เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 131 ฉินเฟิงโกรธแล้ว ลงมือได้
ขอบคุณ
หลังจากวางสาย ความหนาวเหน็บฉายผ่านดวงตาของฉินเฟิง
เกือบจะคุกเข่าให้อิ่นป่าย?
เขาคู่ควรหรือ?
อิ่นป่าย นี่คือการแตะเกล็ดมังกรของผม คุณไม่รู้เหรอว่า มังกรมีเกล็ด หากแตะต้องจะโกรธจัด?
คราวนี้เขาถูกจับ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นอิ่นซินถูกจับ จับไปไว้ในห้องมืดหรือห้องลับเล็กๆ นั้น ก็จะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
แค่คิดก็รู้แล้ว
สิ่งนี้กำลังบังคับอิ่นซินไปสู่ทางตัน!
จากนั้น ฉินเฟิงก็โทรออกไปอีกสาย ต้วนเทียน ผมจะมอบหมายภารกิจให้คุณ…
ครับ
ตู้ต้วนเทียนเป็นลูกหลานทหาร เขาตอบทันที
ในเวลานี้ อิ่นซินได้มารับกั่วกั่วแล้ว พอเดินออกมา กั่วกั่วก็กระโจนเข้าหาฉินเฟิง คุณพ่อ คุณพ่อ อุ้มกั่วกั่วหน่อยค่ะ
โตขนาดนี้แล้ว จะให้อุ้มอะไรล่ะ
อุ้ม อุ้ม อุ้มหนู อุ้มกั่วกั่ว
หลังจากออดอ้อนอยู่พักหนึ่ง กั่วกั่วก็ปีนขึ้นคอของฉินเฟิงเหมือนขี่ม้า เธอมีความสุขมาก มีเพียงไม่กี่ครั้งที่อิ่นซินมารับเธอพร้อมกับฉินเฟิง
ว่าแต่ว่า ทำไมหลิวหลินถึงมาช่วยคุณล่ะ?
อิ่นซินเอียงศีรษะถาม
ผมจะแจ้งความ ฉินเฟิงบอก
คราวนี้อิ่นซินไม่ได้คิดมาก แม้ว่าเธอจะยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่หลิวหลินก็มีนิสัยแบบนี้จริงๆ ตำรวจหญิงอันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิงอย่างเธอนั้นรู้ดี
เขาเกิดมาพร้อมกับความชอบธรรมอย่างเหลือล้น จงเกลียดจงชังความชั่วร้ายเข้ากระดูกดำ
เมื่อมีหลิวหลินอยู่ ความสงบเรียบร้อยของสังคมในเมืองเจียงเฉิงก็ดีขึ้นมาก
…
โรงแรมหนานเทียน
อิ่นป่ายและอิ่นเสี้ยงสวี่กำลังดื่มไวน์แดง บรรยากาศหรูหราเป็นที่น่าประทับใจ เสียงเปียโนดังเข้ามา
น้องชาย นายนี่มีฝีมือจริงๆ ทำแค่นี้ก็ดึงอิ่นซินเอาไว้ได้แล้ว ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอเคยมาขอร้องพวกเรา น่าสงสารจะตาย แทบจะคุกเข่าลงเลย
อิ่นเสี้ยงสวี่จิบไวน์แดงคำหนึ่ง ใบหน้าแดงก่ำ ตื่นเต้นเล็กน้อย
แผนของพวกเขาสำเร็จแล้ว เธอออกหน้าจัดการกับหวางเชียนบนเตียงด้วยตัวเอง จากนั้นก็ใช้เงินสามแสนปลุกระดมพนักงานของอิ่นซินให้ก่อการกบฏ
แม้ว่าสุดท้ายจะจับตัวฉินเฟิงได้ แต่ผลลัพธ์ก็ยังประสบความสำเร็จ
อิ่นซินมองไปรอบๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือก จำใจมาขอร้องพวกเขาด้วยตัวเอง อ้อนวอนด้วยสภาพที่น่าสงสาร
ถึงขั้นบอกด้วยว่าจะมอบหุ้นของบริษัทสิบเปอร์เซ็นต์ให้
แต่อิ่นป่ายก็ยังปฏิเสธ
เพราะเขาต้องการบีบให้อิ่นซินถึงทางตันและสิ้นหวัง มันถึงจะสนุก
อิ่นซินก็อยากจะเอาชนะพวกเราด้วยเหรอ? ฮ่า ไม่รู้จักประมาณกำลังตัวเอง คอยดูนะ ผมจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นก้าวไปสู่หุบเหวลึกทีละก้าว ในที่สุดก็บ้านแตกสาแหรกขาด
อิ่นป่ายเขย่าแก้วไวน์แดง แววหยอกล้อวิบวับอยู่ในดวงตา
อิ่นซิน ยังกล้ามาแย่งชิงกับเขาด้วยเหรอ?
แกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง
เขาต้องการทำให้ครอบครัวของอิ่นซินบ้านแตกสาแหรกขาด อย่างดีที่สุดให้เร่ร่อนอยู่ตามท้องถนน จุดจบเช่นนี้คือสิ่งที่เขาคาดหวังมากที่สุด ผู้หญิงคนเดียว ต้องการที่จะต่อสู้กับเขางั้นเหรอ?
ฮ่า
อีกอย่างอิ่นซินยังไปสนใจไอ้เศษสวะอย่างฉินเฟิง ให้ตายสิ ไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ แต่การจับคู่กันระหว่างผู้หญิงที่โดดเดี่ยวกับขอทานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ถือว่าเป็นกิ่งทองใบหยก
อิ่นป่ายยิ้มเยาะ
ถ้าเป็นเขา เขาจะเตะคนอย่างฉินเฟิงไปไกลๆ ตั้งนานแล้ว เขาไม่รู้ว่าทำไมอิ่นซินยังเลือกที่จะยอมรับฉินเฟิง
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
อย่างน้อยตอนนี้อิ่นซินก็มีภาระที่ต้องจัดการเพิ่มขึ้นมาอีก
และในเวลานี้ก็มีโทรศัพท์เข้ามา อิ่นป่ายหยิบมาดู เป็นสายจากคุณท่านอิ่น เขาสงสัยทันทีว่าจู่ๆ คุณท่านอิ่นจะโทรหาเขาทั้งๆ ที่ไม่มีธุระทำไม
หรือว่าเป็นเรื่องรับมรดกทรัพย์สินของครอบครัว?
มันเร็วกว่าเดิมสินะ
หรือว่าชายชราจะทนไม่ไหวแล้ว?
คุณปู่ เป็นอะไรไป?
อิ่นป่ายนึกสงสัยอยู่ในใจ จะต้องรับช่วงต่อตระกูลอิ่นแล้วหรือเปล่า แต่คุณท่านอิ่นกลับบอกว่า กลับมาเดี๋ยวนี้ เกิดเรื่องขึ้นในตระกูล
เกิดเรื่องขึ้นเหรอ?
อิ่นป่ายตกตะลึง เกิดเรื่องแล้ว ไม่ใช่เรื่องรับมรดกทรัพย์สินของครอบครัวหรอกเหรอ
แต่ก่อนที่เขาจะถามรายละเอียด โทรศัพท์ก็วางสายไปเสียก่อน อิ่นป่ายมองไปที่อิ่นเสี้ยงสวี่ด้วยสีหน้าหนักใจทันที เกิดเรื่องขึ้นในตระกูล ไป กลับกันเถอะ
ถึงอย่างไรตระกูลอิ่นก็เป็นตระกูลที่เขาต้องรับช่วงต่อในอนาคต เขาจึงย่อมให้ความสำคัญมากเหนือสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว
ค่ะ
ทั้งสองรีบกลับไปทันที
หลังจากกลับมาถึงตระกูลอิ่น พวกเขาก็พบว่าคุณท่านอิ่นกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มีเอกสารมากมายวางอยู่บนโต๊ะ
ลองดูสิ
คุณท่านอิ่นผมหงอกทั้งศีรษะ ชี้ไปที่เอกสารบนโต๊ะ
พออิ่นป่ายเข้ามาดู ก็พบว่าแต่ละฉบับคือสัญญาหนี้ นี่ของอิ่นเทียนจือ นี่ของอิ่นล่าง นี่ของอิ่นเฟิงเสว่ ทั้งหมดคือหนี้ที่เด็กรุ่นหลังรุ่นนี้สร้างไว้ทั้งหมด ให้ตายสิ ติดหนี้ห้าแสนเจ็ดหมื่น คนนี้ติดสองแสนแปดหมื่น คนนี้ติดสามแสนเจ็ดหมื่น คนนี้ แล้วก็นี่ แล้วก็นี่…ทำไมถึงติดหนี้มากมายขนาดนี้
อิ่นป่ายมองดูทีละแผ่น แล้วมีสีหน้าตกใจทันที
ส่วนใหญ่จะเป็นตารางหนี้สิน
นอกจากนี้ยังติดหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งหมดติดหนี้อยู่สิบสามล้าน แค่คนของตระกูลเรา ฉันเคยถามพวกเขาแล้ว มีคนวางกับดักล่อพวกเขา บางคนถูกต้มตุ๋น บางคนถูกแบล็กเมล์ บางคนกำลังพุ่งเป้าโจมตีเรา
คุณท่านอิ่นมีสีหน้าขุ่นเคืองเล็กน้อย สมาชิกกว่า 30 คนของตระกูลอิ่น มี 21 คนที่ถูกแบล็กเมล์
ทั้งหมดติดหนี้อยู่มากกว่าสิบสามล้าน
มากว่าสิบสามล้าน? มะ…มากขนาดนี้เชียวเหรอ?
อิ่นป่ายก็ตกใจเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นก็แจ้งความเถอะ เรื่องแบบนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนกำลังแบล็กเมล์พวกเรา
พวกเขาจับจุดอ่อนของพวกเราได้ คนพวกนี้ถูกแบล็กเมล์เพราะพวกเขาไปทำเรื่องไม่ดีมา พวกเราไม่สามารถแจ้งความได้ หากแจ้งความก็จะเป็นการหาเหาใส่หัว อีกอย่างฝ่ายนั้นก็แรงมาก ไม่ธรรมดาเลย
นายดูหลายแผ่นนี้สิ
คุณท่านอิ่นหยิบสัญญาอีกหลายแผ่นขึ้นมาจากโต๊ะ
นี่คือ สัญญาบอกเลิก
เมื่อเห็นสัญญาอิ่นป่ายก็ตกตะลึง อ้าปากค้างไปทันที นี่คือความร่วมมือของบริษัทเถียนหยางจำกัด นี่คือความร่วมมือของจางซื่อกรุ๊ป เรื่องนี้ถูกยกเลิกเช่นกัน พระเจ้า
นี่คือสัญญาบอกเลิกกับตระกูลอิ่น
ตระกูลอิ่นไม่ได้มีแต่บริษัทซานหยวนกรุ๊ป แต่ยังรวมถึงกิจการอื่นๆ ด้วย เพียงแต่ว่าเป็นเจ้าของบริษัทซานหยวนกรุ๊ปเท่านั้น แต่ตอนนี้กิจการเล็กๆ เหล่านี้ได้ทยอยยกเลิกสัญญาไปทีละแห่ง
ผลลัพธ์ แค่คิดก็รู้แล้วว่าต้องล้มละลาย
ทันใดนั้น อิ่นป่ายเหมือนจะนึกอะไรออก จึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาตรวจดูหุ้นทันที พอเห็นแล้วก็หน้าซีดเผือด มันจบแล้ว หุ้นทั้งหมดของตระกูลอิ่นของเราถูกระงับ
ใครเป็นคนทำ นี่คือต้องการฆ่าตระกูลอิ่นของเราทั้งตระกูลเหรอ?
ความชั่วร้ายฉายผ่านแววตาของอิ่นป่าย
มันคือใคร?
มันคือใครกันแน่
เขากำลังจะเข้าสืบทอดตระกูลอิ่น เขาจะไม่ยอมให้เกิดอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้นกับของในกระเป๋าของเขา
ฉันเดาว่า น่าจะเป็นตู้ต้วนเทียน คงเป็นเพราะอิ่นหนิงหยู่ผู้หญิงคนนั้น
คุณท่านอิ่นเคาะโต๊ะ
ผู้หญิงสองคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นอิ่นซินหรืออิ่นหนิงหยู่ เขาก็ไม่ชอบทั้งนั้น เขาชอบผู้ชายมากกว่า ผู้หญิงคนเดียวจะสืบทอดตระกูลได้อย่างไร แม้ว่าอิ่นซินจะเป็นคนก่อตั้งบริษัทซานหยวนกรุ๊ปมากับมือ เขาก็ไม่เคยยอมรับ