เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 151 เริ่มเก็บกู้กับดัก(1)
ฉินเฟิงโทรศัพท์หาหลี่เทียนเฉิง ช่วงนี้บริษัท กึ่งซานหยวน จำกัดกับบริษัทของคุณ มีโปรเจกต์สำคัญร่วมงานกันไหมครับ?
มีครับ อิ่นซินใช้เงินทุนสองร้อยล้านกับผม จากหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ในบริษัท กึ่งซานหยวน จำกัด หลี่เทียนเฉิงกล่าว
ฉินเฟิงวางสาย
ถึงแม้บริษัท กึ่งซานหยวน จำกัดจะไม่มีสภาพคล่องในบัญชีมากนัก แต่ก็ยังคงเป็นกลุ่มบริษัทเก่าแก่ มีมูลค่ารวมมากกว่าหนึ่งร้อยล้าน อิ่นซินยืมมาสองร้อยล้าน ซึ่งซื้อได้พอดี
เพียงแต่ นี่เป็นสถานการณ์ปกติ
ท่านประธานครับ เมื่อสักครู่คนของเรารายงานเรามาว่า อิ่นซินแห่งบริษัท กึ่งซานหยวน จำกัด ปรากฏตัวขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ และได้เตรียมเงินจำนวนมากมาด้วยครับ เฝิงกางกล่าวรายงาน
ไปกัน
ฉินกางไม่ลังเล รีบเดินทางไปยังตลาดหลักทรัพย์กับเฝิงกางทันที
บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง มีห้องวีไอพีเป็นของตัวเองในตลาดหลักทรัพย์ ในตอนที่ขึ้นมาชั้นสองของห้องวีไอพี เมื่อมองผ่านไปก็เห็นอิ่งซินทันที
ฉินเฟิงมองไปที่กระดานหุ้น หุ้นของบริษัทซานหยวนกรุ๊ปดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง บริษัท กึ่งซานหยวน จำกัดำด้กวาดซื้ออย่างเมามัน ได้ซื้อไปอย่างน้อยร้อยละสี่สิบแล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ บริษัทซานหยวนกรุ๊ปเกือบครึ่งอยู่ในมือของอิ่นซิน
แต่ว่า ยังเหลืออีกบางส่วน
ในเวลานี้เอง อิ่นซินได้โทรศัพท์มา ฉินเฟิงรีบรับสาย ฮัลโหล เมียจ๋า
คุณอยู่ไหนคะ?
บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปครับ
คืนนี้มีงานวันเกิดคุณปู่ครบรอบแปดสิบปี ท่านให้เราไปหาน่ะค่ะ
ได้ครับ
ฉินเฟิงตอบตกลง หลังจากนั้นอิ่นซินก็วางสายไป ใบหน้าอันสวยงามของเธอดุจดั่งภูเขาน้ำแข็ง แต่ในสายตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า อันที่จริงทำแบบนี้กับคนที่ตนเองรัก เป็นสิ่งที่ทรมานใจมาก
แต่ว่า ไม่ทำแบบนี้ไม่ได้
และก่อนหน้านี้คุณท่านอิ่นก็ได้โทรศัพท์หาเธอ บอกว่ายอมแพ้แล้ว เขาจะไม่สู้กับเธออีก เห็นแก่ที่เขาใกล้จะเข้าโลงเต็มทีแล้ว ให้เธอไปเข้าร่วมงานวันเกิดแปดสิบปีของเขาหน่อย
สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกดีใจมาก แต่เธอยังคงรู้สึกผิดปกติ ทุกอย่างมันดูราบรื่นเกินไป ดังนั้นเธอจึงเรียกฉินเฟิงให้ไปด้วยกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเมินเฉย แต่ไม่พูดก็คงจะไม่ได้ ว่าฉินเฟิงทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย
ราวกับคำพูดของฉินเฟิง ทำให้โลกทั้งใบไม่มีใครทำร้ายเธอได้
งานเลี้ยงค่ำคืนนี้
ฉินเฟิงเอามือไพล่หลัง ปากพูดพึมพำสามสี่คำนี้ ผ่านไปครู่เดียวก็โทรศัพท์ออกไป คราวนี้เขาโทรหาตู้ต้วนเทียน
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ตู้ต้วนเทียน ก็พาผู้หญิงมาด้วยคนหนึ่ง
พี่ฉินครับ นี่คือโหวเมิ่งหยาวน้องสาวของโหวเฟย คนกันเองครับ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงคณะธุรกิจบัณฑิตย์ มีความสามารถ ผมตรวจสอบมาแล้ว เธอยังไม่เคยมีแฟนครับ ตู้ต้วนเทียนพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
คุณนี่เอง ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลอิ่น
คนที่เข้ามาคือหญิงสาวที่ค่อนข้างเด็ก ท่าทีอ่อนหวาน แต่สวมชุดสูทเรียบร้อยทั้งตัว บนตัวของเธอทรงพลังแต่ก็มีความเป็นผู้ใหญ่ บนมือถือแฟ้มเอกสารหนึ่งแฟ้ม
เดิมทีตู้ต้วนเทียนมาหาเธอ เพื่อให้เธอไปทำงานด้านธุรกิจให้กับคนคนหนึ่ง เธอก็คิดว่าเป็นคนใหญ่คนโต
แต่หลังจากที่มาถึงแล้ว ถึงได้พบว่าเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลอิ่น
เธอกับอิ่นหนิงหยู่เรียนชั้นเดียวกัน และเป็นเพื่อนรักกัน ดังนั้นจึงมักจะได้ยินเธอก่นด่าฉินเฟิงให้ฟัง ด่าว่าเขาเป็นเศษสวะ และเคยเห็นรูปของฉินเฟิงมาแล้ว จึงรู้ว่านี่เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงคนหนึ่ง
แต่ตอนนี้พอเธอมาเห็นฉินเฟิง เสื้อผ้าไม่ได้เปลี่ยนไป แต่จิตวิญญาณบนตัวของเขากลับเปลี่ยนไป คิ้วทั้งสองข้าง เฉียบคม รูปร่างตรงแน่น ดุจดั่งโมวซิง ระหว่างที่ท่วงท่าเยื้องย่างกรีดกราย ให้ความรู้สึกเหมือนคนใหญ่คนโต
กระทั่งยังได้กลิ่นอาย ราชาเหนือโลกที่จอมเผด็จการ
ถ้าไม่ใช่เพราะเคยเห็นรูปถ่ายมาก่อน เธอคงไม่มีทางเชื่อว่า นี่คือลูกเขยไม่เอาไหนที่แต่งเข้าตระกูลอิ่น
คุณรู้จักผมหรอครับ?
ฉินเฟิงถามโหวเมิ่งหยาว ไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดที่ตู้ต้วนเทียนรายงาน ว่าเธอไม่มีแฟนหนุ่มพอดี สามารถทำงานได้อย่างสบายใจ
ฉันเคยได้ยินอิ่นหนิงหยู่พูดน่ะค่ะ โหวเมิ่งหยาวพูดเสียงเบา
ที่แท้ก็เด็กคนนั้นนี่เอง
ฉินเฟิงส่ายหน้าไปมา แล้วใช้สายตาคมเข้มมองไปที่โหว่เมิ่งเหยา แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า ตู้ต้วนเทียนพูดกับคุณแล้วใช่ไหม?อยากมาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของผมไหมครับ
ตกลงค่ะ
โหวเมิ่งหยาวพยักหน้า
ถึงจะอย่างไร ตู้ต้วนเทียนก็เป็นคนมาหาเธอเอง ยิ่งไปกว่านั้นพี่ชายของเธอยังทำงานเป็นลูกน้องของตู้ต้วนเทียน ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
เพียงแต่เธอคิดไม่ตกว่า ฉินเฟิงที่เป็นเขยแต่งเข้าตระกูลอิ่น ทำไมถึงรู้จักกับตู้ต้วนเทียนได้
งั้นก็ดีครับ จากวันนี้ไปคุณจะเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบMr.X มีแค่คุณเท่านั้นที่จะพูดแทนผมได้ ผมขอมอบภารกิจให้คุณอันหนึ่ง การ์ดใบนี้ผมให้คุณ ข้างในมีเงินหนึ่งพันล้าน
ฉินเฟิงเอาบัตรATMใบหนึ่งให้เขา ยื่นส่งให้โหวเมิ่งหยาว
Mr.Xคะ
โหว่เมิ่งเหยาสีหน้าเปลี่ยนไป สิ่งที่เธอตกตะลึงไม่ใช่เงินจำนวนหนึ่งพันล้านนี้ ในฐานะที่เป็นนักศึกษาของคณะธุรกิจบัณฑิตย์ เธอรู้ดีว่าตู้ต้วนเทียนที่อยู่ข้างๆเธอก็สามารถเอาเงินหนึ่งพันล้านออกมาได้
แต่สิ่งที่ตกตะลึงก็คือMr.Xผู้นี้
ช่วงนี้Mr.Xคนนี้ ทำให้ทั่วทั้งเจียงเฉิงต้องวุ่นวาย พอได้ลงมือก็จัดการด้านกองกำลังของอู๋ห้าวจนสิ้นซาก บริษัทขนาดใหญ่ของตระกูลอู๋ ต้องมลายหายไปภายในวันเดียว
อีกทั้งได้ยินมาว่าเบื้องหลังของตระกูลตู้ผู้นี้ เป็นบุคคลใหญ่ในกองทัพ ทำให้บริษัทอื่นๆ จะขว้างหนูก็กลัวจะกระทบสิ่งของอื่น จึงไม่กล้าลงมือตรงๆ
สำหรับMr.Xผู้ลึกลับคนนี้ คนในเจียงเฉิงต่างกำลังคาดเดากันให้วุ่น
แต่ตีให้ตายยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า บุคคลในตำนานที่มีเบื้องหลังมีอิทธิพลใหญ่ Mr.Xที่มีอำนาจแข็งแกร่งเป็นเขยแต่งเข้าตระกูลอิ่นที่อิ่นหนิงหยู่เคยก่นด่าเมื่อหลายวันก่อน ว่าเป็นเศษสวะ
เข้าใจไหม?
อ๊ะ……คือ……คะ
โหวเมิ่งหยาวยังคงดึงสติกลับมาไม่ได้ เธอรีบพยักหน้า แต่เธอยังคงมีหัวคิดทางด้านธุรกิจ เนื่องจากเป็นมืออาชีพ เมื่อได้สติกลับมาเธอก็ถามขึ้นมาว่า งั้นบอส จะให้เอาเงินพวกนี้ไปทำอะไรคะ?
คืนนี้ เอาไปอัดฉีดทุนให้อิ่นซิน ช่วยเธอซื้อบริษัทซานหยวนกรุ๊ปมาให้ได้ ฉินเฟิงพูด
คืนวันนี้ จะได้แสดงเกมขึ้นมาได้สักที
และได้เวลา ช่วยอิ่นซินกวาดบริษัทซานหยวนกรุ๊ปกลับให้หมด
คนร้ายผู้นั้น ควรจะออกมาได้แล้ว
ค่ะ โหวเมิ่งหยาวรีบตอบรับ
พอถึงเวลาค่ำ ฉินเฟิงก็กลับไปยังตระกูลอิ่น เขาอยู่ในห้อง ในมือของอิ่นซินถือเสื้อคลุมไว้ตัวหนึ่ง นี่เป็นสูทของแอร์เมสที่ชอบซื้อที่สุด คุณลองดูนะ
อืม
ฉินเฟิงถอดเสื้อตัวนอกออก มันจึงทำให้อิ่นซินตกตะลึง
เพราะบนตัวของฉินเฟิง เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น ทั้งบาดแผลจากมีด บาดแผลจากดาบ รอยกระสุน……และตรงคอจนถึงบริเวณท้องน้อยที่มีรอยแผลจากตะขาบ
บาดแผลอันน่าสยดสยอง ทำให้คนหยุดหายใจ
ถึงอิ่นซินอยากจะเมินเฉยฉินเฟิง แต่วินาทีเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เมื่อก่อนเธอไม่เคยเห็นฉินเฟิงถอดเสื้อผ้ามาก่อน เธอก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วใช้มือลูบตรงรอยแผลเป็น แล้วถามด้วยความเจ็บปวดว่า เจ็บไหม?
ไม่เจ็บครับ
ฉินเฟิงส่ายหัวไปมาเบาๆ
ในเมื่อเขาเลือกที่จะเข้าสนามรบ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะใช้หนังม้าห่อศพ ท่านหลี่กับฉีหยุนพูดถูก เขาเป็นเทพสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าหัวที่ต่อสู้อย่างดุเดือดออกมาจากสนามรบ
ในกองทัพเรียกเขาว่า‘คนบ้าที่ไม่คิดชีวิต’ มันจึงทำให้เขาใช้ระยะเวลาในเจ็ดปี จากทหารยศเล็กๆคนหนึ่งไต่เต้าจนขึ้นมาเป็นเทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์ หนึ่งในบุคคลที่เป็นผู้มีอำนาจที่สุดในประเทศต้าหัว
เทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์ โด่งดังไปทั่วทั้งโลก
แต่ทุกอย่างที่เขาทำ ล้วนทำเพื่ออิ่นซิน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของเขา