เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 158 ฉินเฟิง:ขอแนะนำตัวหน่อย ฉันคือเทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์
- Home
- เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน
- บทที่ 158 ฉินเฟิง:ขอแนะนำตัวหน่อย ฉันคือเทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์
เอาไว้เล่น?
นักดาบสยบใต้หล้าเป็นปรมาจารย์ของนักใช้ดาบทั้งหลาย เป็นบุคคลสำคัญของประเทศซากุระ และเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในกองทัพ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ คนอย่างนี้กลับโดนฆ่าตายแล้วเหรอ
และยังมอบหยกขาวที่เขาหวงสุดชีวิต ให้ลูกน้องเอาไว้เล่น
ทาคุยะมิยาโมโตะถอยหลังสองก้าว เลือดไหลไม่หยุด สีหน้าของเขามีแต่ความเหลือเชื่อ: เป็นไปได้ยังไง นักดาบสยบใต้หล้าตายได้ยังไง ตายได้ยังไง เขาเป็นคนไร้เทียมทาน……ไร้เทียมทาน……เดี๋ยวนะอีสเตอร์แลนด์ อีสเตอร์แลนด์เหรอ!
ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องทันที
เขานึกถึงคำว่าอีสเตอร์แลนด์จากคำพูดขององครักษ์หมาป่าคนนั้น
อีสเตอร์แลนด์? เจ้านายของฉัน คุณคือเทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์ เป็นเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว คนที่ฆ่าล้างทหารของแปดประเทศมากกว่าหลายล้านคน และเมื่อหลายวันก่อน คุณคือปีศาจที่ฆ่าล้างทหารสามแสนคนของจักรวรรดิโรมันคุณมันเป็นปีศาจ
ทาคุยะมิยาโมโตะกรีดร้องออกมาทันที สายตาที่มองฉินเฟิง มีแต่ความเหลือเชื่อ
และในเวลานี้ เขาก็นึกอะไรบางอย่างออก: คุณคือเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว ถ้างั้นหน้ากากของคุณ คือหน้ากากของยอดฝีมืออันดับหนึ่งของประกาศมืดที่ชื่อปาซาง โอ้……พระเจ้า!
จนถึงตอนนี้ เขาพึ่งเข้าใจว่าฐานะที่แท้จริงของMR.Xคือใคร
เทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว
เทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์
คนที่ฆ่ายอดฝีมืออันดับหนึ่งของประกาศมืด เหมือนเชือดสุนัข
เป็นบุคคลสำคัญและแข็งแกร่งที่สุดในประเทศ
เมื่อสิบปีก่อน ประเทศต้าหัวนั้นไม่มีชื่อเสียงบนโลกเลย ตามชายแดนก็ถูกก่อกวนและโดนรุกล้ำอยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากนั้น ก็มีคนบ้าคนหนึ่ง และเป็นไอ้บ้าที่ไม่รักชีวิต ใช้เวลาเจ็ดปี สามารถปราบชายแดนของประเทศต้าหัวให้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
เมื่อห้าปีก่อน ประเทศซากุระส่งทหารทั้งหมดสองแสนนาย
ผู้บัญชาการทหารของอีสเตอร์แลนด์ก็คือฉินเฟิง เขานำทหารของประเทศต้าหัวเข้าไปต่อสู้ทหารของประเทศซากุระอย่างไม่คิดชีวิต ทำให้ทหารของประเทศซากุระตายไปจำนวนมาก เลือดที่ไหลออกมากลายเป็นทะเล
การสู้รบในครั้งนั้นทำให้เขาจำได้อย่างชัดเจน
ตั้งแต่นั้นมาประเทศต้าหัวก็มีชื่อเสียง และกลายเป็นประเทศมหาอำนาจ สู้รบจนทำให้ประเทศข้างๆที่ชอบเข้ามาก่อกวนและรุกล้ำดินแดนกลัวจนหัวหด โดยเฉพาะประเทศซากุระด้วย
หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ เขาได้สู้รบและฆ่าทหารของจักรวรรดิโรมันไปสามแสนกว่าคน ทำให้ชื่อเสียงเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ทำให้ทุกคนเกิดความหวาดกลัว
แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ เขามาที่นี่ มาที่เมืองเล็กๆอย่างเมืองเจียงเฉิง แต่กลับเจอเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว คนๆนี้น่าจะอยู่ที่ชายแดนไม่ใช่เหรอ
หนี
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นวิถีนักรบ หรือกรีดท้องฆ่าตัวตาย เขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับปีศาจ เขาคิดจะหนีอย่างเดียว แต่เขาวิ่งหนีได้เพียงแค่ก้าวเดียว เขาก็รู้สึกเวียนหัวและล้มลงไปกับพื้นทันที
ทหารภายใต้บัญชาการของฉัน บอกว่าคุณต้องตาย ถ้างั้นคุณก็ต้องตายจริงๆ ฉินเฟิงพูดออกมาเบาๆ
บาดแผลที่โดนแทง อันที่จริงได้ตัดเส้นเลือดหัวใจของทาคุยะมิยาโมโตะแล้ว
ก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่ตาย เป็นเพราะหมาป่าหางโตให้ทาคุยะมิยาโมโตะได้มีโอกาสได้พูดเรื่องสำคัญก่อนตายเท่านั้น แต่น่าเสียดาย คนๆนี้ไม่รักษาโอกาสนั้นไว้
เมื่อถึงตอนนี้ทาคุยะมิยาโมโตะที่มาจากประเทศซากุระและเป็นยอดฝีมือของประกาศมืด ได้เสียชีวิตแล้ว
ถึงเวลาของพวกคุณแล้ว
ฉินเฟิงยืนอยู่และมือไขว้หลัง มองไปที่หลี่เจิ้งหยาง
และในเวลานี้ หลี่เจิ้งหยางรู้สึกตื่นตระหนกตกใจมากๆ เขาไม่ได้นิ่งสงบเหมือนเมื่อสักครู่อีกแล้ว เพราะทาคุยะมิยาโมโตะที่สามารถปกป้องตระกูลของเขาได้ถูกทหารเล็กๆคนหนึ่งฆ่าตายไปแล้ว
และพวกเขาก็รู้ฐานะที่แท้จริงของฉินเฟิงแล้ว
เทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว เป็นคนที่ทรงอำนาจที่สุด และมีทหารอยู่ใต้บัญชาสามแสนคน
และคนๆนี้ไม่ใช่ตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลหลี่ของเมืองเจียงเฉิงจะสามารถล่วงเกินผิดใจได้ ถึงแม้เอาทุกคนในเมืองเจียงเฉิงมารวมกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัวอยู่แล้ว
คุณ……ฆ่าฉันไม่ได้……ฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย……คุณฆ่าฉันไม่ได้…… หลี่เจิ้งหยางพูดด้วยน้ำเสียงแหบ
ไม่มีหลักฐานเหรอ? หลักฐานอยู่นี่ไม่ใช่เหรอ
ฉินเฟิงก้มศีรษะลง เตะศพของทาคุยะมิยาโมโตะ จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา: เมืองเจียงเฉิงตระกูลหลี่ ติดต่อและสมรู้ร่วมคิดกับคนของประเทศซากุระ ฉันตัดสินแล้ว ต้องฆ่าล้างทั้งตระกูล
ความผิดของตระกูลหลี่ มันเยอะจนนับไม่ไหว งั้นก็ไม่ต้องนับแล้ว
จากหลักฐานที่ฉีหยุนรวบรวมได้ ตระกูลหลี่มีทั้งหมดสิบสามคน ทุกคนล้วนมีความผิด และสามารถหาหลักฐานความผิดของทุกคนได้ ทำตามกฎหมายก็คือฆ่าล้างทันที การฆ่าล้างตระกูลครั้งนี้ก็สมควรแล้ว
อย่า……อย่า……อย่า……
มีองครักษ์หมาป่าคนหนึ่งถือมีดทหาร เดินออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ทำให้หลี่เจิ้งหยางตกใจมากๆจนรีบถอยหลังทันที แต่องครักษ์หมาป่าคนนั้นก็ไม่ได้เดินถอยหลังกลับไป
ในเวลานี้ หลี่เจิ้งหยางเข้าใจดีแล้ว ไม่ว่าตัวเองจะทำอะไร ตระกูลหลี่ก็ไม่มีทางรอด เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว ตระกูลหลี่คงต้องจบเห่อย่างแน่นอน
แต่เขาไม่เต็มใจ
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ตระกูลหลี่ไปล่วงเกินผิดใจกับบุคคลสำคัญระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เทพสงคราม ฉันอยากจะถามคุณ ตระกูลหลี่ของเราล่วงเกินผิดใจกับคุณยังไง? โดยปกติพวกเราพวกเราทำอะไรก็จะรู้จักประมาณตน และไม่เคยล่วงเกินผิดใจกับบุคคลที่มีอำนาจ หลี่เจิ้งหยางถามด้วยความไม่เต็มใจ
พวกเราล่วงเกินตั้งแต่เมื่อไร ถึงทำให้บุคคลสำคัญขนาดนี้มาหาเรื่องตระกูลหลี่
ถึงแม้ตระกูลหลี่ล่วงเกินผิดใจกับคุณ แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับฉัน ฉันเป็นคนของตระกูลอิ่นของเมืองเจียงเฉิง ฉันชื่ออิ่นป่าย ฉันไม่ใช่คนของตระกูลหลี่ ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยฉันจากไป
เมื่อรู้ว่าตระกูลหลี่จบเห่แน่นอน ในเวลานี้อิ่นป่ายคือคนที่ประหม่าที่สุด เขาเป็นคนของตระกูลอิ่น อยู่ดีไม่ว่าดีเอาตัวเองเข้ามายุ่งกับเรื่องของตระกูลหลี่ทำไม
นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรเข้ามายุ่งด้วย
และเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัวก็ไม่ยอมปล่อยให้เขาจากไป
เขากลัวจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว เขาคิดอยู่ตั้งนาน ตัวเองเป็นแค่คนเล็กๆคนหนึ่งและไปล่วงเกินผิดใจกับเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัวได้ยังไง มันเหลือเชื่อมากๆ เพราะพวกเขาสองคนไม่เคยรู้จักหรือเกี่ยวข้องกันเลย
ฉันเคยพูดแล้ว คุณฆ่าลูกและภรรยาของฉัน ฉินเฟิงพูดเบาๆ
เป็นไปได้ยังไง คนของตระกูลหลี่จะกล้าไปสังหารภรรยาและลูกของเทพสงครามได้ยังไง คุณกำลังพูดเรื่องตลกใช่ไหม ถึงแม้จะมีโอกาสแต่พวกเราก็ไม่กล้าทำอยู่แล้ว หลี่เจิ้งหยางพูดด้วยความขมขื่น
กล้าไปฆ่าลูกและภรรยาของเทพสงคราม เป็นเรื่องที่ฆ่าตัวตายชัดๆ
ทำไมพวกคุณลืมง่ายจัง?
ฉินเฟิงยืนมือออกมาและกดไปที่หน้ากากตัวเอง และปลดมันลงมา และเผยให้เห็นใบหน้าที่มีความโหดเหี้ยมเล็กน้อย: คืนนี้ พวกคุณบงการคนขับ ไปชนภรรยาของฉันให้ตาย ส่งมือปืนไปฆ่าลูกสาวของฉัน พวกคุณพูดสิ ความแค้นแบบนี้ มันเพียงพอที่ฉันจะฆ่าล้างตระกูลของพวกคุณไหม
ฉินเฟิง!
หลี่เจิ้งหยางกับอิ่นป่ายอึ้งไปเลย สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะตาย ได้ฝั่งเข้าไปใจจิตใจของพวกเขา พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ คนที่ทรงอำนาจที่สุด และเป็นเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว ก็คือฉินเฟิงที่เป็นลูกเขยของตระกูลอิ่น
และเป็นไอ้เศษสวะไร้น้ำยาที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงเฉิงอีกด้วย
เขาคือฉินเฟิงที่เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลอิ่น ทำงานบ้านทุกวัน ไม่เคยบ่นสักคำ โดนดุโดนว่าก็ไม่เคยพูดสักคำ แต่เขากลับเป็นเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัว
โดยเฉพาะอิ่นป่าย เขาเคยด่าฉินเฟิงมาแล้วหลายครั้ง ด่าฉินเฟิงคือไอ้เศษสวะไร้น้ำยา เป็นยาจกขอทาน แต่ใครก็ไม่คาดคิด ว่าฐานะที่แท้จริงของเขาใหญ่กว่าทุกคนในเมืองเจียงเฉิงอีก
เป็นไปไม่ได้!
อิ่นป่ายไม่อยากจะเชื่อ มองเรื่องนี้ด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงและหวาดกลัว: ทำไม ไอ้เศษสวะไร้น้ำยาอย่างคุณ ถึงเป็นเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศหัว ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้!
น้ำเสียงของเขาเริ่มแหบแห้ง
ถึงแม้เขาจะไม่อยากเชื่อ แต่เขาก็ได้คำตอบจากศพของทาคุยะมิยาโมโตะ คนๆนี้คือเทพสงครามเบอร์หนึ่งของประเทศต้าหัวจริงๆ และเขาก็เข้าใจดี ทำไมอิ่นซินทำเรื่องอะไรก็ราบรื่นไปหมด เมื่อเจอปัญหา ก็จะมีคนค่อยช่วยเธอตลอด
ในที่สุดเขาก็เข้าใจ
ไม่ใช่เพราะอิ่นซินดวงดี และก็ไม่ใช่เพราะตู้ต้วนเทียน
มีเสียงตุ๊บดังขึ้น
อิ่นป่ายล้มลงกับพื้น สีหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พูดด้วยความขมขื่น: คุณปิดปังเรื่องทั้งหมด คุณต้องการอะไรกันแน่?