เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่ 69 ทรยศตระกูลอิ่น
อะไรนะ!
อิ่นซินนิ่งอึ้ง บนมือยังถือสัญญาฉบับหนึ่งไว้ ด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ และถามในทันทีว่า: พวกเราทำอะไร? ทำผิด ทำผิดอะไร?
แกยังไม่อยากยอมรับอีกเหรอ
คุณท่านอิ่นซินสีหน้าเคร่งขรึม และพูดว่า: อิ่นซิน เมื่อคืนนี้ฟางเย้นคุณชายฟางเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แขนขาทั้งห้าหัก ไร้ผู้สืบสกุล บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปต้องการให้พวกเรามอบตัวผู้กระทำความผิด และผู้กระทำความผิดคือแกและสามีเศษสวะคนนั้นของแก
ลูกสาว ทำไมลูกถึงได้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่าคุณชายฟางคนนั้นจะโดนทำร้ายจนกลายเป็นแบบนั้น ฉินเฟิงด้วย แกเป็นตัวซวย ตั้งแต่ที่แกมาก็เกิดเรื่องราวหลายอย่าง
สีหน้าของอิ่นหยวนเป็นกังวลอย่างมาก
เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ให้ความสำคัญกับการสืบสานของตระกูล และบรรพบุรุษมากที่สุด นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงต้องการกลับไปสู่ตระกูลมาโดยตลอด แต่ตอนนี้โดนไล่ออกจากตระกูลโดยตรง
อิ่นซิน แกให้ฉินเฟิงทำร้ายคุณชายฟางจนกลายเป็นแบบนั้น แกตั้งใจทำอะไรกันแน่
แกต้องการจะทำอะไรกันแน่ อยากจะดึงบริษัทซานหยวนกรุ๊ปล่มจมเหรอ ยังดีที่ตอนนั้นปลดแกลงจากตำแหน่งประธานนั้น ไม่อย่างนั้น ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
พวกแกสองคน ผู้กระทำผิด
คนในตระกูลอิ่นมากมายจับจุดด่าว่าอิ่นซินกับฉินเฟิง เหมือนราวกับว่าพวกเธอทำเรื่องเลวร้ายที่สุด
แต่ทว่า ในเวลานี้ อิ่นซินยิ้ม ยิ้มอย่างค่อนข้างเจ็บปวด: ฉันถามพวกคุณหน่อย พวกคุณรู้มั้ยว่าเมื่อวานนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง? พวกคุณไม่รู้ ฉันจะบอกพวกคุณให้ ฟางเย้นลักพาตัวฉัน ฉันเป็นผู้หญิง เขาลักพาตัวฉัน สิ่งนี้ พวกคุณน่าจะรู้ว่าจะทำอะไรนะ ถ้าไม่ใช่สามีของฉัน วันนี้ฉันไม่สามารถที่จะยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างครบสมบูรณ์แล้ว
เธอนึกขึ้นมาได้แล้ว
เมื่อวานนี้ฟางเย้นลักพาตัวเธอ ในขณะที่เธอหมดสติอยู่ ได้ยินเสียงของฉินเฟิงอย่างคลุมเครือ
หลังจากที่พูดจบ เธอเอนตัวพิงบนตัวของฉินเฟิง เงยหน้าขึ้น มองไปที่ฉินเฟิง และด้วยความซาบซึ้งใจเล็กน้อยว่า: ขอบคุณค่ะ
ครอบครัวเดียวกัน
ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย
……
ทั้งหมดเงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีใครกล้าพูดอะไร พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบว่าทำไมถึงได้มีเรื่องแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าฟางเย้นท้าทายก่อน หากฉินเฟิงไม่ทำแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นอิ่นซิน จุดจบก็เป็นที่น่ากังวล
แต่ทว่า ในเวลานี้ อิ่นป่ายเดินออกมา ชี้ไปที่อิ่นซิน: อิ่นซิน แกเป็นคนของตระกูลอิ่นหรือเปล่า อยู่ต่อหน้าปัญหาความถูกต้องและความไม่ถูกต้อง เสียสละบ้าง ไม่ได้เลยงั้นเหรอ? ถ้าหากแกไม่เสียสละ งั้นตระกูลอิ่นก็จบเห่แล้ว เพื่อตระกูล แกไม่ควรที่จะต่อต้าน
ใช่ เพื่อตระกูล แกควรจะเสียสละบ้าง
อิ่นเสี้ยงสวี่ก็เดินออกไป
และในเวลานี้ คนอื่นต่างคนต่างมองหน้ากัน ต่อจากนั้นก็มีหลายคนลุกขึ้นออกมา: อิ่นซิน เพื่อตระกูล เสียสละบ้างแล้วยังไง ก็ไม่ได้เสียเนื้อไปสักชิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นฟางเย้น ดีกว่าเศษสวะนั้นของแก หลายพันเท่านะ
อิ่นซิน แกนามสกุลอิ่น เป็นคนตระกูลอิ่น เป็นคนของตระกูลพวกเรา เพื่อตระกูลแล้ว มีส่วนช่วยบ้าง ไม่ถูกต้องเหรอ ในเมื่อคุณชายฟางถูกใจ งั้นแกก็เชื่อฟังคุณชายอย่างว่าง่ายก็พอแล้ว จริงๆเลย
เพราะอำนาจของตระกูลฟางแข็งแกร่งมากเกินไป ทำให้คนหวาดกลัว ผู้คนมากมายทยอยสนับสนุนความคิดเห็นของอิ่นป่าย
ในเมื่อเป็นคนตระกูลอิ่น ถ้าอย่างนั้นมีส่วนช่วยตระกูลบ้าง แล้วทำไม
ลูกสาว
อิ่นหยวนอยู่ข้างๆไม่พูดอะไร แม้เขาหวังว่าจะได้กลับสู่ตระกูล แล้วก็ไม่ต้องการให้ลูกสาวของตัวเองได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นตอนนี้หอกโล่ปะทะกันเอง(ขัดแย้งกันเอง)
พวกคุณนี่มันไร้ยางอายกันจริงๆ
ในขณะนี้เอง ฉินเฟิงเงยหน้าขึ้น กวาดสายตามองไปที่คนเหล่านี้ และพูดว่า: พวกคุณเอาแต่พูดว่าอิ่นซินเป็นคนตระกูลอิ่น ควรที่จะมีส่วนช่วยเหลือตระกูลอิ่นบ้าง แต่ว่า พวกคุณคิดว่าเธอเป็นคนตระกูลอิ่นมั้ย?
เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ขัดขวางเธออยู่ที่บริษัท ห้ามไม่ให้เธอไป ถึงขนาดยังทุบไข่ไก่ใส่เธอ
ผมถามพวกคุณหน่อย นี่ก็เป็นสิ่งที่พวกคุณบอกว่า คนตระกูลอิ่นงั้นเหรอ?
คำพูดของฉินเฟิง ทำให้พวกเขานิ่งอึ้ง แต่ว่ายังมีคนด่าทอออกมาในทันทีว่า: ฉินเฟิง แกก็เป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าที่เกาะผู้หญิงกินเท่านั้นเอง ตอนแรกเป็นแค่ขอทานข้างถนนเท่านั้นเอง ถ้าไม่ใช่ตระกูลอิ่น แกยังมีชีวิตอยู่มั้ย? แกยังจะพูดแบบนี้ได้อีกเหรอ! ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้
คำพูดหยาบคายไม่สุภาพ
ฉันคิดว่า คุณต่างหากที่ควรไสหัวออกไป
ในเวลานี้ อิ่นซินจ้องมองผู้ชายคนนั้น ด้วยท่าทางไม่พอใจและพูดว่า: อะไรเรียกว่าเพราะตระกูลอิ่น สามีฉันเป็นสามีของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอิ่นแม้แต่น้อย
จากนั้นอิ่นซินก็มองไปทางคุณท่านอิ่น: คุณปู่ ปู่แน่ใจว่า จะไล่หนูออกจากตระกูลเหรอ?
แกไม่ต้องเรียกฉันว่าปู่
คุณท่านอิ่นเปล่งเสียงที่ค่อนข้างชราแก่ออกมา
โอเค ดีมาก ตั้งแต่เล็กคุณก็ไม่เคยคิดว่าฉันเป็นคนในครอบครัว และไม่เคยดีต่อฉันมาก่อน ถึงขนาดตอนที่เกิดเรื่องเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว คุณยังร่วมมือกับคนในตระกูล ยึดบริษัทซานหยวนกรุ๊ปของฉันไป แต่ว่า ฉันไม่เคยโกรธเกลียดคุณมาเลย
แต่ว่า วันนี้ ฉันเกลียดแล้ว ฉันทนตระกูลอิ่นนี้มามากแล้ว พุ่มเป้ามาที่ฉันตลอด ตั้งแต่เล็กจนโต พวกคุณไม่เคยคิดว่าฉันเป็นคนในตระกูลอิ่นมาก่อน เพียงแค่คิดว่าเป็นเครื่องมือหลอกใช้งาน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันทรยศตระกูลอิ่นนี้ จำไว้ด้วยว่าฉันเป็นคนทรยศเอง ไม่ใช่ถูกพวกคุณไล่ออกมา
เริ่มตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันเพียงแค่นามสกุลอิ่นอย่างเดียว ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอิ่นแม้แต่น้อย
อิ่นซินตกอยู่ในอารมณ์แปรปรวนอย่างฉับพลัน เธอทนมาพอแล้วจริงๆ ทนตระกูลอิ่นนี้มาพอแล้ว และก็ทนคุณท่านอิ่นที่ไม่เคยคิดว่าเธอเป็นคนในครอบครัวมาก่อนพอแล้ว อยู่ในตระกูลอิ่นนี้ มีเพียงแต่ความเย็นชา
สามี พวกเรากลับบ้านกัน
อิ่นซินดึงฉินเฟิงเตรียมที่จะออกไป เธอไม่อยากอยู่สถานที่แห่งนี้ต่อไปสักวินาทีเดียว
อิ่นซิน หยุดเดี๋ยวนี้ หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทซานหยวนกรุ๊ปที่อยู่ในมือของเธอ ต้องคืนให้บริษัท นี่เป็นของแลกเปลี่ยนที่แกก่อเรื่องให้กับบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป
มีผู้ชายตระกูลอิ่นคนหนึ่ง ไล่ตามมา
แต่ทว่า สิ่งที่ตามมาด้วย มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นของฉินเฟิง
ไสหัวไปซะ!
ทันใดนั้นผู้ชายคนนั้นในตระกูลอิ่น ก็ราวกับตกลงไปในห้องน้ำแข็ง เยือกเย็นจับกระดูก และจากนั้นก็เป็นมีดเล่มใหญ่เฉียบคม จี้อยู่ที่บนคอของเขา ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย
เพล้งทีหนึ่ง
กลัวจนล้มลงไปอยู่บนพื้น ดวงตาทั้งสองก็ค่อนข้างหมองคล้ำ
เศษสวะ ถูกขอทานคนหนึ่งทำให้กลัวจนกลายเป็นแบบนี้
อิ่นป่ายมองไปที่ผู้ชายตระกูลอิ่นคนนั้นแวบหนึ่ง ด่าออกมา ผู้ชายตระกูลอิ่นคนนั้นเป็นน้องชายในสายของเขา แต่คาดไม่ถึงว่าต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ถูกทำให้กลัวจนกลายเป็นแบบนี้
เอ่อ พ่อ ไตร่ตรองดูอีกทีได้หรือเปล่า?
อิ่นหยวนลุกขึ้นมา และอ้อนวอนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
ลุงใหญ่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้โอกาสพวกคุณ ลุงก็เห็นแล้ว ท่าทีนั้นของอิ่นซิน แต่ล่ะคำก็ล้วนเป็นความผิดของพวกเรา เป็นพวกเราที่บีบคั้นเธอ นี่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา หากไม่ใช่ว่าเธอหาเรื่องคุณชายตระกูลฟาง จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง
อิ่นป่ายถอนหายใจ ลุกขึ้นออกมาพูดแทนคุณท่านอิ่นว่า: พวกคุณไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่า บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปแข็งแกร่งมากแค่ไหน เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมการก่อสร้างของเมืองเจียงเฉิง ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างอิ่นซิน จะทำให้ขุ่นเคืองใจได้