เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - บทที่181 เกิดเรื่องขึ้นกับใคร?
“หนิงเส่าเฉิน คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันใช่ไหม?” เย่หลินหรี่ตามอง พูดถามขึ้น ถึงแม้หนิงเส่าเฉินจะอธิบายเรื่องที่เธอสลบไปวันนั้นแล้ว แต่ เธอก็ยังคิดว่ามันแปลก
หนิงเส่าเฉินเลิกคิ้วขึ้น พูดเสียงต่ำ“หมายความว่าอะไร?”
“เมื่อกี้คุณเพิ่งบอกว่าพ่อเกายังอยู่กับตาของฉัน เพราะอะไร? ในเมื่อเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆของฉัน ทำไมคุณตาไม่ปล่อยเขาไป?”
ความรู้สึกผิดปรากฏขึ้นภายใต้สายตาของหนิงเส่าเฉิน เอ่ยปากพูดเบาๆ“คุณตา คงจะคิดว่าเขารู้เรื่องของแม่คุณ เขาปากแข็งไม่ยอมพูด ก็เลยขังเขาไว้ที่นั่น”
เย่หลินตะลึง พยักหน้า และไม่สงสัยเขาอีก
“พระราชวังความงามของคุณจะเปิดตัวเมื่อไหร่? เลือกวันหรือยัง?”หนิงเส่าเฉินเปลี่ยนประเด็น
“อืม ไม่เลือกวัน ฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนั้น เตรียมเปิดตัววันเสาร์นี้ เหลืออีกสามวัน”พูดถึงตรงนี้ เย่หลินเงยหน้ามองหนิงเส่าเฉิน “ฟังจากคำถามของประธานหนิง แสดงว่าวันนั้นเตรียมตัวจะมางานด้วยใช่ไหม?”
หนิงเส่าเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอบกลับไป“พยายามจัดการให้ดี”ก็หันหลังไปปิดไฟ
เย่หลินมองอาการของเขาไม่ออก แต่ในใจก็มีความคาดหวังอยู่บ้าง
ระยะเวลาสามวัน แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
เพราะต้องไปดูเค้าโครงของสถานที่ ดังนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เย่หลินตื่นก่อนหนิงเส่าเฉิน
ตั้งใจแต่งหน้าให้ตัวเองอย่างละเอียดอ่อน แล้วเปลี่ยนไปใส่ฮั่นฝูที่อู่เล่อเล่อเตรียมไว้ให้เธอเมื่อวาน เธอมัดผมจุกเรียบๆ ก็ออกบ้านไป
เพราะขับรถไม่เป็น หนิงเส่าเฉินจึงหาคนขับรถให้เธอเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
แต่ว่า เธอมักจะออกไปข้างนอกช้า เวลาเข้างานของคนขับรถจึงถูกเลื่อนไปสายหน่อย แต่ตอนนี้ใกล้จะได้เวลาแล้ว คิดพักหนึ่ง เธอก็ให้คนขับรถของหนิงเส่าเฉินไปส่งเธอก่อน และเพราะคนขับรถจะรับผิดชอบรถหนึ่งคันต่อหนึ่งคน ดังนั้น สุดท้ายเย่หลินก็นั่งรถคันของหนิงเส่าเฉิน
พอถึงบริษัท อู่เล่อเล่อก็เตรียมงานเกือบจะเสร็จแล้ว ไม่รู้ว่าเธอหาชุดโต๊ะโบราณและฉากกั้นที่เตรียมไว้รับแขกเหล่านั้นมาจากไหน ยังมีชุดน้ำชาอีก มองโดยภาพรวมแล้ว ดูโบราณ โดดเด่นมีเอกลักษณ์มาก สอดคล้องกับคำว่าพระราชวังความงามพอดี
ผู้คนมากมายที่เดินผ่าน ก็หยุดแวะมาถ่ายรูปกัน
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบราบรื่น ไปได้ดีมาก แต่กลับไม่สามารถระงับความวิตกภายในใจของเย่หลินได้เลย
“ประธานเย่ วันนี้ หนิงเส่าก็จะมาเข้าร่วมด้วยใช่ไหมคะ?”อู่เล่อเล่อเห็นเธอขมวดคิ้ว นึกว่าเธอตื่นเต้นเกินไป จึงตั้งใจหาหัวข้อมาสนทนากับเธอ
เย่หลินพยักหน้า เมื่อวาน ก่อนนอนเขาบอกไว้ว่า วันนี้จะให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับเธอ นั่นคงหมายถึงว่าเขาจะมา
คิดถึงตรงนี้ สีหน้าก็ดีขึ้น “อืม มาสิ”
จากนั้น แขกก็เข้าร่วมงาน เดิมทีวันนี้เธอไม่ได้อยากเชิญคนมากเกินไป นอกจากชูหยูจี้พวกเขาแล้ว ก็คือคนที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ไม่กี่คน และช่างแต่งหน้าที่จำเป็นบางคน แต่เมื่อวานอู่เล่อเล่อบอกเธอว่า มีคนอยากมาแสดงความยินดีด้วยไม่น้อย เธอจึงปฏิเสธน้ำใจคนอื่นยาก
ผู้คนตรงหน้ามากันเกือบจะครบแล้ว
แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของหนิงเส่าเฉินเลย เย่หลินอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เตรียมจะส่งข้อความ ก็เห็นเบอร์ของหลิวซูโทรเข้ามาพอดี เธอรับสายอย่างดีใจ
จากนั้น อู่เล่อเล่อก็เห็นสีหน้าของเย่หลินซีดลงอย่างกระทันหัน โทรศัพท์ที่อยู่ในมือตกลงบนพื้น
เธอช่วยเก็บมันขึ้นมา จะส่งคืนให้เย่หลิน แต่เย่หลินกลับไม่อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เงยหน้าขึ้น ก็เห็นเพียงแค่แผ่นหลังของเธอที่กำลังเดินโซเซออกไปไม่ไกล
เย่หลินจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ คือตอนที่หนิงเสี่ยวซีประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถึงแม้สุดท้ายจะเป็นแค่การเข้าใจผิด แต่อารมณ์ในขณะนั้นก็เหมือนกับในตอนนี้ วิตกกังวล และหมดหนทาง
เธอก็ว่า สองสามวันมานี้ตัวเองรู้สึกใจไม่ดี จะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ แต่คิดไม่ถึงว่า คนที่เกิดเรื่องจะเป็นหนิงเส่าเฉิน
พอมาถึงโรงพยาบาลที่หลิวซูบอก มันเงียบผิดปกติ เดิมทีเธอคิดว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหนิงเส่าเฉิน มันจะต้องวุ่นวาย แต่กลับไม่เห็นใครที่เกี่ยวข้องเลยสักคน
เธอดึงพยาบาลคนหนึ่งมาถาม“คุณรู้ไหมว่าหนิงเส่าเฉินพักอยู่ห้องไหน?”
พยาบาลส่ายหน้า……คนที่สอง ก็ยังคงส่ายหน้าเหมือนกัน……
เย่หลินวิ่งขึ้นลงทุกชั้น วิ่งหาห้องฉุกเฉินเกือบทุกห้อง ก็ยังไม่เจอกับหลิวซู ถามใครก็ไม่มีคนรู้
“หนิงเส่าเฉิน คุณอยู่ไหน?”ตอนเธอออกมา ก็ไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาด้วย ตอนนี้หาใครไม่เจอ ก็ร้อนรนจนทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น
แต่ไม่มีใครตอบกลับเธอ
เธอเป็นคนไม่จำเบอร์มือถือคนอื่น เพราะฉะนั้น ตอนนี้เธอจึงเหมือนกับแมลงวันที่ไร้หัว
“คุณผู้หญิงคะ คุณจำโรงพยาบาลผิดหรือเปล่าคะ? หนิงเส่าที่คุณหมายถึงคือประธานบริษัทตระกูลหนิงคนนั้นใช่ไหมคะ? คนใหญ่คนโตแบบนั้น เกิดเรื่องขึ้นกับเขา ไม่มีทางที่จะเงียบขนาดนี้ ทุกคนเองก็กระจายข่าวไปนานแล้ว”แพทย์หญิงที่มีอายุเยอะหน่อยแล้ว เห็นเธอเดินขึ้นลงหลายรอบ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดกับเธอ
เย่หลินมองไปที่เธอ สูดจมูก “ก็คนคนนั้นบอกว่าเป็นโรงพยาบาลนี้ ฉันฟังไม่ผิดแน่”เธอจะฟังเรื่องที่สำคัญขนาดนี้ผิดได้ยังไง ไม่มีทาง
แต่ ก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่เจอหนิงเส่าเฉิน อีกอย่าง ไม่เจอใครที่รู้จักหน้าห้องฉุกเฉินเลยสักคน
คิดได้ดังนั้น เธอก็ออกจากโรงพยาบาล โบกรถคันหนึ่ง จะกลับไปเอาโทรศัพท์ที่พระราชวังความงามอีกครั้ง
แต่ว่า เพิ่งจะลงรถ ก็ถูกคนดึงไว้ เห็นเธอใส่ชุดแปลกๆทั้งตัว ก็อดพูดขึ้นไม่ได้ “คุณผู้หญิง คุณทะลุมิติมาหรือไง? คุณไม่รู้เหรอว่านั่งรถต้องจ่ายค่าโดยสาร?”
เย่หลินสะบัดมือคนนั้นออก ตะโกนเสียงดังว่า“สามีฉันเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ คุณจะให้ฉันหยิบมือถือโทรสายก่อนไม่ได้หรือไง? ฮือ……..”พูดถึงตรงนี้ เธอก็ร้องไห้ออกมา เศร้ายิ่งกว่าเดิม
คนขับรถโดยสารคนนั้นได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็ขมวดคิ้ว หันหลังกลับเข้าไปในรถ แล้วเหยียบคันเร่งออกไปทันที
เพราะฉะนั้น ตอนเย่หลินมาถึงสถานที่จัดงาน เครื่องสำอางเธอก็หลุดหมดแล้ว เสื้อผ้าก็ถูกดึงจนหลุดลุ่ย ขนาดผมที่มัดไว้ข้างหลังก็หลวมตกลงมาปรกแก้มทั้งสองข้างของเธอ มองดูแล้วก็คือหมดสภาพ
อีกอย่าง น้ำตาเธอยังคงไหลไม่หยุด
ในใจเธอห่วงแต่หนิงเส่าเฉิน เธอไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเธอยังไง เห็นอู่เล่อเล่อยืนอยู่หน้าประตู เธอจึงวิ่งเหยาะๆเข้าไปหา คว้าเธอเอาไว้ “เล่อเล่อ มือถือของฉันล่ะ?”
อู่เล่อเล่อเห็นเธอสภาพนี้ก็ตกใจลืมตอบสนองไปชั่วขณะ หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าส่งให้เธอ“นี่คุณไปฉุดงานแต่งที่ไหนมาเหรอ? หรือว่าไปถูกใครตีมา?”
เย่หลินไม่มีอารมณ์มาอธิบายให้เธอฟัง หยิบมือถือขึ้นมา เข้าไปในรายชื่อ แล้วโทรหาหลิวซู
แต่ว่า……
“……”เสียงเรียกเข้าที่คุ้นเคยดังขึ้นทางด้านหลังเธอ เธอเคยได้ยินเสียงเรียกเข้าของหลิวซูหลายครั้ง มันมีเอกลักษณ์ มันน่าฟัง