เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 417 ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ถึงจะบอกเธอก่อนที่จะไปแอฟริกาใต้ บางทีทุกๆอย่างก็อาจจะไม่เหมือนเดิม
“ฉันหาคุณไม่เจอ หลายปีก่อนหน้านี้ กลับมาหลังจากที่เจอกันที่เยอรมัน ฉันก็หย่ากับเธอแล้ว แต่ต่อมาฉันก็ไปตามหาที่เมืองA ก็ไม่มีข่าวคราวของคุณเลย ก่อนหน้านี้สองสามวันได้ดูข่าว ฉันจึงได้รู้ว่าคุณมาที่เมืองB แล้วบังเอิญว่าเช้านี้ก็ได้เจอกับตู้เสี่ยวซิน”
ฉะนั้นเดิมทีคนที่มานัดดูตัว ไม่ได้เป็นเขา
ที่เรียกว่าโชคชะตากลั่นแกล้ง ในที่สุดมู่เฉียวก็ได้เข้าใจ
เธอมองเล่อเชี่ยงหย่วน ดวงตาค่อยๆเปียกชื้นขึ้น ถ้าไม่ได้รักโม่หาน นี่อาจจะเป็นตอนจบที่สมบูรณ์แบบที่สุด
แต่ว่า……
“ฉันกับเขา……”
“ฉันไม่สนใจหรอก”
“เล่อเชี่ยงหย่วน คุณไม่กลัวว่าเขาจะมาแก้แค้นเหรอ?” ขนตาที่งอนของมู่เฉียวเปียกชื้นเล็กน้อย เธอกะพริบๆตา บังคับให้น้ำตาไหลกลับไป
“กลัวสิ แต่ฉันรู้ว่า ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่สามารถทำร้ายคุณได้ มู่เฉียว ฉันเป็นผู้ชาย จากคำพูดของตู้เสี่ยวซิน จริงๆแล้วฉันก็ฟังออกว่าโม่หานคนนั้นมีความรักใคร่ต่อคุณ”
โม่หานมีความรักใคร่ต่อคุณ
มู่เฉียวหัวเราะ “มีความรัก แล้วจะไม่ยอมแต่งงานกับฉันเหรอ?”
“บนโลกใบนี้มีคนมากมาย ที่ไม่ได้รักกันก็แต่งงานกันได้” เล่อเชี่ยงหย่วนเป็นคนที่มีเหตุผลมาโดยตลอด สำหรับเขาไม่ว่าจะเรื่องงาน ความรัก ก็ไม่ได้ใช้อารมณ์
ไม่ได้รักกันก็แต่งงานกันได้? มู่เฉียวส่ายหัว อย่างนั้นก็บอกได้ว่า ไม่มีความรักที่ดีที่สุด มิเช่นนั้นยังมีเหตุผลอะไรที่จะไม่แต่งงานล่ะ?
“คุณมาวันนี้เพื่อมาพูดเกลี้ยกล่อมเหรอ?”
เล่อเชี่ยงหย่วน “แต่งงานกับฉันเถอะ ฉันจะไม่แตะต้องคุณ รอวันหนึ่ง เมื่อเขาแต่งงานกับคุณได้ ฉันจะคืนคุณให้เขา อย่างนี้พ่อแม่คุณก็จะได้สบายใจ เป็นอย่างไร?”
มู่เฉียวตกตะลึง เงยหน้ามองเล่อเชี่ยงหย่วน “อย่างนั้นคุณต้องการอะไร?”
ท้ายที่สุดแล้วความคิดนี้ เขาก็ไม่ได้อะไรเลย
เธอมองเล่อเชี่ยงหย่วน เทียบกับเด็กวัยรุ่นในปีก่อนๆ สองสามปีนี้ เขาโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก ทรงผมการแต่งตัว ก็เปลี่ยนสไตล์ไป แต่ต้องบอกว่า ถึงแม้จะไม่ดูดีเท่าโม่หาน แต่เล่อเชี่ยงหย่วนก็ดูดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา หรือความสามารถ ในสายตาของคนธรรมดาอย่างพวกเขา เขายังนับว่าเป็นคนที่หน้าตาดี
“อาศัยความรักที่ฉันมีต่อคุณ ฉันสามารถเอาคุณไปต่อรอง เพื่อแลกกับความมั่งคั่งตลอดชีวิตได้”
ประโยคแรกได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ แต่ประโยคหลังนั้น มันเกินความคาดหมายของมู่เฉียว
“เล่อเชี่ยงหย่วน……” เธอโกรธเล็กน้อย สุดท้ายแล้ว คาดไม่ถึงว่าชายคนนี้ยังคงมาหาเธอก็เพื่อเงิน
“ถ้าคุณไม่อยากแต่งงานกับเขาอีกแล้ว เช่นนั้น ความมั่งคั่งตลอดชีวิต จะต้องแลกกับคุณ ฉันก็เต็มใจ” ดูเหมือนจะรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร เล่อเชี่ยงหย่วนก็พูดตัดบทเธอ จากนั้นก็พูดต่อว่า : “ถ้าท้ายที่สุดแล้ว คุณยังปล่อยวางจากเขาไม่ได้ เช่นนั้น ก็จะใช้ความมั่งคั่งในชีวิตมาแลกเปลี่ยนความรู้สึกผิดของคุณ”
เมื่อมู่เฉียวได้ยินสิ่งนี้ ในที่สุดน้ำตาก็ไหลออกมา
เวลานี้เธอซาบซึ้งใจอย่างมาก ซาบซึ้งใจที่ผู้ชายคนนี้พูดอย่างตรงไปตรงมา ซาบซึ้งใจที่ในความทุ่มเทของชายคนนี้
อันที่เธอไม่ได้โง่ เงื่อนไขนี้ดูเหมือนจะยุติธรรม แต่เธอคือคนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุด ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน เธอก็ไม่ได้เสียเปรียบ บางทีเล่อเชี่ยงหย่วนอาจจะรักเธอจริงๆ จึงได้ปรากฏตัวข้างๆเธอในสถานการณ์อย่างนี้
“ฉะนั้นคุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก อันที่จริงฉันก็ไม่ได้เสียเปรียบ ถ้าไม่ได้อำนาจ ก็ต้องได้สาวงาม คุณว่าไหม?”
เวลานี้มีคนสวมชุดทำงานของห้องสมุดเข้ามา หยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดน้ำบนโต๊ะ มู่เฉียวจึงถอยไปสองก้าว
“ถ้าเขารักคุณ ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะทุ่มเงินเพื่อคุณ ส่วนความมั่งคั่งในตลอดชีวิตของคนธรรมดาอย่างเรา ในสายตาโม่หานแล้ว มันไม่เท่าไหร่หรอก เขาไม่เสียดายอย่างแน่นอน แต่ถ้าเขาไม่รักคุณ มู่เฉียว คุณแต่งงานกับฉัน ฉันสัญญาว่าจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต จะรักคุณไม่ทำผิดต่อคุณอย่างแน่นอน”
พูดถึงส่วนนี้ มู่เฉียวก็รู้สึกว่าตนเองคล้ายกับไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
อันที่จริง ไม่ว่าอนาคต เธอและโม่หานจะได้ลงเอยกันหรือไม่ แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เล่อเชี่ยงหย่วนก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“เพียงแต่ ระยะเวลาที่กำหนดคือ สองปี” เล่อเชี่ยวหย่วนกล่าวเสริมอีกว่า “เฉียวเอ๋อ หลังจากสองปี ถ้าเขาไม่สามารถให้คำตอบใดๆกับคุณได้ อย่างนั้น ในอนาคต ถึงแม้เขาจะเอาอำนาจเงินทองมาแลกเปลี่ยน ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยมือ คุณยินยอมไหม?”
สองปี? มู่เฉียวหรี่ตา หากสองปี เขายังไม่ยินยอมที่จะแต่งงาน ให้รอไปอีกหลายปีก็ไม่มีประโยชน์
“ได้ อย่างนั้นตอนเย็นไปบ้านฉันไหม?” เธอยอมรับว่าเธอรีบร้อนไปหน่อย รีบร้อนที่จะทำให้พ่อแม่สบายใจ
“ผ่านไปสักสองสามวันเถอะ รีบร้อนเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี”
มู่เฉียวพยักหน้า มองฝ้าเพดาน รู้สึกโล่งอกอย่างอธิบายไม่ถูก
“คุณถึงเวลาทำงานแล้วใช่ไหม? ฉันจะไปส่งคุณที่บริษัท”
บอกว่าจะไปส่งเธอที่บริษัท แต่เล่อเชี่ยงหย่วนไม่มีรถ แค่ติดตามไปส่งเธอ คนทั้งสองนั่งรถสาธารณะไปที่บริษัท
นั่งรถสาธารณะสามสิบห้านาที คนทั้งสองเงียบมาโดยตลอด บางทีคำที่อยากจะพูดมีมากเกินไป หรือบางทีคำที่ไม่สามารถพูดได้มีมากเกินไป สุดท้าย ก็ได้แต่เงียบมาตลอดทาง
การพบกันอีกครั้ง ทั้งด้วยสภาพจิตใจที่เป็นแบบนี้ ด้วยวิธีการพบกันแบบนี้ คนทั้งสองก็ค่อนข้างอึดอัดและเก้อเขินเล็กน้อย
“ตอนเย็น คุณเลิกงานกี่โมง?”
“ห้าโมงครึ่ง”
“ตอนเย็นเลี้ยงข้าวคุณ จะได้ไหม?”
สายตาของมู่เฉียวมองไปยังที่อื่น ความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง อีกทั้งสถานะในขณะนี้ เธอคล้ายกับว่าไม่มีคุณสมบัติที่จะปฏิเสธ คิดๆแล้ว จึงพยักหน้า “โอเค”
สถานที่ไม่ได้หรูหราราคาแพงเหมือนที่โม่หานพาเธอไป เล่อเชี่ยงหย่วนพาเธอไปยังร้านเล็กๆที่มุมหนึ่ง อาหารอร่อยมาก แถมยังถูกอีกด้วย พอคิดๆอย่างใจเย็นแล้ว ถ้าวันเวลาผ่านไปจริงๆ บางทีเล่อเชี่ยงหย่วนก็อาจจะเหมาะสมกว่า
“เฉียวเอ๋อ ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้หมูของโปรดคุณ”
ใจของมู่เฉียวสั่นไม่หยุด “ทำไมเมืองBถึงยังมีสถานที่แบบนี้อยู่อีกล่ะ?”
พูดจบ เธอก็มองเล่อเชี่ยงหย่วน “หลายปีมาแล้ว คุณยังจำที่ไปกินที่บ้านฉันได้ไหม?”
“คุณชอบกินก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้หมู ชอบกินปลาเผา ชอบกินโจ๊กฟักทอง ชอบกินเกี๊ยวนึ่งจิ้มจิ๊กโฉ่ว…..” ของที่เธอชอบกิน ผู้ชายคนนี้จำได้อย่างแม่นยำ
ทุกคำที่เขาพูด ใจของมู่เฉียวก็ยิ่งเป็นทุกข์ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ น่าจะดีมาก ไม่มีโม่หาน ไม่มีมู่หยิง…..
เชี่ยงหย่วน…”เธอเม้มริมฝีปาก จนกระทั่งริมฝีปากสั่นเล็กน้อย แต่เธอรู้ว่าการประทับใจไม่ใช่ความรัก
“เอาล่ะ หยุดแค่นี้ คุณก็รู้ว่า ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณประทับใจแต่อย่างใด ฉันปรารถนาให้คุณมีความสุข ไม่ว่า ท้ายที่สุดแล้วคุณจะเลือกใคร ดังนั้น ปัญหานี้ ไม่ต้องพูดกับฉันอีก”
คนทั้งสองเข้าไปในร้าน เถ้าแก่คล้ายกับรู้จักเล่อเชี่ยงหย่วน “พ่อหนุ่ม คุณมาแล้วเหรอ?”
“คุณมาบ่อยเหรอ?”
“เปล่าหรอก ของที่คุณชอบ ฉันก็แค่ค่อนข้างใส่ใจก็เท่านั้น กินมาหลายร้าน ร้านนี้ รสชาติดั้งเดิมที่สุดแล้ว”
พูดพลาง สั่งให้มู่เฉียวนั่งลง แล้วก็รินน้ำจับเลี้ยงให้เธอแก้วหนึ่ง “ดื่มอันนี้สักหน่อยก่อน รสชาติเหมือนกับที่เมืองAเลยนะ”
มู่เฉียวสูดลมหายใจเข้า มองเล่อเชี่ยงหย่วน จิบน้ำตับเลี้ยงอึกหนึ่ง “อื้ม เหมือนกันเลย”
ทุกอย่างล้วนเหมือนเดิม ถ้าไม่มีความทรงจำเมื่อหลายปีมานี้ เวลานี้ พวกเขาก็ยังคงเป็นคนรักกันเหมือนในตอนนั้น
แต่บังเอิญ ในใจรู้อย่างชัดเจนว่า มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว