เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่ 458 เรื่องฝังใจของเย่หลิน
เห็นชายที่กำลังจะตายอยู่บนเตียงผู้ป่วยตรงหน้า เย่หลินก็รู้สึกว่าความเกลียดชังได้หายไปจากใจหมดแล้ว
ตอนที่คุณน้าบอกให้เธอมา เธอก็คิดอยู่นาน บางทีอาจจะอยากได้คำตอบนั้นจึงไปดูเขา
เธอเรียกเกาไห่ให้มาด้วย แต่เกาไห่ปฏิเสธ
“คุณเหมือนเธอจริงๆเลย”
นี่คือสิ่งที่พ่อเกาพูดเป็นคำแรก
เป็นธรรมดาที่เย่หลินจะรู้ ว่าพ่อเกาหมายความว่าอะไร เม้มปากพูดว่า “ฉันอยากรู้ว่า ในตอนนั้นระหว่างคุณกับแม่ของฉัน มันเกิดอะไรขึ้น?”
พ่อเกาตกตะลึง แล้วหัวเราะสองที จากนั้นก็ไออย่างรุนแรง สักพักพ่อเกาจึงพูดขึ้นว่า “เธอเป็นพี่สะใภ้ของฉัน คุณว่าเราจะสามารถเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ล่ะ?”
“เช่นนั้นทำไมแม่ของฉันจะได้หนีไปไกลขนาดนั้น?” นี่คือเรื่องที่เธออยากรู้มาตลอด ว่าในตอนนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ก็ไม่ทำไมหรอก? เธอแค่อยากให้ช่วงชีวิตสุดท้ายของพ่อคุณมั่นคงปลอดภัยขึ้นหน่อย……” พูดถึงตรงนี้ เขาก็สูดลมหายใจเข้า แล้วค่อยๆพูดต่อว่า : “จนเธอได้ยินฉันบอกว่า ฉันเห็นด้วยที่จะบริจาคตับให้พ่อของคุณ ฉะนั้นเธอจึงยอมมีเกาไห่ให้ฉัน นี่น่าจะเป็นสิ่งที่คนอยากจะรู้ใช่ไหม?”
พ่อเกาพูดจบก็หยุดไปชั่วขณะ เพราะว่าเขาคิดอะไรอยู่ การหายใจจึงเปลี่ยนเป็นถี่ขึ้นเล็กน้อย “แต่ต่อมา เขาก็ตาย”
เย่หลินสูดลมหายใจเข้า ขมวดคิ้ว “ฉะนั้น พ่อฉันตายตั้งแต่ฉันอายุได้หนึ่งขวบใช่ไหม?”
พ่อเกากะพริบๆตาบอกให้รู้เป็นนัย
ถ้าอย่างนี้ก็เข้าใจได้ ว่าเพราะอะไรแม่จึงมีรูปนั้น
“อย่างนั้นทำไมแม่ฉันถึงให้ฉันอุ้มบุญล่ะ?”
พ่อเกาเงยหน้ามองเย่หลิน “เพื่อพี่ชายของคุณ แม่คุณทำเพื่อพี่ชายของคุณ เพื่อเกาไห่ เรื่องนี้ คุณไม่ได้รู้แล้วเหรอ?”
เย่หลินแค่รู้สึกอึดอัดใจ ได้รู้ได้ฟังกับตัวเอง ก็คิดได้สองแบบ
เธอคิดว่าแม่รักเธอมาก แต่ไม่คิดว่า ในสายตาแม่ เธอจะเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น
เธอหลับตา “คุณพักผ่อนเถอะ”
พูดจบก็หันกลับเตรียมออกจากห้องผู้ป่วยไป
เมื่อจะกลับออกไป ก็ได้ยินเสียงทุ้มของชายคนนั้นจากด้านหลัง
“เย่หลิน ลุงต้องขอโทษคุณ แล้วก็ขอโทษแม่คุณกับเกาไห่ด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นกับแม่ของคุณในตอนนั้น เป็นอาสะใภ้ของคุณทำ เพราะหมอบอกว่า ตลอดชีวิตเธอสามารถท้องได้แค่ครั้งเดียว เธอจึงอยากมีลูกชาย ดังนั้นต้องขอโทษพวกคุณด้วย อีกอย่าง อันที่จริงเธอก็เสียใจอย่างมาก ที่ให้คุณไปแทนที่เสี่ยวเหวิน”
เย่หลินกัดริมฝีปาก มองพ่อเกาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไร ใช้ชีวิตผ่านมาครึ่งชีวิตแล้ว เรื่องราวเหล่านี้ เธอเพียงแค่อยากจะเข้าใจ แต่ไม่อยากไปคิดเล็กคิดน้อยอะไร
เมื่อออกมาจากโรงพยาบาล หนิงเส่าเฉินนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างๆประตูรถ เห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดี จึงเดินเข้าไปโอบเอวเธอ “สีหน้าไม่ค่อยดีเลย คุยอะไรกันเหรอ?”
ก่อนหน้านี้หนิงเส่าเฉินบอกว่าจะตามขึ้นไปด้วย เย่หลินคิดว่าไม่ควรจะเปิดเผยเรื่องราวที่น่าอับอายขายหน้าของคนในบ้าน ต่อให้เป็นลูกเขย เธอกลัวว่าเขาจะได้ยินเรื่องราวที่ไม่ดีของแม่ด้วย ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธไป
“ไปกันเถอะ” เย่หลินไม่ได้ตอบเขา แต่หลังจากขึ้นรถไป ท้ายที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะบอกความจริงกับหนิงเส่าเฉิน
“เรื่องก่อนหน้านี้มันผ่านไปแล้ว” หนิงเส่าเฉินหยุดไปชั่วขณะ แล้วก็เอ่ยขึ้น
เย่หลินพยักๆหน้า
หันไปมองหนิงเส่าเฉิน “เส่าเฉิน เราไปดูเหลียงกั้วอันกันไหม?”
หนิงเส่าเฉินเหลือบมองเธอ แล้วเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว
“ทำไมจู่ๆถึงอยากไปเยี่ยมเขาล่ะ?”
ครั้งที่แล้วที่เจอกัน ก็เมื่อหลายปีก่อน อันที่จริงเย่หลินเพียงแค่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรแต่วันนี้เห็นพ่อเกาแล้ว เธอก็ตระหนักถึงความกตัญญูอีกครั้ง ถ้ามาไม่ทันเวลา ก็อาจจะสายเกินไป
“ฉันเพิ่งรู้ว่า เขาน่าจะรักแม่ของฉันจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่าในใจของแม่ฉันมีเพียงพ่อของฉัน แต่เนิ่นนานหลายปีขนาดนี้แล้วก็ไม่ยอมล้มเลิก สองปีนั้นที่พ่อฉันจากไป ฉันคิดว่า ถ้าไม่มีเขา ความเป็นอยู่ของพวกเราแม่ลูก ก็จะต้องยากลำบากอย่างแน่นอน”
หนิงเส่าเฉินตอบ”อืม”คำหนึ่ง
เพียงแต่เห็นเธอขับรถมายังเขตเมือง เย่หลินก็งุนงงเล็กน้อย “นี่คือจะไปไหน?”
“เขาเกษียณแล้ว ฉันมีธุระเล็กน้อยแล้วเดินทางผ่านที่นั่นเมื่อหลายเดือนก่อน เลยถือโอกาสเข้าไปเยี่ยมเขา”
เย่หลินมองหนิงเส่าเฉิน “เรื่องนี้ ทำไมคุณถึงไม่บอกฉันล่ะ?”
พอดีติดไฟแดง ชายหนุ่มจอดรถ แล้วหันหน้าไปมองเย่หลิน “ฉันคิดว่าคุณคงไม่อยากรู้หรอก”
รถเดินทางมาได้สิบกว่านาที เมื่อเย่หลินเห็นบ้านที่อยู่ตรงหน้า ขอบตาก็แดงก่ำ เพราะว่า บ้านหลังนี้สร้างตามบ้านที่อยู่ในเมืองSเมื่อปีนั้นทั้งหมด รวมทั้งต้นไม้นั้นที่อยู่หน้าประตู รวมทั้งภาพวาดที่อยู่ที่ประตูนั้น
ต้นไม้ต้นนั้น คือต้นไม่ที่เธอปลูกกับเขาเมื่อตอนยังเด็ก เธอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ยิ่งแปลกใจอย่างมาก เพราะด้านบนมีการสลักส่วนสูงของเธอเอาไว้ด้วย นี่เขาน่าจะย้ายจากเมืองSมาปลูกใหม่
เดินมาถึงหน้าประตู บนประตูนั้นคือภาพที่แม่ของเธอวาด สีสันดูเก่าไปไม่น้อย แต่ดูอบอุ่นใจอย่างมาก
หนิงเส่าเฉินยกมือขึ้นกำลังเตรียมจะเคาะประตู แต่ประตูถูกดึงเปิดจากด้านใน
เมื่อเห็นเย่หลินและหนิงเส่าเฉิน บนใบหน้าของเหลียงกั้วอันก็แสดงความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็เก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ “เย่จึ คุณ……คุณมาได้อย่างไร? มา รีบเข้ามาเร็ว”
เย่หลินพยักหน้ากับเขา เดินเข้าไปในบ้าน ฉากที่คุ้นเคยในความทรงจำ ก็ปรากฏขึ้นมาในสมอง
“พ่อ คุณกลับมาแล้วเหรอ? ฉันคิดถึงคุณจังเลย”
“พ่อ คุณซื้อกระเป๋าหนังสือให้ฉันอีกแล้วเหรอ?”
“พ่อ นี่คือรางวัลแรกที่คุณให้ฉันเหรอ?”
“พ่อ……”
อันที่จริงถึงแม้ว่าพ่อเหลียงจะไม่ได้ดีกับเธอเป็นพิเศษ แต่ขออะไรไปก็ให้ตามที่ขอ ปฏิบัติดีกับเธอ ตอบรับเธอมาโดยตลอด ตอนเด็กๆ ในใจของเธอ พ่อเหลียงดีกว่าแม่ของเธอมาก
เพราะว่า เขาเล่นเกมกับเธอได้ เขาสามารถหยอกล้อกับเธอได้ แล้วก็สามารถให้คำปรึกษาเรื่องบางเรื่องกับเธอได้ ไม่เหมือนกับแม่ของเธอ แต่ไหนแต่ไรมีแค่การแสดงออกทางอารมณ์
“พ่อ…..”
เย่หลินเอ่ยปาก เธอเห็นม่านน้ำตาบางๆในดวงตาของพ่อเหลียง
“เฮ้ อย่ายืนอยู่เลย คุณนั่งลงๆ เดี๋ยวฉันจะให้คุณจางไปซื้ออาหารสักหน่อย ทานอาหารเที่ยงกับฉันที่นี่นะ ฉัน…..พ่อจะทำอาหารที่คุณชอบให้คุณทาน”
เย่หลินคิดจะปฏิเสธ แต่หนิงเส่าเฉินจับมือของเธอเอาไว้ สุดท้าย เธอจึงพยักหน้า “ค่ะ”
คนแก่แล้ว จึงยิ่งชอบคิดถึงอดีต เมื่อเย่หลินเห็นฉากที่คุ้นเคยภายในบ้านนี้ ก็ทำให้เธอแน่ใจอีกครั้งว่า พ่อเหลียงยังคงรักแม่อยู่เหมือนเดิม
ทานอาหารที่พ่อเหลียงทำให้แล้ว ก็เป็นเพื่อนพูดคุยกับเขาครู่หนึ่ง เย่หลินก็ไม่มีเรื่องจะพูดแล้ว ดังนั้น สุดท้ายก็เป็นหนิงเส่าเฉินที่พูดคุย คนทั้งสองคุยกันเรื่องธุรกิจ คุยเรื่องที่รู้กันอยู่สองคน เย่หลินก็ได้แต่มองพวกเขา
เมื่อตอนจะจากไป พ่อเหลียวมองเย่หลิน “มีเวลา ก็กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยๆนะ”
เย่หลินพยักหน้า “ค่ะ”