกมา
มู่เฉียวตกตะลึง เงยหน้าขึ้นมองโม่หาน แล้วพูดอย่างสบายๆว่า : “มีแผนการ ใช่ แน่นอนว่าฉันรู้ว่าเขามีแผนการ แต่แล้วยังไงล่ะ? ฉันไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ จะมีแผนการอะไร ก็ต้องใช้ร่างกายอันนี้อยู่ดี!” พูดจบก็จะดึงประตูปิด
โม่หานหลับตาระงับความโกรธในใจ ผลักประตูแล้วดึงมู่เฉียวไปด้านข้าง ตนเองก้าวเข้าไปข้างใน จากนั้นก็ปิดประตูลง
จากนั้น ก็กล่าวด้วยเสียงที่เย็นชาว่า: “คุณเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ? ร่างกายของคุณไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่า ใครก็สามารถย่ำยีได้ตามใจ?!”
มู่เฉียวได้ยิน ก็ขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าขึ้น จ้องมองโม่หาน จากนั้นก็ตะโกนว่า: “ใช่ ใครจะย่ำยีก็ได้!”
“มู่เฉียว…..!” โม่หานกำหมัดแน่น กลัวว่าตนเองจะอดทนไม่ไหว แล้วตบผู้หญิงคนนี้
จ้องมองเธออย่างโหดเหี้ยม ขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดว่า: “ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ ทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงได้ส่งเรื่องดีๆแบบนี้มาตรงหน้าของคุณ สมองคุณมีไหม?”
มู่เฉียวก้มหน้า
เธอไม่ใช่เด็กผู้หญิงอายุ18แล้ว เชื่อว่าบนโลกใบนี้มีคนดีอยู่มาก! แล้วก็เชื่อว่า สิ่งดีๆไม่สามารถตกลงมาจากฟากฟ้าได้
แน่นอนเธอรู้ว่าหานฉุนหาผลประโยชน์กับเธอ แต่แล้วยังไงล่ะ?
“ตอนแรกที่คุณแต่งงานกับฉัน หรือว่าคุณไม่ได้หาผลประโยชน์?” เธอมองโม่หานอย่างสงบนิ่ง แล้วกล่าว
ตอนแรกโม่หานรู้สึกว่ามีช่องว่างระหว่างวัยในการสื่อสารกับผู้หญิงคนนี้ เขาจ้องมองดวงตาทั้งคู่ของเธออย่างลึกซึ้ง พูดอย่างจริงจังว่า: “มู่เฉียว ฉันจะบอกคุณให้นะ ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันทำเรื่องราวที่เกินพอดี ทางที่ดีคุณควรจะเชื่อฟังจะดีที่สุด”
มู่เฉียวร้องเชอะอย่างเย็นชา ทำเรื่องเกินพอดี? ยังมีเรื่องที่เกินพอดีกว่าเรื่องเมื่อคืนวานอีกเหรอ?
อันที่จริง ก่อนที่โม่หานจะมา เธอก็คิดมากแล้ว
ช่วงนี้กลุ้มใจอย่างมาก ชีวิตเพราะการเข้ามาพัวพันอย่างกะทันหันของโม่หาน ร่างกายและจิตใจต่างก็เหนื่อยล้าอย่างมาก เธอจึงอยากจะใช้โอกาสนี้ในการจัดการกับตัวเอง
อีกอย่าง เหมือนกับที่หลิวฮั่วพูด โอกาสแบบนี้ ยากมากจริงๆ ถึงแม้สองปีมานี้จะเป็นผู้จัดการ แต่ความรักในการเป็นล่ามของเธอ ไม่เคยลดลงเลย
กลับยิ่งเพิ่มขึ้น ประสบการณ์หลายปีมานี้ ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า บนโลกใบนี้ สามารถพึ่งพาตัวเองได้เท่านั้น ไม่สามารถพึ่งพาใครได้
ถ้าความสามารถของเธอเป็นเลิศ ผู้ชายแบบนั้นจะไปนับประสาอะไร? เธอไม่ได้ทำเพราะขาดเงิน ไม่ได้ทำเพราะอยากซื้อของที่ซื้อไม่ได้ ทำเรื่องที่อยากทำไม่ได้ แต่ไปน้อยใจในความสมบูรณ์แบบ
เธออยากให้พ่อแม่มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เธออยากทำให้พวกเขาไม่มีความทุกข์ในวัยชรา และต้องการให้การสนับสนุนมู่เสี่ยวโยวอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ดังนั้นเธอจำเป็นต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมา
และไม่ใช่อยากจะอาศัยโม่หานหรือผู้ชายคนไหน ทำงานใกล้ชิดกับกันคนใหญ่คนโตย่อมมีความอันตราย ประมาทเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะสูญเสียทุกอย่างได้ เธอไม่อยากนำโชคชะตาของตนเองฝากไว้ในมือคนอื่นอีกครั้ง
ดังนั้น การเดินทางไปแอฟริกาใต้ เธอจำเป็นต้องไป อีกทั้งต้องทำให้ได้ดีด้วย
ดงยหน้า เธอสบตากับเขาอย่างยั่วยุ สูดลมหายใจเข้าจมูก ยื่นปลายลิ้นออกมาเลียริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัว “ฉัน จะไปหรือไม่ คุณไม่ต้องยุ่ง”
โม่หานจ้องไปที่ริมฝีปากสีแดงอิ่มเอิบของมู่เฉียว แทบจะไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย โน้มตัวดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แล้วจูบลงไปอย่างโหดเหี้ยม
“อื้อ….”
มู่เฉียวตกใจ ผลักเขาด้วยจิตสำนึก แต่ยิ่งทำให้เขาโอบเธอไว้แน่นในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา เขาโอบเอวของเธอเอาไว้แน่น มือข้างหนึ่งล็อกที่ท้ายทอยของเธอ แล้วจูบที่ริมฝีปากสีแดงของเธอ
นิ้วเรียวยาวขดม้วนผมของเธอเบาๆ แล้วออกแรงดึงไปด้านหลังเล็กน้อย บังคับให้ใบหน้าของเธอเงยขึ้นถึงที่สุด
เจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ใจเต้นและแขนขาอ่อนแรงอย่างมาก หลังจากมู่เฉียวมีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงใช้กำลังผลักเขาทันที ผลักจนเขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แต่ต่อจากนั้น เขาก็โอบเธอไว้แน่นแล้วล้มลงบนพื้นเย็นๆด้วยกัน