เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 149 คนชั่วย่อมมีความชั่วเป็นของตน
เฮ้ พนักงาน มาทำความสะอาดสิ มองอะไรอยู่
พูดไป หลิวฉีก็เห็นพนักงานอย่างฉินเฟิงไม่ขยับเลย จากนั้นเลยด่าออกมาด้วยความไม่พอใจ
นี่ ไม่ใช่พนักงาน แต่เป็นแฟนของหลิวลานเมิ่ง หลิวฉวนจงจำฉินเฟิงได้ เลยพูดอย่างอ่อนแอลง
แฟนของหลิวลานเมิ่งงั้นเหรอ?
ตอนนั้นเอง คนในห้องรับรองนั้นต่างอึ้งไป ก่อนจะหันหัวมามอง ไปทางฉินเฟิง
เมื่อมองดู ก็พบคนที่แต่งตัวมอซอ ในแววตาก็มีความไม่แยแส แม่บุญธรรมคนนั้นเลยยืดตัวขึ้นมา ก่อนจะพูดอย่างประหลาดใจ หลิวลานเมิ่ง ฉายาที่ว่าเป็นดาวของฝ่ายประชาสัมพันธ์ในบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปนั้น หาแฟนทั้งที เป็น ‘ดูร่ำรวยมีสง่าราศี’ จริงๆ เลย เหมาะกันเป็นอย่างมาก คนหนึ่งจน คนหนึ่งโง่
จิ๊จ๊ะ
หลิวฉีเองก็ลุกขึ้นมา ส่วนสูงเมตรเจ็ดสิบ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว เหมือนกับพวกไม่มีสมองแบบนั้นเลย ก่อนจะเดินมา ในแววตามีความหยอกล้อ ไอ้กระจอก คุณจะเอาเงินมาให้เหรอ จะได้คุยกันง่ายหน่อย ก่อนหน้านี้ฉันก็บอกแล้ว ว่าอยากได้สักสี่ล้าน เพียงแค่หลิวลานเมิ่งให้ฉันสี่ล้าน งั้นครอบครัวของพวกเราก็จะไม่ยุ่มย่ามกับเธอแล้ว
อย่าบอกว่าไม่มีนะ ใบหน้าอย่างหลิวลานเมิ่งน่ะ มีตัวเป็นทรัพย์อยู่แล้ว ให้เธอไปขายซะ แล้วก็ต้องเอามาให้ฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้เธอเสียชื่อเสียงแน่นอน
ฉันเชื่อ ว่าไม่มีบริษัทไหนอยากจะรับพนักงานที่ทิ้งพ่อ และถูกคนต่อว่าเป็นแน่ เป็นอย่างไรล่ะ?คิดให้ดีนะ ไม่แน่ว่าเดี๋ยวตอนนั้นถ้าหลิวลานเมิ่งขึ้นเตียงของเจ้านายไป หรือว่า
มันหมายความว่าจะเอาหลิวลานเมิ่งมาเป็นของเล่น
พูดตรงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอคนทรามอย่างแก
แววตาของฉินเฟิงนั้นมีประกายความเย็นชา
ฝูงมอดกัดกินอยู่กันเป็นครอบครัวแบบนี้ พยายามดูดเลือดเนื้อของหลิวลานเมิ่ง ไม่ว่าหลิวลานเมิ่งจะกระแนะกระแหนตัวเองอย่างไร แต่สรุปแล้ว ก็เป็นเพื่อนรักของภรรยาตัวเองอยู่ดี
ยิ่งในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าหลิวลานเมิ่งลาออกแล้ว ตัวเองจะหักโบนัสของใครล่ะ
เพิ่งหักของปีหน้าไปเอง
ยังมีของสองปีหน้าอีก ปีหน้านู้น แล้วก็ปีถัดๆ ไปอีก……
ไอ้เลว?เหอะ ไอ้กระจอก คุณรู้ไหมว่าคนบริหารโรงแรมนี้เป็นพวกพ้องของฉัน
หลิวฉีมีใบหน้าเย่อหยิ่ง ก่อนจะพูดที่ประตู ผู้จัดการเฉิน เข้ามาดื่มเหล้าด้วยกันหน่อย
ได้สิ
ชายที่ใส่สูทเดินเข้ามาจากทางประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ด้านหลังยังมีผู้รักษาความปลอดภัยตัวใหญ่อีกด้วย เมื่อปรายตามองฉินเฟิงพลางพูด แนะนำสักหน่อย นี่หลี่เซิง เป็นผู้จัดการของโรงแรมนี้
ฉันขอแนะนำคุณหน่อยดีกว่านะ อย่ามาวุ่นวายในที่ของฉัน ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียเลือดได้
คำพูดของเขานั้น มันไม่การปกปิดการข่มขู่ที่มีต่อฉินเฟิงเลยแม้แต่น้อย
ปกติหลิวฉีนั้นกตัญญูกับเขา แสนสองแสน แถมตัวเองยังมีพี่สาวที่สวยเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นถ้าแนะนำให้เขาแล้วด้วย ดังนั้นเขาจะต้องปกป้องพี่เขยในอนาคตแน่นอน
แต่เมื่อเห็นฉินเฟิง เป็นแค่คนจนเท่านั้น
เหอะ ไอ้กระจอก เลือกสักอย่างซะ ระหว่างสี่ล้านกับโดนตีให้ขาหัก?
หลิวฉีได้รับการช่วยเหลือจากหลี่เซิงแล้ว เลยยิ่งทระนงเข้าไปใหญ่
แต่ทว่า ในตอนนี้ มีชายคนหนึ่งเดินมาจากด้านนอกของประตู มันทำให้ตรงนั้นเงียบลง หลี่เซิงที่เย่อหยิ่งยังต้องโค้งตัวให้
จากนั้นก็เดินเข้ามาจนแทบจะคลานเข่าเหมือนหมา แล้วพูดอย่างเคารพ เจ้านาย
คนคนนี้ เป็นเจ้านายของโรงแรม
จู่ๆ ก็เหมือนคิดอะไรขึ้นได้ เขาเลยรีบพูดขึ้น เจ้านาย นายคนนี้มาก่อเรื่องในร้านนี้ และอยากจะทำร้ายแขกของพวกเรา ฉันกำลังเตรียมจะเอาตัวเขาออกไปพอดี
เขาผลักให้ฉินเฟิงกลายเป็นคนร้ายในทันที
และเตรียมจะทำให้ฉินเฟิงตกที่นั่งลำบากสักหน่อย
ไอ้กระจอก ตอนนี้เจ้านายก็มาแล้ว คุณจบเห่แล้วล่ะ หลิวฉีนั้นมีใบหน้าเย็นชา ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างดัง
แต่ทว่า
มีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น
เสียงตบนั้นมันดังก้องไปทั้งห้องรับรอง ทุกคนต่างเงียบลง ก่อนจะเบิกตาโพลงพลางมองหลี่เซิง
เพียงเพราะใบหน้าของเขาเป็นรอยมือแดงขึ้นมา
หลิวฉีที่ยังยิ้มเยาะในตอนแรก ตอนนี้ได้แต่อ้าปากค้าง เพราะเขาเห็นเจ้านายคนนั้นตบใบหน้าของหลี่เซิงเข้าอย่างจัง
แต่ว่า เรื่องที่เหลือเชื่อก็เกิดขึ้น
เขาเห็นเพียงเจ้านายคนนั้น เดินเข้ามาที่ด้านหน้าของฉินเฟิง แล้วก็โค้งให้อย่างจริงจัง ก่อนจะพูดด้วยความกลัว คุณฉิน ครั้งนี้เป็นความผิดของโรงแรมเราเอง ขอโทษจริงๆ
หลี่เทียนเฉิง
ฉินเฟิงมองคนคนนี้ ซึ่งก็คือหลี่เทียนเฉิง
โรงแรมนี้เป็นของคุณเหรอ? ฉินเฟิงพูด
ใช่แล้วล่ะ โรงแรมนี้อยู่ในชื่อของบริษัทชิ่งหยางกรุ๊ป ฉันเพิ่งเห็นคุณด้านนอก เลยรีบมา นายคนนี้ เดี๋ยวฉันจะไล่ออกให้เร็วที่สุดเอง
หลี่เทียนเฉิงเตรียมจะไล่หลี่เซิงออกทันที
เขาเพิ่งจะข้ามถนนมา ก็ได้เห็นฉินเฟิงพอดี เลยเข้ามา เขาไม่ได้กลัวฉินเฟิง แต่กลัวอิ่นซินต่างหาก ถึงอย่างไรครั้งก่อนก็ได้ประทับความทรงจำอันยากจะลืมให้แก่เขาแล้ว
เพียงเพราะไปขัดใจอิ่นซิน ภายในเวลาชั่วโมงเดียว บริษัทชิ่งหยางกรุ๊ปของเขา ก็เข้าใกล้คำว่าล้มละลายเลยทีเดียว
น่ากลัวเสียจริง
คนของอิ่นซินนั้น เขาไม่กล้ามีเรื่องด้วยหรอก
ทำอะไร
เมื่อหลิวฉีได้เห็นฉากนั้น ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เจ้านายของโรงแรม เป็นหลี่เทียนเฉิงเลยนะ คนใหญ่คนโตแบบนี้ ทำไมถึงได้ถ่อมตนขนาดนี้ล่ะ
แต่เขาก็ยังปากแข็ง เลยกัดฟันพูดออกไป ไอ้กระจอก มีเงินแล้วยังไงเหรอ กล้าทำอะไรฉันไหม?
ถ้าทำอะไรคุณ มันจะสกปรกมือฉันนะ
ฉินเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะโทรศัพท์ไป ต้าตาว พาคนมาหน่อย
บางที การต่อกรกับคนเลวนั้น ก็ต้องใช้วิธีเลวๆ
คนแบบนี้ ใช้เหตุผลด้วยก็ไม่มีประโยชน์หรอก
ไม่แน่ว่าหลังจากนี้ ยังจะไปต้องแก้แค้นหลิวลานเมิ่งอีก เลยต้องลงมือกับเขาด้วยอะไรสักอย่าง เพื่อให้เขาจำขึ้นใจ
ชิ
หลิวฉีปรายตามองอย่างไม่แยแส ก่อนจะเดินออกไปอย่างเย่อหยิ่ง ฉันอยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าวันนี้ใครจะมาขวางฉัน ใครจะมาทำอะไรฉันได้!
แต่ทว่า
เพิ่งจะเดินออกไปจากประตู ได้อย่างทระนงตนไม่เกรงกลัวอะไรเพียงไม่กี่ก้าว
ก็มีรถฮัมเมอร์คันหนึ่งมาจอดตรงหน้าเขา
จากนั้น ก็มีรถฮัมเมอร์สองคัน รถฮัมเมอร์สามคัน รถฮัมเมอร์สี่คัน ภายในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งนาที ประตูหน้าโรงแรมก็ถูกรถฮัมเมอร์ขวางเต็มไปหมด จากนั้นก็มีชายตามกันลงมาคนแล้วคนเล่า
คนเหล่านั้นตัวสูงใหญ่ ดูมีความโหดร้ายไม่เบา
แถมยังเป็นสีดำทะมึน มีความอาฆาตเป็นอย่างมาก
มันทำให้หลิวฉีตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว เลยรีบถอยห่างออกไป นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?นี่ ทำไมถึงได้มีคนมากมายขนาดนี้
กลุ่มของหลิวฉวนจงเองก็ออกมา เมื่อได้เห็นฉากนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก
มีชายชุดดำเดินออกมาจากกลุ่มนั้น เขาคือต้าตาว บาร์ของเฉินจื่อซวนนั้นไม่ห่างจากที่นี่มาก ห่างเพียงถนนเส้นเดียวเท่านั้น เขาเลยเดินเข้ามา
จากนั้นก็เดินขึ้นไปที่บันได แล้วโค้งคำนับให้ฉินเฟิง เฮีย
เฮีย
คนด้านหลังอีกหลายร้อยคน ก็พูดตามๆ กันขึ้นมา
คนคนนี้คือต้าตาว ได้ยินว่าคนคนนี้เริ่มทำธุรกิจแล้ว แล้วก็ต่อสู้กับกลุ่มของเจ้าบาดแผลต้าตาว สูสีเป็นอย่างมาก แถมยังได้ยินว่าคนคนนี้แหละที่กลืนคำว่าบอดี้การ์ดมังกรไปแล้ว ช่วงนี้ถือเป็นคลื่นลูกใหม่เลยทีเดียว ตอนนี้จะเรียกฉินเฟิงก็ให้เรียกเฮียซะ
หลี่เทียนเฉิงมองเห็นฉากนั้น ก็ตกใจอยู่ในใจไม่เบา
ตอนนี้เพิ่งจะค้นพบ ว่าฉินเฟิงนั้นเหมือนจะร้ายกาจกว่าที่ใครๆ เขาว่ากัน
อันที่จริง ถ้าไม่ใช่ว่าฉินเฟิงยังไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ในตอนนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าฉินเฟิง ก็ควรจะเป็นทหารที่ผ่านศึกมามากมายของอีสเตอร์แลนด์
สู้หนึ่งต่อร้อย ทหารที่กล้าหาญเป็นอย่างมาก
ทหารของอีสเตอร์แลนด์ราวสามแสนนาย ปราบปรามกบฏ ปกป้องประเทศ บุกน้ำลุยไฟ กล้าหาญชาญชัย!