เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 52 ดอกเบี้ยสามล้าน
สงสัยคจะเป็นแบบนั้น
ฉินเฟิงมองหญิงสาวผู้มีเสน่ห์ที่แต่งตัวงามเพริศพริ้งที่อยู่ข้างเขา ปากรูปเชอร์รี่ ก่อนหน้านี้ยังรู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้เมื่อเก็บเงินได้แล้ว รอยยิ้มอันแสนหวานก็วาดขึ้นที่มุมปาก
มันทำให้ฉินเฟิงนึกอยากเข้าไปจูบ
น่าเสียดายที่ อิ่นซินไม่ได้ให้โอกาสนี้กับเขา เธอเอนตัวพิงอยู่ครู่หนึ่งแล้วผละออกไป ก่อนจะพูดอย่างแอบดีใจ นี่เป็นเรื่องยุ่งยากเรื่องสุดท้ายที่บริษัทมอบหมายให้ฉัน หลังจากเก็บเงินก้อนนี้ได้ ก็เกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไป กลับบริษัทไปรายงานผลงานกันเถอะ
ตอนแรกคุณท่านอิ่นได้ขัดขวางเส้นทางนี้อิ่นซินจะได้เป็นประธาน เพราะเรื่องสร้างความขุ่นเคืองให้กับบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป จนเกิดเป็นปัญหามากมาย แต่ในตอนนี้เรื่องพวกนี้ได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว
เธอต้องกลับไปที่บริษัท!
บริษัทซานหยวนกรุ๊ป
หลังจากที่อิ่นซินและฉินเฟิงกลับมาถึงบริษัท อิ่นซินก็ถามเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งว่า คุณปู่อยู่ที่ไหน?
กำลังประชุมอยู่ที่ชั้นบน
เพื่อนร่วมงานคนนั้นชี้ไปที่ห้องทำงานที่อยู่ชั้นบน
เนื่องจากเป็นธุรกิจของครอบครัว ดังนั้นอิ่นซินจึงเรียกว่าคุณปู่ตรงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เธอเดินตรงขึ้นไป หาห้องทำงานนั้นจนพบแล้วเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก
อิ่นซินปัจจุบันเป็นสมาชิกคณะกรรมการ มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการประชุม
เข้ามา
มีเสียงมาจากด้านใน จากนั้นอิ่นซินและฉินเฟิงก็เดินเข้าไป ทันทีที่เดินเข้าไป ห้องประชุมทั้งห้องก็เงียบลง ฉินเฟิงกวาดสายตามอง คุณท่านอิ่นยังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งประธานเช่นเคย
อิ่นเสี้ยงสวี่และอิ่นป่ายอยู่เคียงข้างเขา
ฮ่าฮ่า นางเอกมาแล้ว การประชุมในวันนี้เธอไม่ควรบุกเข้ามา ใครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ก็รู้สึกแย่กันทั้งนั้น
ไม่มีทางเลือก คุณท่านให้ความสำคัญผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เขาไม่ชอบลูกสาว แม้แต่อิ่นเสี้ยงสวี่เองก็เป็นที่โปรดปรานของคุณท่านเพราะเธอมีน้องชาย
ใครใช้ให้บ้าน อิ่นหยวนมีลูกสาวสองคนล่ะ
ผู้ชนเริ่มพูดคุยกันเอง
อิ่นซินได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลทันที เธอเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า คุณปู่ การประชุมวันนี้เกี่ยวกับอะไร? ฉันในฐานะสมาชิกคณะกรรมการ มีสิทธิ์ที่จะรู้
ประชุมเกี่ยวกับผู้เป็นตัวเลือกประธานรักษาการ
คุณท่านอิ่นกำลังจับไม้เท้าอันหนึ่ง
คุณปู่อายุมากแล้ว ไม่สะดวกที่จะนั่งเป็นประธานตลอดเวลา ดังนั้นพวกในฐานะคนรุ่นหลังควรกล้าที่จะส่องแสงให้กับวงศ์ตระกูล ลุกขึ้นยืนอย่างกล้าหาญ ช่วยคุณปู่แบ่งเบาภาระ
อิ่นป่ายกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังอยู่ข้างๆ อย่างสง่าผ่าเผย
ใช่ ใช่ อิ่นป่ายอายุยังน้อย จบปริญญาโท มีความสามารถ แถมยังหนุ่มแน่น เขาคือพรสวรรค์ในหมู่คนรุ่นใหม่ของตระกูล
เรื่องนี้ฉันเห็นด้วย อิ่นป่ายเต็มไปด้วยพลัง ตำแหน่งรักษาการประธานก็เหมาะสมอย่างยิ่ง
ฉันก็สนับสนุนเหมือนกัน
กลุ่มคนพากันยกมือขึ้นเพื่อแสดงว่าพวกเขาสนับสนุนอิ่นป่าย
พวกคุณ!
อิ่นซินมองไปรอบๆ ไม่มีใครสนับสนุนเธอเลย ควรจะรู้ว่า เริ่มแรกเธอเป็นคนก่อตั้งบริษัทซานหยวนกรุ๊ปมาด้วยตัวเอง คนเหล่านี้มาหาเธอเพื่อแสวงหาตำแหน่ง
เธอไม่ได้ใจแคบ ถ้ามีความสามารถ เธอก็เลื่อนตำแหน่งให้ทั้งหมด คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้ทั้งหมดจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ
คุณปู่ ตอนแรกท่านบอกไว้ว่า ใครได้โครงการของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปไปก็จะได้เป็นประธาน ตอนนี้ท่านจะผิดสัญญาอีกแล้วเหรอ? ท่านก็อายุเจ็ดสิบแล้ว เป็นที่นับหน้าถือตาของคนอื่นๆ นะครับคุณท่าน
ฉินเฟิงก้าวออกมาเผชิญหน้ากับคุณท่านอิ่น
ฉินเฟิง คุณเป็นแค่คนยากจน คุณมีสิทธิ์มาพูดตรงนี้เหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะอิ่นซิน คุณจะไม่สามารถเข้ามาในบริษัทซานหยวนกรุ๊ปของพวกเราด้วยซ้ำ
อิ่นป่ายตะคอกใส่ฉินเฟิง
ในเวลานี้ อิ่นซินได้เข้าไปอยู่เคียงข้างฉินเฟิงแล้วกล่าวอย่างหนักแน่น ความเห็นของเขาก็คือความเห็นของฉัน คุณปู่คะ ท่านเคยพูดอย่างนั้นมาก่อนจริงๆ ท่านพูดแล้ว ว่าท่านจะรักษาสัญญา ไม่ใช่หรือคะ?
ฮ่าฮ่า
อิ่นเสี้ยงสวี่หัวเราะเยาะ อิ่นซิน ตอนแรกพูดอย่างนั้นจริงๆ แต่ในครั้งนั้นเธอได้ล่วงเกินบริษัทซานหยวนกรุ๊ป บริษัทซานหยวนกรุ๊ปสร้างปัญหาให้กับพวกเรามากมาย เรื่องไม่ควรเป็นความรับผิดชอบของเธอหรอกหรือ? จริงสิ โดยเฉพาะกรณีของอสังหาริมทรัพย์หยวนฟาง
ฉันทำเสร็จแล้ว
อิ่นซินเอาสัญญาจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางวางไว้บนโต๊ะ
เสร็จแล้ว? ล้อเล่นหรือเปล่า
อิ่นเสี้ยงสวี่บุ้ยปาก ทำสีหน้าเหลือเชื่อ บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปได้แจ้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทก่อสร้างชั้นนำไม่กี่แห่งในเมืองเจียงเฉิง บริษัทอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางไม่มีทางปฏิเสธ
ยังเซ็นสัญญาแล้วอีกด้วย
มันเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ผู้ถือหุ้นที่อยู่ข้างๆ อิ่นซินมองดูแล้วกล่าวว่า นี่คือประธานอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางจริงๆ ชื่อหลี่หย่วน
อะไรนะ!
อิ่นเสี้ยงสวี่ตกตะลึง เซ็นชื่อจริงๆ เหรอ?
เป็นไปได้อย่างไร?
แต่วินาทีต่อมา สีหน้าของอิ่นเสี้ยงสวี่ก็ผ่อนคลายลง ทำไมเหรอ น้องสาว คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เธอจะใช้วิธีการที่ไร้ยางอายขนาดนี้ กล้าเซ็นชื่อเองเพื่อเอามาจัดการกับพวกเรา ใช่ไหม? น่าเสียดาย น่าเสียดายที่พวกเราไม่ติดกับ เลขาหลิว รบกวนตรวจสอบด้วยว่ามีเงินจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางเข้ามาหรือไม่
ได้ครับ
มีเลขาคนหนึ่งอยู่ในที่ประชุมด้วย พอได้ยินคำสั่งก็ออกไปทันที
ฮ่า น้องสาว วิธีการของเธอแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้กล้าทำเอกสารเท็จขึ้นมาอีกชุดแล้ว
อิ่นหนิงหยู่ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ
ใช่ บริษัทยังมีกฎอยู่ ทำเอกสารเท็จมาหลอกพวกเรา มันเป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ได้แก่เลอะเลือนนะ
วิธีการแบบเธอมันช่างเลวร้ายมากจริงๆ ทำให้ตระกูลอิ่นของเราต้องอับอาย
เรื่องนี้ร้ายแรงมาก ถ้าถูกทางอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางฟ้องขึ้นมาล่ะก็ ให้ตายสิ พอถึงตอนนั้นคงจะมีปัญหามากมาย โครงการของบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปที่ได้มาจะขยายตัวมากเกินไป ถ้าเธอไม่เชื่อก็เรียนรู้จากน้องชายของเธอสิ วางตัวเฉยในทุกสถานการณ์
หลายคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ แต่ส่วนใหญ่นั้นกล่าวโทษอิ่นซิน
วางตัวเฉยในทุกสถานการณ์
อิ่นซินเยาะเย้ยตัวเอง
จะเอาอะไรมาวางตัวเฉยในทุกสถานการณ์ อิ่นป่ายผู้นี้ เป็นที่รักของครอบครัวมาตั้งแต่เกิด แม้แต่บริษัทซานหยวนกรุ๊ปที่เธอก่อตั้งมากับมือ ตอนนี้ยังต้องยัดเยียดให้อิ่นป่าย เขาไม่เคยถูกสบประมาทเลยสักนิด มีแต่ได้รับความรัก
ไม่เป็นไร คุณมีผมที่รักคุณ
ฉินเฟิงจับมืออิ่นซินไว้
อิ่นซินปรายตามองฉินเฟิงแต่ไม่ตอบอะไร แต่คราวนี้เธอไม่ได้สะบัดหนีจากมือของฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าเธอเห็นด้วยกับคำพูดของฉินเฟิง เธอเองก็มีคนรักเหมือนกัน
ในขณะนั้นเอง เลขาหลิวก็กลับมา
เลขาหลิว เป็นยังไงบ้าง ไม่มีเงินโอนจากอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางเข้ามาใช่ไหม สิบสองล้าน ไม่มีมาสักหยวนเดียวเลยใช่ไหม?
เมื่อได้ยินคำถามของอิ่นเสี้ยงสวี่ ทุกคนก็เบนสายตาไปที่เลขาหลิว
ครับ ไม่มีสิบสองล้าน
เลขาหลิวส่ายหน้า
ฮ่าฮ่า ได้ยินไหมอิ่นหนิงหยู่ ไม่มีสิบสองล้าน…
อิ่นเสี้ยงสวี่หัวเราะเยาะจนท้องคัดท้องแข็ง แต่วินาทีต่อมา เลขาหลิวก็รีบพูดออกมาว่า ไม่มีสิบสองล้าน อสังหาริมทรัพย์หยวนฟางโอนเข้ามาเป็นจำนวนสิบห้าล้าน ผมตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน อีกสามล้านทางอสังหาริมทรัพย์หยวนฟางชี้แจงว่าเป็นดอกเบี้ยที่ติดหนี้มานาน