เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน - บทที่44 พวกดีแต่ปาก
บทที่44 พวกดีแต่ปาก
รู้จักกันจริงๆด้วย!
เป็นที่คนที่เราไม่สามารถแตะต้องได้
ตู้ต้วนเทียนใบหน้าขาวซีด เขาได้โทรศัพท์กลับไปสอบถาม การถามครั้งนี้ ทำให้เขารู้ว่าฉินเฟิง เป็นบุคคลที่เขาไม่ควรมีเรื่องด้วย แม้แต่พ่อของเขาก็ไม่กล้าแตะต้อง
พ่อของเขาเป็นใคร ก่อนจะปลดประจำการพ่อเขาเป็นทหารของอีสเตอร์แลนด์ ยังมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชา แต่เขากลับเป็นหัวหน้าของพ่ออีกที ดูจากน้ำเสียงที่พ่อของเขาตะคอกด้วยความโกรธ ยังข่มขู่ว่าจะไล่เขาออกจากตระกูล
เขาคิดออกเลยว่า ฉินเฟิงไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไป
ทันใดนั้น ตู้ต้วนเทียนได้วิ่งตามออกไปที่ประตู เมื่อวิ่งออกไปถึงหน้าประตู พบว่าฉินเฟิงไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว ตอนนั้นเขาอารมณ์เสียและตบไปที่หน้าของตัวเองหนึ่งครั้ง ตายแน่ ครั้งนี้ตายแน่ๆ
เสี่ยวเฉิน รีบไปเอากล้องวงจรปิดของสนามแข่งทั้งหมดมาให้ข้า ฉันต้องหาตัวเจ้าของรถหวู่หลิงฮงกวง มันเป็นเรื่องด่วนมากๆ ถ้าหาเขาไม่เจอ ข้าจะไล่แกออก
ตู้ต้วนเทียนสั่งลูกน้องคนนั้นทันที
ได้ครับ เจ้านาย
เสี่ยวเฉินรู้สึกตกใจมาก และรีบไปตรวจสอบ
เขาเป็นผู้จัดการใหญ่ที่ดูแลสนามแข่งรถทั้งหมด ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมต้องหาฉินเฟิง แต่เขาก็รู้สึกได้ว่า ถ้าหาคนคนนี้ไม่เจอ ตู้ต้วนเทียนต้องไล่เขาออกแน่ๆ
ทำไมฉินเฟิงถึงได้รู้จักตู้ต้วนเทียน เป็นเพราะตู้หล้างตอนอยู่ในกองทัพ เคยคุยกับเขาว่า ตู้ต้วนเทียนเป็นลูกชายที่ตู้หล้างรักมากๆ
ตอนนี้ ฉินเฟิงอยู่ในสนามและเจอตัวอิ่นหนิงหยู่ แต่เขากลับสังเกตเห็นว่า เธอถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมตัวไว้ และคนที่ล้อมเธอไว้ต่างเป็นผู้ชายร่างใหญ่ ไร้มารยาทและพูดจาหยาบคาย
น้องสาว เอาเงินทำไม ไปกับพี่ดีกว่า อยู่กับพี่สักคืน พี่รับรองเลยว่าจะให้เงินน้อง
ใช่ๆ อยู่กับพี่หนึ่งคืน พี่ให้สามร้อยห้าร้อย
ฮ่าๆ สวยจริงๆ ได้ข่าวว่ายังเป็นดาวของมหาลัยเจียงเฉิง น่าเสียดายจัง วันนี้ คงไม่สามารถรักษาไว้ได้แล้ว
คนกลุ่มนี้ล้อมรอบตัวอิ่นหนิงหยู่ไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยไฟราคะ อิ่นหนิงหยู่เหมือนกระต่ายน้อยผู้น่าสงสารในสายตาพวกเขา ไม่รู้จะหลบหนียังไง พยายามหลบหลีกทุกทาง
ไสหัวออกไป
ฉินเฟิงขมวดคิ้ว จับไปยังไหล่ของชายร่างใหญ่ ดึงเขาไปยังด้านหลัง ทำให้เขาล้มตัวลง หน้าทิ่มไปกับพื้น
พี่เขย พวกเขาไม่ยอมจ่าย
อิ่นหนิงหยู่มองเห็นฉินเฟิง เหมือนเห็นความหวัง เธอได้เดินไปยังด้านหลังของฉินเฟิง ใช้มือชี้ไปทางพวกชายร่างใหญ่: คนพวกนี้มันเป็นลูกน้องของคุณชายเฉิน ฉันจะไปถามคุณชายเฉินเรื่องเงินเดิมพัน คนพวกนี้กั้นฉันไว้ ไม่ยอมให้ฉันเข้าไป
พวกเจ้าช่างกล้าจริงๆ รู้ไหมว่าเธอคือน้องสะใภ้ของข้า
ฉินเฟิงปกป้องอิ่นหนิงหยู่แล้วพูด
ดีมาก นายแน่มาก ที่สามารถโยนฉันล้มลงไปกับพื้น
ชายร่างใหญ่ที่ลุกขึ้นจากพื้น เขาบิดคอไปมา เห็นได้ชัดเลยว่าเขาดูดุร้ายโหดเหี้ยม เขาหยิบมีดเล็กหนึ่งด้ามออกมาจากตัว มีดเล็กมีความยาวประมาณหนึ่งนิ้วมือ ถึงโดนแทงอาจจะไม่ตาย แต่คงเจ็บปวดมากๆแน่นอน
ข้าคือหวังหยวน และไม่ได้รู้จักคุณชายเฉิน เป็นแค่ผู้ชมคนหนึ่งที่มาดูการแข่งขันเท่านั้น วันนี้ข้าอยากได้สาวน้อยคนนี้ ข้าให้พวกเจ้าเลือกสองทาง หนึ่งคือเดินจากไป สองคือโดนข้าแทง
หวังหยวนแกว่งมีดที่อยู่ในมือไปมา บวกกับความสูงเมตรแปด ร่างกายที่กำยำ ดูดุร้ายโหดเหี้ยม เอาไว้ข่มขู่คนได้อย่างสบายๆ
แล้วด้านหลังตัวเขา ยังมีผู้ชายร่างใหญ่หลายคน
ฮ่าๆ น่าตลกจริงๆ ชายคนนี้ยังอยากจะได้เงินจากคุณชายเฉินอีก จริงหรือเปล่า หนึ่งร้อยล้านเลย เงินก้อนนี้ไม่น้อยเลยนะ ทำคุณชายเฉินแพ้การแข่งขันยังไม่พอ ยังทำให้เขาอับอายเสียหน้า
โดนรถหวู่หลิงฮงกวงขับแซง ความอับอายครั้งนี้ คงติดตัวคุณชายเฉินไปตลอด
คนพวกนี้ก็พูดแล้วว่าไม่รู้จักคุณชายเฉิน พวกเจ้าทำไมต้องดึงคุณชายเฉินเข้ามาเกี่ยวข้อง
เจ้าโง่มาก คุณชายเฉินดูยังไงก็ไม่อยากให้เงินก้อนนี้ คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นลูกน้องของเขา แค่กันไม่ให้ผู้หญิงคนได้เขาไปได้ เธอไม่ได้เจอคุณชายเฉิน งั้นเงินก้อนนี้ก็ขอไม่ได้แล้ว ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ พวกเขา โดนขู่จนไม่กล้าเข้าไปแล้ว
ทุกคนโดยรอบ ต่างพากันพูดคุยสนทนา ได้ข้อสรุปว่า เงินก้อนนี้ พวกของฉินเฟิงขอไม่ได้แน่นอน
ท่ามกลางฝูงชนทั้งหมด เฉินป๋อมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ย: คิดจะสู้กับข้า พวกเจ้ายังอ่อนหัดไปหน่อย อยากได้เงินของข้า ฝันไปเถอะ
พวกเจ้าทำอย่างนี้ได้ไง
อิ่นหนิงหยู่ได้ยินคำพูดนี้ เข้าใจทันทีเลยว่าคนเหล่านี้กำลังคิดอะไรอยู่ เธอด่าออกมาทันที: เฉินป๋อ เป็นถึงคุณชาย เป็นทายาทรุ่นสองที่ร่ำรวย แต่เขาเดิมพันแพ้ กลับไม่ยอมจ่ายเงิน เป็นคนที่น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย สถุลมากๆ คราวหน้าทุกคนไม่ต้องไปเดิมพันกับเขาอีก เพราะเขาเป็นคนที่แพ้แล้วพาล
คนพาลแบบนี้ แพ้แล้วไม่ยอมรับ ทำให้ตระกูลตัวเองต้องอับอายขายขี้หน้า
อิ่นหนิงหยู่ด่าแบบนี้ ทำให้ใบหน้าเฉินป๋อเปลี่ยนไป ดวงตาปะทุไฟแห่งความโกรธ คนพวกนี้มันช่างกล้าลองดีจริงๆ กล้ามากที่ด่าข้าแบบนี้
จัดการเลย
เฉินป๋อส่งสัญญาณมือ ให้ชายร่างใหญ่ได้เห็น ทันใดนั้นหวังหยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณชายเฉินเลย สาวน้อยคนสวย วันนี้ยังไงเจ้าก็ต้องไปกับพวกข้า
เขาแกว่งมีดเล็กไปมา จากนั้นเขาจะไปดึงมือของอิ่นหนิงหยู่
ก่อนที่มือของเขาจะโดนเธอ ได้มีมืออีกข้างจับมือของหวังหยวนไว้อย่างแน่นหนา ต่อมาได้มีเสียงของฉินเฟิงดังขึ้น : เธอคือน้องสะใภ้ของข้า เจ้ายังกล้าแตะเธออีกเหรอ
สิ้นเสียงคำพูด ได้มีเสียงกระดูกหักดังขึ้น
โอ๊ย……
หวังหยวนร้องด้วยความเจ็บปวด เขาถอยหลังกลับ รีบดูไปที่แขนของเขา เห็นแขนตัวเองมีรอยช้ำรอยขีดข่วน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นและพูดว่า: ให้ตายเถอะ กระดูกที่มือหักแล้ว
เขาอยากจะหนีไป แต่พอเห็นสัญญาณมือของเฉินป๋อแล้ว เขากัดฟันพูดว่า: พี่น้องทุกคน จัดการมันเลย พวกเรามีคนเยอะกว่า
เจ้าเด็กน้อย เจ้าอยากตายใช่ไหม!
ชายร่างใหญ่ที่เหลือสามถึงห้าคนพุ่งไปหาฉินเฟิง
พวกดีแต่ปาก
เมื่อจบประโยคที่ฉินเฟิงพูด เขาค่ำชายร่างใหญ่ที่เหลือลงกับพื้น จัดพวกเขาได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องออกแรงแม้แต่นิดเดียว
คนแซ่ฉิน เจ้าก็แค่เคยเป็นทหารมาไม่กี่ปี อย่าดีแต่ปาก คนที่ไม่รู้เขาอาจจะนึกว่าเจ้าเคยเป็นนายพล ทำตัวเหมือนคนเก่งกาจ
อิ่นหนิงหยู่มองพวกเขาที่ล้มลงไปนอนกับพื้น โล่งอกไปเลย
หนิงหยู่
ทันใดนั้น ฉินเฟิงได้เรียกอิ่นหนิงหยู่
เรียกทำไม!
เจ้านะเป็นหมาหรือเปล่า เปลี่ยนใจง่ายจัง
เจ้านะสิเป็นหมา
อิ่นหนิงหยู่มองไปที่ฉินเฟิง เจ้าด่าข้าอ้อมๆนี่
ตอนนี้ เห็นสถานการณ์ไม่ดี เฉินป๋อเตรียมตัวจะหนี แต่ฉินเฟิงมองไปที่ที่เขาอยู่ ตะโกนว่า: คุณชายเฉิน นี่คุณจะไปไหนเหรอ คุณยังติดหนี้เราร้อยล้านยังไม่ได้ให้เลย
ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างพากันหลีกทาง เผยให้เห็นเฉินป๋อที่อยู่ด้านใน
ฉินเฟิง เจ้าต้องคิดให้ดีก่อน ขอเงินจากข้า ข้าคือเฉินป๋อแห่งตระกูลเฉิน ในเมืองเจียงเฉิงไม่มีใครไม่รู้จักบริษัทเฉินซื่อกรุ๊ป ถ้าเจ้ายังอยากอยู่เมืองเจียงเฉิง อย่าถามถึงเงินนี้อีก ถ้าไม่อย่างงั้น อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ
เฉินป๋ออยู่ต่อหน้าคนจำนวนมากที่ดูเหตุการณ์นี้ เขาได้ระเบิดความโกรธออกมา เขาไม่อยากให้เงินก้อนนี้แล้ว
ถ้าเขาให้เงินก้อนนี้ แสดงว่าเขายอมแพ้ เขาเป็นคนมีหน้าตาทางสังคม เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ๆ
เรื่องเลวร้ายสุดๆก็แค่ โดนหาว่ารังแกคนที่อ่อนแอกว่า
คนธรรมดาทั่วไป แค่ได้ยินชื่อเสียง ได้ยินคำว่า ‘บริษัทเฉินซื่อกรุ๊ป’ ก็กลัวจนไม่กล้าขออะไรแล้ว
แต่ฉินเฟิงไม่สนใจ ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ดวงตาส่องประกายความโหด
เอาเงินมา นี่มันเป็นเงินที่ข้ากับน้องสะใภ้หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง