เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 128 ถูกแบน
…
ฉินเฟิงยิ้ม หวางเชียนพูดกับเขาเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้น เจ้าหมอนี่ก็รู้ว่า เขากำลังเผชิญกับอะไรอยู่? เทพสงครามอันดับหนึ่งแห่งประเทศต้าหัว มีอำนาจและอิทธิพลเทียมฟ้า เอาชนะกำลังทหารหลายแสนนาย สังหารศัตรูได้สามแสนคนในสงครามเพียงครั้งเดียว
อะไร สายตาของคุณหมายความว่ายังไง เหมือนกำลังมองมดอยู่เลย?
หวางเชียนสังเกตเห็นแววตาของฉินเฟิง เหมือนว่าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เขาโกรธขึ้นมาทันที
เขาคือใคร หัวหน้าหวางแห่งกรมตรวจสอบแห่งเมืองเจียงเฉิง มีอำนาจและอิทธิพลมาก ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเขา ถือว่าเป็นบุคคลระดับสูงในเมืองเจียงเฉิง แต่ฉินเฟิงผู้นี้กล้า แล้วยังกล้าดูถูกเขาอีกเหรอ?
ฉินเฟิงเป็นใคร
ก็แค่ขอทานตัวเหม็นคนหนึ่ง
น่าจะเคยเห็นเขามาก่อน โค้งคำนับอย่างเชื่อฟัง ประจบสอพลอ บางทีเขาอาจจะให้โอกาสก็ได้
ใช่
ฉินเฟิงพูดอย่างเปิดใจ ไม่มีปิดบังแม้แต่นิดเดียว
แน่นอน
เขากำลังปฏิบัติกับมดตัวหนึ่ง
มัดไว้
ภายใต้คำสั่งของหวางเชียน มีชายสองคนซึ่งเป็นพรรคพวกกันอยู่ข้างหลังเขา ปกติจะคอยเดินตามก้น ทำตามคำสั่งของเขาเสมอ
หลังจากได้ยินที่หวางเชียนพูด เขาก็ดึงกุญแจมือออกจากตัวดังแกร๊งแกร๊ง แล้วใส่ให้ฉินเฟิง ก่อนจะล็อกเข้ากับเก้าอี้อย่างแน่นหนา
แกร๊ง แกร๊ง
ฉินเฟิงยกมือขึ้น กุญแจมือนั้นส่งเสียงดังคมชัด ทำให้เขายิ้มออกมาทันที ของเล่นพวกนี้ล็อกผมไว้ไม่ได้หรอก แต่นี่เป็นทรัพย์สินของสถานีตำรวจ พวกคุณใช้มันได้ด้วยเหรอ?
กฎของประเทศต้าหัวเข้มงวดมากกับทรัพย์สินของสถานีตำรวจ
ทรัพย์สินของสถานีตำรวจ? ฮ่า บางทีเราอาจจะไม่กล้าใช้ในที่สาธารณะ แต่คุณดูดีๆ สิ ที่นี่คือที่ไหน ที่นี่คือห้องใต้ดินของกรมตรวจสอบ ที่นี่คือพื้นที่ของผม
หวางเชียนยิ้มดูถูก ผายมือออกแล้วชี้ไปที่ห้องห้องนี้ ใช่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ห้องนี้เป็นห้องมืดเล็กๆ ที่มีการกั้นเสียงดีมาก ไม่มีใครสามารถหาพบ นี่เป็นพื้นที่พิเศษของผม คุณเชื่อหรือไม่ว่าวันนี้ถ้าผมฆ่าคุณตาย ก็ไม่มีใครสามารถหาพบ
แน่นอน สิ่งที่เขาพูดนี้เป็นการข่มขู่โดยเฉพาะ
เรื่องฆ่าคน เขาไม่กล้าทำ
แต่การกักขังฉินเฟิงได้นานกว่าสิบวัน ทำให้เขาอดตาย หรือทุบตีจนเกือบตาย เรื่องพวกนี้พวกเขาสามารถทำได้
งั้นเหรอ?
ความอาฆาตปรากฏขึ้นในดวงตาของฉินเฟิง
ต่อมา
แกร๊ง
ฉินเฟิงลุกขึ้นจากเก้าอี้ กุญแจมือหักดังแกร๊ก จากนั้นฉินเฟิงก็ปลดมันออกจากมือแล้วบิดคอไปมา ถ้าอย่างนั้น หากฆ่าคุณตาย ก็จะไม่มีใครมาเจอด้วยใช่ไหม?
บัดซบ
ชายทั้งสามต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง
เกิดอะไรขึ้น?
เขาปลดกุญแจมือออกด้วยมือเปล่าเลยเหรอ?
แข็งแกร่งอะไรปานนี้
เอ่อ มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด
หวางเชียนตื่นตระหนกทันทีเมื่อเห็นฉินเฟิงเดินเข้ามา เขาลุกขึ้นยืน แล้วก้าวถอยหลังทันที
เข้าใจผิด? แต่ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นการเข้าใจผิดนะ
ฉินเฟิงเดินเข้ามาทีละก้าว
สมควรตาย พวกนายเข้าไป พวกนายสองคนน่ะ เจ้าหมอนี่มีแค่คนเดียว เข้าไป
หวางเชียนกวักมือเรียกลูกสมุนทั้งสองด้วยใบหน้าดุดัน
ใช่แล้ว พวกเรามีสองคน
ชายสองคนนั้นมองหน้ากัน แล้วตัดสินใจเข้าไป
พวกเขามีกันสองคน ดังคำกล่าวที่ว่า สองหมัดยากจะสู้สี่มือ บางทีพวกเขาอาจจะเอาชนะฉินเฟิงก็ได้
ในเวลานี้ อิ่นซินได้รู้ข่าวจึงรีบรุดมาถึงกรมตรวจสอบแห่งเมือง แต่พอถามไปรอบๆ ก็ยังหาหวางเชียนไม่พบ ห้องมืดเล็กๆ เป็นห้องใต้ดิน คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามีอยู่
สุดท้ายอิ่นซินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาหาผู้อำนวยการถังแห่งกรมตรวจสอบแห่งเมือง
ณ ห้องทำงานชั้นสาม
ผู้อำนวยการถัง สามีของฉันถูกขังอยู่ที่นี่ คราวนี้มีคนวางแผนใส่ร้ายพวกเรา คุณช่วยปล่อยเขาออกมาด้วยนะคะ
อิ่นซินมองไปที่ผู้อำนวยการถังอย่างร้อนใจ
เขาอายุห้าสิบ ผมหงอกขาวครึ่งหนึ่ง แต่ยังดูฉลาดเฉียบแหลม สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นั่งอยู่บนเก้าอี้ ถือปากกาหมึกซึมเคาะโต๊ะอยู่
คุณผู้หญิงอิ่น ตอนนี้เรายังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด คนคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ เราต้องทำการสอบสวน ดังนั้น ได้โปรดกลับไปเถอะ
ถังเล่อไล่แขกที่ไม่ต้อนรับออกไป
ต้องรู้ว่า เมื่อวานนี้หวางเชียนได้มอบเครื่องลายครามราชวงศ์หมิงให้เขา ซึ่งมีคุณค่าในการเก็บสะสมและมีมูลค่านับล้าน เมื่อรับเงินมาแล้วก็ต้องทำงาน
อีกอย่างก็ไม่ได้ขอให้เขาทำอะไรเป็นการส่วนตัว
แค่อยากจะผลักไสคนที่มาให้กลับไปเท่านั้น
เรื่องนี้จัดการไม่ยาก เขาได้ตรวจสอบมาก่อนแล้วเช่นกัน เกี่ยวกับอิ่นซินลูกที่ครอบครัวทอดทิ้งผู้ตกอับ ตอนนี้ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลใดๆ และกำลังถูกคนของตระกูลอิ่นกดดัน
สำหรับฉินเฟิง ยิ่งกลั่นแกล้งได้ง่าย
เดิมทีเป็นแค่ขอทานตัวเล็กๆ ตอนนี้มาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป หากเขาเป็นพนักงานประจำของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ป เขาอาจจะเกรงกลัวอยู่บ้าง แต่นี่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ฮ่า
บุคคลที่เป็นเหมือนมด ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย
จะแกล้งก็แกล้งไปสิ
จะเป็นอะไรไป
เธอจะทำอะไรเขาได้ วันนี้เขาเอาตำแหน่งมากดดันคนอื่น
ผู้อำนวยการถัง เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ต้องมีใครบางคนใส่ร้ายพวกเรา อิ่นซินรีบชี้แจ้ง
เธอเพิ่งมาจากอ้ายเสี่ยวซี อ้ายเสี่ยวซีบอกเธอแล้วว่า มีใครบางคนในบริษัททรยศพวกเขา ดังนั้นต้องมีคนใส่ร้ายแน่นอน ฉินเฟิงเป็นผู้บริสุทธิ์
คุณผู้หญิงอิ่น ทำไม คุณสงสัยว่าพวกเราทำอย่างนั้นเหรอ?
ถังเล่อหรี่ตาลง ถึงอย่างไรเขาเป็นบุคคลชั้นสูง อยู่ในตำแหน่งสูง ซึ่งทำให้เขาชอบใช้อำนาจกดดัน ทันทีที่กดดัน คนทั่วไปก็ทนไม่ไหว
ผู้อำนวยการถัง ฉัน…
ใบหน้าของอิ่นซินซีดเผือด แต่เพื่อความปลอดภัยของฉินเฟิง เธอจึงต้องขอร้องอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ถังเล่อไม่ได้ให้โอกาสเธอแล้ว เขาโทรศัพท์ออกไป ไม่นานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามคนที่มีร่างกายกำยำสูงใหญ่ก็เข้ามา
คุณผู้หญิงอิ่น เชิญ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง ยื่นมือออกมา แล้วพูดอย่างแข็งกร้าว
ผู้อำนวยการถัง…
อิ่นซินหันไปมองผู้อำนวยการถังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ถังเล่อหันหน้าออกไป ไม่ยินดีคุยกับเธอ เมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้ อิ่นซินจึงจำต้องออกไป
ตอนนี้เธอยังต้องคิดหาวิธีอื่นอีก เพื่อช่วยฉินเฟิง
ในเวลานี้ ข่าวการถูกจับของฉินเฟิงแพร่กระจายออกไปแล้ว
หลังจากที่อิ่นซินออกไปแล้ว ถังเล่อก็เอนกายลงบนเก้าอี้ แล้วหยิบเครื่องลายครามออกมาจากใต้โต๊ะ แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความสุข นี่ของดีเลยนะ ของดีเลย
ตลอดชีวิตของเขา เขาชอบของเก่ามากที่สุด
คราวนี้หวางเชียนเอาอกเอาใจเขาตามความชอบ เขาเองก็ไม่รังเกียจที่จะออกแรงนิดหน่อย อันที่จริงเขาก็แค่ขวางอิ่นซินให้กลับไปเท่านั้น ส่วนฉินเฟิง เขาก็ไม่สนใจ
เจ้าหมอนี่แค่โชคร้ายเท่านั้น ไม่ดูสถานะตัวเองเลย ในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ มีคนมากมายที่เขาล่วงเกินไม่ได้ ใครกล้าล่วงเกิน ก็ถือว่าไม่มีวิสัยทัศน์จริงๆ สมควรแล้วที่โชคร้าย
ถังเล่อบุ้ยปากอย่างเหยียดหยาม
ฉินเฟิงเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาขี้เกียจจะไปสนใจ
กริ๊งๆ
แต่ทว่า ในเวลานี้โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น