เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 430 ตาย
คุณย่าได้ยินก็มองโม่หาน ในแววตามีการอ้อนวอน “โม่หาน”
“ฉันจะพาเสี่ยวโยวมานะ ส่วนมู่เฉียวคนนั้น คุณย่า สถานการณ์ตอนนี้ ยังไม่เหมาะสม”
สีหน้าคุณนายนายท่านโม่ดูผิดหวังเล็กน้อย
คุณนายโม่เดินเข้าไปคว้าแขนของโม่หาน “ลูก คุณยังติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกเหรอ? เธอเป็นตัวซวย คุณดูสิตั้งแต่ได้พบเธอ ตระกูลของเรา……”
“แม่” โม่หานพูดตัดบทคุณนายโม่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วพูดต่อว่า “แม่ ต่อไปฉันหวังว่าจะไม่ได้ยินคุณพูดถึงเธออย่างนี้อีกนะ”
คุณนายโม่ยิ่งร้องไห้เสียใจหนักขึ้น
“คาดไม่ถึงว่าคุณจะใจร้ายกับฉัน ฉันเลี้ยงดูคุณมาจนโตขนาดนี้ มันง่ายเหรอ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะใจร้ายกับฉัน……”
โม่หานปวดหัวเล็กน้อย ลูบๆหน้าผาก “แม่ คุณเลี้ยงดูฉันมาไม่ง่ายเลย ฉันรู้ แต่เสี่ยวโยวก็เป็นลูกของฉัน คุณเคยนึกถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม?”
คุณนายโม่หยุดร้องไห้ทันที เธอมองโม่หานอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณ นี่คุณกำลังตำหนิฉันอยู่ใช่ไหม?”
คุณนายนายท่านโม่กระแอมเบาๆ ดึงแขนเสื้อของโม่หาน บอกใบ้ให้เขาอย่าพูดมาก โม่หานหยิบมือถือออกมา ส่งข้อความให้มู่เฉียว บอกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางด้านนี้
ข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็ว “โอเค ตอนบ่ายฉันจะไปรับเธอ จากนั้นก็จะเอาไปส่งคุณ”
“โม่หาน คุณส่งข้อความหามู่เฉียวใช่ไหม?”
ทุกคนต่างจับจ้องมาที่เขา โม่หานพูดว่า”อืม” และยืนตัวตรง “ตอนเย็นเธอจะเอาเสี่ยวโยวมาส่ง”
คุณนายนายท่านโม่เช็ดน้ำตา “ฉันรู้ว่าสายตาฉันไม่ได้แย่ แต่……ฉันยังคงทำร้ายเธอ เด็กคนนี้ช่างมีจิตใจดีงาม” พูดจบก็หันไปมองประตูห้องฉุกเฉินที่ปิดสนิท
มู่เฉียวโทรหาแม่ บอกว่าเย็นนี้จะพาเสี่ยวโยวไปเดินเล่น ตนเองจะไปเอง
แม่ก็ไม่ได้ถามมาก
“แม่ คุณจะพาฉันไปไหน?”
มู่เฉียวเห็นร้านผลไม้ข้างทาง หลังจากคิดๆดูแล้ว เธอก็เข้าไปซื้อกระเช้าผลไม้ มันไม่ได้แพงอะไร แต่มันก็เป็นน้ำใจ
เมื่อถึงชั้นล่างของโรงพยาบาล เธอก็โทรหาโม่หานแต่ไม่มีคนรับ
ยืนรออยู่ที่ชั้นล่างสักพัก โทรศัพท์จึงโทรหลับมา “มู่เฉียว คุณปู่เพิ่งจะฟื้น พวกคุณอยู่ไหนแล้ว?”
“ชั้นล่าง คุณลงมาเถอะ”
เมื่อโม่หานมาถึง มู่เฉียวก็นำกระเช้าผลไม้กับมู่เสี่ยวโยวส่งให้เขา และไม่ได้ถามอาการป่วยของนายท่านมากมาย
หลังจากกำชับมู่เสี่ยวโยวสองสามคำ เธอก็พยักหน้าให้โม่หาน “อย่างนั้น ฉันจะเดินอยู่แถวๆนี้นะ คุณเสร็จธุระแล้ว ก็โทรหาฉันได้เลย”
โม่หานอ้าปาก แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไร
คุณนายนายท่านโม่ยืนรออยู่นอกห้องผู้ป่วย เห็นโม่หานพาเสี่ยวโยว ก็รีบเดินเข้าไป
“คุณย่า……”
โม่หานขมวดคิ้ว รีบพูดแก้ว่า “เสี่ยวโยว ต้องเรียกคุณทวดนะ”
เสี่ยวโยวเงยหน้ามองโม่หาน “พ่อ ทำไมต้องเรียกคุณทวดล่ะ?”
สีหน้าคุณนายนายท่านโม่ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เธอก้มลงไปจูงมือมู่เสี่ยวโยว “ก็คือว่า เป็นย่าของพ่อไง”
มู่เสี่ยวโยวไม่ตอบสนองในทันที จู่ๆเธอก็คิดอะไรได้ มองโม่หาน “พ่อ เธอคือแม่ของแม่เหรอ?”
“เสี่ยวโยวฉลาดจริงๆ” หานเสว่เดินออกมาจากด้านใน โน้มตัวลง หยิกเบาๆที่แก้มของมู่เสี่ยวโยว
“คุณคือคุณอาของฉันใช่ไหม?”
หานเสว่แปลกใจเล็กน้อย “คุณ…..คุณรู้ได้อย่างไร?”
“แม่ของฉันบอกว่า ถ้าวันนี้เจอคนที่สวยเป็นพิเศษ ก็จะเป็นคุณอา คนที่หล่ออย่างมากก็จะเป็นคุณลุง แล้วก็….” เธอหันหน้ามองไปรอบๆ ยืดหน้าขึ้น ชี้คุณนายโม่ที่อยู่ในห้อง “แล้วก็คุณย่าที่ยังสาวสวย ให้เรียกคุณย่า”
คุณนายโม่ที่นั่งอยู่ข้างเตียงคุณพ่อ ได้ยินคำพูดของมู่เสี่ยวโยว มือของเธอที่ยกถ้วยชาอยู่ ก็สั่นเล็กน้อย อดกลั้นใบหน้าเอาไว้ไม่อยู่
“เสี่ยวโยว คุณนี่น่ารักจริงๆเลย” หานเสว่พูดพลาง เดินเข้าไปโอบเธอมาไว้ในอ้อมกอด “แล้ว แม่ของคุณยังพูดอะไรอีกไหม?”
เสี่ยวโยวคิดๆแล้ว เธอก็เม้มปากน้อยๆ “แม่บอกว่า คุณทวดไม่สบาย ให้ฉันพูดคุยกับเขาให้มากๆ ให้ฉันเล่าเรื่องตลกให้เขาฟัง แล้วก็บอกว่า…..ให้ฉันเชื่อฟังคุณพ่อ เพราะว่าพวกคุณล้วนเป็นญาติของฉัน”
เด็กอายุไม่กี่ขวบ แน่นอนว่าไม่สามารถโกหกได้ ทุกคนต่างก็เงียบไปในชั่วพริบตา
“เสี่ยวเฉียว สอนเธอได้ดีอย่างมาก” เธอไม่ได้บอกกับเด็กเรื่องที่ตระกูลโม่ทำไม่ดีกับเธอ แต่กลับสั่งสอนเด็กให้กตัญญู คุณนายนายท่านโม่ตบเบาๆที่มือของโม่หาน “โม่หาน เธอคู่ควรที่คุณจะทะนุถนอม”
โม่หานพยักหน้า ดึงมู่เสี่ยวโยวออกจากในมือของหานเสว่ “เสี่ยวโยว เราไปเยี่ยมคุณทวดกันเถอะ”
แต่หานเสว่ไม่ยอมปล่อยมือ “พี่ ฉันอุ้มไปก็เหมือนกันแหละ” มองออกว่า หานเสว่ชอบมู่เสี่ยวโยวมาก
มู่เสี่ยวโยวยืนอยู่ตรงหน้าเตียงของนายท่านโม่ เธอไม่ได้รังเกียจคนชรา กุมมือที่ไม่ได้ใส่สายน้ำเกลือของเขา “คุณทวด ที่แท้ คุณก็เป็นคุณทวดของฉัน คุณเป็นอะไรไป? คุณเคยบอกว่าจะพาเสี่ยวโยวไปเล่นไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมคุณถึงป่วยล่ะ? คุณลุกขึ้นมา ได้ไหม?”
เด็กช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสาจริงๆ ไม่พูดอ้อมค้อมเหมือนกับผู้ใหญ่ พูดได้ว่า พูดแล้วทุกคนก็ยากที่จะระงับไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
นายท่านโม่ลืมตามองมู่เสี่ยวโยว ยิ้มมุมปาก “เสี่ยวโยว คุณมาแล้วเหรอ”
“คุณทวด แม่ฉันบอกว่าคุณป่วยหนักมาก คุณไม่สบายตรงไหนเหรอ? คุณทานยาอย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า? ทุกครั้งที่ฉันไม่สบาย แม่จะให้ฉันทานยา เธอบอกว่ายารสขมแต่สามารถรักษาโรคได้ คุณทวด คุณก็ต้องทานยานะ ทานยาแล้ว คุณจะได้หาย” พูดพลาง เธอก็เขย่งปลายเท้า ทำท่าทางคลำหน้าผากของนายท่านโม่เล็กน้อย “คุณทวด คุณไม่ได้ตัวร้อนนะ คุณแกล้งป่วยใช่ไหม ตอนฉันไม่อยากไปโรงเรียน……อ้อ คุณไม่อยากไปทำงานแน่ๆเลย ใช่ไหม?”
คนที่รายล้อมอยู่ ต่างก็อึ้งกันไปในทันใด
นายท่านโม่อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้ม ยกมือขึ้น ลูบหัวของเธอเล็กน้อย “โรคนี้ของทวด กินยาก็ไม่มีประโยชน์หรอก ทวดแก่แล้ว คนแก่ ก็จะต้องป่วย”
มู่เสี่ยวโยวนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้น น้ำตาเธอก็เริ่มไหล เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น
“เป็นอะไรไป ทำไมถึงร้องไห้?” ทุกคนต่างกระวนกระวายใจขึ้นมา
มู่เสี่ยวโยวร้องไห้อย่างเศร้าเสียใจ “คุณทวด ฉันไม่อยากให้คุณแก่ คุณยายบอกว่า คนแก่แล้ว ก็จะต้องตาย ฉันไม่อยากให้คุณตาย คุณทวด คุณบอกไม่ใช่เหรอว่า เพียงแค่เสี่ยวโยวเชื่อฟัง คุณก็จะอยู่เป็นเพื่อนฉันไปตลอดไม่ใช่เหรอ? ฉันเชื่อฟัง ฉันเชื่อฟังแล้วโอเคไหม?”
ความดีที่มีมาแต่กำเนิด ไม่ว่าระหว่างผู้ใหญ่จะบาดหมางกันอย่างไร แต่จิตใจของเด็กก็มีเมตตา
“เสี่ยวโยว มีใครไม่แก่บ้างล่ะ? คนแก่แล้ว ก็ต้องตาย นี่เป็นกฎของธรรมชาติ”
เสียงร้องไห้ของมู่เสี่ยวโยว ยิ่งดังขึ้น หันตัวกลับ กอดขาของโม่หาน “พ่อ แม่บอกว่าคุณเก่งมาก คุณช่วยคุณทวดหน่อยได้ไหม อย่าให้เขาตาย พ่อ…..คุณช่วยเขาหน่อย ได้ไหม? คุณช่วยเขาหน่อย”
โม่หานน้ำตาคลอเบ้า เขาก้มหน้ามองเด็กคนนั้นที่ร้องไห้จนตัวสั่น ก้มตัวลง แล้วอุ้มเธอมาไว้ในอ้อมกอด ไม่พูดจา
เสียงประตูเปิดเข้ามาจากด้านนอกดัง”โครม” เหอเจี๋ยยืนหน้าซีดอยู่หน้าประตู บนพื้นมีช่อดอกไม้ช่อหนึ่ง