เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 446 ความสนุกของการแต่งงานที่ซ่อนอยู่
มู่เฉียวพูดเสริมอีกประโยคว่า “ยังคงเป็นภาพคู่ที่น่ารักกว่า”
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว “ผม…..กับเธอ มีภาพร่วมกัน ? และยังสนิทสนม ? ”ริมฝีปากของเขาเป็นเส้นตรง และเขาแสร้งทำเป็นพูดลวกๆว่า ในความทรงจำของผม ผมยังไม่เคยนอนกับเธอเลยนะ ?
มู่เฉียวอ้าปากค้าง “คุณ………”
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็โน้มตัวลงมา และจูบไปยังริมฝีปากแดงที่เปิดอยู่เล็กน้อยของมู่เฉียว โอบเอวของเธอ และกระชับให้แน่นขึ้น จากนั้นเขาก็ปล่อย “เด็กโง่ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหึง แต่ผมก็ยังมีความสุขมาก อย่างไรก็ตามพวกเราผ่านประสบการณ์ร่วมกันมามากแล้ว ดังนั้น ไม่มีใครหรืออะไรจะสามารถมาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเราได้ รูปที่ถ่ายกับเธอนี้ น่าจะเป็นมารยาทที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ก็เท่านั้น”
“แบบนี้ที่ดีสุดแล้ว” เสียงหวานของหญิงสาวดังก้องอยู่ในหูของชายหนุ่ม
“เมื่อวาน ดูเหมือนว่าคุณจะมีเรื่องอะไรที่อยากจะพูดกับผม ใช่ไหม ?”ทันใดนั้นโม่หานก็คิดอะไรได้
มู่เฉียวกะพริบตา “ไม่ต้องพูดแล้ว เพราะว่า คุณได้ทำมันไปแล้ว”
ชายหนุ่มเข้าใจทันที “หรือว่าเป็นคำขอร้องของคุณ ?”
มู่เฉียวผลักเขาออกไปด้วยความเขินอายเล็กน้อย “คุณพูดไร้สาระอะไรเนี่ย ?”
“นั่นคือ………”
“แม่ให้เราเตรียมพร้อมสำหรับลูกคนที่สอง เลยอยากจะถามความคิดเห็นของคุณ”
โม่หานมองดูเธอ “เรื่องนี้ผมแล้วแต่คุณ ถ้าหากคุณอยากให้กำเนิด พวกเราก็จะให้กำเนิด ถ้าคุณอยากจะรอก่อน ก็รอก่อน เพราะการหว่านเมล็ดนั้นง่ายกว่าการที่คุณคลอดลูกอีก”
เมื่อได้ยินคำว่าหว่านเมล็ดสองคำนี้จากเขา ทันใดนั้นมู่เฉียวก็ “อิอิ” หัวเราะออกมา
ไม่เข้าใจจริงๆว่า คนนอกบอกว่าเขาเย็นชา นี่เย็นชาตรงไหนเนี่ย ?
“ถ้างั้น พวกเราก็ไม่ต้องคุมกำเนิดแล้ว ถ้าหากมีแล้ว พวกเราก็ให้กำเนิดออกมา ตกลงไหม ?”
ที่จริงแล้ว มู่เฉียวอยากให้รออีกสักสองปี อย่างไรก็ตาม เธอยังอยากพัฒนาอาชีพของตัวเองขึ้นมาอีกหน่อย แต่คำพูดของคุณนายโม่เมื่อวานนี้ เพื่อตอบสนองความปรารถนาของย่าโม่ ได้ทำให้เธอสัมผัสได้อย่างลึกซึ้ง
“วันมะรืนฉันจะไปงานนิทรรศการเครื่องประดับในต่างประเทศ คุณนายโม่จะไปไหม ?” มีบางอย่างในคำพูดของเขา มู่เฉียวไม่ได้โง่ เธอเข้าใจโดยธรรมชาติ
“ฉันไปด้วย ?”
“จำเป็นต้องไป เพื่อความไร้เดียงสาของฉัน มิฉะนั้น ทันทีที่สื่อเผยแพร่ เมื่อกลับมา ต่อให้โดนลงโทษก็คงไม่มีประโยนช์แล้ว”
มู่เฉียวเงยหน้าขึ้นและมองโม่หานด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน “ตกลง ก็ถือซะว่าพวกเราไปปั๊มลูก”
ในวันที่ออกเดินทาง มู่เฉียวถึงเพิ่งรู้ว่า พวกเขากำลังจะไปฝรั่งเศส
ในทริปนี้มีอู๋เหิงกับเลขาสาวหนึ่งคน ยังมีผู้ช่วยอีกหนึ่งคน รวมกับหลินซานและผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง รวมเธอด้วยแล้ว ก็ทั้งหมด7คน
ในตอนเช้าเธอจงใจกลับไปที่บริษัท และสั่งงานพวกนั้นให้กับเสี่ยวโหรว
เนื่องจากเป็นการเดินทางเพื่อธุรกิจ เสี่ยวโหรวจึงไม่ได้ถามอะไรมาก
“มีเรื่องอะไร โทรศัพท์หาฉัน ส่งวีแชท ได้หมด” เธอสั่งไว้
เสี่ยวโหรวพยักหน้า “คุณมู่ พวกคุณครั้งนี้ มีหลินซานไปด้วยใช่ไหม ?”
มู่เฉียวพยักหน้า และถามอย่างเป็นกันเองว่า “เป็นอะไรรึเปล่า ?”
เสี่ยวโหรวส่ายศีรษะ ครุ่นคิดและเอ่ยปากออกมาว่า:“ คนนั้นหยิ่งมาก ฉันแค่เกรงว่าคุณเสี่ยวเฉียว คุณพูดง่ายเกินไป จะรู้สึกเสียใจ ?”
เสียใจ ? มู่เฉียวยิ้ม เธอคนนี้ไม่ใช่คนร้ายกาจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรังแกได้ง่าย และอีกอย่าง ครั้งนี้ยังมีโม่หานอยู่ด้วย ถ้าหากจะต้องเสียใจจริงๆ ถ้างั้นคนที่ทุกข์ทรมานก็คงจะไม่ใช่เธอ
อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงรู้สึกขอบคุณเสี่ยวโหรว “ตกลง ฉันจะระมัดระวังตัวเอง ”
โม่หานให้อู๋เหิงมารับเธอ
เมื่อทั้งสองมาถึงสนามบิน โม่หานกับหลินซานก็อยู่ในอาคารผู้โดยสารแล้ว
“ตอนนี้ นักแปลคนเดียวนี่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ?” เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ ผู้ช่วยของหลินซานก็เอ่ยปากทักทาย
มู่เฉียวยิ้ม “ขอโทษนะคะ ที่ทำให้พวกคุณต้องรอ”
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร เครื่องบินยังไม่บินเลยนี่ ?” คนที่ตอบเธอก็คือผู้ช่วยของหาน เขารู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับโม่หาน และหันไปมองผู้ช่วยคนนั้นอย่างมีความหมายลึกซึ้ง
หลินซานสวมแว่นกันแดด ทำให้มู่เฉียวไม่เห็นแววตาของเธอ แต่สามารถสัมผัสได้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังมองเธอ
เธอมองไปที่เธอแล้วพยักหน้า มองดูเธอไปเรื่อยๆ เสื้อเชิ้ตยาวคอวีสีดำ และกางเกงขาสั้นเผยให้เห็นเรียวขาที่ยาวและขาวทั้งคู่นั่นของเธอ
ต้องบอกเลยว่า เธอมีรสนิยมที่ดีมาก ทุกครั้งที่เธอ ล้วนทำให้คนรู้สึกสดชื่น
“คุณมู่ ทางนี้มีนั่งว่าง คุณนั่งก่อนเถอะ อาจจะต้องใช้เวลารออีกประมาณครึ่งชั่วโมง” อู๋เหิงชี้ไปที่ตำแหน่งข้างข้างโม่หาน
มู่เฉียวพยักหน้า โม่หานคนนี้น่าสมเพชเกินไปหรือไม่มีใครกล้านั่ง ? ที่นั่งด้านข้างทั้งสองนั้นถึงว่างอยู่
เธอนั่งลงข้างโม่หาน และก้มศีรษะลงเล่นโทรศัพท์
“ติ้ง” มีข้อความวีแชทส่งเข้ามา
เธอเหลือบมองไปที่โม่หาน
“คุณภรรยา เล่นแบบนี้ สนุกมากไหม ?”
“ไม่สนุกเหรอ ? ฉันรู้สึกว่ามันไม่เลวเลยนะ ฮ่าฮ่า…….”
ปรายตาของเธอเห็นมุมมปากของโม่หานกระตุก
ผ่านไปสักพัก เธอหยิบขนมออกมาจากกระเป๋าของเธอ แล้วใส่เข้าไปในปากของตัวเอง จากนั้นก็ยื่นส่งให้กับโม่หาน “คุณเอาหน่อยไหม ?”
เมื่อทุกคนได้ยิน ก็ลืมตาขึ้นมาและหันมามอง
มู่เฉียวสูดหายใจเข้าลึกๆ แน่นอนว่ามันเป็นความคุ้นเคยกับเรื่องที่แย่
ผู้ช่วยของหลินซาน “อิอิ” หัวเราะออกมา และทำเสียง“ จุ๊จุ๊ ”สองครั้ง
อู๋เหิงยื่นมือออกมา “คุณมู่ ให้ผมสักอันหนึ่งได้ไหม”
เมื่อเขากำลังจะแตะลูกอมนั้น ทันใดนั้นโม่หานที่ไม่พูดอะไรก็ยื่นมือออกมา และหยิบลูกอมนั้นไปจากมือของเธอ เขาแกะแล้วใส่เข้าปากไป
นิ้วมือของเขา สัมผัสกับฝ่ามือของมู่เฉียวทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นเร็วขึ้นสองสามจังหวะ
เมื่อเห็นการกระทำของเขาในคราวนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึง รวมถึงหลินซานด้วย
โม่หานกินลูกอมในที่สาธารณะ ฉากนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย
มู่เฉียวถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเพื่อปกปิด“ความผิดปกติ” เธอจึงหยิบอีกกำมือหนึ่งออกมาจากกระเป๋า “นี่ยังมีอีก เอาไปคนละอัน”
อู๋เหิงและผ็ช่วยของโม่หานหยิบไปคนละอัน แต่หลินซานและผู้ช่วยของเธอไม่ขยับ
อันที่จริง มู่เฉียวอยากจะบอกว่า ลูกอมนี้เป็นของที่ประธานโม่ไปทำธุรกิจจากที่แสนไกลเมื่อนานมาแล้วเอามาให้เธอ เป็นของที่คนท้องถิ่นทำ และมันมีประโยชน์ทั้งหญิงและชาย ช่วยเพิ่มพลังและยังรสชาติดี มู่เฉียวก็เลยชอบกิน และโม่หานเลยขอให้คนซื้อกลับมาให้บ้าง
เมื่อเธอกินบ่อยๆ เธอก็จะบังคับให้โม่หานกินด้วย และพฤติกรรมเมื่อครู่นี้มันก็ติดเป็นนิสัยไปแล้ว
เฮ้อ คนบางคน ไม่มีวาสนา
หลินซานมองดูมู่เฉียวผ่านแว่นกันแดด ในความทรงจำของเธอ อดีตภรรยาของโม่หาน ก็เหมือนจะชื่ออะไรเฉียว แต่ตอนนั้น เธออยู่ต่างประเทศ และเวลาก็ล่วงเลยมานานแล้ว เธอก็จำไม่ค่อยได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่ลักษณะของผู้หญิงตรงหน้า และมองจากปฏิกิริยาของโม่หาน เธอก็แน่ใจในการคาดเดาของตัวเอง
ด้วยนิสัยของโม่หาน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหย่าร้าง และยังอยู่ใกล้กับภรรยาเก่าขนาดนี้ และยังว่ากันว่า ในตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ยังเป็นคนโกหก
เธอกระแอมเล็กน้อย ลุกขึ้นและพูดว่า “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
ประโยคนี้ เธอพูดกับโม่หาน โม่หานพยักหน้า และยังคงเล่นโทรศัพท์อยู่ และสีหน้าของเขาก็เป็นปกติ
เมื่อผู้ช่วยได้ยิน ก็รีบตามไปทันที