เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่2 นับประสาอะไรกับตระกูลฉิน
บทที่2 นับประสาอะไรกับตระกูลฉิน
เสี่ยวซิน
ฉินเฟิงใจสั่นก้าวไปข้างหน้าก้าวนึงพลางยื่นมือออกมาอยากสัมผัสอิ่นซิน เจ็ดปีแล้ว
เจ็ดปีเต็มๆ
จู่ๆ การทักทายของอิ่นซินเป็นการตบ
เพี๊ยะ
ตบไปที่หน้าของฉินเฟิง ฉินเฟิงไม่ได้หลบ ฉีหยุนที่อยู่ด้านหลังสีหน้าเปลี่ยนไปและชักมีดออกมาแต่กลับถูกฉินเฟิงยื่นมือไปหยุดไว้
ฉินเฟิงคุณยังกล้าที่จะกลับมาอีกเหรอ! คุณยังกล้าที่จะกลับมาอีกเหรอ!
เสียงของอิ่นซินมาพร้อมกับเสียงร้องไห้
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เธอถูกคู่แข่งลอบกัดคืนนั้นเลยมีความสัมพันธ์กับฉินเฟิง ต่อมาเพราะเรื่องนั้นเริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เธอได้แต่งงานกับฉินเฟิงหลังจากนั้นก็พาฉินเฟิงกลับไปที่ตระกูลอิ่นจึงสังเกตเห็นว่าไม่สามารถทนได้ขนาดนั้น
เพราะได้แต่งงานรับทะเบียนสมรสแล้ว เธอจึงถูกบังคับให้สารภาพเหตุการณ์นั้นและสารภาพชะตากรรม เธอเตรียมที่จะพาฉินเฟิงออกมาด้วยมือของเธอเองแต่ไม่คิดว่าวันที่สองฉินเฟิงจะหนีไป
นำสินสอดและเงินทั้งหมดรวมสองแสน และยังไปยืมกับแม่หนึ่งแสนบอกว่าต้องรีบใช้
หลังจากนั้นเธอก็ท้อง เวลาเจ็ดปีเต็มไม่มีใครรู้ว่าเธอใช้ชีวิตยังไง เธอถูกประชดเสียดสี ต้องรับกับความรู้สึกน้อยใจนับไม่ถ้วนแต่เธอก็ผ่านมาได้แต่วันนี้ไอ้สารเลวนี้กลับมา
เวลานี้ กลับมาทำไร!
เสี่ยวซิน ตอนนั้น…..
ฉินเฟิงอยากอธิบายให้กับอิ่นซิน แต่อิ่นซินไม่ให้โอกาสนี้กับเขาและทำหน้าเย็นชาใส่ อธิบาย? ฉันไม่อยากฟังคำอธิบาย กั่วกั่วไปเรากลับบ้านกัน
จากนั้นลากฉินกั่วกั่วกลับบ้าน
ฉินกั่วกั่วจับมือของอิ่นซินไว้ แต่ยัยตัวเล็กคนนี้ก็หันกลับไปมองฉินเฟิงและมองฉินเฟิงอย่างทำอะไรไม่ถูก
พ่อ? แม่เคยบอกหนูแล้วว่าหนูไม่มีพ่อ หนูถูกซื้อมาจากร้านค้าที่ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเข้าใจรึยัง แม่ไม่อนุญาตให้หนูเรียกเขาว่าพ่อเขาไม่เหมาะสมด้วยซ้ำกลับ อิ่นซินพูดอย่างเยือกเย็นมาก
หลังจากที่อิ่นซินจากไป ฉีหยุนก็พูดอย่างไม่พอใจ นายพลคุณถูกตบหน้าไปตั้งหนึ่งครั้ง คุณเป็นนายพลอันดับหนึ่งของค่ายทหารนะ เทพแห่งอีสเตอร์แลนด์อะ ฆ่ากองทัพของศัตรูไปสามแสนนายเป็นวีรบุรุษของประเทศ ทำไมต้องมารับความไม่เป็นธรรมแบบนี้?
เขาเดือดดาลอย่างมาก เพราะมีแค่เขาที่รู้ว่าหลายปีมานี้ที่ฉินเฟิงอยู่เมืองอีสเตอร์แลนด์ก็เพราะสิ่งที่ชายแดนทำและยังรู้รอยแผลที่อยู่บนตัวฉินเฟิง ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเฟิงอย่าว่าแต่เมืองเจียงเฉิงเลยจิงตูอาจจะสาบสูญไปแต่แรกแล้ว
นี่คือวีรบุรุษ
แต่ว่า ฉินเฟิงโบกมือและมองไปทางที่อิ่นซินจากไปสายตามีแต่คำขอโทษ เป็นฉันที่ติดหนี้สองแม่ลูกนี้ต่างหาก
ตอนที่อิ่นซิ่นพูดประโยคนั้น ‘หนูไม่มีพ่อ หนูถูกซื้อมาจากร้านค้าที่ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งแม่ไม่อนุญาตให้หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาไม่เหมาะสมด้วยซ้ำ’ ไม่มีใครรู้ว่าใจเขานั้นเจ็บแค่ไหน
ในช่วงที่ฉินเฟิงเตรียมที่จะตามไป ก็มีรถโรลส์รอยซ์สีดำป้ายทะเบียน8888ปรากฏตรงหน้าเขา คนที่ลงมาจากรถเป็นชายชราหัวงอก ถ้ามีคนเห็นต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน
เพราะนี่คือพ่อบ้านของตระกูลฉินในจิงตู
ทันใดนั้น เขาก็โค้งคำนับ และเดินมาอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มอย่างสุภาพ และพูดอย่างถ่อมตัว พ่อบ้านตระกูลฉินในจิงตูฉินเทียนเฉิงมารับคุณชายน้อยที่อยู่ในความดูแลของตระกูลฉินกลับจิงตู
อยู่ในความดูแลของตระกูลฉินงั้นเหรอ? เหอะพ่อที่เย่อหยิ่งและอยู่ยงคงกระพันของผม ทำไมมีหน้าพูดแบบนี้ออกมา บอกมาตรงๆ อยากได้เงินของผมหรืออำนาจของผมกันล่ะ?
ฉินเฟิงเห็นคนๆนี้ก็ยกยิ้มขึ้นมาสีหน้าเปลี่ยนพลางพูด วินาทีที่หมอนั่นถีบหัวส่งแม่กับผมออกมา ผมก็ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับเขาแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันและตระกูลฉินก็ไม่เกี่ยวข้องกับผมสักนิด อีกอย่างช่วยส่งคำพูดของผมให้กับหมอนั่นด้วยว่า ถ้าไม่ใช่เพราะแม่สั่งเสียก่อนตายว่าไม่ให้ล้างแค้นหมอนั่น ไม่งั้นตอนนี้มันได้อยู่ในเส้นทางนองเลือดแล้ว
ในปีที่หิมะตก เขาอายุได้เจ็ดขวบพ่อที่แสนเย่อหยิ่งของเขาได้แต่งงานกับคุณหนูของตระกูลใหญ่ พวกเขาถูกไล่ออกจากบ้านเนื่องจากชื่อเสียงและตัวตนที่ต้อยต่ำ
ต่อมาแม่ของเขาป่วยตายระหว่างทาง
และเขาก็กลายเป็นเด็กกำพร้าที่เร่ร่อนไปมา
ฉินเทียนเฉิงถอนหายใจ ในที่สุดก็ต้องโค้งคำนับก่อนจะพูด ช่วงนี้บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปจะปักหลักอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง ชื่อนี้เป็นชื่อที่แม่ของคุณนำชื่อของคุณและของเธอมาตั้ง ธุรกิจที่สร้างมาด้วยน้ำมือของเธอเอง ในวันนี้แม่ของคุณก็เสียแล้วงั้นบริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปก็ควรเป็นของคุณ
ฉินเทียนเฟิงผมขอถามคำถามนึง ถ้าเกิดวันนี้ผมยังเป็นคนจนๆพวกคุณจะคืนมันให้กับผมไหม?
สายตาฉินเฟิงจ้องไปที่ฉินเทียนเฉิง
ฉินเทียนเฟิงน้ำท่วมปาก
คืนให้ไหม?
เกรงว่าคงไม่คืน
ตอนนั้น หลังจากที่ไล่ฉินเฟิงทั้งสองออกตระกูลฉินก็ได้ยึดบริษัททั้งหมดของพวกเขามารวมเป็นของตัวเองไม่เคยคิดที่จะคืนกลับไปแม้แต่วันเดียว
แต่ใครจะคิดว่าจะเป็นเหมือนตอนนี้
เหอะไสหัวไปเถอะ กลับไปบอกไอ้แก่นั่นด้วยอย่ามายั่วโมโหผมไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจที่จะนำกองทหารไปเหยียบตระกูลฉินแน่ ผมฉินเฟิงพูดคำไหนคำนั้น
ฉินเฟิงโบกมือ ทันใดนั้นทำให้ฉินเทียนเฟิงตกใจจนวิ่งหนี
ใช่
ตกใจจนวิ่งหนีแถมยังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
เพราะฉินเฟิงในตอนนี้ ไม่ใช่เด็กจนๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เป็นเทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์ผู้ที่แข็งแกร่งที่ปกป้องภูเขาและแม่น้ำ
อำนาจใหญ่โตสามารถสั่งทหารได้เป็นล้าน
นายพล
ฉีหยุนที่อยู่ข้างๆเรียก
เรียกฉันว่าคุณเถอะ ฉันออกจากค่ายทหารแล้วเรียกนายพลคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เอาล่ะ นายก็ไปหาที่พักพักผ่อนซะนะตอนนี้ฉันขอกลับไปดูบ้านก่อน
ฉินเฟิงโบกมือ เป็นสัญลักษณ์ให้ฉีหยุนว่าไม่ต้องตามมา
ครับ ฉีหยุนกล่าว
จากนั้น ฉินเฟิงก็มาถึงวิลล่านึงที่ไม่ได้มานาน แต่ทว่าวิลล่าวันนี้มีความแปลกไปและยังมีเสียงดังจ้อกแจ้กอีก
วันนี้ฉินกั่วกั่วคนนี้ ฉันยอมรับแล้ว ฉันเคยพูดไปแล้ว ฉันจะหาถงหย่างซีให้กับลูกชายของฉัน มาเอาลูกสาวบ้านของพวกแกเพราะไว้หน้าพวกแก ยังไงพวกแกก็เป็นความหายนะไปวันๆ
คำพูดโอ้อวดที่ดังมาจากด้านในวิลล่า
ถงหย่างซี!
ความหายนะ!
สายตาของฉินเฟิงปรากฏความอยากฆ่าอย่างบ้าคลั่งออกมาและบีบมือทั้งสองข้างอย่างแน่น